ในอาคารโรงงานที่ภายนอกดูเงียบสงบ เวลานี้กลับมีคลื่นใต้น้ำกำลังเคลื่อนไหว…ระหว่างที่แนบตัวชิดผนังและค่อยๆ เคลื่อนไหวไปข้างหน้า เหล่าผู้ควบคุมแมงมุมกำลังสำรวจหาเบาะแสที่ถูกปกปิดไว้ท่ามกลางไอหมอกมืดอย่างระมัดระวัง รอบด้านของพวกเขา ราวกับมีดวงตาหลายคู่ซุ่มซ่อนและกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ในจุดที่พวกเขามองไม่เห็น
“ทำไมยิ่งเดินลึกเข้าไป ก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีเลยล่ะ? คนพวกนั้นเป็นมนุษย์แท้ๆ แต่ทำไมฉันมักรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกสัตว์ประหลาดจ้องอยู่?” หนึ่งในกลุ่มเพิ่งจะพูดขึ้นเสียงเบา แล้วอยู่ๆ ร่างกายเขาก็พลันสั่นสะท้าน เขารีบเงยหน้าขึ้น พร้อมกับปล่อยแมงมุมตัวหนึ่งกระโดดขึ้นไปทันที
แต่ข้างหลังชั้นวางเหล็กนั้น กลับไม่มีเงาร่างใดอยู่ แมงมุมไต่ไปไต่มาอยู่บนนั้นหนึ่งรอบ และกระโดดลงมาหลังจากไม่พบอะไร หเมื่อยื่นมือไปรับแมงมุมเสร็จ ชายคนนี้ยังคงจดจ้องอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง สายตาแปรเปลี่ยนเป็นสับสนยุ่งเหยิง ถ้าหากมีใครจ้องเขาอยู่ ทำไมถึงไม่ลงมือทำร้ายเขาล่ะ…
“เกิดอะไรขึ้น?” เฮ่อเจิ้นหันกลับมาถาม
“ปะ…เปล่า…พวกเรารีบไปกันเถอะ บรรยากาศน่าอึดอัดเกินไปแล้ว ฉันก็นึกว่าอีกฝ่ายจะอดทนไม่ไหวโจมตีพวกเราทันที แต่คิดไม่ถึงว่าจะมองไม่เห็นแม้แต่เงา”
ความจริงไม่ใช่แค่เขา คนอื่นต่างก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน…ความรู้สึกที่ราวกับถูกอันตรายหมายจับจ้อง แต่กลับไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันได้โดยตรง ยิ่งทำให้รู้สึกทรมานกว่า ระหว่างที่กำลังค้นหา ความจริงพวกเขาได้เตรียมพร้อมที่จะสู้แล้ว แต่ใครจะรู้เมื่อเข้ามา อีกฝ่ายกลับหลบซ่อนไม่ยอมโผล่หัว
และเวลานี้ ในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นว่าซุนซวี่หายตัวไป
“ซุนซวี่ล่ะ? เขาใช้พวกเราเป็นก้อนหินถามทางไม่ใช่หรอ? พวกเราเปิดเส้นทางอยู่ข้างหน้า แล้วเขาหายไปไหนแล้วล่ะ?” มีคนชะงักเท้าหยุดเดิน สีหน้าตื่นตกใจ
คนที่เหลือพากันหันไปมอง หลังยืนยันว่าชายคนนั้นพูดไม่ผิด ชั่วขณะหนึ่ง คนกลุ่มนี้ต่างพร้อมใจกันนิ่งเงียบ
“นี่เขากำลัง…” ชายคนนั้นพูดขึ้นอย่างเจ็บใจ
“ยังจะต้องพูดอีกหรอ? เขากำลังใช้พวกเราเป็นเหยื่อล่อไงล่ะ!” ชายอีกคนคำรามเสียงต่ำ
ขณะสำรวจเส้นทาง ร้ายดีอย่างไรซุนซวี่ก็เดินตามอยู่ข้างหลัง แต่ตอนนี้ บทบาทของพวกเขาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว…
“เชี่ยเอ้ย!”
“ตอนนี้จะทำยังไงดี?”
