ตอนที่ 284 ยืมเงิน
ตอนที่ 284 ยืมเงิน

“ฉันเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าทำไมในหมู่บ้านถึงได้มีฆาตกรวิ่งเข้ามาได้!” จ้าวเหวินอู่อัดควันบุหรี่เข้าเต็มปอดแรง ๆ หนึ่งครั้ง “ฉันเพิ่งกลับมาถึงก็ได้ยินเรื่องนี้ หมอนั่นอยู่ในหมู่บ้านเรามาเดือนกว่าแล้วนะ แต่ไม่มีใครในหมู่บ้านสังเกตเลย!”

“ทุกคนก็ยุ่งอยู่กับการทำงานนั่นแหละ ใครจะไปมีเวลามาสนใจ” จ้าวเหวินเทากล่าว “นายมาหาฉันคงมีธุระสินะ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาสิ”

จ้าวเหวินอู่แอบรู้สึกลำบากใจ “เหวินเทา เรื่องนี้เกี่ยวกับการจับพนันนิดหน่อยด้วย”

“อย่าบอกนะว่านายเองก็เล่นเหมือนกัน?” จ้าวเหวินเทามองหน้าอีกฝ่าย

“ใช่ที่ไหนล่ะ! ฉันไม่ได้เล่นของพวกนั้นสักหน่อย ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นด้วย!” จ้าวเหวินอู่รีบพูด

“ถึงจะพูดว่า กิน ดื่มและเที่ยวผู้หญิงจะเป็นการเสียเงินทั้งหมด มีแค่การพนันที่จะได้กลับมา แต่ของแบบนี้มันเป็นหลุมพรางทำให้ล้มละลายได้เลยนะ บ้านแตกสาแหรกขาด อย่าบอกว่าฉันไม่เตือนนายนะ นายอย่าได้ไปยุ่งเด็ดขาด!” จ้าวเหวินเทากล่าว

“เปล่า ฉันไม่ได้เข้ายุ่งเลย! เป็นเพื่อนของฉัน เพราะเรื่องนี้ถึงทำให้ถูกจับเข้าไป ต้องใช้เงินถึงจะถูกปล่อยออกมา ภรรยาของเขามาหาฉัน แต่ฉันก็ไม่มีเงินเหมือนกัน ก็เลยมาหานายเพราะอยากยืมเงินนายหน่อย”

“อะไรนะ ยืมเงินเพื่อไปประกันตัวเพื่อนที่เล่นพนันคนนั้นออกมา?” จ้าวเหวินเทากล่าว “เหวินอู่ นายไม่ได้เล่นพนัน แต่นายรู้จักเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง?”

จ้าวเหวินอู่ “นายคงไม่รู้ ทำงานสายนี้ ไม่เล่นพนันก็เที่ยวผู้หญิง ส่วนใหญ่ก็คิดว่าได้เงินเร็วมั้ง อันที่จริงฉันก็ไม่อยากช่วยหรอก แต่หมอนั่นเคยช่วยฉันไว้ ตอนที่ไปขุดสุสานครั้งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฉันคงได้ตายอยู่ในนั้นไปแล้ว หนี้บุญคุณนี้ยังไงก็ต้องคืน”

จ้าวเหวินเทามีสีหน้าเคร่งขรึม ช่วยชีวิตเป็นหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ ดังนั้นการยืมเงินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

“นายจะยืมเท่าไหร่?” จ้าวเหวินเทาถาม

“หนึ่งพัน ฉันยังมีอีกนิดหน่อย รวมด้วยกันน่าจะพอแล้ว อันที่จริงก็ไม่ต้องใช้เงินมากขนาดนี้หรอก แต่เขาเล่นค่อนข้างหนัก เหวินเทาฉันบอกนายตรง ๆ เลยนะ เถียนชีที่เข้ามาในบ้านนายคนนั้นก็มาพร้อมกับเขานั่นแหละ การพนันครั้งนี้ใหญ่มาก ไม่งั้นคงไม่ต้องใช้เงินมากขนาดนี้” จ้าวเหวินอู่กระซิบ “ไม่ว่าเงินส่วนนี้จะพอรึเปล่า แต่ฉันรับปากกับเขาและภรรยาเขาไว้แล้ว ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วล่ะ”

