ตอนที่ 270 เหวยทู ของใช้ในพิธี

หยางโปเห็นวัยรุ่นคนหนึ่งมือว่าง เขาจึงเดินเข้าไป แล้วถามเด็กหนุ่มคนนั้นว่า ” น้องชาย นี่คืออะไรเหรอ ? “

เด็กหนุ่มหันมามองหยางโปแวบหนึ่ง หยางโปส่งบุหรี่ให้มวนหนึ่ง เด็กหนุ่มคนนั้นเหลือบมองแวบหนึ่ง ก่อนจะรับไปอย่างยินดี

หยางโปไม่กล้าเมินเฉยคนอื่น จึงรีบแจกจ่ายบุหรี่ให้

มีบางคนรับไป แต่ก็มีบางคนไม่ได้รับไป เมื่อแจกจ่ายเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มก็เห็นว่าในมีหยางโปยังมีเหลืออยู่ไม่น้อย จึงพูดยิ้มๆ ว่า ” ให้ผมเถอะ เดี๋ยวผมช่วยคุณแจกเอง “

หยางโปยิ้ม ก่อนจะส่งให้ไป

 

” นี่เป็นบุหรี่อย่างดีเลยนะ ตอนฉันทำงานเป็นช่างไม้อยู่ข้างนอก ต้องหาเงินสองสามวันถึงจะซื้อบุหรี่ได้หนึ่งซอง ! ” เด็กหนุ่มสูบบุหรี่ไปพลางพูดไปพลาง

” แล้วทำไมถึงไม่อยู่ข้างนอกล่ะ ? ” หยางโปเองก็ไม่ได้เร่งร้อน

” ทำงานข้างนอกลำบากมาก ที่สำคัญพอสิ้นปี หัวหน้าผู้รับเหมาก็จะดึงเวลาไม่ยอมจ่ายค่าแรงให้ ” เด็กหนุ่มกล่าว

หยางโปพยักหน้า สองปีมานี้เรื่องค้างเงินค่าจ้างมีมากจริงๆ ในสื่อเองก็มีรายงานข่าวไว้มากมาย ” ครั้งหน้าไปจินหลิง ก็มาหาผมได้ ถ้ามีใครค้างเงินค่าจ้างคุณ ผมช่วยคุณเอาเงินคืนมาได้นะ “

” จริงเหรอ ? ” เด็กหนุ่มตกใจระคนดีใจในทันใด

 

เดิมหยางโปแค่พูดตามมารยาท แต่พอเห็นท่าทีอย่างนี้ ก็รู้ว่าตัวเองแทงโดนปัญหาเข้าแล้ว แต่เขาเองก็ไม่กลัว ” จริงแท้แน่นอน “

เด็กหนุ่มพุ่งพรวดไปด้านหลังพลางตะโกนว่า ” พี่น้องทุกคน คุณคนนี้เขาบอกว่าสามารถช่วยพวกเราเอาค่าจ้างคืนมาได้นะ ! “

หยางโปเห็นคนครึ่งหนึ่งล้วนหันหน้าขวับมองมา พวกเขาจ้องมองหยางโป ในดวงตาสว่างไสว

หยางโปมองอีกฝ่าย ก่อนจะอธิบายว่า ” ผมอยู่ที่จินหลิง ดังนั้นจึงสามารถแก้ปัญหาได้แค่เฉพาะที่จินหลิงเท่านั้นนะครับ “

 

” พวกเราก็อยู่ที่จินหลิง ! ” เด็กหนุ่มกล่าว

หยางโปพยักหน้า ” งั้นก็ดีเลย พอจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว พวกคุณก็ไปที่จินหลิงกับผม ขอแค่หาเถ้าแก่เจอ ผมก็จะช่วยพวกคุณทวงหนี้ได้ ! “

” จริงสิ พวกคุณทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างไหน หรือว่าเป็นที่ตึกที่กำลังก่อสร้างตึกไหนเหรอ ? ” หยางโปถามมากขึ้นอีกประโยค

” เป็นตึกที่กำลังสร้างของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซู่เซิง ! ” เด็กหนุ่มกล่าว

หยางโปชะงักเล็กน้อย หันไปมองหลูตงซิงแวบหนึ่ง ” เรื่องนี้มอบให้ผมเถอะ ! “

” จริงสิ ที่พวกคุณทำอยู่เรียกว่าอะไรเหรอ ? ” หยางโปถาม

 

