หลินฟานค่อยๆเดินออกมาจากห้อง

ตระกูลโจวทั้งหมดจ้องมองไปที่เขา

ทุกคนประหม่ามาก

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าหลินฟานจะรักษาผู้อาวุโสโจวได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้ พวกเขากลัวที่จะได้รับข่าวร้ายจากหลินฟาน

โจวเจิ้นถามขึ้น “คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”

ขณะพูด เขาก็ได้พาว่านฉิงหยุนเข้าไปในห้อง

เขาไม่อยากรอช้าแม้ซักหนึ่งวินาที

“อะแฮ่ม!”

ในเวลานี้มีเสียงไอเบา ๆ ในห้อง

จากนั้น ใบหน้าเหี่ยวย่นที่ทุกคนคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา

ตอนแรกทุกคนแปลกใจ!

ตามมาด้วยความประหลาดใจ!

ผู้อาวุโส ไม่เป็นไรแล้ว!

โจวเจิ้นรีบพูด “คุณพ่อครับ ทำไมพ่อถึงลุกออกมาจากเตียงได้ล่ะ? ร่างกายของพ่อตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

ขณะพูด เขาก็ก้าวเข้าไปและช่วยพยุงอย่างรวดเร็ว

โจวกั๋วเถาที่เต็มไปด้วยความโกรธพูดว่า “ฉันสบายดี ต้องขอบคุณน้องหลินที่ช่วยฉันไว้”

แม้ว่าโจวเจิ้นและคนของตระกูลโจวจะคาดเดาผลลัพธ์ได้แล้ว

แต่หลังจากได้ยินคำพูดของโจวกั๋วเถา ทุกคนก็ยังรู้สึกประหลาดใจ

หลินฟาน ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่กลับช่วยชีวิตชายชราคนนี้ไว้ได้!

เมื่อเทียบกับความประหลาดใจของตระกูลโจวแล้ว หลิวหยูหางรู้สึกโล่งใจมาก

ในเวลานี้ หลิวหยูหางตระหนักได้ว่าเสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเต็มไปหมด

กลัว!

เขากลัวจริงๆ!

หากหลินฟานทำพลาด ผลที่ตามมาจะต้องน่ากลัวอย่างมาก

จนถึงตอนนี้เขาค่อยรู้สึกโล่งอก…

โจวเจิ้นโค้งตัวลงและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “น้องหลิน ขอบคุณมาก”

หลินฟานช่วยพยุงโจวเจิ้นก่อนจะพูด “ลุงโจว คุณสุภาพเกินไปแล้ว ผมแค่ใช้ความพยายามนิดหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น ปู่โจวยังเคยช่วยผมมาก่อนด้วย”

โจวกั๋วเถายิ้มแล้วพูด “ฉันได้ช่วยอะไรรายที่ใหนหลินฟาน นายไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตฉัน แต่ยังช่วยชีวิตตระกูลโจวทั้งหมดของเราด้วย รับคำขอบคุณจากพวกเราเถอะนะ”

จากนั้นโจวกั๋วเถาก็หันไปหาว่านฉิงหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ “น้องชาย ขอบคุณนะที่ลำบากเดินทางมา”

ว่านฉิงหยุนโบกมือแล้วพูดว่า “ระหว่างเราไม่มีอะไรลำลากเลย ให้ฉันช่วยตรวจสอบร่างกายของคุณอีกครั้งดีมั้ย”

“ดี” โจวกั๋วเถาพยักหน้า

ว่านฉิงหยุน วางมือลงบนข้อมือของโจวกั๋วเถา

หลังจากนั้นไม่นานว่านฉิงหยุน ก็ถอนมือออกมาด้วยใบหน้าที่สงสัย

โจวเจิ้นถาม “หมอว่าน ร่างกายของพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”

ว่านฉิงหยุน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “ต้องไปตรวจเลือดก่อนแล้วค่อยทำซีทีสแกน ถึงจะรู้”

“โอเค” โจวเจิ้นกล่าว

เจาะเลือด ทำซีทีสแกน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น

เพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์ทั้งหมดก็อยู่ในมือของว่านฉิงหยุน

หลังจากที่ดูเวลาก็ผ่านไปซักพัก ว่านฉิงหยุนได้พูดขึ้นอย่างมั่นใจ “พี่ใหญ่ ร่างกายของคุณดูเหมือนจะฟื้นตัวแล้ว”

“ดียิ่ง!” โจวกั๋วเถารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งตระกูลโจวเต็มไปด้วยความสุข!