จ้าวเหวินเทาครุ่นคิด เขาพยักหน้าตอบ “ก็ได้ ฉันให้นายยืมได้ แต่ในมือของฉันไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ฉันต้องออกไปยืมเหมือนกัน นายอย่ามองว่าฉันทำงานยุ่งทุกวันจนดูเหมือนจะได้เงินเยอะ อันที่จริงก็มีรายได้แค่ 1.8 หยวนนั่นแหละ นายอ้าปากยืมหนึ่งพันหยวน ฉันคงไม่มีปัญญาหยิบออกมาหรอก”

“เหวินเทา นายไม่ต้องห่วง สิ้นปีนี้ฉันคืนนายแน่! ในมือของฉันยังมีของอีกนิดหน่อย ถ้าเอาออกไปขายก็น่าจะได้มาสัก 1,800 นั่นแหละ” จ้าวเหวินอู่รีบพูด

“จะเอาตอนไหน?”

“ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี”

“งั้นพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ไม่ได้ มะรืนแล้วกัน วันพรุ่งนี้ฉันจะไปรวบรวมมาให้”

“ได้ ขอบใจมากนะเหวินเทา!”

“เกรงใจอะไรกัน แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะเหวินอู่ งานขุดสุสานมันอันตรายเกินไป ที่สำคัญคือผิดกฎหมายด้วย นายเปลี่ยนงานเหอะ นายต้องมานั่งอกสั่นขวัญแขวนทั้งวัน ต่อให้ได้เงินมามากเท่าไหร่ก็ไม่ไหวหรอก”

“ก็นั่นน่ะสิ ตั้งแต่ตอนที่ฉันเกือบตายอยู่ในนั้นคราวก่อน ฉันก็ตัดสินใจว่าจะไม่ทำแล้ว รอฉันขายของที่อยู่ในมือพวกนี้ออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนงานใหม่แล้ว บางทีฉันอาจจะต้องมาขอให้นายช่วยก็ได้นะ!”

จ้าวเหวินเทายิ้ม “เอาสิ ถ้านายอยากทำก็มาทำที่ฟาร์มกระต่ายฉันได้!”

จ้าวเหวินอู่ยิ้ม เขาไม่ได้ตอบอะไร ไปฟาร์มกระต่าย ไปทำอะไร กวาดทำความสะอาดทั้งวัน ให้อาหารกระต่ายเหรอ แต่ละเดือนจะได้เงินสักกี่สิบหยวนกันเชียว?

ก่อนหน้านี้เขาก็อาจจะเห็นความสำคัญของเงินกี่สิบหยวนนี้ แต่เมื่อได้เห็นเงินร้อยไปถึงพัน และเงินหลักหมื่น เรียกให้เขาไปหาเงินหลักสิบนั่นเรียกว่าทรมานไม่ใช่เหรอ?

“เหวินเทา ภาพยนตร์อะไรนั่นที่โรงละครในอำเภอเป็นไงบ้าง มีความคืบหน้าไหม?” จ้าวเหวินอู่ถาม

จ้าวเหวินเทาเห็นว่าเขาไม่อยากคุยก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น จึงตอบไปตามน้ำว่า “เรื่องนั้นเหรอ สำเร็จแล้วล่ะ ทำเป็นภาพยนตร์แล้ว ได้ยินมาว่าขายให้กับข้างนอกด้วย ขายยังไงฉันก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน แต่คณะละครดังมากเลยนะ นั่นเป็นงานที่ฉันคิดเลยนะ!”

