บทที่ 89 ของปลอมทั้งหมด

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ทว่า ตัวเย่เทียนเองไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับเยี่ยนจื่อเฉินอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นว่าเขากำลังขาดทุน ย่อมไม่คิดจะบอกอะไร

ขณะนั้น จี้เจิ้งโก๋กลับมองมู่หยุนเทียนและถามหยั่งเชิง “ไอ้มู่ แกคิดว่ายังไง?”

เย่เทียนได้ยินแล้วก็หันไปมองมู่หยุนเทียนเช่นกัน ดูท่าคนผู้นี้ก็เป็นผู้ประเมินที่จี้เจิ้งโก๋ตั้งใจเชิญมาเหมือนกัน

มู่หยุนเทียนกดเสียงให้ต่ำลง อมยิ้มและส่ายหัว “ซื้อกลับไปโยนเล่นหรอ?”

จี้เจิ้งโก๋หลุดขำ เขาเชื่อใจมู่หยุนเทียนมาก จึงไม่พูดอะไรอีก

“ยินดีกับคุณชายเยี่ยนห้องห้องเทียนจื้อที่หกด้วยที่ได้ของประมูลชิ้นแรกไป!”

เวลานี้ การประมูลราคาได้สิ้นสุดลง ท้ายที่สุดของที่ว่าเป็นโถแปดเซียนฟีนิกซ์หางลายครามในสมัยคังซีก็โดนเยี่ยนจื่อเฉินเอาเข้ากระเป๋าในราคาสูงถึงสามล้านหยวน

“ของประมูลชิ้นที่สองที่นำมาให้ประมูลกันคือภาพนางฟ้าเล่นน้ำของอู่เต้าจื่อในราชวงศ์ถัง เริ่มประมูลที่สามล้านหยวน ทุกครั้งที่ประมูลห้ามบวกราคาต่ำกว่าห้าแสน”

เย่เทียนหรี่ตาและประเมินอย่างละเอียด ได้บทสรุปว่ายังเป็นของปลอมเหมือนเดิม ทำให้เขาเซ็งนิดหน่อย งานประมูลใต้ดินนี้เอาแต่ของปลอมออกมาหลอกผู้คน คงไม่ใช่ว่าหลอกเอาเงินหรอกนะ

“ไอ้มู่ ชิ้นนี้ล่ะ? ชิ้นนี้เป็นยังไง?”

จี้เจิ้งโก๋จ้อง ‘ภาพวาดโบราณ’ ด้วยตาลุกวาว ดูจากท่าทางแล้วขอเพียงมู่หยุนเทียนรับประกัน เขาได้ลงมือโดยไม่ลังเลแน่

เวลานี้เสียวของลิ่วหรั่นดังขึ้นจากข้างๆอีกครั้ง “คุณชายเยี่ยน เจ็ดเซียนในภาพนี้เปี่ยมไปด้วยพลังเซียน แม้แต่รายละเอียดเล็กๆอย่างเส้นผมยังเป็นรูปทรงสวยงาม ผมตรงยาวสยาย ดูท่าจะเป็นฝีมือของอู่เต้าจื่อจริงๆ”

จี้เจิ้งโก๋ที่แอบฟังอยู่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาดูพร้อมยกมือเข้าร่วมการประมูลราคา

เย่เทียนเอ่ยขึ้นอย่างทันท่วงที “นายท่านจี้ครับ ถ้าคุณเชื่อผมก็อย่าประมูล”

“เย่เทียน คุณก็ประเมินเป็นหรอ” ไม่รอให้จี้เจิ้งโก๋พูดอะไร จี้เยียนหรันกลับถามขึ้นก่อนด้วยความอยากรู้

เธอแค่พาเย่เทียนมาร่วมสนุกเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเย่เทียนจะพูดแทรกขึ้นมา

“พอได้นิดหน่อย” เย่เทียนพยักหน้า

จี้เจิ้งโก๋ลังเลขึ้นมา แม้เขาจะรู้ดีว่าเย่เทียนมีฝีมือไม่เลว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีความสามารถในการดูของสะสมนี่

“เหล่าจี้ ถ้าฉันเป็นแกฉันจะเชื่อที่น้องคนนี้พูดนะ”

