ตอนที่ 282 ทั้งหมดก็เพื่อลูก
ตอนที่ 282 ทั้งหมดก็เพื่อลูก
ทางฝั่งเฮ่อซงจือก็อยู่ที่บ้านของเย่ฉูฉู่ ทั้งสองคนไม่ได้ทำงาน เพียงแต่นอนคุยกันบนเตียงเตา เสี่ยวไป๋หยางถูกเย่ฉูฉู่จับแขนไว้ เขาจึงกระโดดอยู่บนตัวของเย่ฉูฉู่อย่างมีความสุข
“…ฉูฉู่ ฉันได้ยินเธอเล่ายังรู้สึกกลัวเลย ตอนนั้นเธอไม่กลัวเลยเหรอ?” เฮ่อซงจือมองเย่ฉูฉู่ด้วยใบหน้าที่สับสนนิดหน่อย
เย่ฉูฉู่กล่าว “กลัวสิ ฉันเห็นหมอนั่นก็เหงื่อซึมเลย แต่ยังมีลูกอยู่ เธอจะทำอะไรได้ ก็ต้องกัดฟันสู้นั่นแหละ”
เฮ่อซงจือจินตนาการถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น หล่อนส่ายหน้า “ถ้าเป็นฉัน คงทำไม่ได้หรอก!”
“ถ้าเธอเจอแบบนั้นต่อให้ทำไม่ได้ก็ต้องได้!” เย่ฉูฉู่ยกจนเมื่อยแล้ว เธอจึงวางเสี่ยวไป๋หยางลงและบอกให้เขาลุกขึ้นนั่งแล้วพิงหลังมาที่นาง แขนทั้งสองข้างโอบรอบตัวลูกชายไว้ “โชคดีที่เสี่ยวไป๋หยางไม่ตื่นขึ้นมา ตอนนั้นฉันก็คิดไว้อยู่แล้วว่าห้ามไม่ให้ลูกชายของฉันตกใจเด็ดขาด ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยได้ยินแม่เล่าให้ฟังว่า เด็กบ้านไหนที่ตกใจหวาดผวา โตขึ้นมาจะสติไม่ดี ฉันไม่อยากให้ลูกชายฉันเป็นคนสติไม่ดี ฉันเห็นหมอนั่นแต่สมองกลับคิดเรื่องนี้เต็มไปหมด เธอคิดว่าฉันยังจะกลัวอีกเหรอ? คนเราต่างก็ถูกบีบบังคับให้ทำทั้งนั้นแหละ”
เฮ่อซงจือกล่าวชื่นชม “นั่นก็เป็นเพราะเธอเก่งไง ถึงได้ทุบจนทำให้ผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นนอนหมอบลงได้”
“เป็นเพราะโชคด้วยแหละ ฉันปิดหน้าต่างอย่างดี ด้านนอกจึงมองเห็นด้านในได้ไม่ชัด ฉันลงมือแบบฉับพลัน แต่ภายหลังก็พึ่งพาไฉไฉทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ใช่เพราะไฉไฉฉันคงจบเห่เหมือนกัน ฉันไม่เห็นด้วยซ้ำว่าในมือของหมอนั่นมีมีดอยู่ ฉันคิดแค่ว่าจะไล่ตีให้หมอนั่นออกไป” เย่ฉูฉู่พูดถึงลิงน้อยด้วยใบหน้าเคล้ารอยยิ้ม “ไฉไฉของเราปกติกลัวคนนะ ไม่ว่าใครจะมาก็ไปซ่อนทุกครั้ง แต่เมื่อคืนอยู่ข้างฉันตลอดเลย หลังจากนั้นก็กระโดดออกไปข่วนหน้าคนร้าย ฉันนี่ถึงกับตกตะลึงไปเลย ตอนที่เหวินเทากลับมามันก็ยังไม่ได้สติ แถมยังคิดจะกระโดดเข้าไปข่วนด้วย ตอนนั้นมีตั้งหลายคน มันไม่กลัวอะไรเลย ไฉไฉของพวกเรานี่กล้าหาญเกินไปแล้วจริง ๆ!”
เฮ่อซงจือได้ยินเย่ฉูฉู่ที่เอาแต่พูดไฉไฉของเรา ๆ หล่อนก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเธอพูดถึงลูกชายอยู่นะ!”
“ถึงมันจะเป็นลิง แต่ฉันก็เห็นมันเป็นลูกของฉันจริง ๆ นะ” เย่ฉูฉู่ยิ้ม “บางครั้งมันก็มีจิตใจดีกว่ามนุษย์ซะอีก ถ้าเธอดีกับมัน มันก็จะดีกับเธอ แถมยังดีแบบตลอดทั้งชีวิตเลยด้วย”
เฮ่อซงจือไม่ได้รู้สึกแบบที่เย่ฉูฉู่รู้สึก และไม่เข้าใจความคิดของเย่ฉูฉู่ เธอพูดแค่ว่า “ลิงตัวนี้เลี้ยงไม่เสียเปล่าเลยนะ จริงสิ มันกล้าข่วนคนแล้ว ทำไมมันยังหลบหน้าฉันอีกล่ะ?”
