[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 494 : อบรมเซียนเอ๋อ!
สำหรับพวกถ้ำมองแล้ว.. การได้แอบดูสาวสวยอาบน้ำนั้น ช่างเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาได้
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่า.. ผู้ที่ถูกแอบมองนั้นจะไม่รู้ตัว และท่าทางก็จะดูเป็นธรรมชาติอย่างที่สุด
ความรู้สึกเช่นนี้ หากไม่ประสบกับตัวเองก็ยากที่จะเข้าใจ..!
หลิงหยุนไม่ใช่สุภาพบุรุษ และเขาก็ไม่ต้องการเป็นคนปากว่าตาขยิบ ในเมื่อเขามีเนตรหยินหยางที่สามารถมองทะลุเครื่องกีดขวางได้ และมีโอกาสให้ดู ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ลอง!
เป็นพวกถ้ำมองแล้วยังไง? ถึงอย่างไรหลงหวู่ก็ต้องเป็นภรรยาของเขาอยู่แล้ว อีกทั้งเขาเองก็ได้มอบของหมั้นให้เธอไปแล้ว การแอบดูก่อนก็ไม่เห็นจะผิดตรงใหน?
แม้ว่าใบหน้าของหลงหวู่อาจจะงดงามสู้สุนัขจิ้งจอกไม่ได้ แต่เรือนร่างของเธอนั้น ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเลยแม้แต่น้อย ฮ่า.. ฮ่า..!
หลิงหยุนแอบคิดอยู่ในใจเงียบๆ..
หลังจากที่ใช้ฝักบัวราดน้ำจนทั่วร่างกายแล้ว หลงหวู่ก็หยิบสบู่ และยาสระผมออกมา เรือนร่างขาวเป็นประกายราวกับคริสตัลนั้น ตอนนี้เต็มไปด้วยฟองสบู่ และแสงไฟในห้องน้ำก็ขับบให้ผิวของเธอสว่างไสว และนวลเนียนยิ่งขึ้น
หลิงหยุนมองภาพนี้ด้วยจิตหยั่งรู้ และเลือดในกายของเขาก็เริ่มปั่นปั่วน..
แต่เนื่องจากมีไป๋เซียนเอ๋ออยู่ในห้องด้วย หากไม่มีไป๋เซียนเอ๋อ เขาคงจะพังประตูห้องน้ำเข้าไปด้านในเพื่อช่วยหลงหวู่ขัดถูแผ่นหลังแล้ว..
หลิงหยุนได้แต่หมดหวัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้!
หลงหวู่กำลังยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็ยืนสำรวจรูปร่างที่สวยงามไร้ที่ติของตนเอง พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะกลับเข้าไปอาบน้ำด้วยฝักบัวต่อ
หลงหวู่กดสบู่ใส่มือและลูบไล้ไปทั่วร่างกาย และล้างออกด้วยน้ำฝักบัวอีกครั้ง!
แต่ในครั้งนี้ จู่ๆหลงหวู่ก็ราวกับมีสัมผัสที่หก และมีสัญชาติญาณในการระมัดระวังตัวค่อนข้างรุนแรง
เธอหันไปมองรอบๆตัว และจ้องมองไปที่ประตูห้องน้ำ แต่ก็เห็นว่าประตูยังคงปิดแน่นหนาดี แล้วเหตุใดเธอกลับรู้สึกคล้ายมีบางอย่างผิดปกติ?!
“น่าแปลก.. ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนว่ามีคนกำลังแอบดูอยู่?” หลงหวู่พึมพำเบาๆ
เมื่อเห็นว่าเกือบจะถูกจับได้! หลิงหยุนก็รีบถอนจิตหยั่งรู้ของตนเองออกมาทันที พร้อมกับคิดในใจว่า
‘เกือบไปแล้ว.. นึกไม่ถึงว่าหลงหวู่จะมีสัญชาติญาณในการระมัดระวังตัวสูงเช่นนี้ ประสาทสัมผัสของเธอดีจริงๆ..’
หลิงหยุนรู้ว่าเหตุผลที่หลงหวู่ไหวตัวนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสัญชาติญาณในการระมัดระวังตัวของเธอเอง ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ.. จิตหยั่งรู้ของเขายังแข็งแกร่งไม่พอ
แม้หลิงหยุนจะไม่ได้มองด้วยตาเนื้อ แต่การใช้จิตหยั่งรู้ ‘มอง’ นั้น ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ต่างจากการมองด้วยสายตา สิ่งที่เขาทำจึงไม่ต่างจากการแอบดู!
