ตอนที่ 289 ทำไมถึงไม่ใส่ปุ๋ยเคมีแล้วล่ะ
ตอนที่ 289 ทำไมถึงไม่ใส่ปุ๋ยเคมีแล้วล่ะ
“ภรรยา คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมจะไปที่อื่นเพื่อไปขอหมากับแมวมาเพิ่ม” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เย่ฉูฉู่รู้สึกพึงพอใจขึ้นมา เสี่ยวไป๋และเสี่ยวหลีไม่ได้หวาดกลัวคนแล้ว พวกมันมาถูไถออดอ้อนที่มือของเย่ฉูฉู่ ทั้งยังกลิ้งไปมาด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ท่าทางคล้ายกับเด็ก
จ้าวเหวินเทาเห็นก็รู้สึกเอ็นดูมาก เขายื่นมือออกไปลูบสองครั้ง แต่เมื่อลูบ ลูกแมวทั้งสองก็ต่อต้านด้วยการกัดเขาไปสองที
เย่ฉูฉู่เห็นก็หัวเราะร่าออกมา
เสี่ยวไป๋หยางเห็นแม่หัวเราะ เขาก็หัวเราะตามไปด้วย
“เจ้าเด็กบ้า เห็นพ่อเป็นตัวตลกไปได้! ดูสิว่าพ่อจะจัดการลูกยังไง!” จ้าวเหวินเทาเข้าไปจับเสี่ยวไป๋หยางให้นอนลง จากนั้นก็ลงมือจั๊กจี้
เสี่ยวไป๋หยางถึงกับหัวเราะลั่น
“พอได้แล้ว เดี๋ยวลูกก็หัวเราะจนเพี้ยนหรอก!” เย่ฉูฉู่เห็นจ้าวเหวินเทายังไม่ยอมหยุดจึงรีบดึงมือออก
จ้าวเหวินเทาจึงยอมปล่อยมือจากเสี่ยวไป๋หยาง จากนั้นก็หันมากดภรรยาลงบนเตียง พูดเคล้ารอยยิ้มว่า “งั้นผมจัดการคุณก็แล้วกัน!”
เย่ฉูฉู่ก็กลัวจั๊กจี้เหมือนกัน เธอถลึงตาใส่เขาปราดหนึ่งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเพราะถูกจั๊กจี้
เสี่ยวไป๋หยางเห็นแม่ของตัวเองถูกจัดการ ก็โบกมือแกว่งเท้าด้วยรอยยิ้ม
ลูกลิงเห็นก็ส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ มันรู้สึกร้อนใจมาก เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนกำลังทำอะไร ทะเลาะกันเหรอ? แต่ก็ไม่ใช่ ท้ายที่สุดมันจึงกระโดดขึ้นไปบนตัวของจ้าวเหวินเทา และกระโดดโหยงเหยงอยู่พักใหญ่
“ไอ้ลิงบ้าลงไปเดี๋ยวนี้นะ!” จ้าวเหวินเทาโกรธมาก เขากำลังหยอกล้อกับภรรยาอยู่ดี ๆ ลูกลิงจะเข้ามายุ่งเพื่ออะไรเนี่ย!
ชีวิตประจำวันแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
จ้าวเหวินเทาฟังคำแนะนำของลุงจ้าวและคุณพ่อจ้าว จึงไปซื้อมูลสุกรจากหมู่บ้านไท่ผิงมาใช้กับทุ่งข้าวสาลีหลายคันรถ
“พี่หก ทำไมพี่ถึงใช้ขี้หมูล่ะ ไม่ใช่ว่าต้องใช้ปุ๋ยเคมีเหรอ?” ชุยเอ้อราดมูลลงบนคันนาไปพลางเอ่ยถามไปพลาง
“ได้ยินมาว่าของพวกนี้ถ้าใช้มากไป ผลผลิตที่งอกงามออกมาจะไม่ดีกับมนุษย์ ก็เลยไม่ได้ใช้ อีกอย่างพวกเราก็ปลูกไว้กินเองด้วย”
จ้าวเหวินเทามองรวงข้าวสาลี ดูแน่นดี แม้ว่าจะไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีแต่ก็เติบโตได้อย่างดีเยี่ยม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งปลูกหรือเปล่า
“แต่ใส่ปุ๋ยเคมีแล้วได้ผลผลิตเยอะนะ ปีที่แล้วพี่ก็ใส่ปุ๋ยเคมี ข้าวโพดหนึ่งหมู่เก็บออกมาได้ตั้งหลายพันชั่ง ขายออกไปได้ไม่น้อยเลย!” ชุยเอ้อยังไม่เข้าใจ
“ก็ใช่น่ะสิ แต่ร่างกายแข็งแรงสำคัญกว่า ถ้ากินเข้าไปแล้วป่วยขึ้นมา คงได้ไม่คุ้มเสีย”
ชุยเอ้อยิ้ม “พี่หก ทำไมพี่คิดแบบนี้ล่ะ ผมได้ยินมาว่าตอนนี้ทุกคนต่างก็ใส่ปุ๋ยเคมีกันทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ราชการในชนบทต่างก็สนับสนุนให้ทุกคนใส่ปุ๋ยเคมีกันทั้งนั้น!”
จ้าวเหวินเทาออกไปทำงานข้างนอกและใช้ปุ๋ยเคมีด้วยย่อมทราบเรื่องนี้ดี เขาเองก็แอบลังเลอยู่เหมือนกัน จึงโทรศัพท์ไปถามเย่หมิงเป่ยเรื่องนี้ เพราะอีกฝ่ายอยู่ปักกิ่งมีความรู้เยอะ เขาโทรไปสอบถามว่าการใส่ปุ๋ยเคมีสรุปแล้วดีหรือไม่ เย่หมิงเป่ยก็ไม่ค่อยแน่ใจจึงไปถามโจวหมิ่น โจวหมิ่นย่อมทราบดีเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการใส่ปุ๋ยเคมี หล่อนอธิบายให้จ้าวเหวินเทาฟังอย่างละเอียด จ้าวเหวินเทาลองชั่งน้ำหนักดูแล้วก็ล้มเลิกความคิดนี้ ของแบบนี้ไม่สามารถมองเห็นข้อเสียได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อเวลานานวันเข้าก็จะเผยออกมาให้เห็น ถึงเวลานั้นก็สายเกินแก้เสียแล้ว
“อยากใส่ก็ใส่เถอะ ที่ดินของตัวเองนายมีสิทธิ์ตัดสินใจ”
จ้าวเหวินเทาไม่ชอบสนใจเรื่องชาวบ้าน ถึงอย่างไรเรื่องของชาวบ้านแบบนี้ก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้ ผิดด้วยเหรอที่ชาวนาอยากได้ผลผลิตทางการเกษตรมาก ๆ? ใส่ปุ๋ยเคมีเยอะเพื่อให้เก็บเกี่ยวได้เยอะ ๆ ผิดด้วยเหรอ? ถ้าเช่นนั้นยังมีอะไรต้องพูดอีก ดูแลของตัวเองก็พอแล้ว!
ชุยเอ้อไม่เข้าใจ “สรุปว่าจะใส่หรือไม่ใส่ล่ะ?”
จ้าวเหวินเทามีความสุข “นายอยากใส่ก็ใส่ ไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่”
ชุยเอ้อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้นอีกว่า “พี่หก ขี้หมูนี้พี่ไปขอจากคนอื่นมาใช่ไหม?”
“ไปขอคนอื่นอะไร นี่ฉันไปซื้อมาจากหมู่บ้านไท่ผิง คันละสองหยวนเลยนะ!”
“หา ขี้หมูแพงขนาดนี้เลย!” ชุยเอ้อแอบรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
“พวกเขาเลี้ยงหมู เลี้ยงไว้สิบกว่าตัวเลย เลี้ยงกันเหนื่อยมาก ขายมูลสัตว์ก็เป็นรายได้ได้เหมือนกัน”
จู่ ๆ ชุยเอ้อก็เกิดความคิดหนึ่ง “พี่หก ถ้าผมจะเลี้ยงหมูพี่คิดว่าไง?”
