บทที่ 274 ไปถึงตรงนั้น

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 274 ไปถึงตรงนั้น…..
จากนั้น แม้แต่รองเท้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน เขาก็ขึ้นไปยังชั้นสอง มาถึงหน้าประตูห้องนอนที่สามารถมองเห็นแสงสว่างได้จากทางด้านนอก

“คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”

ในขณะที่ประตูห้องถูกเปิดออก ในห้องนอนที่สว่างด้วยแสงไฟสีส้ม ผู้หญิงที่กำลังอ่านหนังสืออยู่เป็นเพื่อนลูกทั้งสองคนที่ขดตัวกันอยู่บนเสื่อทาทามิ ก็เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเล็กๆที่สะอาดสะอ้านและสวยงาม เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เขากลับมา เธอดีใจขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ?

แสนรักรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นมาในทันที

ยืนอยู่นอกห้อง เขาถอดรองเท้า หลังจากนั้นขายาวๆก็ก้าวเดินเข้าไป “อืม อิคคิวเป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?”

“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ คงจะทานอะไรไป ฉันได้ยินรินจังบอกว่า อาสะใภ้ให้พวกเขากินเชอร์รี่ที่นำเข้ามาไปเยอะเลย เชอร์รี่ชื้น จะต้องแช่เย็น คงกินของเย็นๆมากเกินไป”

เส้นหมี่ยืนขึ้นมาจากเสื่อทาทามิ เตรียมจะลงไปทำอาหารว่างในตอนกลางคืนให้คนๆนี้

แต่เธอเพิ่งจะถึงตรงประตู ชายหนุ่มที่สัมผัสลูกชายอยู่ข้างๆเตียงให้แน่ใจว่าไม่ได้เจ็บป่วยแล้ว ก็เรียกเธอเอาไว้ : “ผมทานมาแล้ว วันนี้ที่บริษัทมีร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน วันสุดท้าย”

“อ๋อ”

เส้นหมี่หยุดแล้วเตรียมจะไปอยู่เป็นเพื่อนลูกต่อ

เธอไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไร ก่อนหน้านี้ทำให้เขา ตอนแรกเริ่มเขาเป็นคนเรียก เธอก็ลงไปทำให้ ผลปรากฏว่าทำไปๆแล้ว ก็เป็นความเคยชินไปแล้วเหมือนกัน

เช่นนั้นตอนนี้เขาบอกว่าไม่ให้เธอทำ เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเช่นกัน

แต่คืนนี้ เธอกลับอยู่เป็นเพื่อนลูกต่อไม่ได้ เนื่องจากว่าผู้ชายคนนี้บอกแล้ว ว่าต้องให้เธอตามขึ้นไปกับเขา ให้เขาเห็นแผลของเธอว่าเป็นอย่างไร อย่าลืมว่าเธอก็ยังเป็นคนเจ็บคนหนึ่งอยู่เหมือนกัน

ผลปรากฏว่า คืนนี้ พวกลูกๆก็ทิ้งเอาไว้ให้พี่ภาดูแล

ส่วนเส้นหมี่นั้นก็อยู่ในห้องนอนของผู้ชายคนนี้อีกครั้ง

“คุณ….นี่ยาอะไรน่ะ? ทำไมคุณเอาให้ฉันแล้วถึงได้เวียนหัวขนาดนี้?”

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง? ผมไม่ใช่หมอซักหน่อย เวียนหัวก็ขึ้นไปนอนบนเตียงสิ” หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เอาหลอดยาในมือโยนทิ้งไป แล้วอุ้มเธอขึ้นมาแล้วไปส่งลงบนเตียงของเขา

เส้นหมี่ : “……..”

พี่ภาที่อยู่ทางด้านล่างได้ยินความเคลื่อนไหวแล้วก็อุ้มหนูรินจังที่ต้องการหาแต่หม่ามี๊ไปยังห้องนอนของเธอ

ส่วนชินจังนั้นไม่ต้องสนใจ เด็กน้อยนั้นอยากใจจะขาดอยู่แล้ว

——

เช้าวันรุ่งขึ้น

เส้นหมี่นอนหลับสบายทั้งคืน แต่ตอนที่ตื่นมาในช่วงเช้ากลับรับรู้ถึงความตกใจไม่น้อย!

คุณพระ นี่เธอ….กอดอยู่นั้นคือคน ไม่ใช้หมอนอย่างนั้นเหรอ?!!

รูม่านตาของเธอมองไปยังชายหนุ่มที่ถูกเธอกอดเอาไว้เหมือนกับปลาหมึกอย่างสั่นไหว เช้าตรู่สมองของเธอก็ถูกกระตุ้นได้น่ากลัวเสียยิ่งกว่าแผ่นดินไหวสึนามิระดับสิบเสียอีก

แต่กำลังตกใจอยู่นั้น เธอเห็นใบหน้าด้านข้างของผู้ชายคนนี้ ก็ตกอยู่ในภวังค์กับความสวยงามของเขาอย่างไม่สามารถถอนตัวเองออกมาได้เลย

คนๆนี้ ดูดีมากจริงๆ!

