ตอนที่ 276

Black Tech Internet Cafe System

“เจ้าต้องการอะไร?” ผู้คนจากสำนักมังกรดำและคนในกลุ่มหนานหัวจ้องมองที่ฟางฉีด้วยท่าทางไม่พอใจ ในขณะที่เขากำลังช่วยนางฟ้าจากหนานหัวที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

 

“เจ้าควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะเรียกร้องสิ่งใด อย่าโลภให้มาก!” ผู้ปลูกฝังฝั่งมังกรดำเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าคงไม่สบายใจเท่าไรนักหากผู้บังคับบัญชาของเราแสดงฝีมือของเขาให้ได้เห็น!”

 

“อืม ..” ฟางฉียืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าเคยเห็นแร่หินลักษณะที่เทาซีดๆ หรือไม่? พลังนั้นอาจจะเป็น ..” เขาเอ่ยในสิ่งที่เขาต้องการออกมา

 

“หินสีเทาซีด? มีพลัง?” สาวกของกลุ่มหนานหัวและสำนักมังกรดำมองหน้ากัน ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าเจ้าเด็กคนนี้จะขอสมบัติทางจิตวิญญาณที่ทรงพลัง น่าแปลกใจเขาขอเพียงแร่หินที่ดูไร้ประโยชน์แค่นั้น

 

ถึงอย่างนั้นเมื่อหวังปู่เต๋าและนางฟ้าแห่งหนานหัวได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็เริ่มมองฟางฉีด้วยสายตาแปลกๆ หวังปู่เต๋ามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของฟางฉีพร้อมตามว่า “จริงๆ ข้ามีหินก้อนนี้ แต่ข้าสงสัยว่าเจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? เจ้าตั้งใจมารับหินก้อนนี้หรือ?”

 

หวังปู่เต๋าได้รับหินก้อนนี้มาด้วยความไม่ตั้งใจและเขาเองก็ไม่รู้จะมีมันไว้ใช้ทำอะไร แรงบรรจุที่อยู่ในนั้นช่างแปลกและลึกลับมาก เขาเก็บมันเอาไว้โดยที่ไม่คาดคิดหรือรู้มาก่อนว่ามันมีประโยชน์อย่างไร

 

เมื่อไม่นานมานี้หนึ่งในเพื่อนของเขาผู้อาวุโสแห่งหนานหัวได้ยืมหินจากเขาเพื่อทำการศึกษาและหลิวนางฟ้าของกลุ่มเดินทางมาที่นี่เพื่อคืนมันแก่เขา

 

เห็นได้ชัดว่าแม้แต่กลุ่มหนานหัวเองก็ไม่สามารถเข้าใจในความลึกลับซับซ้อนในหินได้ ฟางฉีเตรียมพร้อมสำหรับคำถามของพวกเขาและตอบว่า “ถ้าข้าบอกว่าข้าสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เปล่งประกายจากหินพวกเจ้าจะเชื่อมั้ย?”

 

หวังปู่เต๋าและหลิวหนิงหยุนมองหน้ากัน

 

นี่เป็นคำอธิบายที่ดูสมเหตุสมผลที่สุดเนื่องจากไม่มีใครรู้เรื่องข้อมูลเกี่ยวกับหินนี้มาก่อน ดังนั้นหวังปู่เต๋า .. เชื่อเขา!

 

“เนื่องจากข้าไม่ได้ชอบกินก้อนหิน งั้นฉันก็มอบให้เจ้าได้” หวังปู่เต๋าเอ่ยเสียงเรียบ

 

“ไม่!​” หลิวหนิงหยุนยังคงจ้องมองพี่ฟางฉี “ข้าแพ้การต่อสู้ดังนั้นข้าต้องจัดเตรียมสมบัติ!”

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี่จะมาเพื่อจุดประสงค์นี้ ข้าเกรงว่าเขาคงไม่เอาสิ่งอื่นไป” หวังปู่เต๋าส่ายหัว

 

“นี่ ..” หลิวหนิงหยุนจ้องฟางฉีด้วยความเกลียดชังแต่ฟางฉีเลือกในสิ่งที่เธอไม่มี

 

“หลายปีที่จ้าเองก็สงสัยเกี่ยวกับประโยชน์ของหินก้อนนี้ เมื่อเจ้าตามหามันและตั้งใจที่จะเรียนรู้ เจ้าช่วยบอกข้าให้เห็นประโยชน์ของมันทีได้หรือไม่” เขาเห็นความลังเลบนใบหน้าของฟางฉีเล็กน้อย “ถ้าเจ้าตกลงข้าจะมอบสมบัติอีกชิ้นให้ด้วย แต่หากไม่ข้าก็จะปล่อยมันทิ้งไป”

 

“สมบัติอีกอย่าง!” ฟางฉีเบิกตาโต “เจ้าสามารถมอบกระดูกมังกรให้ข้าอีกชิ้นได้มั้ย!?”