มู่หยุนเทียนรู้สึกถึงความลังเลของเพื่อนรัก มองเย่เทียนอย่างมีความหมายและพูดเกลี้ยกล่อม “ถ้าภาพนี้เป็นของจริงไม่ใช่ของปลอม ถึงเราไม่ประมูลก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ถ้าเสียไปหลายล้านหรืออาจจะหลายสิบล้านเพื่อซื้อของเลียนแบบกลับมา เงินยังเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ขายหน้าสิเรื่องใหญ่”

งานประมูลใต้ดินที่เปิดเผยไม่ได้ก็เป็นแบบนี้แหละ มีคุณสมบัติคล้ายๆกับการพนัน

“ก็ได้ ฉันไม่ประมูลแล้ว” จี้เจิ้งโก๋หัวเราะเฝื่อนๆพลางส่ายหัว

ในตอนนั้น คนด้านล่างตื่นเต้นกันหมด พากันบวกราคาแข่งกันประมูล

ทว่า เยี่ยนจื่อเฉินนั้นร่ำรวยและมือเติบ เรียกได้ว่าตั้งใจมาที่งานประมูลใต้ดินนี้โดยเฉพาะ บวกกับมีการยืนยันจากลิ่วหรั่น เขาไม่มีความลังเลเลยสักนิด เขาข่มทุกคนในที่นี้ไว้ด้วยราคาสูงถึงสิบสองล้านหยวนและได้ภาพชื่อดังนี้มาไว้ในครอบครอง

เขายอมเสียเงินเป็นสิบล้านและได้ของสะสมมาไว้ถึงสองชิ้น พิธีกรงานประมูลชมความใจใหญ่ของเยี่ยนจื่อเฉินอยู่บ่อยครั้ง ทุกคนในที่นี้ต่างชำเลืองมอง อยากจะเห็นว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหนมาละลายเงินลงแม่น้ำที่นี่

เยี่ยนจื่อเฉินเชิดหน้าชูตา มองเย่เทียนด้วยท่าทีแฝงความท้าทาย ราวกับกำลังบอกว่าคนอย่างแกจะเอาอะไรมาเทียบกับฉัน

เย่เทียนหัวเราะเย็นๆในใจ ไอ้โง่เอ๊ย ประมูลของปลอมมายังจะสำราญใจได้อีก จะรอดูซิว่ากลับไปแล้วนายจะร้องไห้หนักขนาดไหน

ไม่ทันจะรู้ตัว ก็มีของสิบกว่าชิ้นถูกประมูลไปแล้วในงานประมูล ในนี้มีทั้งของจริงและของปลอม แต่ของจริงมีมากกว่าจริงๆ ของประมูลสิบกว่าชิ้นมีเพียงสามสี่ชิ้นที่เป็นของปลอม เหมือนกับที่จี้เยียนหรันบอกจริงๆ

ส่วนเยี่ยนจื่อเฉินที่ประมูลของสะสมไปได้สองชิ้นติดกลับไม่สนใจในของชิ้นอื่น และไม่ได้ประมูลต่อ

ทันใดนั้น ของประมูลชิ้นที่สิบสามถูกนำมาวางไว้บนเวทีประมูล ซึ่งก็คือ เครื่องเคลือบอูฐถังสามสี

นาทีที่ของชิ้นนี้ถูกนำมาวาง เย่เทียนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายประหลาดบางอย่างโดยฉับพลัน สายตาเขาแน่นิ่งไป ทอดสายตาไปที่ถังซานฉ่ายตามสัญชาตญาณ

เพราะหน้าปกทองในทะเลจิตของเขาวูบไหวหลังจากที่ถังซานฉ่ายปรากฏ และส่งความปรารถนาอย่างแรงกล้าไปสู่เย่เทียน!

เยี่ยนจื่อเฉินที่ได้ของสะสมมาสองชิ้นแล้วก็ปั่นป่วนอารมณ์ขึ้นมา เป็นฝ่ายถามลิ่วหรั่นขึ้นอีกครั้ง “ปรมาจารย์ลิ่ว คุณว่าถังซานฉ่ายชิ้นนี้?”

“คุณชายเยี่ยนครับ ดูจากสีแล้วถังซานฉ่ายชิ้นนี้น่าจะเป็นของจริง” ลิ่วหรั่นบอก

เย่เทียนที่ได้ยินเสียงขมวดคิ้วเล็กน้อย อดเหลือบสายตาไปมองลิ่วหรั่นไม่ได้ ความคิดเริ่มแล่นเข้ามา

ความจริงแล้ว ถังซานฉ่ายชิ้นนี้ก็เป็นของปลอมเหมือนกัน!

