เฟิง อู๋ฮั่น เขาราวกับเป็นสัตว์ป่าดุร้ายที่พุ่งเข้าใส่ กั๋ว เจียงหู่ เขาไม่กล้าที่จะประมาทเขา เขาคว้ามีดเก้าวงแหวน จากหนึ่งในสมาชิกของ แก๊งมังกร ที่อยู่ข้างๆเขามา ที่ด้านหลังของมีดถูกหุ้มด้วยวงแหวนเหล็กเก้าวงและมีเสียงแกร๊กๆดังออกมา รังสีที่เย็นยะเยียบแผ่กระจายออกมาจากใบมีด
“ปัง~”
เมื่อมีดทั้งสองเล่มปะทะกันกลางอากาศ มันทำให้เกิดเสียงกรีดร้องของโลหะที่ปะทะกัน แรงมหาศาลถูกส่งไปที่ข้อมือของพวกเขา หลังจากปะทะกันอยู่ครู่หนึ่งพวกเขาจึงได้แยกจากกัน
มีดเก้าวงแหวนของ กั๋ว เจียงไห่ มันเป็นอาวุธที่ทำมาจากสแตนเลส มันมีความยืดหยุนที่สูงมาก แต่ใบมีดเก้าวงแหวนที่อยู่ในมือของ เฟิง อู๋ฮั่น นั้นเป็นใบมีดปกติ ที่เขาคว้ามันมาจากหนึ่งในสมาชิกของแก๊งค์มังกร หลังจากที่ปะทะชนกับมีดเก้าวงแหวนของ กั๋ว เจียงหู่ มันก็มีรอยแตกปรากฏขึ้นที่ขอบของใบมีด
“แกชักจะทำให้ฉันโมโหแล้วนะ แกรู้ไหม!”
นัยน์ตาของ กั๋ว เจียงหู่ หรี่ลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเขาพุ่งเข้าใส่ เฟิง อู๋ฮั่น ปลายเท้าของเขาแตะพื้นและพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว แขนขวาของเขากำมีดเก้าวงแหวนแน่น พร้อมกับส่งมันพุ่งเข้าไปหาคอของ เฟิง อู๋ฮั่น ด้วยความเร็วที่น่ากลัว
“เป็ง!”
มีเสียงคำรามอย่างกับฟ้าร้องขณะที่ใบมีดทั้งสองพุ่งชนกันอีกครั้ง มันมีการปะทุของประกายไฟที่รุนแรงแลบออกมาเป็นระยะๆ
เฟิง อู๋ฮั่น ปัดป้องการโจมตีครั้งแรงของ กั๋ว เจียงหู่ ได้ จากนั้น กั๋ว เจียงหู่ ก็ดำเนินการโจมตีครั้งที่สองและครั้งที่สามต่อไปในทันที ความเร็วในการโบกใบมีดของเขา นั้นรวดเร็วมาก ภาพเงาของการเคลื่อนไหวของใบมีดนั้นปกคลุมเต็มในอากาศ
เฟิง อู๋ฮั่น นั้นแข็งแกร่งกว่า กั๋ว เจียงหู่ แต่เขานั้นไม่เก่งการต่อสู้ด้วยมีด ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงทำให้เขาได้แต่ปัดป้องการโจมตีไปเรื่อยๆ
“เป็ง เป็ง!”
ประกายไฟยังคงปะทุออกมาเป็นระยะๆ จากการประทะกันของใบมีด ภายในระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปมากกว่า 20 กระบวนท่า ความเร็วของ กั๋ว เจียงหู่ นั้นแข็งแกร่งมา ดังนั้นมันจึงบังคับให้ เฟิง อู๋ฮั่น ต้องปัดป้องอยู่ฝ่ายเดียว ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้ผิวหนังระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของเขาฉีกขาดและมีเลือดไหลออกมา แขนของเขามันราวกับเป็นอัมพาต เขาเดินถอยหลังโซเซไปกว่าห้าก้าว
“ตอนนี้แกรู้แล้วหรือยัง ว่าแกไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเผชิญหน้ากับฉัน!”
กั๋ว เจียงหู่ พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม ด้วยการโจมตีที่เพิ่มมากขึ้น มันทำให้ เฟิง อู๋ฮั่น ไม่สามารถบล็อกพวกมันได้ทั้งหมด ด้วยการป้องกันที่ล้มเหลว มันทำให้บาดแผลบนร่างกายของเขาเพิ่มมากขึ้น ในไม่ช้าตัวของเขาก็ท่วมไปด้วยเลือด เมื่อสบโอกาส กั๋ว เจียงหู่ ก็เตะเข้าไปที่หน้าอกของ เฟิง อู๋ฮั่น ในทันที
“ปัง ~”
เฟิง อู๋ฮั่น ที่ถูกเตะ เขากระเดนไปข้างหลังเหมือนกับว่าวที่สายเชือกขาด ร่างของเขาพุ่งเข้าไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง ห่างออกไปประมาณสามถึงสี่เมตร
“พี่เฟิง!”
