โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.364 – แผนเล็กๆของหยานฟาง

 

‘บังเอิญฆ่ากันเองโดยไม่ตั้งใจ’ คำๆนี้ทำให้เหล่าผู้ใช้พลังคล้ายกลับถูกกระชากสติกลับมาฉุกคิด

 

ยังไงก็ตาม พวกมนุษย์กลายพันธุ์น่ะทรงพลังมาก ทั้งยังไม่มีสตินึกคิด หากถูกพวกมันโจมตีมั่วซั่วเข้ามา จะไม่กลายเป็นพวกเขา ‘ที่บังเอิญถูกฆ่า’ เองหรอกหรือ?

 

ฉินเฟิงย่อมเข้าใจความคิดของคนเหล่านี้ เขากล่าว “พวกคุณก็ลองตัดสินใจเลือกดูก็แล้วกัน ถ้าใครเห็นด้วยกับผม ก็ขอให้ตามมา”

 

ความปิติฉายวาบในแววตาของคนเหล่านี้ทันที จะยังไงก็ช่าง อยู่กับฉินเฟิงย่อมปลอดภัยกว่า

 

อย่างไรก็ตาม ในฝูงชนก็ยังมีเสียงแตก

 

โหวหยางเซิงขัดขึ้น “ไอ้มิติปิดล้อมที่คุณพูดเมื่อวาน บางทีวันนี้มันอาจจะหายไปแล้วก็ได้ พวกเราไปดูกันเหอะ”

 

ฉินเฟิงยิ้มมุมปาก เหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่แยแส

 

“ผมพูดไปหมดแล้ว ใครที่อยากติดตามผม ก็แค่ตามมา ถ้าไม่ต้องการ ก็หาทางรอดด้วยตัวเอง!”

 

ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบมันอีกรอบ เพราะเขามีไป๋หลี เธอสามารถรายงานสถานการณ์ของมิติได้ตลอดเวลา

 

โหวหยางเซิงไม่เพียงแข็งแกร่ง แต่เขายังมาจากตระกูลวรยุทธโบราณชั้นสูง มีนิสัยเคยชินกับการอ้าปากสั่งผู้คน แต่หากคิดหักล้างข้อเสนอของฉินเฟิงในเวลานี้ ฉินเฟิงก็จะไม่ไว้หน้าเขา!

 

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ฝูงชนหลีกทางโดยอัตโนมัติ ให้เขาเข้าไปใกล้มนุษย์กลายพันธุ์หมูเขี้ยวดาบ

 

ฉินเฟิงเริ่มสำรวจอย่างรวดเร็ว พบว่าอีกฝ่ายสูญสิ้นกำลังจะขัดขืนแล้ว ดวงตาแดงก่ำ ค่อยๆกลับมาเป็นสีขาวและดำ

 

หากปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ไม่ต้องรอให้ทันได้กลับคืนร่างเดิม เกรงว่าคงเสียชีวิตก่อน

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงวูบไหว ร่างมนุษย์กลายพันธุ์หมูเขี้ยวดาบถูกยกขึ้น พลังสมาธิของฉินเฟิงแพร่กระจายออกไป จนพบกับสถานที่หนึ่งที่เหมาะสม

 

คนอื่นๆมองหน้ากัน ก่อนเดินตามฉินเฟิงไป

 

สถานที่ๆฉินเฟิงเลือกเป็นเพียงจตุรัสด้านหน้าห้างสรรพสินค้า บนพื้นยังคงสะอาดดี และมีร่มเงาคอยบดบังแดด

 

และที่นี่อยู่ห่างไกลจากใจกลางเมือง หลังการระเบิดของหูเหลียง ที่นี่ก็ยังไม่ถูกทำลาย ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดี

 

ฉินเฟิงวางมนุษย์กลายพันธุ์หมูเขี้ยวดาบลง

 

“ที่นี่พอจะมีผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุน้ำหรือแสงอยู่บ้างรึเปล่า? มาช่วยรักษาเขาหน่อย เอาแค่นิดเดียวก็พอ”

 

“มิสเตอร์ฉิน ฉันขออาสาเอง”

 

“ส่วนฉันเดี๋ยวจะช่วยพันแผล”

 

ชายสองคนก้าวออกมาจากฝูงชน รักษาบาดแผลเล็กๆน้อยๆให้แก่มนุษย์กลายพันธุ์หมูเขี้ยวดาบ

 

ฉินเฟิงกวาดมองไปในฝูงชน และพบว่าในบรรดาพวกเขา มีหยานฟางติดตามตนเองมาด้วย

 

ตรงกันข้ามกับโหวหยางเซิง เขาออกไปนอกเมืองพร้อมกลุ่มคนจากตระกูลตี๋ สงสัยจริงๆว่าพอเจอมิติปิดล้อมจะทำหน้ายังไง

 

เฝ้ารอไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ร่างของมนุษย์กลายพันธุ์หมูเขี้ยวดาบก็เริ่มกระตุก เอกลักษณ์ของสัตว์ร้ายค่อยๆหายไป ขนาดตัวหดลงเท่ากับร่างกายของมนุษย์ปกติ

 

“เจ้าหมูตอนคง! ที่แท้ก็เป็นนาย!”

