ตระกูลโจวยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ก็เป็นเพราะโจวกั๋วเถา

มหาอำนาจนับไม่ถ้วนล้วนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับโจวกั๋วเถา

ถ้าเปรียบให้ตระกูลโจวเป็นตึกที่สูงตระหง่าน

โจวกั๋วเถาก็คงจะเป็นรากฐานของอาคาร

ถ้าฐานรากเกิดมีปัญหาขึ้นมา อาคารทั้งหลังก็อาจพังทลายลงมาได้

นี้… เป็นสิ่งที่ตระกูลโจว ทนรับไม่ได้อย่างแน่นอน

หัวใจของทุกคนกำลังหนักอึ้ง

ใบหน้าของโจวจื่อซานถึงกับซีดเซียว

เธอไปเที่ยวกับคุณปู่ แต่คุณปู่กับ…

น้ำตาของเธอไหลออกมาเหมือนกับหยาดฝน

และบรรยากาศที่ทางเดินทั้งหมดหดหู่เป็นอย่างมาก

“หมอ ไม่มีทางอื่นเลยเหรอ?” โจวเจิ้นถามด้วยความรู้สึกทรมานใจ

หมอหัวล้านเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “สำหรับตอนนี้ ไม่มีวิธีใดที่ดีไปมากกว่านี้แล้ว”

โจวเจิ้นหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งแล้วค่อยพูด “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปในห้อง

เขามาดูใจโจวกั๋วเถาเป็นครั้งสุดท้าย

ในตอนนี้ หลินฟานที่ยืนอยู่ด้านหลังและไม่ได้พูดอะไรมาตลอด ก็พูดขึ้นมาว่า “บางที ฉันอาจช่วยรักษาคุณปู่โจวได้”

ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ โจวเจิ้นก็ได้หยุดกะทันหัน

ทุกคนในตระกูลโจวต่างจ้องมองไปที่หลินฟาน

หลิวหยูหางหน้าซีดลงทันทีที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ของหลินฟาน

เมื่อสักครู่นี้หมอก็เป็นคนยืนยันเองว่า อาการของโจวกั๋วเถานั้นไม่สามารถรักษาได้

แต่หลินฟานกลับพูดว่าเขาสามารถรักษาได้

ถ้ารักษาได้จริงนั้นมันคงจะดีไม่น้อยเลย

แต่คำถามคือ มันเป็นไปได้งั้นหรอ?

หลินฟาน เป็นเพียงคนที่อายุเท่ากันกับเขาเพียงเท่านั้น!

ตระกูลโจวไม่ได้ตำหนิพวกเขา เรื่องที่โจวกั๋วเถาล้มป่วย

แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นกับการรักษาคุณปู่ ผลที่ตามมา…มันคงจะรุนแรงอย่างแน่นอน!

หลังจากที่หลิวหยูหางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหงื่อก็ได้ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา

เขาเปิดปากของเขาราวกับว่าเขาต้องการให้หลินฟานถอนคำพูดนั้นซะ

แต่เมื่อถูกตระกูลโจวจ้องมองมา เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป

โจวเจิ้นหันกลับมามอง แล้วเดินเข้าไปหาหลินฟานช้าๆก่อนจะถามว่า “คุณสามารถรักษาได้จริงงั้นหรอ”

“ฉันว่า แต่ก็ไม่แน่ใจขนาดนั้นนะ” หลินฟานพูด

เขาพึ่งจะได้รับโสม 100 ปีมา จึงมีสิทธิซื้อยาทางการแพทย์

แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่แน่ใจว่ายาทางการแพทย์สามารถรักษาโจวกั๋วเถาได้หรือเปล่า

คงบอกได้แค่ว่าต้องลองดูเท่านั้น

และเหตุผลที่หลินฟานได้ตัดสินใจเสนอออกไป…

เป็นเพราะว่า เขาคิดว่าโจวกั๋วเถาเป็นคนดีคนนึงเลย

ตอนที่การประมูลจบลง โจวกั๋วเถาก็ออกหน้าให้ เพื่อไล่ว่านหลางออกไปซึ่งถือได้ว่าเป็นการแสดงความมีน้ำใจในการช่วยเหลือตัวเขาเอาไว้อย่างมาก