จ้าวเหวินเทาประหลาดใจ นับตั้งแต่ชุยต้าถูกเขาดึงออกมา นับวันก็ยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าชุยเอ้อคนนี้จะคิดเป็นแล้ว และรู้จักคิดหาเงินเป็นกับเขาแล้วด้วย
“ได้สิ แต่ถ้านายอยากเลี้ยงสิบกว่าตัวคงไม่ไหว ลานบ้านของนายเล็กเกินไป เลี้ยงเยอะขนาดนั้นไม่ไหวหรอก อีกอย่าง บ้านนายก็มีที่ดินสำหรับสามคน หมูพวกนั้นก็ต้องกินอาหารด้วย ก่อนอื่นนายต้องไปซื้อข้าวโพดมาก่อน เลี้ยงหมูเหนื่อยมากเลยนะ หนึ่งวันต้องให้พวกมันกินสี่มื้อ ต้องกินคู่กับอาหารของพวกมันด้วย แบบนี้ถึงจะเติบโตด้วยร่างกายอวบอ้วน วิธีที่พวกเราเลี้ยงก่อนหน้านี้ถ้าเอาไว้กินเองก็ยังได้อยู่ แต่ถ้าเอาไปขายคงไม่ได้ ถ้านายอยากเลี้ยงก็ไปสอบถามดูสักหน่อย ดูว่าคนอื่นเขาเลี้ยงกันยังไง ทำความเข้าใจแล้วค่อยตัดสินใจอีกที”
ชุยเอ้อคิดไม่ถึงเลยว่าจะยุ่งยากแบบนี้ แต่เมื่อนึกถึงจ้าวเหวินเทาที่เลี้ยงกระต่ายเป็นคนแรก จนสร้างฟาร์มกระต่ายขึ้นมาได้ในระยะเวลาไม่ถึงสองปี เขาก็อดชื่นชมไม่ได้ พี่หกสุดยอดจริง ๆ!
เรื่องที่จ้าวเหวินเทานำมูลสุกรใส่ลงไปในทุ่งข้าวสาลีดังไปถึงหูทุกคนในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว พวกเขาต่างก็งงงวยมาก ปีที่แล้วจ้าวเหวินเทายังเรียกร้องให้ใส่ปุ๋ยเคมี แต่ปีนี้เหตุใดถึงไม่ใส่ปุ๋ยแล้วล่ะ ที่สำคัญคือปุ๋ยเคมีทำให้จ้าวเหวินเทาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เยอะมากจริง ๆ
“…อะไรกัน ผลผลิตที่ใส่ปุ๋ยเคมีถ้ากินเข้าไปแล้วจะไม่ดีต่อร่างกาย? ใครบอก?”
“พี่หกบอก” ชุยเอ้อตอบ
“จ้าวเหวินเทา เหอะ เจ้าเด็กคนนี้มีคำพูดอะไรเชื่อถือได้บ้าง ปีที่แล้วบอกว่าใส่ปุ๋ยเคมีจะทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เยอะ ปีนี้กลับทำแบบนี้อีก เขาคิดจะทำอะไรของเขา?”
“คิดจะทำอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับลุงไม่ทราบ ลุงอยากใส่ปุ๋ยเคมีก็ใส่ไปสิ ไม่มีใครห้ามลุงสักหน่อย!” ชุยเอ้อพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ชิ! ไอ้เด็กเวรที่เอาแต่ทำงานให้คนอื่น นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนนายก็คือลูกจ้างระยะยาวนั่นแหละ!”