 

ฝูงชนถึงกับผงะตกใจ

 

“โอย เจ็บชะมัด” ชายอ้วนที่ชื่อว่าคงร้องโอดโอย

 

ผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุน้ำรุดเข้ามาช่วยเหลือทันที รักษาบาดแผลภายนอกทั้งหมดจนหายไป

 

อย่างไรก็ตาม อ้วนคงตกอยู่ในสภาพอ่อนแอมาก เขาถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังมีความเสียหายที่เกิดจากการกลายพันธุ์ หากไม่ใช้เวลาครึ่งปี ไม่อาจหายสนิทได้

 

“ดูเหมือนว่าที่มิสเตอร์ฉินพูดจะจริง มนุษย์กลายพันธุ์พวกนี้ ยังสามารถกลับคืนสภาพเดิมได้!”

 

“ฉันเดาต่อไปไม่ถูกแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้”

 

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่ที่พวกเราต้องทำตอนนี้ คือช่วยชีวิตผู้ใช้พลังให้ได้มากที่สุด มิฉะนั้นปราการชาตงคงล่มสลายลงจริงๆแน่นอน”

 

ปราการชาตง มีผู้ใช้พลังเลเวล D อยู่กว่า 200 คน ตอนนี้ไม่เพียงหูเหลียงตาย แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเลเวล D หลงเหลืออยู่แค่ 20 คนเท่านั้น หากถูกโจมตีครั้งใหญ่โดยกองทัพสัตว์ร้าย น่ากลัวว่าชาตงคงพินาศลงจริงๆ

 

“ไป๋หลี ช่วยไปพาตัวมนุษย์กลายพันธุ์กลับมาเพิ่มหน่อย แต่จำไว้ว่าอย่าฆ่าพวกเขา ลากมาในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายก็พอ” ฉินเฟิงกล่าว

 

“รับทราบ ข้างนอกค่อนข้างอันตราย คุณรออยู่นี่นะ”

 

ว่าจบ ไป๋หลีก็ย่ำส้นสูงเดินจากไป

 

คนอื่นๆตกใจเล็กน้อย

 

“มิสเตอร์ฉิน ปล่อยให้มิสไป๋ไปคนเดียว แบบนี้จะดีหรือ?”

 

“ถ้าพวกคุณรู้สึกไม่สบายใจ จะไปกับเธอก็ได้นะ แต่คิดว่าคงเสียเวลาเปล่า”

 

ขณะกล่าว เสียงคำรามพลันดังเสียดเข้ามาจากในจุดที่ไกลออกไป เห็นได้ชัดว่าเกิดการต่อสู้ดุเดือดขึ้น สักพักก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องเป็นระยะๆ

 

ไม่ถึงสิบนาที ไป๋หลีก็กลับมา นอกจากนี้พลังสมาธิที่แข็งแกร่งของเธอยังลากเอาเป้าหมายติดไม้ติดมือมาด้วย ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มากถึงสาม

 

ทั้งสามอยู่ในสภาพไร้กำลังต่อสู้ เมื่อมีฉินเฟิงเป็นตัวอย่างแล้ว คนที่เหลือก็รู้ดีว่าควรทำอย่างไร หลายคนเข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บของมนุษย์ในสภาพสัตว์ร้ายเล็กๆน้อยๆ เอาแบบว่ายื้อไม่ให้ตาย แต่ก็ไม่มากพอจะลุกขึ้นมาทำร้ายคนอื่น

 

ในเวลานั้นเอง หยานฟางกลับออกมาจากห้างสรรพสินค้า พร้อมกับรถเข็นสองคัน

 

“เฮ้ พวกนายยังไม่ได้กินอาหารดีๆกันเลยใช่ไหมตั้งแต่เมื่อวาน ในเมื่อวันนี้คงวุ่นกันอีกนาน ทำไมทุกคนไม่พักกินอะไรรองท้องกันสักหน่อยล่ะ”

 

ว่าจบหยานฟางก็ทยอยแจกเนื้อตากแห้ง อาหารอัดแท่ง และน้ำหนึ่งขวดให้ทุกคน

 

“ช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันพอจะทำได้” หยานฟางกล่าวอย่างจริงใจ บิดเกลียวขวดน้ำออก และยื่นไปให้ฉินเฟิงที่อยู่ข้างๆ