“ขอรบกวนนายด้วย” โจวเจิ้นกล่าว

“คุณเชื่อฉันเหรอ?” หลิน ฟานกล่าว

“ฉันเชื่อในสายตาของพ่อ!” โจวเจิ้นกล่าว

หลินฟานพยักหน้าก่อนจะพูดออกไป “ตอนที่ฉันกำลังรักษาปู่โจว ฉันขอไม่ให้มีใครและอุปกรณ์สังเกตการณ์ใดๆ อยู่ในห้อง”

“ได้สิ” โจวเจิ้นพยักหน้า

ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะพูด “ตอนนี้ผู้อาวุโสเหลือเวลาอีกเพียงแค่สองสามชั่วโมงเท่านั้น ถ้าหาก…เขาไม่ได้เห็นเราเป็นครั้งสุดท้ายล่ะ?”

หลินฟานพูด “ไม่ต้องกังวล ฉันจะออกมาภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง”

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปที่ห้อง VIP

“ฟึบ!”

หลังจากเสียงอันแผ่วเบาของการปิดประตูห้อง บรรยากาศที่ทางเดินก็กลับมามืดมนอีกครั้ง

……

หลินฟานมองไปที่โจวกั๋วเถา ที่นอนอยู่บนเตียงและมึสายที่เสียบแทงอยู่ทั่วร่างกาย เขาตกอยู่ในอาการโคม่าและกำลังหายใจอย่างแผ่วเบา

หลินฟานหยิบโสมร้อยปีในกระเป๋าของเขาออกมา

【ติ๊ง! คุณจะเพิ่มโสมร้อยปี ลงไปในการ์ดหรือไม่? 】

“ใช่!”

ทันใดนั้นโสมที่อยู่ในมือก็ได้หายไป

ในขณะเดียวกัน ถัดจากรูปของเห็ดหลินจือในการ์ดใบสั่งยาทางการแพทย์ของเขาก็ได้มีรูปของโสมเพิ่มขึ้นมา

【ติ๊ง! ได้รับอนุญาตให้ซื้อน้ำยาทางการแพทย์ 】

【น้ำยาทางการแพทย์: หลังจากดื่ม มันจะซ่อมแซมบาดแผลของร่างกายมนุษย์ทั้งหมด ราคา 10 ล้านหยวนต่อ 1 ขวด 】

“ซื้อ!”

ในชั่วพริบตาต่อมา น้ำสีใสประมาณ 50 มล.หนึ่งขวด ก็ปรากฏขึ้นในมือของหลินฟาน

หลินฟานพึมพัม “หวังว่ามันจะได้ผลนะ”

หลังจากพูดจบ เขาก็ค่อยๆเทยาลงไปในปากของโจวกั๋วเถา

จากนั้นเขาก็เริ่มเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของโจวกั๋วเถาอย่างใกล้ชิด

หลินฟานเต็มไปด้วยความอยากรู้และความสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบของน้ำยาทางการแพทย์

เพราะเขาจะให้พ่อดื่มอีก 1 ขวดด้วย

1 นาที.

3 นาที

5 นาที.

……

ในตอนแรก คลื่นไฟฟ้าที่แสดงอัตราการเต้นหัวใจของโจวกั๋วเถา เป็นคลื่นขึ้นๆ ลงๆ อ่อนๆ แต่ต่อมามันก็เริ่มพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทันทีหลังจากนั้น ใบหน้าที่เหี่ยวแห้งและซีดเผือดก็ค่อยๆ แดงขึ้นมา

หลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที โจวกั๋วเถาซึ่งอยู่ในอาการโคม่าก็ลืมตาขึ้น

เขาเหลือบมองไปรอบๆอย่างว่างเปล่า แล้วลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ

……

นอกทางเดิน

เมื่อเวลาผ่านไป สมาชิกในตระกูลโจวก็มาถึงโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาทั้งหมดเป็นเหมือนมดที่เดินไปเดินมาที่ทางเดิน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล

อันที่จริง ไม่เพียงแต่พวกเขาจะวิตกกังวล แม้แต่โจวเจิ้นที่สงบนิ่งอยู่เสมอก็ยังคงกังวลเหมือนกัน

“แตะ!”