“มันก็ตกใจแทบแย่เหมือนกัน ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ออกมากินข้าวแค่แป๊บเดียว เวลาอื่นก็ไปซ่อนตัวตลอด” เย่ฉูฉู่พูดด้วยความเจ็บปวดหัวใจ
“แล้วหลังจากนั้นหมอนั่นก็ถูกจับตัวไปแล้วเหรอ?” เฮ่อซงจือถาม “มีคนบอกว่าเขาเคยฆ่าคนด้วย เธอว่าจะเขาถูกยิงเป้าไหม? ถ้าไม่โดนยิงเป้าแล้วออกมาแก้แค้นจะทำยังไง?”
“ก็ต้องโดนยิงเป้าอยู่แล้ว วันนี้เหวินเทาไปถามที่สถานีตำรวจในอำเภอแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว “ต่อให้ไม่โดนยิงเป้าจะออกมาฉันก็ไม่กลัวหรอก ตอนนั้นลูกชายฉันก็คงโตแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
เฮ่อซงจือถอนหายใจ “เธออยู่ที่นี่เปลี่ยวเกินไปแล้วนะ ถ้าอยู่ในหมู่บ้านก็ยังดีหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอก รอชุยต้ากับคนอื่น ๆ ย้ายมาก็ดีขึ้นแล้ว”
“ชุยต้าก็ไม่ได้อยู่บ้านสักหน่อย ระยะเวลาสั้น ๆ นี้ก็คงยังไม่แต่งงาน เธอจะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้นะ” เฮ่อซงจือเป็นกังวลมาก
เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม “เหวินเทาบอกว่าเขาจะเอาหมาดุ ๆ มาเลี้ยงไว้สักสองตัว”
“จริงด้วย ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงนะ! เธอควรเลี้ยงหมาไว้นานแล้วนะ จะได้ช่วยเฝ้าบ้านด้วย ไม่มีหมาสักตัวไม่ได้หรอก!”
“ตอนแรกฉันก็อยากเลี้ยงหมาเหมือนกัน แต่เป็นเพราะท้อง หลังจากคลอดลูกก็ต้องเลี้ยงลูกอีก ไหนจะมีไฉไฉอีกตัว ไฉไฉก็มีความระมัดระวังมากเลยนะ ฉันคิดว่าไม่เลี้ยงหมาก็คงไม่เป็นไร ตอนนี้ดูเหมือนว่าเลี้ยงไว้สักตัวก็ดีเหมือนกัน”
“เหวินเทาของเธอจะเอาหมาดุ ๆ แบบไหนมาเหรอ?” เฮ่อซงจือแอบสงสัย
“ไม่รู้สิ เขาบอกว่าจะเลี้ยงหมาที่ดุ ๆ เข้าใจภาษาคนน่ะ”
“คงไม่ใช่ลูกผสมหมาบ้านกับหมาป่าหรอกนะ? หมาพันธุ์นั้นกินเก่ง แถมยังดุมากด้วย กัดคนทีหนึ่งนี่กัดจนตายเลยนะ! ฉูฉู่ ถ้าเธอจะเลี้ยงก็ต้องระวังตัวด้วย! เธออย่าเลี้ยงเลย เลี้ยงหมาบ้านก็ดีมากเลยนะ” เฮ่อซงจือเป็นกังวลใจมาก
“เรื่องนี้ฉันไม่เป็นกังวลแล้ว นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วด้วย เธออยู่กินข้าวด้วยกันที่นี่สิ” เย่ฉูฉู่มองดูเวลา นี่ก็สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว ถึงเวลาทำอาหารแล้วด้วย
เฮ่อซงจือรีบลุกขึ้นยืน “เธอดูสิ คุยจนลืมดูเวลาเลย! ฉันต้องกลับบ้านแล้ว สายแล้วลูกคงร้องแล้วแหละ!”
“ครั้งหน้าเธอพาลูกมาด้วยสิ แบบนี้เธอก็จะได้อยู่ที่นี่นาน ๆ หน่อย!” เย่ฉูฉู่มาส่งหล่อน
“ไม่พามาหรอก ลูกบ้านฉันไม่เหมือนเสี่ยวไป๋หยางบ้านเธอ จะฉี่จะอึก็ยังไม่เป็นที่เป็นทาง ฉันยังต้องเก็บกวาดเช็ดถูอยู่เลย! ฉันไปแล้วนะ เธอก็ไม่ต้องออกมาหรอก ข้างนอกฝนตกหนัก!” เฮ่อซงจือกล่าวขณะคลุมแผ่นพลาสติกแล้ววิ่งออกไป
เย่ฉูฉู่ยืนอยู่ที่ประตูบ้าน เห็นเฮ่อซงจือวิ่งกลับไปก็แอบส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม เฮ่อซงจือคนนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าออกมาแอบอู้งานชัด ๆ
“เสี่ยวไป๋หยาง เที่ยงนี้พวกเรากินอะไรกันดีจ๊ะ?” เย่ฉูฉู่ปิดประตูเดินเข้ามาคุยกับลูกชาย
เสี่ยวไป๋หยางส่งเสียงพูด แอ้ ๆๆ
“เสี่ยวไป๋หยางกินเกี๊ยวไหม? พวกเราห่อเกี๊ยวกันดีไหมจ๊ะ?”
