ความเร็วที่เชียนอ้าวเซี่ยวิ่งพรวดพราดเข้ามานั้น ก็เพื่อที่จะฉวยโอกาสกอดมู่เฉียนซี ทว่าคนเช่นเขารึจะได้กอดนาง ฝันไปเถอะ!
มู่เฉียนซีเหลือบมองใบหน้าแดงก่ำของเชียนอ้าวเซี่ย “คนของหุบเขาหมอเทวดามาเซี่ยโจวแล้วรึ ?”
เชียนอ้าวเซี่ย “คนของหุบเขาหมอเทวดามาถึงเซี่ยโจวแล้ว แต่หลังจากมาถึงก็อยู่ในแคว้นซูรื่อไม่ไปไหน พวกเขาเอาแต่เดินไปเดินมาแถบทะเล เกรงว่ากำลังหาอะไรบางอย่างอยู่”
ประกายแสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี นางคิดในใจ ‘หรือว่าพวกนั้นดูแผนที่จากม้วนไม้ไผ่โบราณม้วนที่สาม และเจอที่ตั้งโดยสังเขปของหม้อเทพนิรันดร์แล้ว ?’
“ข้าต้องเตรียมตัวไปแคว้นซูรื่อแล้ว” สำหรับเรื่องการทะลวงพลังวิญญาณขั้นราชาแห่งภูตนั้น คงต้องเอาไว้ภายหลัง
“เสี่ยวซีซี ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวขึ้น
“คนพวกนั้นมียอดฝีมือจักรพรรดิ อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือจักรพรรดิระดับเก้า เจ้าจะไปเป็นเป้าให้พวกนั้นฆ่าตายรึ ?”
“ข้า…”
“ข้าต่อชีวิตให้เจ้าสามปี ดังนั้นเจ้าต้องใช้ชีวิตสามปีที่เหลืออย่างสงบสุขคุ้มค่า ข้าสูญเสียพลังไปมากเพื่อต่อชีวิตให้กับเจ้า เจ้าไม่เชื่อหรือว่าข้าจะปกป้องดูแลตัวเองได้ ?”
เชียนอ้าวเซี่ยรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ “เสี่ยวซีซี เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ ?”
“จะอะไรก็เถอะ เจ้าห้ามลอบตามข้ามาเด็ดขาด หากข้าจับได้ ข้าจะวางยาเจ้าให้หลับใหลไปทั้งเดือน” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
“หลับใหลทั้งเดือน!” เสี่ยวหงพึมพำกับตัวมันเอง เห็นได้ชัดว่ามันกำลังอิจฉาเจ้าเชียนอ้าวเซี่ยผู้นี้อยู่
ทว่าสำหรับเชียนอ้าวเซี่ย ความรู้สึกเช่นนั้นน่ากลัวยิ่งนัก หากหลับใหลไปหนึ่งเดือนโดยไม่ได้เจอหน้ามู่เฉียนซีเลย เขารู้สึกว่าจุดจบกำลังจะมาถึงตัวเขาเอง
“อ๊าก! เสี่ยวซีซี เหตุใดถึงได้จะทำกับข้าเช่นนี้ ?”
มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก “ต้องการให้ข้าฉีดยาให้เจ้าตอนนี้เลยหรือไม่ล่ะ ?! ถ้าไม่ เจ้าก็หยุดโวยวายซะ”
เชียนอ้าวเซี่ยใจสั่นเล็กน้อย “ไม่! เสี่ยวซีซีข้าไม่ตามเจ้าไปแน่นอน ข้าเพียงแต่ตามข่าวเรื่องเจ้าไม่ให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายและเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด ข้าจะทำเพียงเท่านั้น”
“อืม เชื่อฟังก็ดีแล้ว”
“หากเสี่ยวซีซีชอบให้ข้าเชื่อฟัง ต่อไปข้าจะเชื่อฟังและจะเป็นคู่ครองที่ดีให้กับเจ้าในอนาคต”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “แล้วหากข้าบอกให้เจ้าอยู่ห่าง ๆ ข้าหน่อย เจ้าจะเชื่อฟังข้าหรือไม่ล่ะ ?”
เชียนอ้าวเซี่ยได้ยินเช่นนี้ถึงกับยิ้มไม่ออก “เรื่องอื่นพอได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เสี่ยวซีซีข้าขอไว้สักเรื่องเถอะนะ”
จากนั้นเชียนอ้าวเซี่ยก็ตามไปส่งมู่เฉียนซีเดินทาง เมื่อเห็นมู่เฉียนซีนั่งสัตว์วิญญาณบินจากไป ในใจของเขาก็แทบจะบินตามนางไปด้วย เขาเป็นห่วงนางจากใจจริง
ทันใดนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งคุกเข่าลงด้านหลังเชียนอ้าวเซี่ย “คุณชายขอรับ คุณชายมาที่นี่สักระยะแล้ว ควรกลับได้แล้วนะขอรับ”
“ไม่กลับ! อย่างไรข้าก็ไม่กลับ!”