จ้าวเหวินเทาภาคภูมิใจมาก

“นั่นสิ นายเป็นคนคิดออกมาทั้งหมด ไม่งั้นพวกเขาจะดังได้เหรอ? แล้วไงต่อ ได้ให้เงินนายไหม?” จ้าวเหวินอู่ขยิบตา

“บอกว่าจะไม่ปล่อยให้ฉันเหนื่อยฟรี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเงินเลย” จ้าวเหวินเทายกมือสองข้างขึ้น “ฉันไปถามมาสองครั้งแล้ว บอกว่ายังไม่ได้เงินกลับมา ฉันก็รู้สึกไม่ดีที่จะเอาแต่ถาม”

“มีอะไรต้องรู้สึกไม่ดีด้วย นั่นเป็นสิ่งที่นายควรได้รับนะ! นายอย่าถูกคนพวกนั่นหลอกล่ะ ฉันออกไปข้างนอกมาครึ่งปี ถือว่าพอจะเข้าใจแล้ว พวกที่แย่ที่สุดก็คือพวกที่กินข้าวรัฐเหล่านั้นแหละ ขี้โกงชะมัด!” จ้าวเหวินอู่ส่ายหน้า

“ดูเหมือนว่านายคงมีประสบการณ์ไม่น้อยเลยนะ เล่าให้ฟังสักหน่อยสิ ฉันจะได้เปิดหูเปิดตาด้วย” จ้าวเหวินเทาเริ่มสนใจ

โดยพื้นฐานแล้วช่องทางการติดต่อของเขาคือการค้าขายทั้งหมด แต่การค้าขายแบบใหญ่ ๆ น้อยมาก พื้นฐานจะขายแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้ว่าเขาจะเคยสัมผัสกับพวกที่กินข้าวรัฐบางส่วน แต่ก็พอเป็นพิธี ไม่ถึงกับเข้าใจ

จ้าวเหวินอู่ก็พูดคุยขึ้นมา เขาเล่าถึงประสบการณ์ที่วิ่งออกไปข้างนอกมาครึ่งปีนี้ จ้าวเหวินเทาสร้างคอกให้สุนัขไปพลางฟังไปพลาง ครั้นสร้างคอกสุนัขเสร็จก็ฟังจบพอดี ท้องฟ้าก็มืดลงแล้วด้วย

“กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับสิ” จ้าวเหวินเทาบอกให้เขาอยู่ก่อน

“นั่นสิ กินข้าวเย็นก่อนแล้วค่อยกลับเถอะ ฉันทำอาหารเสร็จแล้วด้วย” เย่ฉูฉู่อุ้มเสี่ยวไป๋หยางเดินออกมา

เย่ฉูฉู่เห็นจ้าวเหวินอู่มาที่นี่ จึงทำอาหารในส่วนของเขาด้วย

“ไม่ต้องหรอก ฉันอยู่กินข้าวที่นี่คงกลับถึงบ้านดึกเลย ฉันกลับไปกินที่บ้านดีกว่า เหวินเทาไว้ฉันมาหานายใหม่อีกทีวันมะรืนนะ”

“ได้ งั้นฉันไม่รั้งนายแล้วนะ” จ้าวเหวินเทาเดินไปส่งหน้าบ้าน

หลังจากจ้าวเหวินอู่กลับไปแล้ว เย่ฉูฉู่จึงถาม “เขามาทำอะไรเหรอ?”

“ยืมเงิน” จ้าวเหวินเทาเล่าเรื่องให้เธอฟังหนึ่งรอบ

เย่ฉูฉู่รู้สึกสงสัยมาก “ไม่ใช่ว่าเขาไปเล่นพนันหรอกนะ?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ” จ้าวเหวินเทากล่าว “ผมรู้แค่ว่าครึ่งปีมานี้เขาไม่ได้อยู่บ้านเลย แต่ดูจากท่าทางแล้ว ไม่เหมือนกับคนพูดโกหกนะ”

“คุณตอบตกลงไปแล้ว?”

