บทที่ 82 ฉันควรจะทำอย่างไร

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“หล่อนบอกว่าอะไร?ไฟไหม้หรอ?ถึงทำให้เธอรีบร้อนขนาดนี้ หื้ม?”

“ยู่ยี่กำลังร้องไห้ หล่อบอกว่านอกใจหัสดิน แล้วถูกยู่ยี่เห็นเข้าพอดี ”เธอขมวดคิ้ว

นี่เพิ่งแต่งงานไม่ทันไร ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ แถมยังเป็นวันปีใหม่อีก ไม่ได้เกิดการเข้าใจผิดกันใช่ไหม?

คิ้วเขาก็แคบลง ออกัสก็ลุกตัวขึ้น ขยับริมฝีปากบางของเขา พูดเสียงต่ำ “ไปกันเถอะ ผมไปกับคุณด้วย”

เชอร์รีนพยักหน้า

เป็นที่เดิมที่พวกเขามักจะนัดเจอกัน ห้องวีไอพีของผับโซ่สวาท

เพียงแค่มาถึงเชอร์รีนก็ได้เห็นยู่ยี่ที่นอนอยู่บนเคาน์เตอร์ ไหล่ของเธอกระตุก เสียงสะอื้นดังมาอย่างต่อเนื่อง

นาโนก็ด่าสาปแช่งอยู่ข้างๆ แถมยังไม่หยุดรินเหล้า เธอปลอบคนไม่เป็น ไม่งั้นก็ไม่โทรหา เชอร์รีนหรอก

เมื่อเห็นเธอ ก็เหมือนได้เห็นผู้ช่วยชีวิต ส่งสายตาไปให้เธอ เข้าไปปลอบยู่ยี่

ตั้งแต่เมื่อเช้าถึงตอนนี้ ยู่ยี่ร้องไห้จนจะสองชั่วโมงแล้ว นาโนได้ยินก็ใจไม่ดี เจ็บปวดแทน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง

เมื่อมองไปเห็นออกัส ริมฝีปากแดงของนาโนก็ยิ้มเล็กๆ ชี้ไปที่ห้องข้างๆ “พวกเขาอยู่ห้องข้างๆ”

พวกเขาที่หมายถึง ก็คือหัสดินและดนัยออกัสก็พยักหน้ารับเบาๆ เหลือบตาไปมอง เชอร์รีนพร้อมกับพูดเบาๆว่าจะออกไปดู้องข้างๆ

เชอร์รีนตบไหล่ยู่ยี่เบาๆ เหมือนกับกล่อมเด็ก แต่ไม่ได้พูดอะไร

คนใจร้อนแบบนาโน ก็ทนไม่ไหว ส่งสายตาจ้องไปยังเชอร์รีน ให้เธอทำอะไรสักอย่างไม่ให้เธอร้องต่อไป

นิ้วแตะไปที่ริมฝีปาก เธอบอกกับนาโนเบาๆว่าไม่ให้เธอพูดอะไร

ในตอนนี้ ยู่ยี่ ฟังอะไรก็ไม่เข้าหูแน่ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์

ในตอนนี้สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวก็คือให้เธอระบายออกมา รอให้เธอร้องจนพอแล้ว ไม่อยากร้องแล้ว ก็จะหยุดเอง

หลังจากห้ามนาโนแล้ว เชอร์รีนก็ให้เธอไปนั่งในมุมไกลสุด และยังเอาขวดเหล้าออกจากมือเธอด้วย ทั้งสองคนก็นั่งอยู่แบบนั้น

เมื่อได้ร้อง ก็ร้องอยู่ครึ่งชั่วโมงเต็มๆ สุดท้าย ก็หยุดลง

เมื่อเงยหน้าขึ้น ตาของเธอก็บวมแดง บนแก้มล้วนอาบไปด้วยน้ำตา ดูแล้วน่าสงสารมาก

ถอนหายใจเบาๆ แล้วเธอก็เดินไป ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาบนหน้าของยู่ยี่“ไหนพูดสิ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ยู่ยี่ไม่มีใบหน้าสดใสอย่างที่เคยเป็น ดูซีดเซียวมาก สีหน้าของเธอแย่มาก

“เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น แล้วโดนฉันจับได้……”

เนื่องจากร้องมานาน เสียงของเธอแหบแห้งไม่เป็นเสียง เชอร์รีนยื่นน้ำให้เธอแล้วหนึ่ง “ยู่ยี่ เธออาจจะดูผิดไปก้ได้นะ ฉันกับหัสดินไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก แต่ที่รู้สึกได้ เขาไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นหรอกนะ แถมยัง พวกเธอก็ยังรักกันมากด้วยหนิ?”

ตั้งแต่เช้าถึงค่ำก็ตัวติดกัน หัสดินไม่เคยขัดไม่เคยห้ามอะไรหล่อนเลย เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ

“ฉันก็อยากให้ฉันดูผิดไป หรือไม่ก็ตาบอดไปเลยก็ได้ แต่ภาพที่เห็นนั้นมันหลอกไม่ได้ นอกจากนี้แล้ว เขายังยอมรับแล้วด้วย”

ยู่ยี่ส่ายหัว น้ำตาไหลลงทางแก้ม ค่อยๆไหลลงมา เข้าไปในปาก ทั้งขมขื่นและฝาด

ได้ยินแบบนั้น เชอร์รีนก็ตะลึง มีเพียงความตกใจ และความไม่น่าเชื่อ “เขายอมรับแล้ว?”

พยักหน้าทั้งน้ำตา หน้าตาของยู่ยี่ล้นเอ่อ แม้แต่หน้าของเชอร์รีนก็มองไม่ชัด กลายเป็นภาพเลือนลาง น้ำเสียงปนสำลัก คำพูดผิดเพี้ยนไป

“เขาบอกว่าเขาดื่มแล้วเมา……จากนั้นก็ขึ้นเตียงกัน……เข้าใจถูกแล้ว……เชอร์รีน……ฉันเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก เธอช่วยบอกหน่อยสิว่าฉันจะทำยังไงดี”

ยกตัวขึ้น เธอกอดยู่ยี่ไว้อย่างเจ็บปวด ลูบหลังของเธอ ให้หายใจสบายขึ้น “บอกฉันมา ว่าเธออยากจะทำยังไง?”

“ฉันไม่รู้……”ยู่ยี่บีบเสื้อที่หน้าอกแน่น ตรงนั้นเจ็บเหมือนโดนมีดกรีด “ฉันอยากจะให้อภัย……แต่ก็ไม่อาจจะก้าวผ่านอุปสรรคในใจไปได้……”

ภาพนั้น มันลอยอยู่ในหัวของฉันเสมอๆ ไม่ว่าจะพยายามลบยังไงก็ลบไม่ออก

“ฟังฉันนะ เรื่องนี้มันไม่เหมือนปัญหาเรื่องอื่น เรื่องอื่นฉันยังช่วยเธอคิดได้ แต่นี่เป็นปัญหาใหญ่ ใจของเธอทำยังไงถึงจะสบายใจ ก็ทำไปตามนั้น”

คำพูดของเชอร์รีน ช้าและเคร่งขรึม แต่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ

“หึ ทำยังไงถึงสบายใจ?ก็ต้องฆ่าไอ้หัสดินให้ตายน่ะสิ ถึงจะสบายใจ!”นาโนกัดฟันพูดอย่างเยือกเย็น

“ในเวลาแบบนี้เราพูดเรื่องจริงจังหน่อยจะได้ไหม?ไม่งั้นก็หุบปากไม่ต้องพูด โอเคมั้ย?”เธอหยุดนาโนไม่ได้เลยจริงๆ

ขวดเหล้าที่ถูกถืออยู่ในมือนาโนกวาดมือออก “ได้ได้ได้ ฉันไม่พูดอะไรแล้วโอเคแล้วใช่ไหม?”

หันหน้ากลับ แววตาของเชอร์รีนจ้องมองไปที่ยู่ยี่ “ในใจมีวิธีอะไรไหม?”

