‘บาร์ซิ่วเริ่น’

นี่คือบาร์ที่ตั้งอยู่สุดขอบทะเลมารโกลาหล

จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งผสานวิชาลี้ลับจำนวนมาก อาทิ…ที่หลบภัยทะเล สายสัมพันธ์ทะเล บุตรแห่งทะเลและวิชาลี้ลับอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ที่นี่ไม่ถูกโจมตีโดยสัตว์ประหลาดทะเล

สัตว์ประหลาดทะเล

ในหุบเหวทะเลลึก มีสัตว์ประหลาดทะเลโบราณอาศัยอยู่มาหลายร้อยล้านปี

หลังจากได้รับพรมาหลายปี ร่างกายพวกมันกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังน่าหวาดกลัว ยิ่งพละกำลังยิ่งไม่ต้องพูด

ตอนเผ่าพันธุ์เทพและเผ่าพันธุ์บรรพกาลแบ่งโลกมารดึกดำบรรพ์ พวกเขารู้สึกเหมือนกันว่าที่นี่เป็นปัญหามากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจงใจหลีกเลี่ยงพื้นที่ทะเลกว้างใหญ่แห่งนี้

ตอนนี้ พายุที่ทะเลยิ่งมายิ่งรุนแรง

ท้องนภาหมองหม่น

พวกมารอาศัยอยู่ในบาร์อย่างเต็มใจขณะฟังเสียงคำรามของปฐพีกับแผ่นดินไหวในทะเลด้านนอก

มารตนหนึ่งที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงพึมพำว่า “ความผันผวนของพลังในครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกที พนันเลยว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้อาศัยอยู่มาอย่างต่ำก็หกล้านปี”

มารอีกตนตอบว่า “ไม่ เสียงนี้เคยปรากฏขึ้นเมื่อสามสิบปีก่อน ตอนนั้น เจ้าของบาร์บอกว่าเจ้าตัวใหญ่นี่อยู่ในวัยทารก เพิ่งมีชีวิตได้เพียงสองล้านกว่าปีเท่านั้น”

มารเพลิงกล่าวว่า “เอาเถอะ ไม่ว่าจะมีชีวิตมานานแค่ไหนก็ช่าง ยังไงก็ตาม ทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่ ข้ารู้สึกสิ้นหวังเอามากๆ”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะเจ้าก็รู้ว่าจะไม่สามารถกินเลือดเนื้อของสัตว์ประหลาดนั่นได้ยังไงล่ะ”

มารอีกตนขัดว่า “นี่ก็จริง แม่ของสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่มาห้าสิบล้านปีและชอบกินพวกเราเป็นที่สุด พนันเลยว่าเจ้าไม่อยากเจอแน่”

มารขี้เมาอีกตนหัวเราะแล้วกล่าวว่า “แล้วทำไมขยะอย่างพวกเจ้าถึงยังอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหนเสียทีล่ะ”

เพราะอีกฝ่ายพละกำลังแข็งแกร่ง จึงไม่มีมารตนไหนกล้าพูด

มีเพียงบาร์เทนเดอร์ที่ยิ้มแล้วกล่าวว่า “มีโอกาสมากมายในทะเลมารโกลาหล จ้าวบ้านอย่างพวกข้ายินดีต้อนรับทุกผู้ที่มาสำรวจ จะว่าไปแล้ว เจ้าเมาเกินไปแล้วนะ ระวังอย่าไปสร้างปัญหาในบาร์เข้าล่ะ”

เมื่อได้ยินบาร์เทนเดอร์กล่าวเช่นนี้ มารตนนั้นคล้ายกับเข้าใจบางสิ่งก่อนปิดปากทันที

มันก้มศีรษะต่ำ ดื่มสุราโดยไม่หัวเราะเยาะผู้อื่นอีก

‘ปัง!’

