เสียงเพียะดังลั่น ทั้งห้องส่วนตัวเงียบสงัด
ฝ่ามือนี้ของเย่เทียนตบหวงเย่าโจวจนมึน แม้แต่ลูกน้องของเขายังเบิกตากว้าง ตั้งตัวไม่ทันไปชั่วขณะ
เป็นแค่คนติดตามไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงบังอาจลงมือทำร้ายประธานของพวกเขา?
แม้แต่เฉินหวั่นชิงยังผงะไปชั่วขณะ สายตาที่มองเย่เทียนซับซ้อนขึ้นไปอีก
ตั้งแต่ลากเย่เทียนอกมาจากสถานีตำรวจได้ เขาก็แตกต่างจากเมื่อก่อนขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากเงียบไปหลายวินาที ในที่สุดหวงเย่าโจวก็ได้สติกลับมาท่ามกลางความเจ็บปวดแสนสาหัส และมองเย่เทียนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แก…..แกบังอาจทำร้ายฉัน แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร ยังจะกล้าทำร้ายฉันอีก?”
เย่เทียนกลับมีสีหน้าสงบ นิ่งเฉยราวกับแค่บี้มดตายไปตัวหนึ่ง
ในตอนที่เข้าประตูมาเขาก็ได้กลิ่นที่แตกต่างออกไป รอจนหวงเย่าโจวยกไวน์ออกมาเขาก็รู้ในทันทีว่าไอ้อ้วนนี่วางแผนอะไร
ตอนแรกเขาหยุดไว้ได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าหวงเย่าโจวไม่ยอมตายใจ แถมยังพูดออกมาว่าจะให้เมียเขาหลับนอนด้วย
แน่นอนว่าเย่เทียนทนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ต่อหน้าเฉินหวั่นชิง ไม่สะดวกจะฆ่าฟันใคร ไอ้อ้วนนี่ได้ตายจนไม่รู้จะตายยังไงแล้ว!
“เรียก รปภ มา!”
“กล้าลงมือด้วยหรอ จะมากเกินไปแล้ว!”
เวลานี้บรรดาลูกน้องเพิ่งจะตั้งสติได้ และตะโกนเสียงดังขึ้นมา
“ไม่ต้องรีบ ฉันอยากเห็นว่าเด็กคนนี้จะผยองได้ขนาดไหน!”
หวงเย่าโจวหยุดการเคลื่อนไหวของลูกน้อง เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่คิดจะเลิกราง่ายๆ
ไม่ว่ายังไงเขายังเป็นพี่ใหญ่ในวงการโฆษณา บัดนี้โดนเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าตบหน้าเข้าให้ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปต้องขายหน้าขนาดไหนกัน เขาจะยอมปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆได้ยังไง?
ในเวลานั้น เสี่ยวปินคนเมื่อกี้ได้เดินเข้ามา จ้องหน้าเย่เทียนอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ไอ้หนุ่ม แกมันรนหาที่ตาย ประธานหวงของเรายังจะกล้าลงมืออีก ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษประธานหวงอีก!”
เขาเป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดของหวงเย่าโจว พอจะมีฝีมืออยู่บ้าง แม้ว่าเย่เทียนจะลงมือไปแล้วในทีแรก แต่เขาก็ไม่เห็นเย่เทียนอยู่ในสายตา
เย่เทียนได้ยินเสียงจึงหันไปมองเขา ส่งยิ้มยิ้ม “ทำไมหรอ แกอยากโดนบ้างหรอ?”
ท่าทีของเย่เทียนช่างโอหังจริงๆ
คนอื่นๆก็โมโหโทโส พากันลุกขึ้นยืน
“ไอ้หนุ่ม อย่าสามหาวให้มาก รีบคุกเข่าขอโทษซะ ไม่อย่างนั้นแกตายแน่!”
“ไม่ดูเลยว่าเจอกับใครอยู่ ยังจะบังอาจลงมืออีก ถ้ายังไม่ขอโทษรับประกันเลยว่าแกได้อยู่ในคุกจนตายแน่!”