 

“มิสเตอร์ฉิน คุณเหนื่อยมามากแล้ว ดื่มสักหน่อยเถอะ”

 

ฉินเฟิงที่กำลังนั่งพัก แหงนหน้ามองหยานฟาง แต่มิได้ยื่นมือไปรับมัน หยานฟางเองก็ยื่นขวดน้ำค้างไว้ทั้งๆอย่างนั้น ผ่านไปสักพักหนึ่ง บรรยากาศน่าอึดอัดเริ่มก่อตัวขึ้น

 

ผู้คนโดยรอบเหมือนตระหนักได้ถึงบรรยากาศนี้ สายตาเบนตกลบนร่างของทั้งสอง

 

ทั้งหมดหยุดเคี้ยวอาหารในปาก

 

“อา ในเมื่อมิสเตอร์ฉินไม่ต้องการดื่ม งั้นฉันจะวางมันไว้ให้คุณ” หยานฟางถอนมือออก บิดปิดฝาขวด สีหน้าดูไม่สู้ดีนัก

 

สีหน้าหยานฟางไม่ดี คนอื่นๆไม่แปลกใจ สุดท้ายแล้วมีใครบ้างเล่าที่จะสามารถฝืนทนกับความอัปยศนี้? แค่มองยังรู้สึกไม่ดีเลย

 

“มิสเตอร์หยานไม่จำเป็นต้องห่วงผม เชิญดื่มก่อนได้เลย”

 

คราวนี้เป็นฉินเฟิงที่ยกน้ำขวดเดิมขึ้น ยื่นมันให้แก่หยานฟาง

 

หยานฟางไม่คิดรับ เอ่ยอย่างเรียบเฉย “ไม่ล่ะ ฉันจะไปเอาอีกขวดมา”

 

“อย่าลำบากเลยน่า!”

 

“ถือว่ายืดเส้นยืดเส้นไง!”

 

บทสนทนาระหว่างทั้งสอง ภายนอกดูสุภาพ แต่ภายในเจ้าเล่ห์หลอกลวง

 

“หยานฟาง ทำไมถึงไม่ยอมดื่มน้ำที่คุณให้มา ดื่มมันก่อนสิแล้วผมจะดื่มตาม หรือว่าจริงๆแล้วมันมีปัญหา?” ฉินเฟิงผุดยิ้มเย็น

 

หยานฟางยิ้มแหย “ปัญหาอะไรงั้นหรอ? มิสเตอร์ฉินคุณกำลังพูดเรื่องอะไร!?”

 

เวลานี้ สีหน้าของทั้งสองแปรเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง

 

ของฉินเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา

 

ส่วนหยานฟางกลับลุกลี้ลุกลน บนหน้าผากเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดออกมา

 

“ผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรสินะ งั้นขอถามหน่อย ตอนคุณเป็นลูกพี่ของพันธมิตรอิสระ คุณเคยดูแลมิตรสหายอย่างจริงใจแบบนี้ไหม? เอาใจใส่พวกเขามากขนาดนี้รึเปล่า? นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่า ทุกคนในที่นี้เป็นเลเวล D และต่างมีอุปกรณ์รูนมิติเป็นของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีน้ำหรืออาหารเก็บไว้ได้อย่างไร แน่นอนนั่นรวมถึงตัวคุณด้วย แต่คุณกลับปลีกตัวออกไป ทำเหมือนกับว่านำมันออกมาจากในห้าง คิดจะทำให้พวกเขาตายใจ และยอมกินมันหรือไง?”

 

พอได้ยินคำของฉินเฟิง ผู้คนที่กำลังเคี้ยวอาหารก็สะดุ้งตกใจ

 

จริงอย่างที่ฉินเฟิงว่า เนื้อและอาหารอัดแท่งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ทำจากวัตถุดิบระดับต่ำ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากินตามปกติ คุณภาพมันแย่กว่ามาก

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ปราการชาตงอยู่ในวิกฤต เป็นหายนะที่เลวร้ายชนิดล่มเมือง พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เลยไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกตินี้

 

หยานฟางไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ คล้ายต้องการจะแก้ตัว

 

แต่ฉินเฟิงไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป

 

“ทักษะลับกลืนดารา!”

 

ฉินเฟิงวาดมือออก แรงดึงดูดมหาศาลกระชากจากกำปั้นเขา หยานฟางแม้จะเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D8 แต่เมื่อตกอยู่ภายใต้อำนาจเต็มพิกัดของฉินเฟิง ก็ถูกดึงดูดเข้ามาทันที

 

ปัง!

 

หนึ่งหมัดของฉินเฟิงประทับลงบนหน้าท้องของหยานฟาง