ตอนที่ 281 ภรรยาสาวผู้รังแกไม่ง่าย
ตอนที่ 281 ภรรยาสาวผู้รังแกไม่ง่าย

เช้าวันรุ่งขึ้นฝนก็ตกลงมา และตกหนักมากด้วย ชาวบ้านจึงไม่สามารถลงไปทำนาได้ ทุกคนทำได้เพียงแค่อยู่ในบ้าน แต่การอยู่ในบ้านก็ยังมีงานให้ทำ ผู้ชายนั่งซ่อมอุปกรณ์การเกษตร ผู้หญิงก็เย็บปะเสื้อผ้า ไม่ได้มีเวลาว่างให้หยุดพัก

ชีวิตในชนบทก็เป็นแบบนี้ ผู้คนต่างก็คุ้นชินแล้ว และไม่ได้รู้สึกอะไร หยิบอุปกรณ์ไปนั่งรวมตัวกับเพื่อนบ้านทำงานไปด้วยก็ซุบซิบไปด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลย ยิ่งทำให้พวกเขามีเรื่องพูดคุยกัน

“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอ หมาเห่าทั้งคืนเลย!” หลี่เฟินมาที่บ้านของพี่สะใภ้รองจ้าว หล่อนถือส้นรองเท้าพลางกล่าว

พี่สะใภ้รองจ้าวเอ่ย “ก็นั่นน่ะสิ หมาบ้านฉันก็เห่าทั้งคืนเหมือนกัน พี่รองของเธอออกไปดูด้วยนะ เห็นบอกว่าจับพวกเล่นไพ่”

“งานยุ่งขนาดนี้ยังมีคนไปเล่นไพ่อีก จะไม่ใช้ชีวิตแล้วเหรอ?” หลี่เฟินกล่าว

“คนที่เล่นไพ่ยังจะสนใจเรื่องใช้ชีวิตอีกเหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว “อย่าพูดถึงใช้ชีวิตเลย ขอแค่นั่งอยู่บนโต๊ะพนัน แม้แต่เมียตัวเองก็ไม่รู้จักแล้ว!”

“จริง ๆ เลย หมู่บ้านพวกเรายังดีนะ แต่หมู่บ้านตะวันตกนั่น โอ๊ย ได้ยินมาว่ามีหลายครอบครัวเลยที่เล่นพนัน” หลี่เฟินบุ้ยปากพูด

“คนที่ทำก็คือหม่าเสี่ยวลิ่วนั่นไม่ใช่เหรอ เจ้าเด็กนั่นไม่ใช่คนที่สุดแล้วแหละ วัน ๆ เอาแต่ลากคนอื่นไปเล่นพนัน เขาเองก็ได้ส่วนแบ่ง ขาดคุณธรรมสุด ๆ ไม่กลัวกรรมตามสนองเลยนะ!”

“เขาคงได้เงินไปไม่น้อยเลยนะ นี่ถ้ามีภรรยาสักคนจะมีชีวิตดีขนาดไหนกันนะ!”

“คนที่ไม่เดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องจะคิดถึงเรื่องนี้เหรอ?”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน ภรรยาของเหล่าหวังสามก็ถือตะกร้ากุยช่ายเข้ามา บนศีรษะคลุมด้วยถุงกระสอบ

“อ้าว ฝนตกหนักขนาดนี้ เธอไปทำอะไรมาเนี่ย?” พี่สะใภ้รองจ้าวทักทายคนที่เข้ามา

ภรรยาของเหล่าหวังสามแขวนถุงกระสอบไว้บนตะปูที่ตอกอยู่บนกำแพง นางเดินเข้ามาในบ้านพลางกล่าว “อากาศวันนี้ก็จริง ๆ เลย เมื่อวานท้องฟ้ายังปลอดโปร่งอยู่เลย วันนี้ดันฝนตกหนักขนาดนี้ตั้งแต่เช้าซะงั้น!”

“ฝนตกสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่นาก็แอบแห้งแล้งนิดหน่อยแล้วเหมือนกัน” พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว

ภรรยาเหล่าหวังสามเห็นหลี่เฟินก็ส่งเสียงอุทาน “เธอก็มานั่งว่าง ๆ ที่นี่เหรอเนี่ย!”

“อยู่บ้านคนเดียวน่าเบื่อจะตาย ก็เลยออกมานั่งคุยกับบ้านอื่น ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ?”

ภรรยาเหล่าหวังสามปากเสียเกินไป จึงไม่ค่อยได้รับการต้อนรับเท่าไรนัก ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับพี่สะใภ้รองจ้าวก็ไม่ได้ดีมาก ฝนตกหนักขนาดนี้จะทำไมถึงมาที่นี่? หลี่เฟินจึงแอบงงงวยนิดหน่อยเหมือนกัน

ภรรยาเหล่าหวังสามเห็นขวดน้ำอุ่นที่อยู่บนตู้ หล่อนก็เดินไปรินน้ำร้อนให้ตัวเองแล้วดื่มอย่างไม่เกรงใจ “อากาศช่วงนี้หนาวจัง ฉันขอดื่มน้ำร้อนหน่อยนะ”

พี่สะใภ้รองจ้าวย่อมไม่อาจพูดว่า ‘ห้ามดื่ม’ อยู่แล้ว จึงพูดเคล้ารอยยิ้มว่า “ขึ้นมานั่งบนเตียงสิ ฉันเผาฟืนเยอะขึ้นโดยเฉพาะเลยด้วย”

“จริงเหรอ เยี่ยมเลย ตอนที่ฉันไปตัดกุยช่ายรู้สึกเฉอะแฉะชะมัด” ภรรยาเหล่าหวังสามถอดรองเท้าแล้วขึ้นมานั่งบนเตียง

“นี่เธอจะห่อเกี๊ยวเหรอ?” หลี่เฟินเห็นกุยช่ายที่อยู่ในตะกร้าจึงเอ่ยถาม

“ใช่ ฝนตกไม่มีอะไรทำพอดี เลยทำกินสักหน่อย ช่วงนี้ยุ่งจนไม่มีเวลาได้กินเลย” ภรรยาเหล่าหวังสามเลือกกุยช่าย และถามว่า “พวกเธอล่ะ ตอนเที่ยงกินอะไรกัน?”

พี่สะใภ้รองจ้าวมองกุยช่าย “กุยช่ายของเธอไม่เลวเลยนะ โตขึ้นมาดูดีจริง ๆ”

“จริงเหรอ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันเติมปุ๋ยเคมีลงไปนิดหน่อย สิ่งนี้ทำให้เติบโตเร็วขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย! พวกเธอก็ต้องใส่เข้าไปสักหน่อยนะ มีเยอะจนกินไม่หมดเลยแหละ!”

พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว “ของแบบนั้นแพงมากเลยนะ”

“ฉันเองก็ใส่ไปแค่นิดหน่อย เธอดูสิโตขึ้นมาดีขนาดนี้เลย”

“ได้ยินเธอบอกว่าจะห่อเกี๊ยว ฉันเองก็อยากกินขึ้นมาเลย อีกเดี๋ยวกลับไปห่อบ้างดีกว่า ฉันเก็บบวบเหลี่ยมมาสามสี่ลูกพอดี ใส่น้ำมันลงไปสักหน่อย” หลี่เฟินกล่าว

พี่สะใภ้รองจ้าวกล่าว “ก็จริงนะ ฝนตกหนักขนาดนี้ก็ต้องกินสักหน่อย ฉันก็มีบวบเหลี่ยมเหมือนกัน อีกเดี๋ยวฉันจะไปเก็บมาสักสองสามลูก”

ภรรยาของเหล่าหวังสามกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ถูกต้องแล้ว ฝนตกก็ต้องทำของอร่อย ๆ ให้ตัวเองสักหน่อย ตอนที่ยุ่ง ๆ อยากกินก็ยังไม่มีเวลาให้กินเลย!”