ได้ของปลอมมาชิ้นเดียวบอกว่ามองพลาดได้ สองชิ้นก็ยังพอไหว แต่ประเมินของปลอมเป็นของจริงสามชิ้นติดออกจะเกินไปหน่อยนะ

นึกไปถึงที่จี้เยียนหรันบอกเมื่อกี้ ประกายพิศวงบางอย่างแวบผ่านไปในสายตาของเย่เทียน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

น่าเสียดายที่คนนอกวงการอย่างเยี่ยนจื่อเฉินไม่รู้เรื่องการประเมินพวกนี้เลย พอได้ยินผลการประเมินจากปรมาจารย์อย่างลิ่วหรันแล้ว ก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที

“อ้าวเสว่ ฉันจำได้ว่านายท่านบ้านเธอชอบถังซานฉ่ายแบบนี้ที่สุดเลยนี่”

เยี่ยนจื่อเฉินหันไปพูดกับหลินอ้าวเสว่อย่างเอาใจ “เดี๋ยวฉันจะประมูลชิ้นนี้และให้เธอนำกลับไป นายท่านหลินจะได้ไม่ตำหนิที่เธอมาเจียงหนันทั้งทีแต่ไม่เอาอะไรกลับไปฝากเลย”

หลินอ้าวเสว่ได้ยินแล้วขมวดคิ้วเรียว ในใจเธอไม่อยากรับของขวัญของเยี่ยนจื่อเฉิน

แต่ไม่รอให้เธอได้ปฏิเสธ เสียงไพเราะของพิธีกรด้านล่างก็ดังขึ้น

“ของสะสมชิ้นต่อมาที่จะเปิดให้ประมูลกันคือม้าถังซานฉ่าย เริ่มประมูลที่ห้าล้านหยวน ทุกครั้งที่ประมูลห้ามบวกราคาต่ำกว่าห้าแสน!”

ถึงแม้ม้าถังซานฉ่ายนี้จะเป็นของเลียนแบบ แต่เลียนแบบได้เหมือนมากจริงๆ หากจำแนกจากรูปทรงและสีสันจากที่ไกลๆ หลอกว่าเป็นของจริงได้เลย!

เป็นเรื่องธรรมดาที่ของเลียนแบบที่เหมือนจริงขนาดนี้จะกระตุ้นความอยากได้ของผู้คนในที่นี้ แต่ละคนตะโกนโหวกเหวกประมูลกันสุดฤทธิ์ แม้กระทั่งจี้เจิ้งโก๋เองยังอดไม่ได้ที่จะบวกราคาไปครั้งหนึ่ง

ทว่า ต่อหน้าคุณชายตระกูลใหญ่จากเมืองจินที่หวังจะพิชิตใจคนงามอย่างเยี่ยนจื่อเฉิน ตระกูลใหญ่ในพื้นที่เจียงหนันเป็นรองไป และปล่อยให้เยี่ยนจื่อเฉินชิงม้าสามสีไปได้ด้วยราคาสูงถึงสามสิบล้านหยวน!

เยี่ยนจื่อเฉินที่ได้ของสะสมมาถึงสามชิ้นเบิกบานใจเป็นพิเศษ เขาตะโกนใส่พิธีกรงานประเมินบนเวที “ฮ่าๆ ไอ้คนนั้นน่ะ ยกม้าสามสีขึ้นมาให้ฉัน ฉันจะขอดูอย่างละเอียด”

พิธีกรงานประเมินไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ต่อให้ตอนนี้เยี่ยนจื่อเฉินยังไม่จ่ายเงินแต่ยังไงซะเขาก็เป็นคนประมูลไป ถึงแม้ม้าสามสีนี้เป็นของปลอม หากเขาไม่จ่ายเงินก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ออกจากที่นี่

นอกจากเยี่ยนจื่อเฉินแล้ว คนที่มีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นเย่เทียน

ตอนแรกเย่เทียนยังคิดอยู่ว่าจะหาข้ออ้างยังไงดี คิดไม่ถึงว่าเยี่ยนจื่อเฉินจะรู้ตัวดีขนาดนี้ สวรรค์ทรงโปรดจริงๆ!

รอยยิ้มมุมปากที่ยิ้มจากใจของลิ่วหรั่นหลังจากได้ยินคำพูดของเยี่ยนจื่อเฉินแล้วมีแววระแวงแวบผ่านไปในสายตา