” ของใช้ในพิธีประเภทนี้เรียกว่า เหวยทู ” เด็กหนุ่มได้ยินหยางโปสัญญาว่าจะช่วยทวงค่าจ้างให้ ก็เป็นมิตรขึ้นมาทันใด อธิบายว่า ” ตอนที่ทำของใช้ในพิธีนี้ ซูหนีจะต้องเลือกวันมงคลก่อน แล้วถึงจะแบกเหล้า เดินเท้าข้ามเขาลึกป่าทึบ ต้องไปค้นหาที่ที่ไม่ได้ยินไก่ขัน ไม่ได้ยินหมาเห่า บนเทือกเขาที่สูงที่สุด ไกลที่สุดซึ่งไม่เห็นบ้านเรือนผู้คน แล้วจึงหาต้นหงซานสมบูรณ์ต้นหนึ่ง ซูหนีต้องยืนอยู่หน้าต้นไม้ ใช้เหล้าถวายต้นไม้ต้นนี้ แล้วก็ภาวนาอย่างเคร่งขรึมตามพิธี ถึงจะตัดต้นไม้ต้นนี้ลงมาด้วยตนเอง แล้วนำกลับมาท่อนหนึ่งได้ ! “

พูดจบ เด็กหนุ่มก็พลันมองมาทางหยางโป ” ทำไมคุณถึงได้กล้าบอกว่าจะสามารถช่วยพวกเราทวงเงินค่าจ้างกลับมาได้แน่ๆ ล่ะ ? “

 

ทุกคนล้วนหยุดงานในมือแล้วหันมองมา หยางโปยิ้ม เมื่อหันหน้าไปก็เห็นความกระอักกระอ่วนบนใบหน้าของหลูตงซิง จึงไม่ดึงเขาออกมา แต่พูดว่า ” พวกคุณวางใจเถอะ ตอนนี้ขอให้พวกคุณบอกผมว่า อยู่ที่ไซต์งานไหน ทำงานมากน้อยเท่าไหร่ หัวหน้ารับเหมาค้างเงินเอาไว้เท่าไหร่ก็พอ “

พอเห็นคนครึ่งหนึ่งลุกขึ้น หยางโปก็รีบบอกว่า ” ทุกคนอย่ารีบร้อน มาคนเดียวก็พอแล้ว ตอนนี้ผมต้องใช้เวลาในการประสานงาน บางทีพอทุกคนช่วยผมทำเหวยทูเสร็จแล้ว เรื่องนี้ก็น่าจะเรียบร้อยพอดี ! “

หยางโปปลอบขวัญทุกคน ก่อนจะให้เด็กหนุ่มเอารายละเอียดมาแจ้งเขา ส่วนเขาก็เอารายละเอียดพวกนี้ส่งให้หลูตงซิง แม้ว่าบนเขาสัญญาณจะค่อนข้างแย่ แต่ในมือหลูตงซิงเป็นโทรศัพท์ดาวเทียม สัญญาณชัดเป็นอย่างยิ่ง มีสายโทรกลับมา เขาเป็นคนจำกัดงานนี้ ที่เหลือก็ต้องอาศัยให้ลูกน้องของเขาเป็นคนทำ

 

เวลาผ่านไป งานในมือของทุกคนก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง หยางโปเห็นได้ว่าที่ทุกคนแกะสลักออกมานั้นมีรูปร่างเป็นสัตว์สามชนิด ได้แก่ หมาป่า เสือ และยังมีแกะอีกหนึ่งตัว

สัตว์ทั้งสามชนิดมีทั้งหมดสิบสองตัว การแกะสลักมีความยากเป็นอย่างมาก เมื่อถึงบ่ายสาม ก็เสร็จสิ้นไปส่วนใหญ่แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการขัดเงาให้กับสามตัวสุดท้ายเท่านั้น

ด้วยการกดดันเป็นทอดๆ ในที่สุดด้านหลูตงซิงก็มีโทรศัพท์โทรกลับมา ทางนั้นให้เบอร์มือถือมาหนึ่งเบอร์ หยางโปเอาเบอร์มือถือส่งให้เด็กหนุ่ม ” นายโทรไปเบอร์นี้ “

เด็กหนุ่มลังเลเล็กน้อย ” โทรไปแล้วเขาจะให้เงินผมเหรอ ? “

 

เมื่อถามประโยคนี้ออกมา งานแกะสลักในลานต่างก็หยุดลง หยางโปพยักหน้า ” นายวางใจได้เลย “

เด็กหนุ่มลังเลเล็กน้อย ก่อนจะรับมือถือจากหยางโป เขาถือเบอร์มือถือเอาไว้ แล้วจึงต่อสายอย่างเงอะๆ งะๆ พวกเขาไปทวงค่าแรงมาด้วยกัน ใช้เวลาไปเกินกว่าครึ่งเดือน และใช้ไปทุกวิถีทาง ล้วนไม่สามารถทวงเงินคืนมาได้ เขาไม่กล้าเชื่อเลยจริงๆ ว่า พวกหยางโปเพียงแค่โทรศัพท์ก็จะได้เรื่องแล้ว

