ตอนที่ 328 ต้องไปแล้ว / ตอนที่ 329 โทรศัพท์จากทางบ้าน

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 328 ต้องไปแล้ว

หลูจื้อดูเหมือนจะหายไปตลอดทั้งวันอาทิตย์ ไม่มีข่าวคราวใดๆ เลย

ชุยหังรู้ว่าเขาต้องถูกพ่อแม่ของเขาห้อมล้อมอย่างแน่นอน จากนั้นก็คอยจับตาดูเขาอย่างเข้มงวดและไม่เปิดโอกาสให้เขาติดต่อกับตัวเอง

แต่ว่าไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรในใจของตัวเองก็ยังมีเขาและในใจของเขาก็ยังมีตัวเองอยู่ก็พอแล้ว

เขามักจะกลับไปที่กองทัพเสมอเพราะพ่อแม่ของเขาไม่สามารถตามกลับไปได้และไม่สามารถยึดมือถือของเขาได้

ถ้าไม่เกิดเรื่องใหญ่จริงๆ วันนี้จะไม่ติดต่อไป

แม้ว่าชุยหังจะคิดแบบนี้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่

ทุกอย่างต้องทำภายใต้การดูแลของคนอื่นน่าจะต้องเหนื่อยมากทีเดียว

ถ้าหากเป็นตัวเองคงรู้สึกหมดอาลัยตายอยากอย่างแน่นอน

ผู้หญิงที่ไปธุระกลับมาแล้วและส่งข้อความมาหาชุยหัง

[เสี่ยวชุย ฉันรู้แล้วเพราะเรื่องของฉันทำให้นายรู้สึกไม่ดี นายไม่ต้องกังวลนะ ฉันเชื่อนาย]

ชุยหังอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถลบมันไปจากใจได้

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แสงจันทร์สีขาวในใจของเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะออกจากบริษัทนี้

[แค่เธอเข้าใจก็พอแล้ว คนอื่นจะเชื่อไม่เชื่อฉันก็ไม่สนใจแล้ว ฉันก็อยู่ที่บริษัทนี้มาได้สกพักแล้ว เรื่องพื้นฐานทั่วไปฉันเข้าใจดี ถึงยังไงทุกคนก็ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีและต่างก็คิดว่าฉันไม่สนใจเรื่องของคนอื่น แต่สำหรับเรื่องไฟล์เสียงอันนั้น เธอลองฟังด้วยตัวเองได้เลยนะ ถ้าฉันพูดอะไรผิดไปก็ขอโทษเธอด้วย] ชุยหังไม่ต้องการลงหลักปักฐานในเรื่องนี้เลยจริงๆ

ผู้หญิงคนนั้นส่งข้อความเสียงไปให้ชุยหังจากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยกัน

[เสี่ยวชุย นายอย่าคิดแบบนี้เลย ซานซานบอกฉันแล้วว่า ความจริงไม่มีใครทำอะไรคนนั้นได้ เพราะมันก็เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเหมือนกันและบริษัทเองก็พูดอะไรมากไม่ได้ เธอบอกด้วยว่าตอนนั้นนายดูโกรธจนหน้าดำหมดแล้ว] หญิงสาวอธิบาย

ชุยหังไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาแสดงออกอย่างไร แต่ถึงอย่างไรเขาต้องไม่ดีใจอย่างแน่นอน

[ไม่จริงหรอก ฉันโกรธจนหน้าดำเลยเหรอ] ชุยหังเอ่ยถาม

หญิงสาวเอ่ยตอบ [ซานซานบอกว่า ตอนที่มองเห็นสีหน้าของนายในตอนนั้นทำให้รู้สึกเหมือนนายกำลังจะระเบิดได้ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นพวกนั้นอาจจะพูดบางอย่างจนทำนายตกใจไปแล้ว]

[ไม่เป็นไร ฉันคงไม่ระเบิดหรอก ถึงยังไงทั้งหมดก็เป็นปัญหาของฉันอยู่ดี] ชุยหังเอ่ยบอก

[มันไม่ใช่ปัญหาของนายจริงๆ นะ นายอย่าเอามาใส่ใจเลย] หญิงสาวเอ่ยตอบ

[เปล่า ฉันไม่ได้เอามาใจหรอก แต่ความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกตินะ ทุกคนต่างก็ใช้ความรู้สึกของตัวเองคาดเดาคนอื่นอยู่แล้ว มันไม่แปลกเลย ไม่แปลกเลยสักนิด] ชุยหังยังคงไม่สนใจอะไร