“คุณชาย นี่ไม่ใช่เวลาที่คุณชายจะใช้อารมณ์นะขอรับ”
องครักษ์ของเขาทำอะไรไม่ถูก
“ข้าไม่กลับ! ข้าจะรอเสี่ยวซีซีกลับมา”
“แคว้นอิ๋นเหยียนไม่ใช่บ้านเกิดของแม่นางมู่ ถึงอย่างไรนางก็ไม่กลับมาหรอกขอรับคุณชาย”
เชียนอ้าวเซี่ยบ่นพึมพำ “แล้วบ้านเกิดของเสี่ยวซีซีอยู่ที่ไหนกัน ?”
ทางตะวันออกและทางตอนกลางของเซี่ยโจวไม่มีทางที่หอเชียนอินจะไม่รู้ข้อมูล แต่เขากลับไม่รู้ถึงความเป็นมาที่แน่ชัดของมู่เฉียนซีเลย มีเพียงสองเหตุผลเท่านั้น หนึ่งคือนางไม่ใช่คนในเซี่ยโจว สองคือบ้านเกิดของนางอยู่ในทางตะวันตกของเซี่ยโจว
เชียนอ้าวเซี่ยรู้สึกกระวนกระวายใจ ใคร่จะรู้ข้อมูลของมู่เฉียนซีทั้งหมด รวมถึงข้อมูลของบุรุษผู้ซึ่งเป็นศัตรูหัวใจของเขาด้วย
“เฮ้อ! แต่หากเสี่ยวซีซีรู้เข้าว่าข้าลอบไปสืบข้อมูลของนาง นางต้องตัดสัมพันธ์กับข้าเป็นแน่ สู้ไปถามเรื่องเหล่านี้กับน่าหลานอวี้ดีกว่า” เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย
มู่เฉียนซีใช้ความเร็วอย่างเร็วที่สุดมาถึงทางตะวันออกของเมืองหลวงในแคว้นซูรื่อ แคว้นซูรื่อเป็นแคว้นที่อยู่ทางตะวันออกสุดของแผ่นดินเซี่ยโจว ดินแดนแห่งนี้ติดกับทะเลกว้างใหญ่อันไร้ขอบเขต หากคิดจะออกจากเซี่ยโจวก็ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลอันกว้างใหญ่นี้ไป เนื่องจากมีทะเลอันกว้างใหญ่นี้กั้นอยู่ คนจากสถานที่อื่น ๆ ที่เดินทางมาในเซี่ยโจวจึงมีน้อยมาก
หากคนของหุบเขาหมอเทวดาไม่ค้นพบว่าที่เซี่ยโจวมีหม้อเทพนิรันดร์อยู่ เกรงว่าคงจะไม่มีใครเดินทางมาเซี่ยโจว ดินแดนที่ห่างไกลแห่งนี้อย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีหันมองไปทางตะวันออก นางกล่าวพลางทอดถอนใจ “ท่านพ่อ… แผ่นดินเซี่ยโจวที่ท่านพ่อเลือกเป็นสถานที่ที่สามารถใช้หลบซ่อนตัวได้ดีที่สุด แต่ท่านพ่อคงจะคิดไม่ถึงว่าแผ่นดินที่ห่างไกลนี้ ไม่เพียงแต่จะมีศาลาเรือนรางเก้าชั้นสถิตอยู่ แม้แต่หม้อเทพนิรันดร์ก็ยังปรากฏอยู่ในแผ่นดินแห่งนี้ด้วย แผ่นดินนี้ที่ท่านพ่อเลือกก็เพื่อที่จะให้พวกเราอยู่กันอย่างปลอดภัย แต่ในเมื่อข้ามาในที่นี้แล้ว ข้าไม่ยอมให้ชื่อเสียงของตระกูลมู่ซุ่มเงียบเช่นนี้แน่ เมื่อถึงวันที่ตระกูลมู่มีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ และท่านอาเล็กก็คงจะเข้าใจ”
เวลานี้ในตระกูลเหลือเพียงแค่นางกับท่านอาเล็กสองคนเท่านั้น นางรู้สึกได้ว่าท่านอาเล็กยังคงเป็นห่วงพวกเขา คำนึงถึงและอาลัยอาวรณ์พวกเขาอยู่ ท่านอาเล็กเพียงแค่เก็บซ่อนความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้คนเดียว ไม่แสดงออกให้นางเห็นก็เท่านั้น
หากร่างกายของท่านอาเล็กของนางไม่โดนพิษนั่น หากไม่ใช่เพราะพวกคนเลวทรามต่ำช้า ตอนนี้ท่านอาเล็กก็คงจะสุขสบายดี นอกจากท่านอาเล็กแล้ว นางไม่เคยเห็นญาติคนอื่น ๆ เลย แต่ด้วยสายเลือดของตระกูลมู่ นางต้องตามหาพวกเขาให้พบให้ได้
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังยืนใจลอยอยู่นั้น ร่างร่างหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังนางก็คว้านางมากอดไว้
“ซีคิดอะไรอยู่หรือ ?”