ตอนนี้เอง ประตูบาร์เปิดออก

ท่ามกลางเสียงพายุอันโหยหวน มารหล่อเหลาตนหนึ่งเดินเข้าบาร์จากด้านนอก

เขาสะอาดไปทั่วทั้งตัว ไม่มีจุดไหนที่เปียกเพราะลมและสายฝน

พวกมารที่หน้าไม่คุ้นเหล่านี้มักดึงดูดความสนใจจากพวกมารที่ใช้ชีวิตที่นี่มาหลายปี

น้ำทะเลของทะเลมารโกลาหลเต็มไปด้วยพลังรุนแรงชั่วร้ายจำนวนมาก ไม่มีทางที่ความสามารถควบคุมน้ำธรรมดาจะรับมือไหว

การจะหลบเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ต้องสื่อสารโดยตรงกับทะเล

ดูท่าพลังของมารตนนี้จะข้องเกี่ยวกับทะเล

ทุกตนลอบครุ่นคิด

มารตนนั้นตรงไปที่บาร์

“อยากดื่มอะไรหรือ” บาร์เทนเดอร์ถาม

“ขอบคุณ แต่ไม่ล่ะ” กู่ฉิงซานตอบ

“เจ้ามาที่บาร์เพื่อหลบลมและฝน หากไม่ดื่มอะไร นายท่านคงไม่ยินดีเป็นแน่” บาร์เทนเดอร์กล่าวตามตรง

“ถึงแม้ข้าจะไม่ดื่ม แต่ข้าก็มีข้อตกลงมาเสนอ” กู่ฉิงซานกล่าว

บาร์เทนเดอร์เผยรอยยิ้มเล็กน้อยออกมาก่อนถามว่า “โห…ถ้าอย่างนั้น แบบนี้ก็เข้าใจกันง่ายหน่อย ตัวตนของเจ้าคืออะไรล่ะ”

“ราชาวิญญาณมาร” กู่ฉิงซานตอบ

บาร์เทนเดอร์มองกู่ฉิงซาน สีหน้าคล้ายกับจมอยู่กับความทรงจำ “ราชาวิญญาณมารหรือ อืม ขอข้าดูข่าววันนี้ก่อนนะ ใช่ ท่านเพิ่งฆ่าราชามารสองตนในโลกมาร ทั้งรูปลักษณ์และชาติพันธุ์ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ พละกำลังก็นับว่าดียิ่ง”

พวกมารที่ฟังอยู่ด้านข้างต่างดึงสายตากลับ

มารทรงพลังที่เป็นเจ้าของสองพื้นที่ในโลกมาร ตัวตนแบบนี้ไม่ใช่ผู้มาใหม่ ไม่ควรค่าที่จะไปหาเรื่อง

บาร์เทนเดอร์อีกตนกล่าวว่า “ในเมื่อไม่มีปัญหาอะไร เช่นนั้นก็ให้การดูแลเขาในระดับราชามาร”

“ใช่ ใช่แล้ว ท่านมีโลกมารสองแห่ง จึงได้รับสิทธิ์การดูแลระดับราชามาร…”

“ขอบคุณ” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาวางเพชรวิเศษจำนวนหนึ่งบนบาร์อย่างไม่ใส่ใจ

เพชรวิเศษเป็นสกุลเงินแข็ง ไม่ว่าจะหลอมไอเท็ม ปลอมแปลง ร่ายวิชา แลกเปลี่ยนและสะสม เพชรวิเศษสามารถใช้แทนได้ทั้งสิ้น

เมื่อเห็นเพชรวิเศษเหล่านี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของบาร์เทนเดอร์ยิ่งกว้างมากขึ้น

ราชามารช่างใจกว้างยิ่งนัก

บุคคลเช่นนี้เป็นที่ต้อนรับไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

บาร์เทนเดอร์ถามว่า “ต้องขอโทษด้วย แต่ข้าต้องถามท่านอีกหนึ่งคำถาม ท่านมีความสามารถข้องเกี่ยวกับความลี้ลับหรือไม่”

“แน่นอน ข้ารู้กฎของนายท่านพวกเจ้าดี ข้าเต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎที่นี่ ยังไงเสีย ข้ามาที่นี่ก็เพื่อทำธุระ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบ

