ตอนที่ 1430 นี่คือขั้นแรก (1)
ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองชิงเฟิงยังคงมืดและอับทึบ ผู้สูงอายุและเด็กต่างนอนขดตัวกอดเข่าอยู่บนเตียงส่วนกลางขนาดใหญ่ที่เปียกชื้น
มันเป็นช่วงกลางฤดูร้อนที่แสงแดดแผดจ้า ประตูห้องถูกแง้มเอาไว้ ลมที่พัดเข้ามาจากด้านนอกได้พาเอาคลื่นความร้อนเข้ามาในห้องที่แออัด ทำให้ทั้งห้องเป็นเหมือนเตาอบ ร้อนจนทนไม่ไหว ภายใต้ความร้อนระอุนี้ เด็กจำนวนมากต้องทรมานจากโรคลมแดด และผู้หญิงที่ไม่มีใครให้พึ่งพิงก็ทำได้แค่ใช้น้ำเพื่อลดอุณหภูมิของเด็กๆ
ทันใดนั้น ใครบางคนก็ตีฆ้องเสียงดังอยู่นอกค่ายผู้ลี้ภัย เสียงนั้นดังเข้าไปในค่ายผู้ลี้ภัยที่เงียบสงัด ผู้ลี้ภัยที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องต่างๆเริ่มเดินออกมาด้วยความสงสัย และเห็นว่าบนถนนแคบๆด้านหน้า มีประกาศแผ่นหนึ่งแปะเอาไว้บนกำแพง ชายคนหนึ่งกำลังตีฆ้องสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง เรียกให้ทุกคนออกมาดู
สิ่งที่เขียนอยู่บนประกาศ และกำลังถูกประกาศเสียงดังโดยชายคนนั้นเพื่อให้ทุกคนในค่ายรับรู้ถึงข่าวที่น่าประหลาดใจ!
ไม่รู้ว่าคนใจดีที่ไหนจัดที่ดินผืนใหญ่ทางเหนือของเมืองให้พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ และที่น่าตกใจขึ้นไปอีกก็คือไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ แถมมีอาหาร 3 มื้อต่อวัน เรียกว่ากินฟรีอยู่ฟรี!
ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ในค่ายผู้ลี้ภัยก็ปั่นป่วนขึ้นมาทันที หลายคนยังสงสัยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มันยากที่พวกเขาจะเชื่อว่ามีคนที่ทำเรื่องอย่างการจัดหาที่พักและอาหาร 3 มื้อต่อวันให้พวกเขาโดยไม่หวังอะไรตอบแทนจริงๆ
บางคนยังมีท่าทางระแวงสงสัย คิดว่ามีแรงจูงใจอื่นซ่อนอยู่เบื้องหลัง และปฏิเสธที่จะย้ายออกจากค่ายผู้ลี้ภัย
เป็นพวกผู้หญิงที่มีลูกเล็กๆที่ย้ายออกไป ไม่ใช่เพราะพวกนางใสซื่อไร้เดียงสา แต่เป็นเพราะลูกๆของพวกนางจะไม่รอดในฤดูร้อนนี้ ถ้ายังอยู่ในห้องมืดอับทึบที่ร้อนเหมือนเตาอบ จนพวกเด็กๆไม่สามารถพักผ่อนได้เลย พวกนางจึงตัดสินใจว่าไม่สามารถอยู่ในสถานที่นั้นได้อีกต่อไปแล้ว
ผู้หญิงพวกนั้นอุ้มลูกมุ่งหน้าไปที่ทางเหนือของเมืองด้วยท่าทางมุ่งมั่นที่จะลองดู ที่นั่นพวกนางเห็นหอพักแปลกๆจำนวนมาก คนที่ดูแลหอพักได้พาพวกนางเข้าไปข้างในและจัดห้องให้อยู่ทันที
เมื่อเห็นห้องที่สะอาดสะอ้านเรียบร้อย และท้องฟ้าสีครามก้อนเมฆสีขาวที่นอกหน้าต่าง ผู้หญิงพวกนั้นก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ก่อนพวกนางจะมา พวกนางมีเพียงความอับจนหนทาง หาทางออกอื่นไม่เจอ และไม่ได้คาดหวังว่าที่นี่จะดีกว่าค่ายผู้ลี้ภัยมากมายอะไรนัก แต่เมื่อได้มาที่นี่เข้าจริงๆ พวกนางก็ได้รู้ว่าความจริงนั้นสิ่งต่างๆที่นี่ดีกว่าที่พวกนางคิดเอาไว้มาก!
ก่อนที่พวกนางจะได้สติจากความดีใจและประหลาดใจ อาหารร้อนๆก็ถูกนำเข้ามาในห้องของพวกนาง เมื่อกลิ่นหอมของอาหารโชยไปในอากาศ ผู้หญิงพวกนั้นก็เริ่มร้องไห้ด้วยความดีใจ!
ค่ายผู้ลี้ภัยคึกคักวุ่นวายขึ้นมาแล้ว!
นับตั้งแต่ผู้หญิงกลุ่มแรกไปที่หอพักทางเหนือของเมืองและกลับมาที่ค่ายด้วยดวงตาแดงก่ำ ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทุกซอกมุมของค่ายผู้ลี้ภัยอย่างรวดเร็วเหมือนไฟป่า ผู้คนจำนวนมากพากันเก็บข้าวของของตัวเองและรวมกลุ่มกันไปที่ทางเหนือของเมือง พวกเขาอยากรู้จริงๆว่าที่นั่นจะยอดเยี่ยมอย่างที่ผู้หญิงพวกนั้นพูดเอาไว้รึเปล่า
และทุกคนที่มาถึงหอพักทางเหนือของเมือง ก็ไม่เคยกลับไปพักที่ค่ายผู้ลี้ภัยอีกแม้แต่วันเดียว พวกเขาแค่กระจายข่าวด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็วิ่งออกไปเพื่อบอกผู้ลี้ภัยให้มากขึ้นในเรื่องที่ว่าที่พักทางเหนือของเมืองยอดเยี่ยมแค่ไหน……
จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างหน้าต่างของห้องพักเล็กๆที่ชั้นสอง มองดูผู้ลี้ภัยที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม
ห้องพักนี้เป็นห้องที่นางเตรียมไว้สำหรับตัวเอง การออกแบบภายในจึงแตกต่างจากห้องอื่นๆในหอพัก นี่เป็นที่พักชั่วคราวของนางในเมืองชิงเฟิงนี่