หญิงสาวเอ่ยตอบ [ฉันมีของขวัญจากปักกิ่งให้นายด้วยนะ พรุ่งนี้จะเอาไปให้]

[โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ] ชุยหังเอ่ยบอก

อารมณ์ของเขาตอนนี้ดีขึ้นมาเล็กน้อย ขอแค่ผู้หญิงคนนี้ไม่กล่าวโทษเขาก็พอแล้ว เพราะความจริงเขาก็ไม่ได้รู้สึกละอายใจอะไรเลย

ตอนที่เธอเข้าระบบบัญชีของเธอจะเห็นได้เองว่า หลายวันมานี้เขาช่วยเธอโทรศัพท์ไปไม่รู้กี่ครั้ง ตอบกลับมาแล้วกี่คน และยังมีลูกค้าของเธอที่ครั้งหน้าอาจจะถามเรื่องที่เธอไปทำงานนอกสถานที่แล้วมีคนสุภาพอย่างเขามารับต้อนรับลูกค้าแทน

เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าเอง เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร

เนื่องจากได้รับการเห็นด้วยจากหลูจื้อ ดังนั้นทันทีที่มาถึงหน่วยงานในวันจันทร์ ชุยหังก็รีบตรงไปขอลาออกกับผู้จัดการทันทีโดยใช้ข้อข้างว่าทางบ้านกำลังมีปัญหา

ผู้จัดการเคยมีประสบการณ์กับหลายคนที่ไปๆ มาๆ หลายครั้งแล้ว เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชุยหังจึงพูดปลอบใจให้คลายกังวล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล ดังนั้นเธอจึงยอมแพ้และอนุมัติให้เขา

ชุยหังมีเวลาเหลืออีกไม่กี่วันก็จะทำงานครบหนึ่งเดือนแล้ว ดังนั้นเธอจึงขอให้ชุยหังทำงานในช่วงไม่กี่วันนี้ให้ครบ หลังจากนั้นก็ให้เขาแจ้งลูกค้าของตัวให้ทราบว่าเขาต้องกลับไปเรียน ครั้งหน้าจะมีคนอื่นมารับผิดชอบดูแลพวกเขาแทน

คำขอนี้ไม่ได้มากเกินไป เขาจึงตอบตกลง

หลังจากที่คิดว่าตัวเองต้องออกไปจากที่นี่ ชุยหังก็รู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนที่ 329 โทรศัพท์จากทางบ้าน

หลังจากที่ชุยหังเสร็จสิ้นขั้นตอนการลาออกแล้ว หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเงินเดือนจะถูกโอนเข้าบัตรของเขาโดยตรงในวันที่สิบห้าซึ่งชุยหังไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

ถึงอย่างไรเขาก็ยังมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รีบใช้เงินเดือนนี้

ตลอดทั้งสัปดาห์หลูจื้อดูเหมือนจะค่อนข้างยุ่งเป็นพิเศษ เพราะเขาโทรมาน้อยครั้งและข้อความทางวีแชทก็ไม่ค่อยส่งมา

บางครั้งชุยหังจึงเป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาก่อน แต่ใช้เวลานานมากกว่าจะได้รับข้อความกลับมา

ชุยหังไม่ได้คิดอะไรมาก ถึงอย่างไรตอนนี้หลูจื้อน่าจะเริ่มงานยุ่งแล้ว เพราะตอนนี้อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น การฝึกซ้อมของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ถึงอย่างไรหลูจื้อก็ไม่ได้ออกไปทำภารกิจในช่วงนี้ จึงทำให้ชุยหังมีความสุขไม่น้อย

อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าหลูจื้อยังอยู่ในเมืองนี้และไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเอง ถ้าหากเขาได้หยุดพักผ่อนก็สามารถกลับมาหาตัวเองได้

ตอนที่เขาออกมาจากบริษัท ผู้หญิงคนนั้นก็ออกมาส่งเขาและดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกละอายใจเล็กน้อย