“เรื่องแบบนี้ฉันจะปฏิเสธได้เหรอ? ทั้งเคยช่วยชีวิตแถมยังเป็นเรื่องเร่งด่วนอีก” จ้าวเหวินเทาล้างมือพลางกล่าว “ผมคิดไว้แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็แซ่จ้าวเหมือนกัน มีเรื่องมาขอให้ช่วยจะไม่สนใจก็ไม่ได้ อีกอย่างนึงถ้าเราไม่มีเงินคนอื่นก็ไม่สนใจ ผมมีเงิน ก็ต้องมีคนมาขอยืมอยู่แล้ว ญาติจน ๆ มีเยอะแยะขนาดนั้น ไม่ให้เขายืมก็ยังมีคนอื่นอีก ถ้าให้เขายืมแล้ว มีคนอื่นมายืมอีกก็จะได้มีข้ออ้างไม่ให้ยืมไง อีกอย่างผมก็ยืมชาวบ้านเขาเหมือนกัน”

ความร่ำรวยไม่ได้ถูกแพร่งพรายออกไป ดังนั้นจ้าวเหวินเทาจึงบอกว่าจะไปยืมเงิน ไม่ได้บอกว่าเอาเงินมาจากในบ้านตัวเอง

เย่ฉูฉู่เข้าใจความหมายของจ้าวเหวินเทา แม้ว่าในบ้านจะไม่มีเงินหนึ่งพันหยวน แต่ก็สามารถไปถอนออกมาจากธนาคารได้ทุกเวลา

“คุณดูแล้วกันว่าจะทำยังไง แต่คุณก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยนะคะ ขุดสุสานแบบนี้ยังไงก็รู้สึกน่ากลัวอยู่ดี” เย่ฉูฉู่ไม่ได้รู้สึกดีกับการขุดสุสานเลย

“ผมมีแผนอยู่ในใจแล้วล่ะ ภรรยา คุณทำอะไรเหรอหอมจัง?” จ้าวเหวินเทาเดินเข้ามาในบ้านก็ได้กลิ่นหอมทั่วทั้งห้อง

เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ฉันต้มซุปไก่ไว้นิดหน่อยน่ะค่ะ ใส่เต้าหู้ที่พี่สามทำลงไปด้วย ฉันลองชิมดูแล้วรสชาติไม่เลวเลย”

จ้าวเหวินเทาได้ยินก็รีบไปหาถ้วยมาเพราะรอไม่ไหวแล้ว

นอกจากเขาที่รอไม่ไหวก็ยังมีต้าเฮยกับเสี่ยวเฮยด้วย หางเล็ก ๆ ของพวกมันแกว่งไปมา และวิ่งนำหน้าและตามหลังจ้าวเหวินเทาไป ส่วนเสี่ยวไป๋และเสี่ยวหลีก็ไม่ได้มุดก้นอยู่ในผ้าห่มแล้ว พวกมันนั่งอยู่บนเตียงเงยหัวเล็ก ๆ เพื่อดมกลิ่นอย่างไม่หยุด ทั้งยังส่งเสียงร้อง ‘เมี๊ยวๆ’ ด้วย

เสี่ยวไป๋หยางยกแขนเล็กขึ้นมาร้อง ‘แอ้ ๆๆๆ’ ราวกับกำลังแสดงออกถึงอะไรบางอย่าง ส่วนลูกลิงก็ใช้มือข้างหนึ่งถือถ้วยและมืออีกข้างหนึ่งถือตะเกียบพร้อมกับดวงตาเป็นประกายแวววาว

เมื่อสักครู่ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้จู่ ๆ เย่ฉูฉู่ก็รู้สึกได้แล้ว ในบ้านตอนนี้ครึกครื้นมาก มีชีวิตชีวาขึ้นมากด้วย!

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หนี้บุญคุณชีวิตนี่ถือเป็นหนี้ใหญ่ที่ใช้ไม่หมดเหมือนกันแฮะ ต่อให้คนช่วยชีวิตมันจะทำอะไรไม่ดีมา ถึงไม่อยากช่วยก็ต้องช่วยล่ะ

เหวินเทาคงคิดดีแล้วล่ะถึงให้ยืม หนึ่งพันหยวนนี่ไม่ใช่เงินน้อย ๆ เลยนะ

ไหหม่า(海馬)