“ประธานเฉิน นี่คนของคุณใช่มั้ยครับ? รีบให้เขาขอโทษซะตอนนี้แล้วให้ค่าขอโทษอีกห้าล้านหยวน ไม่อย่างนั้นบริษัทแซ่เฉินของคุณเลิกคิดจะทำธุรกิจในเจียงหนันไปได้เลย”
แต่ละคนพูดจากันไม่ดีนัก นอกจากจะด่าเย่เทียนแล้วยังจะทำลายบริษัทแซ่เฉินด้วย โอหังกันถึงขีดสุดจริงๆ
ในใจของเฉินหวั่นชิงก็ชักจะเครียดขึ้นมา ถึงยังไงหวงเย่าโจวก็เป็นหัวเรือใหญ่ของวงการโฆษณา เขาสามารถช่วยให้องค์กรไหนมีชื่อเสียงขึ้นมาก็ได้ และสามารถทำให้องค์กรไหนกลายเป็นที่รังเกียจก็ได้
เจียงหนันอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับอีกฝ่ายโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วนหรอก!
และฝ่ามือนี้ของเย่เทียนทำให้พวกเขาผูกใจเจ็บกันอย่างสิ้นเชิง
เย่เทียนกลับหัวเราะเย็นๆ พูดอย่างดูแคลน “ฉันก็ขอเตือนพวกแกไว้อย่าง ขอโทษประธานเฉินตอนนี้ซะ ไม่อย่างนั้นวันนี้พวกแกอย่าหวังจะได้ออกจากห้องนี้!”
“โอ้โห ยังมีหน้ามาสามหาวอีก เสี่ยวปิน ลงมือ!”
หวงเย่าโจวสีหน้าเย็นเยียบ ออกคำสั่งทันที
นัยน์ตาของเสี่ยวปินฉายแววเหี้ยมโหด คำรามอย่างเกรี้ยวกราด “อยากตายใช่มั้ย!”
สิ้นเสียง เขาก็ลงมือทันที ต่อยเข้าที่ใบหน้าของเย่เทียน
หวงเย่าโจวเห็นแล้วอดหัวเราะเย็นๆไม่ได้ เขามั่นใจในตัวคนขับรถคนนี้ของตัวเองมาก ปกติแล้วคอยช่วยเขาสั่งสอนคนไปไม่น้อย
ในสายตาเขา ถึงแม้ไอ้เด็กนี่จะตบหน้าตัวเอง แต่ไม่ใช่คู่มือของเสี่ยวปินอย่างแน่นอน
ทันใดนั้น
หมัดของเสี่ยวปินเฉียดเข้าใกล้เย่เทียน แม้แต่เฉินหวั่นชิงเองยังใจหายวาบ
เย่เทียนเป็นฝ่ายลงมือก่อนก็จริง แต่หวงเย่าโจวพูดจาไม่ดีก่อน เธอไม่โทษเย่เทียนเลย กลับสะใจซะด้วยซ้ำ
บัดนี้มาเห็นเสี่ยวปินปล่อยหมัดเข้ามา เธอก็เริ่มเป็นห่วงเย่เทียน
และในตอนนั้นเอง เย่เทียนเตะขา ถีบเข้าที่ท้องของเสี่ยวปินอย่างแรง
เสี่ยวปินไม่ทันจะแตะโดนเย่เทียนด้วยซ้ำ ตัวเขาก็ถูกแรงมหาศาลนี้กระเทือนจนกระเด็นออกไป เกิดเสียงดังตู้ม เขากระแทกเข้ากับกำแพงด้านหลังอย่างหนัก และหมดสติฟุบลงไปกับพื้น
พอเห็นฉากนี้ คนที่อยู่ในที่นี้ก็งุนงงไปอีกครั้ง
“โอ๊ะ แข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรอเนี่ย?”
“ไอ้เด็กคนนี้โผล่มาจากไหน?”
ทุกคนตกใจกันมาก สายตาที่มองเย่เทียนนั้นเต็มไปด้วยความหวั่นเกรง
หวงเย่าโจวก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน รู้สึกได้ถึงสายตามุ่งร้ายของเย่เทียน เขาถอยหลังสองก้าวด้วยสัญชาตญาณ
ความคิดที่อยากจะจัดการเย่เทียนเมื่อกี้ไม่กล้าพูดถึงอีกเลยในตอนนี้ เขาร้องเสียงหลง “รปภ รปภ รีบเข้ามาแล้ว มีคนจะฆ่าคน”
เย่เทียนไม่คิดจะสนใจเลยสักนิด เขากระตุกยิ้มเย็นที่มุมปาก ก้าวยาวๆไปหาหวงเย่าโจว
คนชั้นต่ำแบบนี้ไม่รู้จักสำนึกยังไม่เท่าไหร่ นี่ถึงขั้นข่มขู่เขาด้วย เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ
“เย่เทียน ช่างเถอะ”
นาทีคับขัน เฉินหวั่นชิงเป็นคนเดินเข้ามาจับแขนเย่เทียนไว้แน่น
เย่เทียนเลิกคิ้ว กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง รปภ กลุ่มหนึ่งก็ได้พุ่งเข้ามาจากประตู
พอเห็น รปภ เข้ามา หวงเย่าโจวอุ่นใจขึ้นมา เขาหัวเราะเย็นๆ “ไอ้หนุ่ม วันนี้แกตายแน่!”