เธออาจจะคิดว่าเพราะเรื่องของเธอจึงทำให้ชุยหังรู้สึกว่างานนี้น่าเบื่อ

ชุยหังจึงรีบอธิบายให้เธอฟังว่า เหตุผลที่เขาต้องการลาออกไม่เกี่ยวข้องกับเธอ แต่เพราะงานนี้ไม่เหมือนกับที่เขาเคยคิดไว้ เขาไม่อยากบังคับเอาเงินจากคนสูงอายุเหล่านั้น ซึ่งความจริงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก ไม่ว่าจะกินหรือไม่กินก็ไม่มีผลอะไรมาก อีกทั้งยังสิ้นเปลืองเงินมากเกินไป

ตอนแรกผู้หญิงคนนั้นไม่เชื่อ ชุยหังจึงบอกเธอว่าความจริงเขาพักการเรียนไว้ ถึงอย่างไรเขาก็ต้องกลับไปเรียนต่อ ดังนั้นจึงไม่สามารถทำงานนี้ได้อีกต่อไป

หญิงสาวก็รู้สึกโล่งใจมากเพราะดูเหมือนว่าเธอจะคิดว่าตัวเองเป็นคนบาปไปแล้วจริงๆ

หลังจากที่ชุยหังปลอบใจเธอแล้ว เขาก็ออกไปอย่างมีความสุข

เขาซื้อชุดทำงานด้วยเงินของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ทิ้งไว้ให้บริษัทอย่างแน่นอน ลมไม่ได้พัดเงินมาให้ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์

เมื่อชุยหังกลับมาถึงบ้านก็มองไปที่ห้องอันว่างเปล่าและรู้สึกว่าหงุดหงิดเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าถ้าได้ทำงานก็จะเติมเต็มความสุขให้ตัวเองบ้าง แต่ไม่คิดว่าเขาเพิ่งทำงานนี้เพียงหนึ่งเดือนก็ต้องบอกลากับตัวเองแล้ว

เมื่อเสียงของโทรศัพท์ดังขึ้น เขาคิดว่าเป็นของหลูจื้อจึงรีบหยิบขึ้นมา แต่กลับพบว่าเป็นสายของที่บ้าน

ตอนนั้นชุยหังก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา

คนหนุ่มสาวยุคนี้มักจะละเลยพ่อแม่ของตนนานเกินไปเพื่ออะไรก็ตามที่เรียกว่าความรัก หลายครั้งที่ยอมสละเวลาที่อยู่กับพ่อแม่เพื่อมาทุ่มเทให้กับความรักของตัวเอง

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจเสมอไป

เขารับโทรศัพท์และพูดว่า “พ่อมีอะไรเหรอ”

“ลูกอยู่ที่ไหน” พ่อถามขึ้นมาทันที

ชุยหังถึงกับผงะและเอ่ยตอบ “ผมก็อยู่ที่เมืองเอ้อไง พ่อไม่รู้เหรอ”

“แกโกหก ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนกันแน่” พ่อเอ่ยถาม

ชุยหังตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

‘ทำไมพ่อของเขาถึงมั่นใจว่าเขาไม่ได้อยู่ที่เมืองเอ้อล่ะ’

‘พ่อได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขามาหรือว่าแค่เดาไม่อย่างนั้น’

‘เพราะว่าช่วงตรุษจีนเขาไม่ได้กลับบ้าน ดังนั้นพ่อจึงเป็นห่วงเขา?’

“ผมอยู่เมืองเอ้อจริงๆ ไม่อย่างนั้นพ่อก็ให้คนในหมู่บ้านแอดผมมาในวีแชท เดี๋ยวผมจะส่งตำแหน่งให้เขาหรือไม่พ่อก็โทรไปที่บริษัทไชน่าโมบายให้ช่วยตรวจสอบตำแหน่งเครือข่ายที่ผมรับสายอยู่ก็ได้ พ่อมีอะไรหรือเปล่า” ชุยหังเอ่ยถาม

เมื่อได้ยินคำตอบของชุยหัง พ่อของเขาก็สงบลงเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยถาม “ลูกอยู่ที่เมืองเอ้อจริงๆ ใช่ไหม”

“อือ ผมไม่อยู่เมืองเอ้อแล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหนล่ะ”

“เดี๋ยวก่อน ให้ฉันคุยกับลูกก่อน” อีกด้านหนึ่งในโทรศัพท์เป็นเสียงของแม่

หลังจากนั้นพ่อน่าจะส่งมือถือให้แม่ แม่จึงเอ่ยถามทันที “ลูกไปทำงานขายตรงใช่ไหม”