หลี่เฟินพูดเสริมขึ้นมาสองสามประโยคก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เธอรู้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

ครั้นภรรยาเหล่าหวังสามได้ยิน ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา หล่อนพูดกับพี่สะใภ้รองจ้าวว่า “ที่ฉันมาก็เพราะอยากคุยเรื่องนี้กับพวกเธอเนี่ยแหละ! พวกเธอรู้ไหม เมื่อคืนมีคนเข้าไปที่บ้านน้องหกของเธอด้วยนะ น้องหกของเธอก็ไม่ได้อยู่ในบ้านด้วย!”

พี่สะใภ้รองจ้าวชะงัก “ใครไปที่บ้านน้องหกเหรอ?”

“สวรรค์เถอะ พวกเธอยังไม่รู้อีกเหรอ?” ภรรยาเหล่าหวังสามประหลาดใจ

“ยังไม่รู้ เกิดอะไรขึ้น?” หลี่เฟินรีบถาม “ไม่ใช่ว่าจับคนเล่นไพ่เหรอ อย่าบอกนะว่าจ้าวเหวินเทาไปเล่นพนัน?”

ภรรยาเหล่าหวังสามส่ายหน้า “เปล่า! คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ เมื่อคืนไม่ใช่การจับคนเล่นไพ่หรอก แต่จับฆาตกรต่างหากล่ะ!”

“หา ฆาตกร!”

พี่สะใภ้รองจ้าวและหลี่เฟินต่างก็ตกใจ พวกหล่อนต่างเป็นชาวบ้านในชนบทที่มีความซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่ได้ยินเรื่องนี้

“ฉันได้ยินพ่อของชุยต้าเล่าให้ฟัง บอกว่าลูกชายคนโตของเขาอยู่ที่ฟาร์มกระต่าย เมื่อคืนลูกชายคนเล็กของเขาได้ยินว่ามีคนไปที่ฟาร์มกระต่าย ก็เลยเป็นห่วงพี่ชาย เลยพาคนกลุ่มหนึ่งไปที่ฟาร์ม ภายหลังจ้าวเหวินเทาน้องหกของเธอก็ตามไปด้วย ตอนนั้นคนของสถานีตำรวจต่างก็ไปจับผู้ร้ายที่ฟาร์มกระต่าย จับตัวเด็กหนุ่มมาได้สามสี่คน หนึ่งในนั้นมีหม่าเสี่ยวลิ่วด้วยนะ หลังจากสอบปากคำเสร็จถึงได้รู้ว่า ยังมีอีกคนวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ชื่อเถียนชีอะไรนี่แหละ เขามีคดีฆ่าคนตายด้วยนะ หนีออกมาแล้วก็ซ่อนตัวอยู่ที่หมู่บ้านตะวันตก อยู่กับเจ้าหนูหม่าเสี่ยวลิ่วนั่นแหละ พอตำรวจรู้เข้า ก็เลยมาจับในนามของการจับพวกเล่นพนัน ผลลัพธ์ที่ได้หมอนั่นแอบเข้าไปในบ้านของจ้าวเหวินเทา ตอนนั้นจ้าวเหวินเทายังอยู่ที่ฟาร์มกระต่ายอยู่เลย โอ๊ยแม่เจ้า ฉันได้ยินแบบนี้ก็ตกใจแทบแย่ จ้าวเหวินเทาไม่อยู่บ้าน ในบ้านก็มีแค่เมียกับลูกแค่สองคน!”

ภรรยาเหล่าหวังสามช่างพูดดึงดูดความรู้สึกได้อย่างน่าประทับใจ พี่สะใภ้รองจ้าวและหลี่เฟินได้ยินก็ถึงกับตกใจทันที “หลังจากนั้นล่ะ?”