ณ บ้านตระกูลโจว

โต๊ะอาหารในห้องโถงเต็มไปด้วยอาหารมากมาย

ด้วยคำเชิญของโจวกั๋วเถา หลินฟานได้นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ และโจวกั๋วเถากับโจวเจิ้นก็นั่งอยู่ทางซ้ายกับขวาของหลินฟาน

โจวกั๋วเถาพูด “วันนี้ฉันได้กลิ่นหอมของเหล้าโดยบังเอิญ มันเลยทำให้ฉันได้รู้จักกับน้องหลิน เหล้าเป็นสิ่งที่ดีจริงๆด้วย!”

“หลินฟาน คุณมาเพื่อลิ้มรสว่าเหล้านี้มีรสชาติเป็นอย่างไร”

ขณะที่โจวกั๋วเถากำลังพูดอยู่ เขาก็เทเหล้าหนึ่งแก้วให้หลินฟานเองกับมือ

หลินฟานวางมันไว้ใต้จมูกของเขาแล้วดม จากนั้นค่อยๆดื่มมันเข้าไป

“เมื่อดื่มมันเข้าไป ท้องก็เหมือนกับถูกไฟเผา และยังมีรสชาติที่เข้มข้นค้างอยู่ในคอ! นี่มันคือเหล้าเหมาไถเฟยเทียน สินะ” หลินฟานพูด

“ถูกต้อง! ฮาฮา” โจวกั๋วเถาพูดอย่างมีความสุข

โจวเจิ้นยกแก้วของเขาขึ้น “หลินฟาน ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยพ่อของฉัน”

จากนั้น โจวจื่อซาน,โจวซื่อหงและคนอื่นๆ ก็ยกแก้วของพวกเขาขึ้นมา

หลังจากดื่มและรับประทานอาหารเต็มอิ่มแล้ว หลินฟานก็กำลังมองดูวิวทิวทัศน์ที่สวยงามนอกหน้าต่างและอุทานว่า “เป็นเรื่องยากมากที่จะจินตนาการว่ามีบ้านที่สวยงามเช่นนี้บนถนนวงแหวนรอบที่สองของเมืองหลวง”

“โอ้ หลินฟาน นายก็ชอบบ้านแบบนี้หรอ ครอบครัวโจวของเรามีบ้านที่คล้ายกันที่ถนนวงแหวนรอบที่สอง เรามอบให้นายเลยได้นะ” โจวเจิ้นกล่าว

หลินฟานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้หวังว่าโจวเจิ้นจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมา

ต้องรู้ก่อนว่า…

บ้านที่โจวเจิ้นพูด ควรจะเรียกมันว่าคฤหาสน์น่าจะดีกว่า พื้นที่โดยรวมมากกว่า 5,000 ตารางเมตร

ราคาบ้านของถนนวงแหวนรอบที่สองของปักกิ่งประมาณ 100,000 หยวนต่อตารางเมตร

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ บ้านหลังนี้มีมูลค่าเกิน 500 ล้านหยวน!

มอบให้กับฉันงั้นหรอ?