บาร์เทนเดอร์พยักหน้าซ้ำไปมา ความประทับใจยิ่งเพิ่มทวีคูณ

อีกฝ่ายเข้าใจเรื่องที่นี่เป็นอย่างดี ดูท่าจะไม่มีแนวโน้มเรื่องความรุนแรง แถมไม่น่าจะมีความคิดร้ายอะไรด้วย

มีราชามารเช่นนี้น้อยมาก

บาร์เทนเดอร์กล่าวว่า “เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา ในฐานะตัวแทนของนายท่าน ขอกล่าวต้อนรับสู่ทะเลมารโกลาหล”

เขาเดินออกจากด้านหลังบาร์ก่อนนำกู่ฉิงซานไปยังประตูสีคล้ำเล็กน้อยที่อยู่หลังบาร์

“โปรดตามข้ามา”

บาร์เทนเดอร์แตะประตูหลายครั้งก่อนส่งสัญญาณให้กู่ฉิงซาน

“เข้าใจแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว

ทั้งสองเดินเข้าประตูไป

แสงที่หมองหม่นพลันเจิดจ้าขึ้นมา

กู่ฉิงซานพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนจัตุรัสขนาดใหญ่

จัตุรัสปูด้วยหินและอิฐ ถนนสะอาดและเป็นระเบียบ แถมยังแข็งแรงและกว้างขวาง

ที่ปลายจัตุรัส มีโบสถ์อันงดงามตั้งอยู่เหนือท้องนภา

“อ๊ากกกกก!”

เสียงกรีดร้องนานาชนิดมาจากผนังชั้นนอกของโบสถ์

กู่ฉิงซานมองรอบข้างแล้วเห็นว่าผนังชั้นนอกของโบสถ์เต็มไปด้วยซากศพจำนวนมาก บ้างก็ตายมานานแล้ว บ้างก็มีเลือดเนื้อ บ้างก็เหลือเพียงกระดูก

ถึงอย่างนั้น พวกกระดูกก็ยังดิ้นรนที่อยากจะออกจากผนังชั้นนอกของโบสถ์

บนผนังชั้นนอกของโบสถ์ ลาวาหลอมเหลวยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดชะงัก

“ท่านมาที่นี่ครั้งแรกหรือ” บาร์เทนเดอร์ถามเมื่อเห็นสายตาของกู่ฉิงซาน

“ใช่” กู่ฉิงซานกล่าว

อาจจะเพราะเพชรวิเศษเหล่านั้นทำหน้าที่ได้ดี บาร์เทนเดอร์จึงอธิบายอย่างอดทน “ต้องใช้เวลาอีกสักพักในการกอบกู้โบสถ์แห่งนี้จากทะเลลึก ผู้กอบกู้เหล่านี้จะไม่ตายจนกว่าจะถึงตอนนั้น”

เขายักไหล่แล้วกล่าวต่อว่า “นายท่านใช้เวลาจำนวนมากเพื่อพยายามนำผู้กอบกู้ที่จงรักภักดีเข้าสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร์ แต่โบสถ์แห่งนี้มันช่างน่าสนใจจริงๆ สิ่งมีชีวิตที่ติดอยู่ผนังชั้นนอกของจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน ไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุขได้ตลอดกาล”

“หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“หลังจากนั้น นายท่านก็เห็นดีเห็นงามด้วยเหมือนกัน” บาร์เทนเดอร์กล่าว

“นี่คือสิ่งปลูกสร้างโบราณที่ถูกฝังในทะเลลึกงั้นหรือ” กู่ฉิงซานถามอย่างสนใจ

“ใช่ เป็นของเก่าที่ดูดีทีเดียว นายท่านศึกษามันมาหลายร้อยปีแล้ว” บาร์เทนเดอร์กล่าว

กู่ฉิงซานพยักหน้า ส่งสัญญาณว่าเขาเข้าใจแล้ว

นายท่านของบาร์ซิ่วเริ่นคือจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง

อย่างที่ทุกคนรู้ เขาชอบขุดคุ้ยวัตถุโบราณเหล่านั้นที่ถูกฝังอยู่ในทะเลมารโกลาหล

ตอนนี้เอง รถม้าเข้าใกล้จากอีกฝั่งของจัตุรัสก่อนหยุดตรงหน้ากู่ฉิงซานและบาร์เทนเดอร์