 

“เจ้านี่มันโลภ!”

 

“เห็นแก่ของ!​” ผู้คนเอ่ยตำหนิเขาเบาๆ

 

ฟางฉีกล่าวว่า “ข้าบอกได้เลยว่ามันมีประโยชน์อย่างมาก หินก้อนนี้อาจดูไร้ประโยชน์สพหรับผู้อื่นแต่สำหรับข้าแล้วมันมีประโยชน์ในการสร้างเทเลพอร์ตการเคลื่อนย้ายอย่างมาก ข้าจึงต้องการมันเพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่!”

 

“เทเลพอร์ต?” หวังผู่เต๋าและหิลวหนิงหยุนมองหน้ากันซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกเขาแปลกใจตั้งแต่วิธีการสร้างเทเลพอร์ต พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนแถมกองกำลังใดกันที่อยู่เบื้องหลังฟางฉี

 

“เจ้าบอกพวกข้าได้มั้ยว่าเจ้ามาจากกลุ่มใด?”

 

“ข้าคือฟางฉีเจ้าของร้านต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่!” ฟางฉีใช้โอกาศนี้ในการโฆษณาร้านของเขาไปในตัว เขาชี้ไปทางหลิวหนิงหยุนและกล่าวว่า “เธอคนนี้มีพลังมาก หากเธอได้เรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบและควบคุมสายฟ้าด้วยดาบจากสวรรค์โดยการอ่านหนังสือสวรรค์ละก็ความแข็งแกร่งของเธอจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแน่!”

 

“…”

 

“ฟางฉีร้านของเจ้าขายเวทย์มนตร์หรือ?” หวังปู่เต๋าพูดด้วยเสียงไม่พอใจ “เจ้าอย่าบอกนะว่าคาถาพวกนี้มีไว้ขาย?” เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนขายคาถาขั้นสุดท้ายของตัวเองกิน

 

ฟางฉีกล่าวต่อว่า “ข้ารับรองเลยว่าพวกท่านทุกคนสามารถใช้คาถาเหล่านี้ได้”

 

ผู้คนกลุ่มใหญ่ต่างงงวยกับสิ่งที่ได้ยิน

 

เธอได้ยินเขาพูดว่าทุกคนสามารถควบคุมคาถาทางจิตวิญญาณได้และมันสามารถเทียบเท่ากับสมบัติของกลุ่มหนานหัวของข้างั้นหรอ? เขากำลังหมายถึงคาถาที่มีค่าที่สุดของหนานหัวนั้นเมื่อเทียบแล้วเป็นเพียงแค่คาถาทั่วไปที่วางขายในร้านของเขางั้นสิ?

 

เธอรู้สึกหน้าเสียไม่สามารถทนกับความคิดได้ เธอจึงหัวเราะกลบเกลื่อนและพูดเย้ยว่า “นี่ฟางฉี สิ่งที่เจ้าพูดออกมางั้นก็หมายความว่าลูกค้าของเจ้าทุกคนเข้าถึงเทคนิคนี้งั้นสิ?”

 

“ก็ไม่เท่าไร”

 

เธอยังคงโกรธเคือง “ถ้าเช่นนั้นเจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าทุกคนสามารถฝึกฝนเทคนิคเช่นนี้ได้!”

 

อย่างไรก็ตาม เธอกำลังถูกล่อล่วงให้ไปเยี่ยมเยือนที่ร้าน

 

“ร้านของเจ้าอยู่ที่ไหน?” หวังปู่เต๋าค่อนข้างกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบของฟางฉี “ข้าอยากไปตรวจสอบ”

 

“มันอยู่ในเมืองครึ่งแถวล็อคที่สามสิบหก!”

 

“เมืองครึ่งหรือ!?” สาวกของกลุ่มหนานหัวถอยห่างไปหลายก้าวราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ

 

“ไม่ต้องตกใจ” ในฐานะเพื่อนบ้านของเมืองครึ่ง หวังปู่เต๋าผู้รับรู้สถานการณ์ความเป็นไปของที่นั้น “ล็อคที่สามสิบหกนั้นเป็นอาณาเขตของฉินฮงหลินไม่ใช่หร ือ?” เขาถามอีก “แล้วท่านฉินนั้นดีหรือไม่?”

 

“ปีศาจเก่าฉินฮงหลินหรอ?” หลิวนางฟ้าหนานหัวเอ่ยถามด้วยสายตาสับสน

 

ฟางฉีหันไปมอง “ชายคนนั้นหรือ? ข้าจัดการเขาไปแล้วเนื่องจากเขาสร้างปัญหาให้แก่ร้านของข้า!”