ทันใดนั้น ก็มีชายชราผมหงอกอีกคน ได้เดินมาถึงทางเดินเช่นกัน

โจวเจิ้นรีบทักทายเขาและกล่าวว่า “สวัสดีครับคุณลุง”

“ตอนนี้พ่อของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ฉันได้ยินมาว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้าไปรักษาเขา” ชายชราถาม

โจวเจิ้นพยักหน้าและกล่าว “ใช่ครับ คุณพ่อชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก”

ชายชราพยักหน้า เขาที่จ้องไปที่ห้องวิไอพีด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

“แตะ!”

ที่ทางเดิน มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา มีคนตะโกนว่า “หมอว่านกั๋วมาแล้ว!”

“หมอว่านกั๋ว!”

เมื่อทุกคนในตระกูลโจวได้ยินเรื่องนี้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

หมอว่านกั๋ว มีชื่อจริงว่า ว่านฉิงหยุน เป็นหนึ่งในหมออัจฉริยะที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน

“ผู้อาวุโสว่าน คุณก็มาที่นี่ด้วย?” โจวเจินก้าวไปข้างหน้าแล้วพูด

ว่านฉิงหยุน พูด “ฉันเป็นเพื่อนที่ดีกับคุณโจวมาหลายปีแล้ว ถ้าเขาป่วยฉันจะไม่มาได้อย่างไร พาฉันไปพบคุณโจวเถอะ”

โจวเจิ้นลังเลอยู่ครู่นึงก่อนพูด “ก่อนหน้านี้…ได้มีเพื่อนคนหนึ่งเข้าไปรักษา แล้วเขาห้ามไว้ว่าไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนเขา”

ว่านฉิงหยุน พูดด้วยความสงสัย “เพื่อน? ใครงั้นหรอ?”

“ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยนัก แต่ชายชราชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก เขาเข้าไปครึ่งชั่วโมงแล้ว และเขาได้บอกว่าจะออกมาภายในหนึ่งชั่วโมง” โจวเจิ้นกล่าว

“อย่างนั้นหรอ?” ว่านฉิงหยุน คร่ำครวญครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า ” งั้นให้ฉันดูเอกสารของการตรวจอาการล่าสุดของคุณโจวก่อนแล้วกัน”

หมออีกคนหนึ่งรีบส่งเอกสารให้ว่านฉิงหยุน

วินาทีถัดไป ดวงตาของว่านฉิงหยุนได้เบิกขึ้นและอุทานออกมาว่า “อะไรเนี่ย อาการของผู้อาวุโสแย่ถึงขนาดนี้เลยงั้นหรอ ไม่ได้แล้ว ฉันต้องรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้!”

เมื่อโจวเจิ้นเห็นว่านฉิงหยุน ตอบสนองอย่างรุนแรง หัวใจของเขาก็ตึงเครียดหนักกว่าเก่า โจวเจิ้นไม่สนใจคำขอของหลินฟานอีกต่อไป เขารีบพาว่านฉิงหยุนไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าหลินฟานจะนิสัยดี

แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังดูเด็กมาก โจวเจิ้นไม่กล้าให้เขารักษาพ่ออีกต่อไป

ถ้าเขาพลาดเวลาที่ดีในการรักษาพ่อไป มันจะต้องน่าเศร้ามาก

“ฟึบ!”

ทันใดนั้น จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาจากด้านใน

———————————————————–