“จะทำยังไงได้อีก? ชีวิตเราอยู่ในกำมือเขา ตอนนี้ถูกต้อนเข้ามาแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือเดินหน้าต่อไป ใครใช้ให้ทั้งพวกแกและฉันเลือกเดินทางนี้ตั้งแต่แรกกันล่ะ ตอนนี้ต้องมาเจอจุดจบแบบนี้ คงโทษใครไม่ได้” มีคนพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
เฮ่อเจิ้นถอนหายใจ “ก้อนหินถามทางก็ดี เหยื่อล่อก็ดี ขอเพียงพวกเรายืนหยัดไว้ ยังไงก็ต้องมีโอกาสรอดแน่นอน”
“แต่ไม่รู้ว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ ไม่ยอมโผล่หัวออกมาซักที…ถึงยังไงพวกมันก็อยู่ในที่มืด ซ้ำยังมีปืนอีก ทำไมถึงได้เงียบผิดปกติแบบนี้?” ร่างปรสิตคนหนึ่งพูดอย่างสงสัย “หรือว่า พวกมันคิดจะล่อพวกเราให้เข้ามาก่อน จากนั้นก็ค่อยแอบย่องออกไป? ทำอย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์หรือเปล่า…”
น่าเสียดายที่ความสงสัยของเขา ไม่มีใครสามารถให้ความกระจ่างได้…
หลังจากที่คนกลุ่มนี้แนบตัวชิดผนังเดินหน้าไปได้ระยะหนึ่ง ณ จุดที่พวกเขาเคยเดินผ่าน พลันมีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา เงาร่างนั้นยืนอยู่บนเครื่องจักรตัวหนึ่ง กำลังจ้องมองเหล่าร่างปรสิตผ่านช่องว่าง ทันใดนั้น แมงมุมตัวหนึ่งพลันห้อยตัวลงมาข้างหลังเงาร่างนั้น…แมงมุมตัวนี้ห้อยตัวอยู่กลางอากาศอย่างเงียบงัน ขนาดตัวของมันเท่ากำปั้นเล็กๆ ทั่วทั้งตัวเป็นสีแดงสดงามสะดุดตา แต่ในเสี้ยววินาทีที่แมงมุมเคลื่อนเข้าใกล้หัวไหล่ เงาร่างกลับหมุนตัวหันมาทันควัน…
ซย่าน่าจ้องเขม็งไปข้างหน้า และกวาดตามองจากข้างซ้ายไปข้างขวาหนึ่งรอบ…ไม่มีคน ไม่มีอะไรเลย
“รู้สึกไปเองงั้นหรอ?” ซย่าน่าพึมพำกับตัวเอง ไม่นานก็โน้มตัวไปข้างหน้า กระโดดขึ้นไปยืนบนเครื่องจักรซึ่งอยู่ไม่ไกลตัวหนึ่ง จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนเครื่องจักรที่สูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง…
หลังจากที่ซย่าน่าจากไป แมงมุมตัวนั้นค่อยๆ ห้อยตัวลงมาอีกครั้ง เมื่อหมุนตัวกลางอากาศหนึ่งรอบ ก็มองไปยังทิศทางที่ซย่าน่าจากไป…
“การตอบสนองเร็วมาก อีกทั้งการสัมผัสรู้ก็ว่องไวเช่นกัน เมื่อกี้ถึงขั้นรู้สึกว่าเธอมองเห็นฉันแล้ว…แต่ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ขอเพียงรู้ว่าพวกมันเป็นใคร ก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นเอง…”
หลังจากกระโดดอย่างต่อเนื่องสิบกว่าเมตร ซย่าน่าก็หยุดยืนบนเครื่องจักรตัวหนึ่งอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ร่างดวงจิตน่าน่าที่ปราฏตัวอยู่ด้านหลังก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว กลับมารวมอยู่ในร่างซย่าน่า ซย่าน่าหลับตาลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลืมตา ไม่นาน ริมฝีปากของเธอก็ขยับไปมาอย่างไร้เสียง พร้อมกันนั้น เสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นในสมองของหลิงม่อ “มันอยู่ทางนี้ แต่ว่าไม่ติดกับ อาจเพราะสัมผัสได้ถึงน่าน่า แต่ฉันเห็นสัตว์เลี้ยงของมันแล้ว เป็นแมงมุมสีแดงเลือดตัวหนึ่ง ดูแล้วน่าจะมีพิษ อีกอย่างสัตว์เลี้ยงแบบนี้ เขาไม่น่าจะมีอยู่แค่ตัวเดียว ดังนั้นบอกพวกอวี่เหวินซวนด้วย ระวังอย่าถูกแมงมุมของหมอนี่หาเจอเด็ดขาด”
“วางใจเถอะ พวกเขาซ่อนตัวอย่างดีแล้ว”
“แต่พวกเย่ไคกำลังโกรธแค้นมากไม่ใช่หรอ? ไม่คิดจริงๆ ว่าพวกเขาจะอดทนได้เก่งขนาดนี้…พี่หลิงนี่ฝึกคนเก่งจริงๆ เลยนะ ดูเหมือนพี่คงจะไม่พึงพอใจกับการฝึกซอมบี้อย่างเดียวอีกต่อไปแล้วสินะ?”