ในแสงสว่างสีทอง จมูกโด่ง ขนคิ้วเหมือนกับขนนก ดวงตาคู่นั้นที่ปกติแล้วจะปรากฏความน่าเกรงขามและดุดัน เวลานอนหลับนั้น ก็เก็บความเฉียบแหลมของเขาไปด้วยเช่นกัน ปรากฏให้เห็นส่วนโค้งที่ดูงดงาม ขนตายาวหนางอนเล็กน้อย เหมือนกับพัดเล็กๆ ตรงเบ้าตาของเขาทิ้งเงาที่สวยงามเอาไว้ ช่างดูดียิ่งนัก

“มองพอแล้วหรือยัง?”

“อา?”เส้นหมี่ที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั้นเบิกตาทั้งสองข้างขึ้นมาในทันที ดูเหมือนกับทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ แล้วถูกจับได้อย่างไรอย่างนั้น

และความจริงแล้วเธอก็ถูกจับได้แล้ว

“ผมดูดีขนาดนี้เลยเหรอ? มองจนน้ำลายไหลแล้ว”

ในที่สุดแสนรักที่ลืมตาขึ้นมาแล้วก็นอนตะแคงมา เห็นว่าคนโง่ตัวเล็กคนนี้ตกใจตัวเองเสียจนหุบปากไม่ได้แล้ว ดวงตาใสสะอาดที่เหมือนกับน้ำพุยิ่งเบิกขึ้นกลมมากขึ้นไปอีก อดที่จะขำไม่ได้

เธอโง่จริงๆใช่ไหม แม้แต่ตัวเขาเองที่ตื่นขึ้นมาตั้งนานแล้วก็ไม่รู้อย่างนั้นเหรอ?

แต่สามารถเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอในตอนนี้ได้ เขากลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา

“เมื่อกี้คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”

“….ไม่….ไม่มีอะไร” ในที่สุดเส้นหมี่ก็ดึงสติกลับมาได้แล้ว ทันใดนั้น ความร้อนที่มาสัมผัสหลังใบหูของเธอ เธอจึงคว้าผ้าห่มเพื่อจะหลบ

แต่ช้าเกินไปแล้ว

เธอเพิ่งจะขยับ ผู้ชายคนนี้ที่ถูกเธอพันเอาไว้เหมือนกับปลาหมึก แขนข้างที่ถูกเธอหนุนเป็นหมอนเอาไว้ช้อนเข้ามาทำให้เธอถูกกักขังอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว

เส้นหมี่รู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาอีกครั้งในทันที

“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร? ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะจูบผมอีกหรอกใช่ไหม?”

“อะไร….อะไรนะ?!!”

“ลืมแล้วเหรอ? เมื่อคืนหลังจากที่หลับไปแล้ว ใครกันที่กอดผมทั้งจูบทั้งกอดผมตลอด ผมไม่ยอม ยังต้องจูบให้แน่นแล้วถึงจะปล่อยผมด้วย”

ชายหนุ่มที่อยู่ในระยะใกล้ เอ่ยพูดคำพูดพวกนี้อย่างเลี่ยงปัญหาสำคัญ ดูเหมือนว่ากำลังบอกเล่าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่

แต่หลังจากที่เส้นหมี่ได้ยินแล้ว กลับราวกับว่าจู่ๆในหัวก็มีฟ้าผ่าลงมา หลังจากที่เสียงอื้ออึงแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง!

เธอทั้งจูบทั้งกอดเขาอย่างนั้นเหรอ?

เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอไม่ได้เพี้ยนแบบนั้น จะทำเรื่องแบบนี้กับเขาได้ยังไง!!

นอกเสียจาก นอกเสียจากเธอเห็นเขาเป็นลูก!

ทันใดนั้นเองเส้นหมี่ก็นึกถึงเรื่องที่น่ากลัวขึ้นมา หลังจากเลือดทั้งหมดพุ่งขึ้นไปบนสมองแล้ว เธอถูกกักขังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่มีที่ให้หลบ ใบหน้าแดงขึ้นมาทันที

“นึกออกแล้วเหรอ?”

“…..ไม่ ไม่ใช่นะ คุณฟังฉันอธิบายก่อน ฉันอาจจะ….อาจจะคิดว่าคุณเป็นรินจัง หลังจากนั้น….หลังจากนั้นก็เลยเป็นแบบนี้” เธอรีบอธิบาย ใบหน้าแดงๆนั้นเกือบจะแดงเหมือนเลือดอยู่แล้ว

แต่ในเวลานี้ จู่ๆผู้ชายคนนี้ก็กระชับแขนขึ้นมา