มู่เฉียนซีไม่แปลกใจ ระยะหลัง ๆ จิ่วเยี่ยมักจะปรากฏกายอย่างไร้ที่มาที่ไปเสมอ นางเอนซบจิ่วเยี่ยด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย
“ข้ากำลังคิดถึงญาติ ๆ ของข้า”
“มีข้าอยู่ทั้งคน เจ้าต้องตามหาพวกเขาเจอแน่นอน” จิ่วเยี่ยกล่าวเสียงขรึม
“อืม จิ่วเยี่ยเจ้าทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว นี่ถือเป็นการจ่ายค่ารักษาหรือไม่ ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ข้าไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียวเช่นนั้น รอเจ้ารักษาข้าหายเมื่อไหร่ ข้าตอบแทนเจ้าอีกครั้งอย่างแน่นอน”
“ข้ากลัวว่ากว่าจะถึงวันนั้น คำสาปของเจ้าคงจะกำเริบแล้วทำให้ข้าทรมานจนตายไปเสียก่อน”
“ข้าอดทนมานานมากก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ดังนั้นซีก็ต้องอดทนได้แน่นอน”
มู่เฉียนซียืดแขนบิดขี้เกียจ “เฮ้อ… เอาเถอะ เวลานี้ข้าอยากจะนอนพักสักหน่อย”
“เดี๋ยวค่อยนอน” กล่าวจบจิ่วเยี่ยก็ลากนางไปทันที เขาบอกว่าอีกสักประเดี๋ยวนางค่อยนอนพัก ทว่าตะวันเริ่มคล้อยลงแล้ว นางก็ยังไม่ได้นอนเสียที
“จิ่วเยี่ยเจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ข้าเกรงว่าข้าคงไม่ได้นอนเป็นแน่ เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร ข้าฉีดยาระงับให้เจ้าสักสองสามเข็มดีหรือไม่ ?”
จิ่วเยี่ยกล่าวเสียงขรึม “อาการไม่ได้รุนแรงเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องฉีด”
“แต่ข้าว่ามันรุนแรง อีกอย่างข้าเป็นหมอยา เจ้าต้องเชื่อข้าสิ”
“หากซีฉีด ข้าจะเพิ่มหนี้อีกสิบเท่า”
“สิบเท่า…” มู่เฉียนซีพยายามพ่นคำพูดสองคำนี้ออกมา แต่สุดท้ายนางก็ต้องยอมจำนน “เช่นนั้นก็ช่างเถอะ”
นางจ้องใบหน้าจิ่วเยี่ยเขม็งก่อนจะกล่าวเสียงแข็ง “แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน หากเจ้ารู้สึกว่าควบคุมไม่ไหวจริง ๆ ข้าจะลงมือทันที”
“ซีจะขัดขืนข้าหรือ ?” ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกคู่นั้นจ้องมองมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีตกตะลึง “มีเพียงชายหญิงที่มีความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักเท่านั้นที่จะทำเรื่องลึกซึ้งเช่นนี้ได้ แต่ข้ากับเจ้า จิ่วเยี่ย…”
“อ๊ะ! อื้อ…”
จิ่วเยี่ยใช้ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากของนางอย่างบ้าคลั่งเพื่อปิดกั้นคำกล่าวที่โหดร้ายของนาง
เขาคลั่งขึ้นมาอีกแล้ว จิ่วเยี่ยเวลานี้ต้องโกรธมากเป็นแน่!
มู่เฉียนซีหายใจด้วยความยากลำบาก “จิ่วเยี่ย เฮือกกก! เจ้าบ้าไปแล้ว”
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “อืม ข้าบ้าไปแล้ว”
สตรีไร้หัวใจผู้นี้ทำให้เขาไม่เป็นตัวเองเลย เขาในตอนนี้บ้าเสียยิ่งกว่าบ้า คลั่งเสี่ยยิ่งกว่าผู้ที่โดนคำสาปคนอื่น ๆ หลายต่อหลายเท่า
“ไหนให้ข้าดูสักหน่อยว่าตรงไหนของเจ้าที่มีปัญหา” มู่เฉียนซีขมวดคิ้วพลางกล่าว
เวลานี้จิ่วเยี่ยมีใจคิดที่จะฆ่านางแล้ว นางคิดว่าทำร้ายจิตใจเขาแล้วจะรักษาเขาได้ง่าย ๆ เช่นนั้นรึ ?
.
.
.