จู่ ๆ ในหมู่บ้านก็เกิดการถกประเด็นขึ้นมา ตอนนี้รัฐบาลเริ่มสนับสนุนให้ผู้คนใช้ปุ๋ยเคมีแล้ว จะว่าไปก็เพราะได้รับอิทธิพลมาจากจ้าวเหวินเทา เมื่อปีที่แล้วเขาใช้ปุ๋ยเคมีทำให้เก็บข้าวโพดได้มากขนาดนั้น รัฐบาลทราบเรื่องเข้าจึงตัดสินใจส่งเสริมปุ๋ยเคมีอย่างจริงจัง ใครจะไปคิดว่าปีนี้ผู้มีอิทธิพลอย่างจ้าวเหวินเทาจะเปลี่ยนความคิด
แต่ไม่ว่าจ้าวเหวินเทาจะคิดอย่างไร รัฐบาลก็ยังสนับสนุนให้คนใช้ปุ๋ยเคมีในปีนี้ แม้ทุกคนจะไม่ได้ยอมรับปุ๋ยเคมีอย่างสมบูรณ์ แต่ปีนี้คนที่ใช้ปุ๋ยเคมีก็มากกว่าปีที่แล้วพอสมควร ซึ่งคนจากหมู่บ้านข้าวซานถุนใช้มากที่สุด ยกตัวอย่างจากตระกูลจ้าว สามพี่น้องต่างก็ใช้กันหมด ต่อให้เป็นจ้าวเหวินเทาก็ใช้ปุ๋ยเคมีเล็กน้อยในช่วงที่กำลังปลูก แต่ในตอนหลังก็ไม่ได้ใช้แล้ว
ปุ๋ยเคมีไม่ได้ใช้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ขั้นตอนระหว่างที่ผลผลิตเติบโตขึ้นต้องใช้อย่างน้อย ๆ 3-4 ครั้ง ยกตัวอย่างเช่นข้าวโพด ตอนที่ปลูกนอกจากใส่ปุ๋ยเคมีแล้ว ตอนที่มันสูงขึ้นเท่าน่อง ตอนที่ข้าวโพดออกฝัก ครึ่งเดือนก่อนที่จะหักข้าวโพด ปุ๋ยเคมีมีผลอย่างมาก สามารถพูดได้ว่า ขั้นตอนทั้งหมดที่ผลผลิตเติบโตขึ้นมาแทบจะพึ่งพาปุ๋ยเคมีทั้งหมด ย่อมเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากอยู่แล้ว
จ้าวเหวินเทาใส่ปุ๋ยเคมีแค่ตอนปลูกเท่านั้น ภายหลังก็ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีแล้ว เมื่อมองเช่นนี้จึงเห็นได้ชัดว่าผลผลิตเล็กและเตี้ยกว่าของคนอื่น แต่อย่างอื่นก็ยังดีอยู่ ถึงอย่างไรเขาไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมี แต่มูลสัตว์ที่เทลงไปก็ไม่น้อย
“เจ้าหกทำบ้าอะไรอีกแล้ว?” พี่สามจ้าวมาคุยกับพี่รองจ้าว “บอกว่าผลผลิตที่ใส่ปุ๋ยเคมีไม่ดีกับร่างกาย ถ้าไม่ดีแล้วรัฐบาลจะบอกให้ใส่ได้ไง?”
พี่รองจ้าวจะไปรู้ได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ตอนที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีก็ได้ผลผลิตไม่มาก ตอนนี้เมื่อใส่ปุ๋ยเคมีดันบอกว่าผลผลิตที่เก็บเกี่ยวออกมาจะไม่ดีกับร่างกาย แล้วจะให้ปลูกพืชอย่างไรกันแน่
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันทำนาทำสวนมาไม่กี่ปี เรื่องนี้คงต้องถามพ่อแล้วล่ะ” พี่รองจ้าวถอนหายใจ
“ผมไปถามมาแล้ว พ่อเป็นคนบอกเจ้าหกไม่ให้ใส่ปุ๋ยเคมี ทำไมพ่อถึงลำเอียงขนาดนี้ก็ไม่รู้ พ่อไม่เห็นบอกพวกเราเลย ไม่กลัวว่าพวกเรากินเข้าไปแล้วร่างกายจะแย่บ้างหรือไง?” พี่สามจ้าวรู้สึกขุ่นเคืองสุด ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มันต้องใช้คู่กันถึงจะได้ผลดีค่ะ ถ้าจะทำแบบอินทรีย์ล้วนก็ต้องแลกกับผลผลิตที่ไม่ดีเท่ากับการใส่ปุ๋ยเคมี แต่ถ้าทำแบบเคมีล้วนก็แลกมากับโครงสร้างดินเสียปลูกพืชรอบใหม่ไม่ได้ เดินทางสายกลางดีที่สุด
ไหหม่า(海馬)