“เชอร์รีน…เธอก็รู้……ว่าฉันรักเขามาก……รักมาตลอดหกปี……ฉันยอมเสียเขาไปไม่ได้……แต่ถ้ายอมยกโทษให้……ฉันก็ลืมเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน……”

เรื่องนอกกาย สำหรับผู้หญิงแล้ว เป็นการทำร้ายที่ร้ายแรงที่สุด

เชอร์รีนก็รู้ดีอยู่กับใจ แม้ว่ายู่ยี่จะให้อภัยหัสดิน แต่ก็จะมีรอยห่างอยู่ ให้กลับไปดีกันเหมือนเมื่อก่อน คงยาก

เรื่องนี้จะกลายเป็นแผลเป็นในใจของคนทั้งสองอย่างไม่ต้องสงสัย ได้สัมผัสเมื่อไหร่ ก็จะเจ็บปวดเมื่อนั้น

อีกทั้ง ความรู้สึกที่ยู่ยี่มีต่อหัสดิน ในสายตาของเธอ ก็เพราะว่ารักอยู่ลึกสุดใจจริงๆ ถึงได้เจ็บขนาดนี้ ใจสั่น ตัดสินใจไม่ได้

“ฉันคิดว่า จะให้อภัย……เขา……”

ผ่านไปอยู่นานยู่ยี่ถึงยอมพูดออกมา เมื่อสิ้นเสียง บาดแผลและความเจ็บปวดก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย

ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ ว่าเธอรู้สึกยังไงถึงได้พูดคำนี้ออกมา มันจะต้องหนักหนา เจ็บปวดเพียงใด และจะหายใจไม่ออกขนาดไหนกัน

คำตอบนี้ จริงๆแล้วก็อยู่ในความคาดหมายของเชอร์รีนนอกจากปลอบใจแล้ว เธอก็ไม่รู้จริงๆว่าจะช่วยเธอทำอะไรได้อีก

ในอีกฝั่งหนึ่ง

ควันบุหรี่ขโมงเต็มห้องพัก กลิ่นฉุนแสบจมูก

เรียวขายาวที่ก้าวเข้าไป ออกัสต้องใช้มือโบกควันที่อยู่ตรงหน้าออก เยอะจนเขาต้องหรี่ตาลง

บนโซฟา หัสดินที่มีท่าทีอดอะไรตายอยากก็พิงอยู่บนนั้น ในมือก็คีบบุหรี่อยู่ เบื้องหน้ามีที่เขี่ยบุหรี่วางอยู่ถึงสามอัน ในนั้นล้วนใส่บุหรี่ที่สูบแล้วเต็มไปหมด

เห็นได้ชัดว่าดนัยทนกลิ่นนี้ไม่ไหวแล้ว เอามือบีบจมูก มองไปที่ออกัสพูดขึ้น “โทรหานาย ทำไมไม่มีคนรับ?”

ได้ยินแบบนั้นออกัสก็คลำไปที่กระเป๋ากางเกง เหมือนเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้ทั้งวันไม่ได้พกมือถือมา ยังอยู่ที่เดิมเมื่อคืนวาน

ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพูดเสียงขรึมว่า “ลืมพกมา เขาเป็นอะไร?”

“ก็อย่างที่นายเห็น อดอะไรตายอยาก สูบแต่บุหรี่ ฉันจะโดนรมควันตายแล้วเนี่ย แถมยังพูดว่าต่อไปนี้จะไม่ดื่มเหล้าแล้ว”

ดนัยทนสภาพนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ได้กลิ่นแต่บุหรี่ เขาได้กลิ่นจนอยากจะอ้วกอยู่แล้ว

“ถ้ารู้แบบนี้ ตอนแรกจะ……”เหลือบตาไปมองหัสดิน ออกัสพูดไปสองคำสั้นๆเข้มๆ “สมน้ำหน้า……”

จากนั้น หัสดินก็หมดสภาพมากกว่าเดิม สูบบุหรี่พลางไอไม่หยุด ใบหน้าไม่เหลือเค้าโครงอ่อนโยน มีแต่หนวดเคราที่ไม่ได้โกน