 

หวังปู่เต๋าเงียบกริบ เขาเริ่มเชื่อว่าร้านค้าของฟางฉีนั้นค่อนข้างพิเศษและแตกต่างเพราะมีไม่กี่คนที่จะพูดเรื่องแบบนี้เพื่อความสนุกปาก

 

“นางฟ้าแหง่หนานหัว เจ้าสนใจที่จะไปเยี่ยมชมร้านนี้หรือไม่?” หวังปู่เต๋าเอ่ยชวนเพราะในเวลาแบบนี้เขาเองก็ไม่ได้มีธุระที่ไหน

 

“ศิษย์พี่หลิว!” สาวกคนหนึ่งเอ่ยเรียกเตือน “แต่พวกเรามีบางสิ่งที่ยังต้องทำ ..”

 

“เราล่าช้าแล้ว!” หลิวหนิงหยุนพูดเสียงเรียบ “ไม่เป็นไรคงต้องปล่อยให้ล่าช้าไปก่อน” เธอต้องการเห็นความจริงว่าเทคนิคของฟางฉีนั้นเป็นเช่นไร

 

ด้วยวิธีนี้ฟางฉีสามารถล่อลวงคนถึงสองกลุ่มให้กลับไปกับเขาได้อย่างง่ายดาย

 

.. ฟางฉีร่ายคาถาของเขาโดยการแบ่งเทคนิคดาบออกเป็นสิบๆ เล่มในทันที

 

“ขึ้นเลย!” ฟางฉีกล่าว “ข้าต้องรีบกลับไปเก็บผักแล้ว เร็วเข้า!”

 

“…” หวังปู่เต๋า

 

“…” หลิวหนิงหยุน

 

คนอื่นๆ “…”

 

ฟิ้วววววว! พวกเขาบินขึ้นท้องฟ้าในทันที

 

ขณะเดียวกันในบริเวณใกล้เคียงกับทะเลดาวรุ่งใกล้เมืองมังกรดำ เมฆหมอกสีดำทึบปกคลุมบนท้องฟ้าน่ากลัวชวนขนลุก

 

ในความเงียบราวกับป่าช้า “เขาจะมามั้ย?”

 

“ไม่ต้องกังวล นี่เป็นเส้นทางเดียวที่ไว้เดินทางกลับสู่เมืองครึ่ง!”

 

ณ ท้องฟ้าอันห่างไกลมีลำแสงดาบหลายสิบบินเข้าหาพวกเขาด้วยความรวดเร็ว!

 

“นั่น เขามาแล้ว!” เสียงตอบจากเมฆหมอก “มารายงานความคืบหน้าของเด็กนั้นให้แก่ท่านอาจารย์กันเถิด!”

 

จู่ๆ ฟางฉีและคนอื่นๆ ก็ตกลงไปในหมู่เมฆดำ พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืด!

 

มีเพียงไม่กี่คนที่ปรากฏตัวขึ้น ราวกับว่าพวกเขามาจากโลกใต้ทะเล

 

“โง่มาก!”

 

“พวกเขามอบตัวแล้ว!”

 

“เราควรนำของขวัญชิ้นนี้ ..”

 

“มันไม่ได้ออกจากที่นี่ง่ายอย่างที่คิดหรอก!”

 

หวังปู่เต๋าเหยีดแขนตะโกน “เส้นทางนี้ชักไม่สงบแล้ว ..”

 

ฟางฉีตอบกลับ “พวกโจรงี่เง่า!”

 

“ดูเหมือนว่าจะมีการต่อสู้” หลิวหนิงหยุนเอ่ย

 

ร่างหนึ่งลุกขึ้นยืนต่อหน้าและจ้องมองพวกเขา “ใครอ่อนแอก็ลาก่อน!”

 

ใบหน้าของหวังปู่เต๋ามืดลงเล็กน้อย เขากำลังวางแผนที่จะจัดการเขาโกรธมากที่ได้ยินพวกมันวางแผนจะฆ่าพวกเขา พลังแห่งจิตวิญญาณอันมหาศาลในฝ่ามือของเขากำลังเรียกหมู่เมฆเพื่อบดบังแสงอาทิตย์!

 

ตู้ม! เสียงดังขึ้นในหมู่ก้อนเมฆขนาดมหึมาบนท้องฟ้า ราวกับท้องฟ้าถูกทุบ เสียงกรีดร้องทลายลงราวกับถูกบดขยี้

 

เหล่าผีและวิญญาณมากมายหนีกันด้วยความหวาดกลัว พวกมันถูกระเบิดราวกับเกี๊ยว!

 

“บ้าเอ้ย พวกมันกล้ามายุ่งกับคนอย่างหวังปู่เต๋ารึ! นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าต้องเจอ!”