หลินฟานรีบพูด “ที่นี่แพงเกินไป ส่วนมากผมอยู่ที่เจียงเป่ย และไม่ได้มาเมืองหลวงบ่อยๆด้วย”

โจวกั๋วเถา “น้องหลิน นายสุภาพเกินไปแล้ว มันเป็นแค่บ้านหลังนึง ถ้าเทียบกับอาการป่วยของฉัน มันไม่มีค่าอะไรเลย”

“ถึงแม้ว่านายจะไม่ได้มาเมืองหลวงบ่อยๆในตอนนี้ แต่ฉันเชื่อว่าถ้าน้องหลินได้มาบ่อยๆ ในอนาคต มันสะดวกกว่าถ้ามีบ้านสักหลังอยู่ที่นี่”

หลินฟานคิดอยู่สักพัก ก่อนจะตอบกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็ยินดีรับไว้”

เดิมที โจวกั๋วเถาจะให้หลินฟานอยู่ต่ออีกสักพัก

แต่เหมือนหลินฟานยังมีเรื่องที่ต้องไปทำต่อ และเขาก็ได้ซื้อตั๋วเอาไว้กลับไปที่เจียงเป่ยไว้แล้วด้วย

ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธความใจดีของโจวกั๋วเถา

โจวเจิ้นก็ได้ขับรถโรลส์รอยซ์ไปส่งหลินฟานไปที่สนามบิน

หลิวหยูหางที่นั่งอยู่ในห้องวีไอพีไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นในใจของเขาได้อีกต่อไป และเขาก็กระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“พี่หลินฟาน พี่สุดยอดมาก!”

“พี่รู้วิธีรักษาจริงๆด้วย และยังช่วยชีวิตผู้เฒ่าโจว!”

“พระเจ้า นั่นคือผู้เฒ่าโจว!”

“รู้ไหม ตอนที่พี่บอกว่าจะไปรักษาผู้เฒ่าโจวเกือบทำให้ฉันกลัวจนฉี่ราด!”

“พี่ฟาน บอกมาเร็วๆเลย ว่าพี่สามารถทำอะไรได้อีก ไม่สิ! มีอะไรที่พี่ทำไม่ได้บ้างหรือเปล่า” หลิวหยูหางพูดอย่างตื่นเต้น

หลินฟานมองไปที่หลิวหยูหางที่กระโดดโลดเต้น เขาได้ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม

หลิวหยูหางรึูสึกประหม่าอีกครั้ง เขาพูดอย่างตื่นเต้น “สุดยอด วันนี้ฉันได้ทานอาหารเย็นกับผู้เฒ่าโจวและคนอื่นๆในตระกูลอีกมากมาย ถ้าพ่อของฉันรู้เรื่องนี้ล่ะก็ ฉันเกรงว่าเขาต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความอิจฉาแน่เลย!

คำพูดของเขาไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

เพราะแม้แต่พ่อของหลิวหยูหาง ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะทานอาหารเย็นกับโจวกั๋วเถา

จากนั้นหลิวหยูหางก็พูดอย่างจริงจัง “พี่ฟาน ขอบคุณมากครับ!”

ขอบคุณ?

เขาขอบคุณจากใจจริง

เนื่องจากหลิวหยูหางได้มีความสัมพันธ์กับตระกูลโจว ผ่านเหตุการณ์ในวันนี้

สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อหลิวหยูหาง หรือแม้แต่ตระกูลหลิวทั้งหมด

หลินฟานเข้าใจว่าหลิวหยูหางหมายถึงอะไร เขาโบกมือ”ยินดี”

ณ บ้านตระกูลโจว

โจวกั๋วเถากำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างแล้วมองดูสายน้ำที่ไหลรินอยู่ไกลๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความเพลิดเพลิน

ตอนนั้นเอง โจวเจิ้นก็เดินเข้ามาช้าๆพร้อมกับกองเอกสาร

“พ่อ นี่คือข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับหลินฟาน” โจวเจิ้นกล่าว

โจวกั๋วเถาพลิกดู

วินาทีถัดมา ใบหน้าที่แก่เฒ่าก็ได้แสดงความเศร้าออกมา

“ปรากฎว่าเขาคือหัวหน้ากลุ่มมังกร… ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาน่าอัศจรรย์มากขนาดนี้”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง โจวกั๋วเถาก็กล่าวว่า “จากนี้ไป จงทำทุกอย่างเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับหลินฟาน!”

“ครับ!” โจวเจิ้นตอบ