ตอนที่ 263 ขอกระบี่ไม้ท้อ

เครื่องทำน้ำอุ่นจำเป็นต้องใช้เวลาแค่ห้านาที หยางโปเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นมาสิบกว่านาทีแล้ว เครื่องทำน้ำอุ่นก็ยังส่งเสียงอยู่

หยางโปยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว เขาโทรศัพท์หาแผนกต้อนรับของโรงแรม แผนกต้อนรับก็รีบส่งช่างมาจัดการ

ช่างที่สวมชุดทำงานเดินเข้ามา หยางโปชี้ไปที่เครื่องทำน้ำอุ่น ” ยี่สิบนาทีแล้ว เครื่องทำน้ำอุ่นยังไม่ทำงานเลย “

ช่างซ่อมบำรุงพยักหน้า ใช้มือตบไปที่เครื่องทำน้ำอุ่น คิดไม่ถึงเลยว่าเครื่องทำน้ำอุ่นที่เดิมทีมีแสงไฟกระพริบจะดับมอดไป และเปลี่ยนสวิตช์ไปอย่างอัตโนมัติ

ช่างซ่อมบำรุงก็มองมาทางหยางโป ” มันก็ใช้ได้นี่ครับ ? “

หยางต้องมองเครื่องทำน้ำอุ่น ” โอเคครับ ถ้างั้นก็ใช้แบบนี้ไปก่อนเถอะ “

ช่างซ่อมพยักหน้าแล้วก็หันหลังออกไป

 

” ช่วยรินชาให้ฉันจอกหนึ่งหน่อย ” ลัวย่าวหัวนอนอยู่บนเตียง เอ่ยอย่างไม่มีเรี่ยวแรง

หยางโปเหลือบมองเขาแล้วก็ล้างจอกชา รินน้ำชาลงไป ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันผิดปกติ น้ำในนั้นดูเหมือนจะต้มไม่ร้อน พอรินออกมาล้างจอกก็ไม่รู้สึกร้อนเลย !

หยางโปรินชาไปอีกครึ่งจอก เขาจับจอกลายครามมาดู และไม่รู้สึกถึงความร้อนเลยสักนิด เขายื่นนิ้วลงไป จุ่มนิ้วเข้าไปในจอกชา นี่ถึงกับเป็นแค่น้ำอุ่น !

ลัวย่าวหัวเห็นหยางโปจุ่มนิ้วเข้าไปในจอกชาก็พลันเอ่ยถาม ” เอ๊ะ นายทำอะไรน่ะ ? “

หยางโปถอยไปสองก้าว นั่งลงบนเตียง เงียบงันไม่พูดจา

ลัวย่าวหัวก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เขารีบลุกขึ้นจุ่มนิ้วลงไปในจอกชา ทันใดนั้นเขาก็หันมากล่าวกับหยางโปว่า ” กาต้มน้ำเสียแน่ๆเลย ! “

 

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่ลัวย่าวหัวยังคงรู้สึกเย็นเยือกอยู่หลายส่วน ตั้งแต่เริ่มลืมตาขึ้นมาเช้าวันนี้ เขาก็รู้สึกว่ามันไม่ปกติ โลกนี้ราวกับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย !

เอนอยู่บนเตียง ทั้งสองคนไม่มีใครเอ่ยปากพูดจา

ด้านนอกแว่วเสียงเคาะประตู ลัวย่าวหัวลุกขึ้นแล้วเดินออกไปเปิดประตูก็ได้ยินเสียงของตาอ้วนหลิว

” ห้องของพวกเราส้วมตัน ฉันมายืมใช้ห้องน้ำหน่อยนะ “

ลัวย่าวหัวพยักหน้า แล้วก็ไม่อยากพูดมาก

ตาอ้วนหลิวเข้าไปในห้องน้ำ จู่ๆ ก็แว่วเสียงร้องตกใจออกมาจากข้างใน ” ห้องของพวกนายส้วมตันแล้ว ! “

 

” เป็นไปได้ยังไง ? ” ลัวย่าวหัวลุกขึ้นเดินไป

” ฉันยังไม่ได้ใช้ ลองดูก่อน นายดูสิ น้ำทั้งนั้นเลย ทำไมมันไม่ลงไปเลยละ ? ” ตาอ้วนหลิวชี้ไปที่น้ำกว่าค่อนโถส้วม ร้องอย่างตกใจ

ลัวย่าวหัวมองแวบหนึ่งแล้วก็ปิดประตูห้องน้ำ “นายอดทนเอาไว้ก่อนเถอะ กลับไปแล้วค่อยอาบน้ำ “

” ก็ได้ “

….