“ฉันคือหวงเย่าโจว แขกวีไอพีของสโมสรจุนเหา ไล่ไอ้หนุ่มนี่ออกไปซะ ขอแค่ไม่ตาย ฉันรับผิดชอบได้หมด”
หวงเย่าโจวคิดเอาเองว่าตัวเองเป็นต่อ น้ำเสียงเย็นยะเยือกขึ้นมาเป็นพิเศษ
เย่เทียนกวาดสายตามองพวก รปภ ผู้ชายที่นำหน้ามาพอเห็นเย่เทียนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ส่วนเฉินหวั่นชิงตกใจสุดๆ หน้าเริ่มซีดลง
“เย่เทียน ตอนนี้จะทำยังไงกันดีล่ะ”
“เอาเถอะ เห็นแก่หน้านาย ฉันยอมปล่อยพวกเขาไปก็ได้ ไม่ต้องเล่นถึงตายนะ”
เย่เทียนส่ายหัว พูดจบก็พาเฉินหวั่นชิงเดินก้าวยาวๆออกไป
ที่ทุกคนแปลกใจกว่านั้นคือ รปภ ที่พุ่งเข้ามากลับทำเหมือนไม่เห็น ยอมปล่อยให้เย่เทียนและเฉินหวั่นชิงออกไป
“พวกแกมัวยืนบื้ออะไรอยู่ แถมยังปล่อยพวกเขาไปอีก ยังอยากมีงานทำอยู่มั้ย?”
รอจนเย่เทียนและเฉินหวั่นชิงเดินออกไปจนลับตาแล้ว ทุกคนถึงรู้ตัว หนึ่งในนั้นอดโวยวายเสียงดังไม่ได้
“ไปไหนก็ไปโว้ย!”
หัวหน้า รปภ ได้ยินปุ๊บก็มีสีหน้าเหี้ยมโหด ยื่นขาไปถีบโดยไม่ต้องคิด
“แกทำอะไรวะ แต่ละปีฉันจ่ายเงินให้ที่นี่ไปไม่ต่ำกว่าล้านหยวน เป็นแขกวีไอพีของสโมสรจุนเหาของพวกแกนะ!”
หวงเย่าโจวหน้าเปลี่ยนสี ไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“แขกวีไอพี? ถุย!”
รปภ ทำหน้าดูแคลน ถุยน้ำลายใส่หน้าหวงเย่าโจว “มึงรู้มั้ยว่ามึงไปมีเรื่องกับใคร? นั่นท่านเทียนของเราเลยนะ ขนาดพี่ใหญ่ของเรายังต้องเรียกท่านเทียนอย่างนอบน้อม มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ”
“ใช่แล้ว บังอาจล่วงเกินท่านเทียนของเรา ฉันว่าพวกแกอยากตายกันใช่มั้ย!”
คนหนึ่งก้าวออกมาและพูดเย็นๆ สายตาที่มองหวงเย่าโจวราวกับกำลังมองคนบ้องตื้นคนหนึ่ง!
พอคนอื่นๆได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ที่นี่เป็นถิ่นของแก๊งไผ่เขียวนะ และแก๊งไผ่เขียวเป็นหัวโจกใหญ่ของวงการใต้ดินในเจียงหนัน ถึงพวกเขาจะเป็นหัวเรือใหญ่ในวงการโฆษณา แต่ก็ไม่กล้ามีปัญหากับแก๊งไผ่เขียวหรอก!
ทว่า เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือท่านเทียนในตำนานหรอ?
“แม้แต่พี่ใหญ่แก๊งไผ่เขียวยังต้องเรียกว่าท่านเทียน? ไอ้หนุ่มนั่นเป็นใครกันแน่”
หน้าของหวงเย่าโจวซีดเผือด ประหนึ่งว่าสูญเสียบุพการีไป