เสี่ยวไป๋หยางยังคงส่งเสียง แอ้ ๆๆ
“ไฉไฉ แกอยากกินอะไรดี?” เย่ฉูฉู่หันไปตะโกนถามที่ห้องตะวันตก
ลูกลิงคุ้นชินกับการหลบอยู่ในห้องตะวันตก เมื่อได้ยินเย่ฉูฉู่เรียกมัน มันก็ส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’ แต่ก็ไม่ได้ออกมา
“ไฉไฉตกใจแย่เลยสินะ เสี่ยวไป๋หยาง ลูกว่าแม่ควรทำยังไงดีล่ะ? พวกเราทำของอร่อย ๆ ให้ไฉไฉกินกันดีไหม? เสี่ยวไป๋หยาง หนูว่าไฉไฉชอบกินอะไรเอ่ย?”
เย่ฉูฉู่พูดคุยกับลูกชายไปพลาง ก็ยกลูกชายมาใส่ไว้ในรถเข็น เดินไปล้างมือแล้วเริ่มลงมือทำอาหาร
เดิมทีเธอคิดไว้ว่าจะห่อเกี๊ยว แต่เป็นเพราะรู้สึกว่ายุ่งยากเกินไป จึงมานวดเส้นบะหมี่ ต้มน้ำซุปแล้วใส่ผักใบเขียวลงไปนิดหน่อย โปะด้วยไข่ดาวด้านบน วันฝนตก ได้รับประทานบะหมี่ร้อน ๆ สักถ้วยร่างกายก็อบอุ่นดีเหมือนกัน
ตอนที่รับประทานอาหาร ลูกลิงก็เดินออกมา มันกินบะหมี่ถ้วยใหญ่ ดูเหมือนว่ามันจะมีอาการดีขึ้นแล้ว จึงไม่ได้เข้าไปหลบอีกต่อไป มันนั่งอยู่ตรงหน้าหน้าต่าง ทั้งยังส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’ ตรงกระจกที่ถูกทุบตีจนแตก
จ้าวเหวินเทานำกระจกไปซ่อนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าลูกลิงยังคงจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ เย่ฉูฉู่นั่งอยู่ข้าง ๆ มัน นางลูบหัวเล็ก ๆ ที่มีขนปุยของลูกลิงและพูดปลอบใจว่า “ไฉไฉ คนคนนั้นไม่มาอีกแล้วล่ะ แกไม่ต้องกลัวนะ หลังจากนี้จะไม่มีมาอีกแล้ว”
ลูกลิงส่งเสียงร้องอยู่ครู่หนึ่ง มันหันมามองเย่ฉูฉู่ขณะเงียบเสียง จากนั้นก็นอนหนุนศีรษะลงบนกองผ้าแล้วผล็อยหลับไป
เย่ฉูฉู่มองดูเจ้าตัวน้อย นางก็ยิ้มออกมา จากนั้นจึงหันไปมองเสี่ยวไป๋หยาง ลูกชายของเธอกำลังใช้ดวงตากลมโตมองมาที่ลูกลิง ท่าทางดูฉงนสงสัยมาก แต่เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของแม่ จึงหันหน้ามาโบกมือน้อย ๆ ด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนี้เย่ฉูฉู่รู้สึกพึงพอใจจนไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบได้
เป็นเพราะฝนตก จ้าวเหวินเทาจึงกลับมาเร็วกว่าปกติ ตอนที่กลับมา ในมือของเขาหอบกล่องกระดาษเข้ามาอีกสองกล่องด้วย
“นี่อะไรเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่มองกล่องกระดาษ
“คุณทายสิ!” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยท่าทางลึกลับ
“ลูกหมาสินะ?” เย่ฉูฉู่เริ่มสนใจขึ้นมา
ลูกลิงสนใจยิ่งกว่า มันนั่งยอง ๆ ตรงหน้ากล่องกระดาษพลางส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’
“แกห้ามทะเลาะกับพวกมันนะ หลังจากนี้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว!” จ้าวเหวินเทาพูดกับลูกลิง จากนั้นก็เปิดกล่องกระดาษที่อยู่ด้านบนออก ในนั้นมีแมวสองตัวกำลังส่งเสียงร้อง ‘เมี๊ยว ๆ’
“ลูกแมว!” เย่ฉูฉู่แอบประหลาดใจ
มันคือลูกแมว แถมยังมีสองตัวด้วย!
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ถึงเวลาคับขัน สัญชาตญาณความเป็นแม่จะทำให้เกิดความกล้าขึ้นมาเองค่ะ
แมวจากที่ไหนกันหนอ มาอยู่บ้านนี้แล้วจะเป็นยังไงน้า
ไหหม่า(海馬)