เสี่ยวอู๋ และ คนที่เหลือรีบวิ่งเข้าไปช่วย เฟิง อู๋ฮั่น ซึ่งทั้งตัวเปียกโชกไปด้วยเลือดด้วยความกังวลในทันที
แม้จะมีคนช่วยพยุง แต่ เฟิง อู๋ฮั่น ก็แทบจะไม่สามารถรักษาสมดุลของร่างกายได้เลย เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งบนพื้น ตอนนี้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เลือดและน้ำลายไหลออกจากปากของเขา
“ฉันคิดว่าแกสามารถฆ่าคนได้อีก 20 ถึง 30 คน แต่ใครจะไปคิดหละว่าแกจะอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้เมื่อมาสู้กับฉัน แกมันช่าง…อ่อนแอสิ้นดี!” กั๋ว เจียงหู่ ตวาดเสียงดัง พร้อมกับชูหัวของเขาขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ เขาวาง มีดเก้าวงแหวน ไว้บนไหล่ของเขา
เฟิง อู๋ฮั่น ต้องการที่จะตอบโต้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเปิดปาก เลือดของเขาก็พุ่งออกมาในทันที อย่างไม่สามารถควบคุมได้
ถ้าไม่ใช่เพราะสมาชิกของแก๊งมังกร ตัดพละกำลังและทำให้เขาบาดเจ็บไปในตอนแรกเขา ก็มั่นใจว่าเขาสามารถต่อสู้กับ เจียงหู่ ได้ แม้ว่ามีดของมันจะเร็วกว่าและประสบการณ์การต่อสู้ของมันจะมีมากกว่า แต่ เฟิง อู๋ฮั่น เขาก็มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งที่จะฆ่ามัน
“ฆ่า!”
พวกพี่น้องของเขา คำรามเสียงดัง และวิ่งเข้าไปหา เจียงหู่ พวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมาหมิ่น เฟิง อู๋ฮั่น!
แต่พวกเขาก็ทำอะไร กั๋ว เจียงหู่ ไม่ได้เลย ความแข็งแกร่งของพวกเขาตอนนี้ถูกใช้ไปจนหมดในก่อนกน้านี้แล้ว เมื่อพวกเขาไปถึงพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกโยนกลับมาโดย กั๋ว เจียงหู่
“ไอพวกขยะที่ไร้ความสามารถ ฉันไม่อยากเสียจะน้ำลายไปกับพวกแก”
กั๋ว เจียงหู่ โยน มีดเก้าวงแหวน ของเขาไปให้กับลูกน้องของเขา แล้วหันหลังกลับมาเดินไปที่ที่นั่งของเขา จากนั้นเขาก็หยิบไอติมจากถังน้ำแข็งขึ้นมาอีกครั้งและกินมัน เขาโบกมือแล้วออกคำสั่งอย่างใจเย็นว่า“ไปตัดแขนขาของพวกมัน แล้วโยนพวกมันลงไปในทะเลเพื่อให้พวกมันตาย!”
สมาชิกของแก๊งมังกรหลายสิบคนรีบวิ่งไปข้างหน้าเหมือนกับพวกหมาป่าที่หิวโหย
หัวใจทั้งห้าของพวกเขาสั่นเทา และจากนั้น เฟิง อู๋ฮั่น ก็ใช้มีดพยุงร่างกายของเขาขึ้นมา ครั้งหนึ่งเขาบอกว่าเขาต้องการที่จะเป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อออกมาจากสถานที่ของพวกเขา แต่จริงๆแล้วมันเรื่องมันกลับกลายไปเป็นแบบนี้ซะได้
ช่างน่าเศร้า น่าสมเพช และ น่าเกลียดชัง!
ทำไมเรื่องแบบนี้มันถึงเกิดขึ้น!
ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถที่จะหางานที่ดีทำได้ ในเดือนที่ผ่านมาพวกเขาอาศัยอยู่บนถนนและได้ลิ้มรสกับความหวานอมเปรี้ยวในโลก อย่างไรก็ตามมันยังคงมีความหวังอยู่ในใจของพวกเขา พวกเขากำลังรอคอยที่จะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดอนาคตที่ดีกว่าก็ไม่ได้มา แต่มันกลับเป็นความตายที่เข้ามาแทน
ในตอนเวลานี้เอง ที่พวกเขาจำเหยื่อที่กำลังจะตาย หลังจากถูกล่าโดยพวกเขาได้สำเร็จ แต่ตอนนี้บทบาทและตำแหน่งของพวกเขาได้สลับกัน พวกเขาไม่ใช่นักล่าอีกต่อไป พวกเขาเป็นแค่เหยื่อที่กำลังถูกสังหารเท่านั้น
“มันไม่ควรจะจบลงแบบนี้…” เฟิง อู๋ฮั่น นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายความเศร้าออกมา
หนึ่งในพวกเขากัดฟันและคำรามออกมาด้วยความโกรธ“ทำไมตำรวจยังมาไม่ถึง”
เฟิง อู๋ฮั่น ต่อว่าเขา“แกไม่เคยดูละครเหล่านั้นหรือไง? พวกตำรวจมักจะมาถึงหลังจากการนองเลือดสิ้นสุดลงอยู่เสมอ”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ทุกคนก็ก้มหัวลงอย่างสิ้นหวัง ตอนนี้มันไม่มีใครเลยที่จะช่วยพวกเขาได้
“ไอพวกบ้านนอก! ฉันจะส่งพวกแกไปสู่ชีวิตหลังความตายด้วยตัวฉันเอง! ฮ่าฮ่าฮ่า …”
ชายที่มีแผลเป็นมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา นัยน์ของเขามันเต็มไปด้วยความชั่วชาย เขาเดินมาพร้อมกับมีดที่อยู่ในมือของเขา เขาต้องการที่จะขับไล่ความอัปยศทั้งหมดที่เขาได้รับในวันนั้นในครั้งเดียว ทุกครั้งที่เขานึกถึงวันนั้น ที่ เฟิง อู๋ฮั่น ตบหน้าเขา ในใจของเขามันก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ทันใดนั้นเอง มันก็มีร่างเงาตกลงมาจากท้องฟ้า พูดให้ถูกก็คือเงานั่นมันกระโดดลงมาจากชั้นสองของโกดังสินค้า จากนั้นเงานั่นมันก็ตกลงมาอย่างเงียบๆ ขั้นกลางระหว่างทั้งห้าคน
สมาชิกแก๊งมังกรกว่า 100 คน และ เจียงหู่ ต่างก็ตกตะลึง และคิดว่า คนคนนี้มาจากไหนกัน
ทั้งห้าคนก็ตกตะลึงเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะมองเห็นเพียงแผ่นหลัง แต่พวกเขาก็จดจำคนคนนี้ได้อย่างรวดเร็วว่าเขาคือใคร …คนคนนี้ก็คือ เสี่ยวหลัว นั้นเอง
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?
เขามาทำไมกัน
เขามาได้ยังไงกัน!
ในหัวใจของ เฟิง อู๋ฮั่น เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนมาก หลังจากที่เขาประหลาดใจดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง พวกเขาสร้างปัญหาให้กับเสี่ยวหลัว แต่เสี่ยวหลัวไม่เพียงแค่ไม่ถือโทษพวกเขา แต่เขายังตอบแทนพวกเขาด้วยความเมตตา เขาจ่ายอาหารให้กับพวกเขา และตอนนี้ เสี่ยวหลัว ยังมาถึงที่นี่หลังจากที่พวกเขาโทรศัพท์ไปหา เขามาช่วยพวกเขาเผชิญหน้ากับแก๊งมันกรกว่า 100 คน!
ความรู้สึกนี้มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดได้, มันเป็นความอัปยศที่ไม่สามารถพูดได้, มันเป็นความโศกเศร้าที่ไม่สามารถพูดได้ …
มันเป็นครั้งแรกที่ชายที่มีความสูงกว่าเจ็ดฟุต มีความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้
เสี่ยวหลัว ยืนอยู่บนพื้น ราวกับต้นสนที่ยิ่งใหญ่ ผมที่ปกหน้าผากของเขาสะบัดไปมาตามสายลม ใบหน้าของเขาสะอาดและมีคิ้วที่คมเข้ม ที่นัยน์ตาของเขามีความเย็นชาอยู่ข้างใน ขณะที่ร่างของเขามีกลิ่นอายของวิญญาณที่ชั่วร้ายกระจัดกระจายออกมาอยู่ตลอดเวลา
เขายืนอยู่ต่อหน้า แก๊งมังกร และจ้องมองไปที่พวกมันอย่างเย็นชา
“นั่นคือเขา! พวกตำรวจพบเราเพราะเขาช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปจากเรา และนั่งมันทำให้พวกเราที่เหลือถูกจับตัวไป” ชายที่มีแก้มใหญ่ตะโกนออกมา
หากเสี่ยวหลัว ยังจำเขาได้ เขาก็จะรู้ได้ว่าบุคคลผู้นี้คือใคร มันคือหนึ่งในสมาชิกแก๊งที่ดูแลเด็กขอทาน