บทที่ 197 ข่าวช่วงนี้? และข่าวร้ายล่ะ!
วู่หยานนอนแผ่ไปบนเตียงมิโคโตะพร้อมกับหอบหายใจเล็กน้อย บนใบหน้าเขา
ราวกับมีตัวอักษรว่า ‘สุขสุดยอด’ เขียนไว้ ตอนนี้เขามั้งตัวเขามันล้าไปหมด
ส่วนมิโคโตะนั้นกำลังนอนอยู่บนตัววู่หยานด้วยใบหน้าแดงๆ โดยที่เอาหน้าแนบ
บนหน้าอกเขาขณะที่ปากก็กำลังอ้าออกแล้วหุบเขาราวกับกำลังจูบตัววู่หยานอยู่
นี่แสดงให้เห็นว่าบทรักเมื่อกี้เธอทำเธอหายใจไม่ทันจริงๆ
ในเวลานี้ชุดเมดของเธอได้ถกลงไปอยู่ที่เอวโดยพันกันอย่างยุ่งเหยิง ถ้ามองผ่านๆ
จะเธอก็ไม่ต่างจากเปลือยเลยสักนิด!
ทั้งคู่นอนทาบกันด้วยท่าที่ดูกำกวม แต่มันก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะตอนนี้เจ้า
น้องชายของวู่หยานยังคาอยู่ข้างในของมิโคโตะเลย……..
จับแผ่นหลังเรียบเนียนของเธอ วู่หยานก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วที่ตนต้องผจญอะไรมา
มากมายเพื่อ ณ เวลานี้!
ผ่อนลมหายใจ ในที่สุดมิโคโตะก็ฟื้นตัว จากนั้นเธอก็ตระหนักได้ถึงมืออันอยู่ไม่สุข
ของวู่หยานและสภาพตัวตอนนี้ หน้าของมิโคโตะก็แดงฉ่าขึ้นหลายส่วน
เงยหน้ามองไปที่วู่หยานก่อนจะบิดตัวไปมา มิโคโตะรู้สึกได้ว่าส่วนนั้นของเขายัง
อยู่ในตัวเธอ โดยพยายามอดกลั้นความเสียว มิโคโตะพูดใส่เขาด้วยความอาย “ยะ
…ยังไม่รีบเอาไอ้….นั่น…ออกไปอีก…..”
การเคลื่อนไหวของมิโคโตะแทบจุดไฟหื่นของวู่หยานขึ้นอีกรอบ เขากอดตัวเธอ
แน่นแล้วขยับน้องชายตัวเองเข้าออกตัวเธอ นี่ทำให้มิโคโตะที่กำลังพูดประท้วง
เป็นต้องอ่อนยวบ
“มิโคโตะ เธอนี่นับวันยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นทุกทีแล้วนะ……” ขณะที่ยังคงชักเข้าชัก วู่
หยานก็พูดใส่เธอเช่นนี้แหละ เขากำลังพยายามกอบโกยความสุขจากเธอให้มาก
ที่สุด
“อือ…..ไม่…อ๊าย….อีกรอบ….ไม่ได้นะ….” มิโคโตะพูดขอความเมตตา ขณะที่รับ
การโจมตีของวู่หยาน เดจาวูจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอก็ขอเขาแบบนี้ ส่วนผลนะ
เหรอ?…….
“โอ้?” วู่หยานไม่ตอบ คำพูดขณะที่อยู่บนเตียงของผู้หญิงนั้น ให้ทำตามตรงกับที่
พวกเธอพูดซะ และเขาก็ต้องทำตามหลักการนี้เช่นกัน วู่หยานโยกเข้าโยกออกใส่
ตัวเธอด้วยความสุข
“แต่ว่า ฉันยังอยากต่ออ่ะ มิโคโตะ……”
“ไม่ได้นะ…..” มิโคโตะครางออกมา ก่อนจะพูดเสียงอ่อนที่ข้างหูวู่หยาน เห็นได้
ชัดว่าเธอเหนื่อยกับสงครามเมื่อกี้มาก “หลังจากนี้…..ฉัน…ยังมี….การแสดงต่อ
….”