“นี่ ก่อนแยกกันเธอขู่พวกเขาด้วยการบอกว่า ‘ต่อไปถึงเวลาของพวกนายแล้ว’ ไม่ใช่หรอ?…นี่เธอสมองปลาทองหรือไง!” หลิงม่อเคือง
“อ้อ…จะว่าฉันว่าความจำสั้นแค่เจ็ดวิฯ งั้นหรอ? เรื่องนี้น่ะ นักวิทยาศาสตร์เขาวิจัยกันนานแล้ว ความจริงแล้วปลาทองไม่ได้ความจำสั้นแค่เจ็ดวิ…ระวัง หมอนั่นหายไปแล้ว กลิ่นอายที่ฉันเพิ่งจำไว้เมื่อกี้หายไปแล้ว มันน่าจะกำลังตามหาตำแหน่งและจำนวนคนของพวกเรา ดูท่า มันคงคิดจะจัดการพวกเราทั้งหมดด้วยตัวเองจริงๆ” พูดจบ ซย่าน่าก็หันไปมองเหล่าร่างปรสิตที่ยังคงค้นหากันต่อไป พวกเขายังคงตื่นตระหนก แต่สีหน้ากลับแสดงออกถึงความระแวดระวัง
“โจมตีพวกมันเลยดีไหม?” ซย่าน่าถาม
“อย่าลืมสิ พวกมันเป็นมนุษย์ระเบิดนะ เดี๋ยวฉันจะหาทางพิสูจน์เอง หมอนั่นเห็นเธอแล้ว เธออย่าเพิ่งลงมือ” หลิงม่อปฏิเสธ
“ก็จริง…งั้นเรื่องปลาทองฉันค่อยคุยกับพี่ทีหลังแล้วกัน”
“…ฉันลืมไปแล้วเถอะ” หลิงม่อพูดอย่างเอือมระอา
หลังจาก “ตัดสาย” สายตาหลิงม่อฉายแววสับสน “แกกำลังตามหาเป้าหมายจริงๆ หรอ? ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะทดสอบแกอย่างดีเอง”
ขณะที่เหล่าร่างปรสิตเดินมาจนถึงส่วนใจกลางของอาคารโรงงาน บริเวณใกล้เคียงพลันมีเสียง “เคร้ง” ดังขึ้น พร้อมกันนั้นพวกเขาเห็นไฟฉายกระบอกหนึ่งตกกระแทกพื้น
คนกลุ่มนี้สะดุ้งตกใจ พวกเขาถอยหลังแนบชิดผนังแทบจะในทันที ขณะเดียวกันก็มีแมงมุมมากมายไต่ยั้วเยี้ยอยู่เต็มพื้นด้านหน้าพวกเขา ขอบตาของชายคนหนึ่งในกลุ่มกระทั่งเริ่มเคลื่อนขยับ ราวกับพร้อมโจมตีทุกเมื่อ
ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งพลันดังมาจากบนหัวพวกเขาอีกครั้ง หนึ่งในนั้นเงยหน้าขึ้นไปตามเสียง เหลือบเห็นเงาร่างที่โฉบผ่านหายไปอย่างรวดเร็ว
“มาแล้ว!”
ทุกคนยืนเกร็งตั้งสติแน่วแน่ทันที ไม่รอให้พวกเขาละสายตาออกจากหลังคา เสียงบางสิ่งกระทบพื้นพลันดังมาจากด้านหน้าพวกเขา
ท่ามกลางเครื่องจักรกองพะเนิน เงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดช้าๆ…เงาร่างนั้นเล็กกระจิดริด กระทั่งเมื่อเธอโผล่หน้าออกมา คนกลุ่มนี้จึงเพิ่งค้นพบว่านี่กลับเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 11 – 12 ขวบเท่านั้น แถมเสี้ยววินาทีที่เธอโผล่หน้าออกมา เธอยังส่งยิ้มให้พวกเขาอีกด้วย…เพียงแต่ในสถานการณ์อย่างนี้ รอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้กลับดูประหลาดขึ้นทันตา พวกเขากระทั่งเสียวสันหลังวาบ
“โจมตี! โจมตี!” ร่างปรสิตคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
แมงมุมส่วนหนึ่งพลันกระโดดขึ้นกลางอากาศ พุ่งตัวไปทางเด็กสาวตัวน้อยอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากที่ส่งยิ้มให้พวกเขา เด็กสาวตัวน้อยก็ก้าวถอยเข้าไปในความมืดช้าๆ และหายตัวไป
และเมื่อแมงมุมพวกนั้นเข้าไปในความมืด ถึงแม้มีเสียง “สวบสาบๆ” ดังออกมาเป็นระยะ แต่กลับไม่มีตัวใดย้อนกลับมาอีก…
ตอนนั้นเอง มีคนพลันค้นพบว่า ที่แท้ตรงนั้น ไม่ได้มีเพียงเงาร่างของเด็กสาวตัวน้อยเพียงคนเดียว! หลังจากจัดการแมงมุมเสร็จ เงาร่างกลุ่มนั้นก็แยกย้ายกันเคลื่อนไหว ราวกับต้องการล้อมพวกเขาเอาไว้
“พี่หลิง ไม่เห็นเลย…” เสียงของเย่เลี่ยนดังมา เธอยืนอยู่บนคานเหนืออากาศ กวาดมองซ้ายขวาเพื่อสำรวจรอบๆ
หลิงม่อขมวดคิ้ว “ยังไม่ยอมลงมืออีก?” ทว่าไม่นาน เขาก็กระจ่างขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้น เป้าหมายหลักคงเป็นฉันสินะ? ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันจะรอดูว่าแกคิดทำอะไรอยู่กันแน่…”
ระหว่างที่พูด เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหลิงม่อ พลันพองตัวอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางความมืด ดวงตาคู่หนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นคมปลาบ จดจ้องไปยังทิศที่หลิงม่อยืนอยู่ “ในที่สุดก็ออกมาแล้ว!”