หยางโปนอนอยู่บนเตียง ในใจหวนคิดถึงประโยคนั้นของฉินโถวอยู่ตลอด ถ้ามีเรื่องให้ไปหาเขา อย่าบอกนะว่ามันจะหมายถึงเรื่องนี้ ? หรือว่าฉินโถวจะเดาได้อยู่ก่อนแล้ว ?

ภายในห้องน้ำแว่วเสียงซ่าๆ ฟังแล้วเหมือนกับเสียงคนกำลังอาบน้ำ

 

หลูตงซิงเคาะประตูห้อง เขาเพิ่งจะนั่งลงก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากห้องน้ำ ” เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่มีน้ำร้อน ? เอ๊ะ ทำไมแม้แต่น้ำก็ไม่มีล่ะ ? “

หยางโปกับหลูตงซิงสบตากัน แล้วก็ยิ้มขมขื่นออกมา โชคร้ายแบบนี้แม้แต่น้ำชาก็ไม่มีจะกินจริงๆ แบบนี้จำเป็นต้องพึ่งอาจารย์เซวียนแล้ว !

ตาอ้วนหลิวเดินตึงตังออกมา ใบหูยังมีโฟมที่ล้างออกไม่สะอาดเหลืออยู่ เขาอดกล่าวไม่ได้ว่า

” ฉันอยากกลับบ้านไปอาบน้ำ ! “

” นายกลับไปก็เหมือนเดิม ” หยางโปกล่าว

ตาอ้วนหลิวพลันชะงักไป จากนั้นเขาก็เงียบงันลง

 

ต่อมาทั้งสี่คนก็เงียบสนิท ไม่ได้ทำอะไร รอจนอาจารย์เซวียนจะมาถึง

เกือบจะหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดอาจารย์เซวียนก็เร่งรุดมาถึง ทั้งสี่คนไปต้อนรับอาจารย์เซวียน เดินไปถึงหน้าลิฟต์ กดปุ่มลงไป จู่ๆ หยางโปก็หยุดชะงัก ” มีแค่สี่ชั้น พวกเราเดินลงไปกันเถอะ “

” สี่ชั้นนะ ไปลิฟต์ก็ได้ ” ตาอ้วนหลิวกล่าว

พูดประโยคนี้แล้วจู่ๆ เขาก็ชะงักไป ปิดปากแล้วก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่จู่ๆ ลิฟต์จะเสียขึ้นมาแล้วห้อยอยู่กลางอากาศ ” เดินลงไปกันเถอะ ! “

ลงไปชั้นล่าง หยางโปก็มองเห็นพระอาจารย์ใบหน้ากลมศีรษะล้านเดินเข้ามา ร่างของพระสงฆ์สวมประคำเม็ดโต บนศีรษะมีจุดเฮยฉาสีเขียวอ่อน สีหน้ายินดี ในมือถือของเหมือนเงินโบราณหลายพวง ดูแล้วค่อนข้างอ่อนโยน

 

” พระอาจารย์เซวียน ! ” หลูตงซิงแสดงความนอบน้อมอย่างถึงที่สุด สองมือของเขาพนมไหว้ ค้อมคำนับให้กับอาจารย์เซวียนน้อยๆ ” พระอาจารย์เซวียน ต้องขออภัยจริงๆ ที่รบกวนให้ท่านมาหาแบบนี้ “

พวกของหยางโปก็ค้อมคำนับน้อยๆ ตามไป

อาจารย์เซวียนส่ายหน้าเบาๆ ” ประสกทุกท่านเกรงใจไปแล้ว ประสกหลูก็บริจาคน้ำมันหอมให้กับวัดติ้งเจว๋มาไม่น้อย ถ้าเพื่อน้ำมันหอมพวกนี้แล้ว อาตมาก็ต้องมา ! “

อาจารย์เซวียนเอ่ยอย่างจริงใจมาก ทำให้พวกของหยางโปยิ่งเพิ่มความเชื่อถือไปไม่น้อย ผู้ที่เรียกว่าผู้มีฝีมือบางส่วน กว่าครึ่งก็ทำเป็นลึกลับซับซ้อน พูดจาวกวนงุนงน ทำให้คนสับสนตั้งแต่ต้นจนจบ

ทุกคนไม่ได้ขึ้นไปชั้นบน แต่เข้าไปนั่งในห้องประชุมชั้นล่าง

 