“เธอฟังฉันเล่าสิ!” ภรรยาเหล่าหวังสามเล่า “อย่ามองว่าภรรยาของจ้าวเหวินเทาคนนั้นตัวเล็กนะ หล่อนสุดยอดมาก ใช้ไม้ตะบองตีหมอนั่น จากนั้นลิงก็เข้าไปข่วนหน้า ได้ยินชุยเอ้อเล่าว่าหน้าของเถียนชีนั่นถูกข่วนจนโชกเลือดเลย ขาก็ถูกเย่ฉูฉู่ใช้จอบทุบจนหักเลยด้วย!”

“หา!”

พี่สะใภ้รองจ้าวและหลี่เฟินได้ยินก็รู้สึกหวาดเสียวแทน ดวงตาทั้งคู่ถึงกับเบิกกว้าง

“น้องสะใภ้หกเก่งขนาดนี้เลยเหรอ?” พี่สะใภ้รองจ้าวแอบรู้สึกเหลือเชื่อ

“ก็ใช่น่ะสิ ฉันได้ยินก็แอบงงอยู่เหมือนกัน ปกติเห็นเป็นคนซื่อ ๆ มากเลยนะ แต่ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ทำไมถึงได้สุดยอดขนาดนี้ ฝีมือร้ายกาจมากเลย!” ภรรยาของเหล่าหวังสามเดาะลิ้น

หลี่เฟินกล่าว “พวกเธอคิดผิดแล้ว สมัยก่อนแม่ของหล่อนคือผู้หญิงร้ายกาจเลยนะ ลูกสาวจะด้อยกว่าแม่ได้ไง? อีกอย่าง ตอนที่เย่ฉูฉู่เพิ่งแต่งงานเข้ามาใหม่ ๆ ก็แตะต้องไม่ได้เลย ทะเลาะกับจ้าวเหวินเทาก็ไม่เคยแพ้มาก่อน!”

พี่สะใภ้รองจ้าวพยักหน้ารัว ๆ “นี่ถ้าเธอไม่พูดฉันคงลืมไปแล้ว ตอนนั้นเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรพวกเขาก็หยุดทะเลาะกันซะงั้น แถมยังอยู่แบบซื่อตรงด้วยนะ ดูเหมือนว่านี่คงเป็นแค่ภายนอกสินะ”

“สันดอนขุดง่าย สันดานแก้ยาก คิดจะเปลี่ยนมันจะเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ ที่ไหนกัน ฉันว่านะ นี่เป็นเพราะมีลูกแล้วก็เลยดีขึ้นมาก ถ้ายังไม่มีลูก ฉันว่าเมื่อวานคงได้เอาถึงตายเลยแหละ!” หลี่เฟินพูดเกินจริง

แต่พี่สะใภ้รองจ้าวและภรรยาของเหล่าหวังสามชอบความเกินจริง พวกหล่อนพยักหน้า “นั่นสิ แต่ก็พอจะอภัยได้แหละ มีฆาตกรเข้ามาช่วงกลางดึกแบบนี้ ใครเจอก็ต้องสู้ยิบตากันทั้งนั้นแหละ!”

“ไม่ว่าจะพูดยังไง เย่ฉูฉู่นี่ก็สุดยอดเลยล่ะ!”

เมื่อคืนเย่ฉูฉู่เพียงคนเดียวก็สามารถทำให้เถียนชีนอนหมอบลงได้ ลูกลิงก็ข่วนหน้าโจร ไม่เพียงแค่ทำให้พวกหล่อนรู้สึกว่าเย่ฉูฉู่เป็นคนที่แตะต้องไม่ได้ ทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านที่ทราบเรื่องก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน ภายในใจก็อดคิดไม่ได้ หลังจากนี้อย่าได้ไปยั่วโมโหภรรยาสาวคนนั้นเชียว ที่สำคัญคือกล้าที่จะเริ่มลงมือในช่วงเวลาวิกฤติด้วย!

……………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ต่อจากนี้คงไม่มีใครกล้ารังแกฉูฉู่แล้วล่ะ สบายใจได้ ชื่อเสียงปราบฆาตกรเลื่องลือไปทั้งหมู่บ้านแล้ว

ไหหม่า(海馬)