เมื่อโทรศัพท์ต่อสายติด ก็ได้ยินปลายสายพูดด้วยเสียงร้อนใจ ” อากั่วใช่ไหม ? ฉันเหล่าสือเอง ! “

” เถ้าแก่สือ สวัสดีครับ ! สวัสดี ! ” เด็กหนุ่มอากั่วพูดอย่างมีมารยาท

” อากั่ว เธอไม่ต้องเกรงใจฉันมากมายขนาดนี้ พี่ชายต้องขอโทษพวกเธอด้วย ที่ดึงเวลาพวกเธอมานานจนขนาดนี้ ตอนนี้เธอยังอยู่ที่จินหลิงรึเปล่า ? “

 

” ผมไม่ได้อยู่จินหลิงแล้วครับ ตอนนี้ผมกลับมาที่บ้านเกิดแล้ว ” อากั่วบอก

” เอางี้ อากั่ว ตอนนี้ให้เธอบอกเลขบัตรธนาคารมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะคืนเงินค่าจ้างให้พวกเธอ อีกอย่าง ฉันค้างพวกเธอมาปีหนึ่ง ในหนึ่งปีนี้ฉันจะให้ดอกเบี้ยพวกเธอสิบเปอร์เซ็นต์อีกด้วย ” เถ้าแก่สือพูดอย่างมีมารยาทเป็นอย่างมาก

อากั่วชะงักค้าง ” เถ้าแก่สือ ทำไมถึงยังมีดอกเบี้ยด้วยล่ะ ? “

” อากั่ว พวกเราอย่าล้อเล่นกันขนาดนี้เลย พี่ชายอย่างฉันขอโทษพวกเธอด้วยจริงๆ ครั้งนี้ขอให้พวกเธอเมตตาผ่อนผัน ปล่อยพี่ชายไปสักครั้งเถอะนะ ! “

 

” เถ้าแก่สือ… “

อากั่วตื่นตระหนก เขาหันไปมองพวกหยางโป ถึงได้พบว่า พลังของสามสี่ท่านนี้เกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากจริงๆ !

งานช่วงท้ายใกล้เสร็จแล้ว อากั่วแจ้งเลขบัตรธนาคารไปแล้ว เขาทนไม่ไหวคิดอยากจะไปไปรษณีย์ที่ตำบลแล้วถอนเงินออกมา เพียงแต่ฟ้ามืดแล้ว เขาไม่สะดวกที่จะไปแล้ว

เสียง ” เอี๊ยด ” ดังขึ้น ซูหนีเปิดประตูออกมาก่อนจะปรากฏกาย เขาหันไปมองพวกหยางโปทั้งสี่คนแวบหนึ่ง ด้านหลังแบกถุงตาข่ายมาใบหนึ่ง เขาเอาไม้ที่แกะสลักทั้งสิบสองชิ้นวางลงไปเป็นคู่ๆ แล้วเดินออกไปด้านนอก

 

อากั่วเดินขึ้นไปข้างหน้า ” ซูหนี เย็นขนาดนี้แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปเถอะครับ ! “

” เพื่อเด็กในหมู่บ้าน ฉันต้องไปให้เร็วสักหน่อย ” ซูหนีกล่าว

พูดจบ เขาก็เดินจากไป

ทุกคนในเผ่าอี๋จ้องมองทิศทางที่ซูหนีจากไป ส่งเขาด้วยดวงตา และเดินตามไปอีกพักหนึ่ง

พวกหยางโปทั้งสี่คนมองตากันแวบหนึ่ง ล้วนดูออกถึงอิทธิพลของซูหนีในหมู่บ้านว่าไม่ธรรมดาเลย !

 

พวกหยางโปทั้งสี่คนไม่รู้ว่าซูหนีไปที่ไหน และไปทำอะไร รอจนท้องฟ้าหม่นสี ถึงได้เห็นซูหนีกลับมา ซูหนีเอาโซ่ที่ใช้ทองแดงบางๆ ผูกเอาไว้สี่เส้นให้ทั้งสี่คน ปากก็พร่ำว่า ” ขอให้สวรรค์ให้อภัยผู้ไม่รู้เหล่านี้ ให้อภัยในการล่วงเกินของพวกเขา… “

ซูหนีอ่านออกมาด้วยภาษาเผ่าอี๋ทำให้พวกเขาฟังไม่เข้าใจ แล้วจึงหันมาพูดกับทั้งสี่คนว่า ” ต่อไปพวกคุณอย่าได้ทำเรื่องที่ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อีก แล้วจะอยู่อย่างสงบสุขอย่างแน่นอน “