“การแสดง?” เมื่อได้ยินวู่หยานก็หยุดทันที แล้วเอามือตบหน้าผากตัวเองเบาๆ
เกือบลืมไปเลยว่ามิโคโตะยังต้องไปแสดงไวโอลินต่ออีก
วู่หยานหยุด ทำให้มิโคโตะได้โอกาสสูดลมหายใจ “เทศกาลฤดูร้อน…..ฉันต้องไป
แสดง…..ดังนั้น…”
วู่หยานพยักหน้าด้วยความจนปัญญา ในเมื่อมิโคโตะยังต้องไปแสดง เขาก็ย่อมไม่
สามารถต่ออีกยกได้ ถึงแม้จะน่าเสียดาย แต่เขาก็ตักตวงความสุขจนเต็มเปี่ยมแล้ว
ค่อยหาโอกาสทำอีกครั้งหน้าก็ได้ ยังไงซะในแหวนมิติของเขาก็มีชุดเมดอยู่นี่นา
……
อุ้มตัวมิโคโตะขึ้มานั่งบนตักตน วู่หยานเสียบเข้าไปอีกครั้ง ทำเธอครางออกมา “’
งั้นก็มิโคโตะ ทางที่ดีเธอจงให้ความร่วมมือซะ งั้นล่ะก็จะโดนทำโทษเอานะ
จ๊ะ~~~”
มิโคโตะทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงคราง แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะพูดขอความเมตตา
เขา ถ้ายังทำต่อไป เธอจะไม่มีแรงไปแสดงเอาจริงๆ
แต่ว่าการกระทำของวู่หยานก็มีข้อดีเช่นกัน มันได้ทำให้ความกังวลต่อการแสดง
ของมิโคโตะปลิวหายขึ้นไปบนสวรรค์เลยล่ะ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
วู่หยานโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงส่งวิญญาณเธอกระเด็นออกจากร่างไป ตอนนี้มิ
โคโตะคงไม่มีสติเหลืออยู่แล้วล่ะนะ……
“ถึงแม้ว่าเราต้องเลิกทำ แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นหลังยกนี้จบก่อนนะ……..”
……………..
เมื่อวู่หยานกับมิโคโตะเดินมาถึงห้องอาหาร ฮินางิคุก็สังเกตเห็นทันที เธอพูดใส่ทั้ง
คู่ด้วยความไม่พอใจมาก “นี่หายไปไหนกันมาเนี่ย? ถ้ากลับมาช้ากว่านี้อีกหน่อย
พวกเราก็จะออกไปตามหากันแล้วนะ!”
วู่หยานยกมือเกาหัว แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาน่า อย่าคิดมากสิ แค่พากันไปเล่น
เกมแค่นั้นเอง ก็กลับมาแล้วนี่ไงล่ะ?”
ได้ยินเขาพูดว่า ‘เกม’ มิโคโตะก็หน้าขึ้นสีทันที ก่อนจะกลายเป็นกระอักกระอ่วน
เมื่อเห็นกองจานอาหารซ้อนกันเต็ม
“กินเยอะเหมือนอย่างทุกทีเลยนะ แอสเทรีย…….”วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะ
แอบถอนหายใจ โชคดีจริงๆที่เขามีเหรียญทองมากพอ ไม่งั้นคงเลี้ยงยัยนางฟ้า
จอมกินจุคนนี้ไม่ได้แน่
ทว่าใกล้กัน ฮินางิคุ เมื่อได้ยินคำพูดเขา เธอก็เม้มปากแล้วชี้ไปที่ทิศทางหนึ่ง
“แอสเทรียเทียบกับคนทางนั้นไม่ได้เลย ฝั่งนั้นสิถึงจะเรียกว่าสุดยอดของจริง!!”
มองตามฮินางิคุ สิ่งที่เห็นทำพวกเขาช็อต ถ้าของแอสเทรียเรียกว่ากองซ้อนกัน
เป็นกอง งั้นของทางนี้ก็เรียกได้ว่าซ้อนกันเป็นภูเขาขนาดย่อมๆเลย…….
มองดูโต๊ะอีกฝั่ง แล้วหันมามองแอสเทรียอีกรอบ มุมปากมิโคโตะกระตุก “…เทียบ
ไม่ได้จริงๆด้วยแฮะ……..”
ส่วนวู่หยานกำลังพูดไม่ออก
ถ้าเขาคิดไม่ผิด เจ้าของที่กำลังถูกกองจานฝังนั่น คงเป็นใครไม่ได้นอกจากสาว
น้อยผมสีเงินในชุดแม่ชี…….. (อินเด็กซ์)
มองผู้ชายที่มีผมแหลมเป็นเม่นยืนอยู่ข้างโต๊ะด้วยหน้าที่มีแต่เหงื่อไหลริน วู่หยานก็
รู้แจ้งทุกอย่างทันที……. (โทวมะ)
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะเอ้อระเหยแบบนี้นะ มิซากะ มิโคโตะ…..”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงทุ่มต่ำของผู้หญิงดังออกมาเข้าหูทุกคน ทำให้พวกเขาที่ยังอยู่ใน
โลกของกองจานต้องเบิกตาขึ้น เมื่อหันไปมองตามเสียงก็ทำพวกเขาอึ้งไป ส่วนวู่
หยานนั้นขมวดคิ้ว
“เธอคือ?” มิโคโตะลังเลชั่วครู่ มองดูผู้หญิงที่ตัวเองไม่รู้จัก ก่อนจะเอ่ยถาม
ออกมา
“มิซากะ มิโคโตะ เอสของโทคิวะได อันดับ3ของเมืองแห่งการศึกษา ‘เรลกัน’
เธอไม่รู้จักฉัน แต่ฉันรู้จักเธอดีเลยล่ะ!”
ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็นผู้หญิงในชุดนักเรียนสีน้ำเงิน เธอมีผมหยักสีม่วงเข้ม
ยาวถึงไหล่ และมีสีหน้าว่างเปล่ากับดวงตาปลาตายที่ราวกับว่าไม่สนใจต่อสิ่งใด
ได้ยินอีกฝ่ายพูด มิโคโตะก็ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าเป้าหมายที่ผู้หญิงตรงมาหาเธอมัน
ชักไม่ธรรมดาแล้ว…..
“เธอเป็นใคร……”
“คำถามนี้ใว้ค่อยพูดกันทีหลัง ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่สำคัญมากต้องบอกเธอ!”เธอพูด
แบบนี้ขณะที่เหลือบมองไปทางวู่หยานกับฮินางิคุและสาวๆคนที่เหลือ เห็นได้ชัด
ว่าไม่ต้องการคนนอกได้ยิน
“มีอะไร พูดกันตรงนี้เลยไม่ได้เหรอไง?”ฮินางิคุมองอีกฝ่าย ถึงแม้เธอจะไม่รู้สึกถึง
อันตราย แต่ยังไงก็เป็นคนแปลกหน้าระวังไว้หน่อยจะดีกว่า
เธอเหลือบมองฮินางิคุ ก่อนจะมามองมิโคโตะ “เรื่องนี้มันสำคัญมาก ฉันหวังว่า
เธอจะมากับฉัน……”
มิโคโตะกลายเป็นสองจิตสองใจทันที ขณะที่มิโคโตะกำลังจะพูด จู่ๆวู่หยานก็ส่ง
เสียงออกมา
“ไม่จำเป็น คุยกันที่นี่เนี่ยแหละ มีอะไรต้องปิดบังกัน? นูโนะทาบะ ชิโนบุ!”
ในที่สุดสีหน้า นูโนะทาบะ ชิโนบุ ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอหันมามองวู่หยาน
“นายรู้จักฉัน?”
“ก็นิดหน่อยอ่ะนะ……” วู่หยานก้าวออกมาสองก้าว แล้วสั่นมือให้มิโคโตะ เข้าใจ
ที่เขาจะสื่อเธอก็ถอยหลังไป เธอรู้ว่าวู่หยานเป็นคนที่เธอเชื่อใจได้……
เห็นแบบนี้วู่หยานก็ยิ้มให้มิโคโตะไปที ก่อนจะหันมาจ้อง นูโนะทาบะ ชิโนบุ ด้วย
สีหน้าจริงจัง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตัว “นูโนะทาบะ ชิโนบุ ในเมื่อเธอมาหามิโค
โตะ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องซิสเตอร์สินะใช่มั้ย?……”
ครั้งนี้ ไม่อาจอธิบายได้แค่ว่าสีหน้าเปลี่ยน เธอกลายเป็นช็อคทันที “นายรู้เรื่อง
พวกซิสเตอร์ด้วย?”
“ไม่ใช่แค่ฉัน ทุกคนที่นี่รู้กันหมด ดังนั้นเธอมีอะไรก็พูดออกได้มาเลย!” วู่หยานพูด
ขึ้น ชิโนบุหันไปมองแอสเทรียที่หยุดกิน แล้วมอง ฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส
“ดูเหมือนว่าจะรู้กันอยู่แล้วสินะ” ชิโนบุขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะกลับมาเป็นสี
หน้าไร้อารมณ์อีกครั้ง “ในเมื่อรู้กันแล้ว และดูจากสีหน้ามิซากะ มิโคโตะ ก็คงรู้
เหมือนกัน ถ้างั้นก็คงรู้เรื่องที่ช่วงนี้พวกซิสเตอร์โดนขโมยกันเลยทำให้แผนต้อง
หยุดชะงักไปสินะ? ถ้างั้นฉันขอพูดตรงๆเลยล่ะกัน”
“……แผนการ เลเวล6….มันได้เริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว!!”