บาร์เทนเดอร์เปิดประตูให้แล้วกล่าวว่า “เชิญขึ้นรถมาได้เลย นายท่าน ข้าจะพาท่านไปที่โบสถ์เพื่อจัดการเรื่องธุระให้”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก ข้าจะเชิญเจ้าไปดื่มตอนที่กลับมา” กู่ฉิงซานกล่าว

บาร์เทนเดอร์หัวเราะจนเผยให้เห็นฟันแหลมคมก่อนกล่าวว่า “ท่านลอร์ด ท่านช่างเป็นแขกที่ใจกว้างนัก ข้าจะให้คำแนะนำเป็นข้อสุดท้ายก็แล้วกัน”

“ว่ามาเลย”

“กฎที่นายท่านของพวกข้าตั้งนั้นยุติธรรม โบสถ์เองก็ถือเป็นกฎ นั่นหมายความว่าท่านไม่สามารถโกหกได้ ตราบที่ท่านทำสองสิ่งนี้ได้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะกลายเป็นเครื่องประดับบนผนังชั้นนอกของโบสถ์แล้ว”

“ขอบคุณ”

รถม้าเริ่มพากู่ฉิงซานมุ่งสู่โบสถ์

รถม้าขยับโดยม้าน้ำเกล็ดดำหกตัว แต่กลับไม่มีคนขี่ม้า

โชคยังดี ม้าน้ำคล้ายกับคุ้นชินกับถนนสายนี้ แถมรถม้ายังกว้างขวางสะดวกสบาย จึงไม่มีการกระแทกแต่อย่างใด

กู่ฉิงซานนั่งในรถม้าขณะครุ่นคิดถึงคำแนะนำของบาร์เทนเดอร์อย่างเงียบงัน

หากไม่มีหลักความเป็นธรรม ดินแดนเพื่อการค้าขายก็ไม่อาจรุ่งเรืองได้

แสดงว่าจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งทำจริง

ส่วนเรื่องโบสถ์…

กู่ฉิงซานมั่นใจว่าพวกมารที่สามารถติดตามจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งเข้าสู่ทะเลลึกได้ล้วนเป็นมือดี

ไม่อย่างนั้น จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งไม่พาพวกเขาไปแน่

แต่ตอนนี้ไม่มีใครในพวกเขาสามารถเป็นหรือตายได้ กายเป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์ ต้องทรมานชั่วนิรันดร์

“ไม่สามารถพูดโกหกได้…นี่คือการทรมานพิเศษสำหรับพวกมาร”

กู่ฉิงซานกล่าวพลางหัวเราะ แต่สีหน้าดูอับจนเล็กน้อย

ใช่แล้ว นี่ก็เป็นอุปสรรคสำหรับเขา

เวลาผันผ่านไป

รถม้าหยุดอย่างมั่นคงตรงหน้าโบสถ์

ชายวัยกลางคนที่ดูฉลาดมีความสามารถเปิดประตูรถม้าให้กู่ฉิงซาน

“ท่านลอร์ด ข้าคือผู้แลกเปลี่ยนระดับหนึ่งของสมาคมสำรวจทะเลมารโกลาหล พร้อมจะรับใช้ท่านจากใจจริง” ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างสุภาพ

“ขอบคุณ ข้าต้องประกาศภารกิจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” กู่ฉิงซานกล่าว

ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “มีการระบุไว้ล่วงหน้าว่าทุกภารกิจและการแลกเปลี่ยน แม้กระทั่งการล่าสมบัติหรือการต่อสู้ นายท่านจะดึงรางวัลออกไปสามสิบส่วน”

“ข้ารู้” กู่ฉิงซานกล่าว

“เช่นนั้นก็ดี” ชายวัยกลางคนยิ้ม “ท่านลอร์ด โปรดตามข้าไปยังโถงภารกิจ”

พวกเขาเดินเข้าไปในโบสถ์หลอมละลาย