พลันที่เริ่มนั่ง พระอาจารย์เซวียนก็เอ่ยปากว่า ” ประสกทั้งหลายหน้าผากอึมครึม สีหน้าซีดขาว หว่างคิ้วหมองคล้ำ ดูแล้วเหมือนจะเจอเรื่องมาไม่น้อยเลย ! “

หลูตงซิงรีบเอ่ย ” ต้องขอให้พระอาจารย์เซวียนช่วยพวกเราด้วย ! “

อาจารย์เซวี่ยนมองไป มองหลูตงซิงแล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไร แต่หยิบเงินโบราณสามพวงในมือออกมา เงินโบราณสามพวงหมุนวนอยู่ในมือซ้ายของอาจารย์เซวียนไม่หยุด ผ่านไปครู่หนึ่งอาจารย์เซวียนก็โยนเงินโบราณสามพวงลงบนโต๊ะ ! หยางโปถึงค่อยมองเห็นว่าเงินโบราณสามพวงนี้ถึงกับเป็น ” เงินเหรียญคังซี ” ” เงินเหรียญหย่งเจิ้ง ” และ ” เงินเหรียญเฉียนหลง ” !

พระอาจารย์เซวียนขมวดคิ้วแน่น เขาจ้องมองเงินเหรียญโบราณแล้วก็เงยหน้ามองทั้งสี่คน

 

” การทำนายนี้เหมือนจะมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงนี้ทุกท่านไปทางตะวันตกเฉียงใต้มาหรือว่าได้สัมผัสกับของที่มาจากทางตะวันตกเฉียงใต้มาไหม ? ” พระอาจารย์เซวียนเอ่ยปากถาม

ทุกคนล้วนตกตะลึง หลูตงซิงเร่งกล่าว ” เป็นเช่นนั้นแหละครับ “

” คำทำนายที่แสดงออกมา ประสกทั้งหลายช่วงนี้โชคร้ายเกี่ยวพัน ยิ่งไปกว่านั้นความโชคร้ายชนิดนี้ยากที่จะขจัดได้อีกด้วย ” พระอาจารย์เซวียนกล่าว

” ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้ท่านอาจารย์มอบของมงคลให้พวกเรา ช่วยให้พวกเราสามารถเปลี่ยนร้ายให้เป็นดีได้ด้วยเถิด ! ” หลูตงซิงเอ่ยอย่างจริงใจ

 

อาจารย์เซวียนลังเลเล็กน้อย แล้วส่ายหน้ากล่าว ” ของจากทางตะวันตกเฉียงใต้นี้ อาตมาศึกษามาไม่มาก เกรงว่ายากที่จะแก้ไขได้ ต้องให้คนที่ทำเป็นคนแก้ ขอเพียงพวกประสกหาต้นตอของปัญหาเจอ แล้วแก้ไขที่ต้นเหตุ ก็จะต้องสามารถขับไล่เภทภัยไปได้แน่ “

พระอาจารย์เซวียนกล่าวอยู่หลายประโยค ทำให้ทุกคนเชื่อถือขึ้นมา หยางโปนั่งอยู่ด้านหลัง เวลานี้ก็รีบเอ่ยว่า ” พระอาจารย์เซวียนครับ ท่านสามารถทำพิธีให้ได้ไหมครับ ช่วยปัดเป่าเภทภัยให้พวกเราชั่วคราว ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราไปไม่ถึงตะวันตกเฉียงใต้แน่ครับ เพราะมันเกิดปัญหาอยู่ตลอดทางที่ไปเลย ! “

ทุกคนต่างก็หวั่นหวาด พากันพยักหน้า

 

พระอาจารย์เซวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ” นี่ก็พอทำได้ “

หลูตงซิงมองไปทางพระอาจารย์เซวียน เห็นเขาชะงักนิ่งไปก็รีบเอ่ยว่า ” ศิษย์ขอบริจาคค่าน้ำมันหอมห้าล้านหยวนเพื่อส่งเสริมพุทธศาสนา “

พระอาจารย์เซวียนพยักหน้า สองมือพนมไหว้แล้วพยักหน้าน้อยๆ ” ประสกหลูเปี่ยมไปด้วยเมตตา จะต้องแก้ไขได้แน่ โชคร้ายจะกลายเป็นดี “

กล่าวจบ พระอาจารย์เซวียนก็หยิบกระบี่ไม้ท้อเล็กๆ สี่ ชิ้นออกมาจากในย่าม ยิ้มแล้วกล่าวว่า ” กระบี่วิเศษสี่เล่มนี้จะกันโชคร้ายให้พวกประสกได้ครึ่งเดือน “