อาจฟังดูลึกลับ แต่ก็เข้าใจได้ง่าย.. ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนคนหนึ่งเดินอยู่บนท้องถนน และมีคนแอบเดินตามเขา คนผู้นั้นจะสามารถรับบรู้ และสัมผัสได้ว่ามีคนเดินตาม!
และต่อให้คุณถูกปิดตา และอุดหูไม่ให้ได้ยินเสียง เมื่อมีคนแอบมายืนอยู่ด้านหลังเงียบๆ และยืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่ต้องพูดอะไร คุณก็จะสามารถรับรู้ได้เช่นกัน และนี่คือความจริง!
จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนในเวลานี้ ยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นที่บางเบา ดังนั้นเมื่อเขาใช้จิตหยั่งรู้แอบดูหลงหวู่ เธอจึงสามารถสัมผัสได้..
“นายท่านคิดอะไรอยู่..”
หลิงหยุนยังคงไม่สนใจไป๋เซียนเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พี่หลิงหยุน..” ไป๋เซียนเอ๋อร้องเรียกอีกครั้ง..
“อืมม..” หลิงหยุนส่งเสียงตอบกลับไปตามสัญชาติญาณ ก่อนจะหันไปมองไป๋เซียนเอ๋อ
“ห๊ะ..!” เลือดกำเดาแทบจะพุ่งออกจากจมูกของหลิงหยุน!
ภาพที่หลิงหยุนเห็นคือ.. ขาทั้งสองข้างของเซียนเอ๋อยกขึ้นมาก่ายกันไว้บนโซฟา และกระโปรงที่สวมอยู่ก็เปิดขึ้นมาถึงเอว เผยให้เห็นท่อนขาที่เรียวงามทั้งสองข้าง และ… อย่างชัดเจน!
“เซียนเอ๋อ.. เจ้าลืมที่ข้าสอนไปหมดแล้วหรือยังไง?!”
หลิงหยุนมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการแอบดูหลงหวู่อาบน้ำ แต่เมื่อหันไปเห็นท่านั่งของไป๋เซียนเอ๋อที่อยู่ในสภาพที่ยิ่งกว่าหลงหวู่ ก็ถึงกับร้องออกมาอย่างตกอกตกใจ!
แม้ว่านี่จะเป็นท่านั่งที่ไป๋เซียนเอ๋อชื่นชอบ แต่ตอนนี้นางไม่ใช่สุนัขจิ้งจอกอีกแล้ว แต่เป็นคน..!
หลงหวู่ยังคงอาบน้ำไม่เสร็จ..
หลิงหยุนรีบร้องบอกไป๋เซียนเอ๋อทันที “เซียนเอ๋อ.. ลุกขึ้นนั่งดีๆเร็วเข้า!”
“ข้าทราบแล้วพี่หลิงหยุน..”
หลิงหยุนได้แต่นึกขันอยู่ในใจ จากนั้นก็ยกนิ้วชี้ขึ้นงอเป็นรูปตะขอ และกระดิกเรียกไป๋เซียนเอ๋อ
“เซียนเอ๋อ.. มานี่เร็วเข้า..”
ไป๋เซียนเอ๋อไม่รีรอ เงาสีแดงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และไปโผล่อยู่ในอ้อมกอดของหลิงหยุน
ไป๋เซียนเอ๋อคิดว่าจะได้รับการโอบกอดที่อบอุ่นจากหลิงหยุน แต่กลับกลายเป็นว่าเขาตบลงบนใบหน้าของนางเสียงดัง!
เพียะ!
“….” ไป๋เซียนเอ๋อมองหน้าหลิงหยุนด้วยความงุนงง และไม่เข้าใจ!
“พี่นายท่าน.. เหตุใดจึงทำโทษเซียนเอ๋อ?”
หลิงหยุนไม่ตอบ แต่กลับตบหน้าไป๋เซียนเอ๋ออีกครั้งจนตัวโยน..
เพียะ! หลิงหยุนตบหน้านางอีกหนึ่งครั้ง..
หลังจากที่จัดการตบหน้าไป๋เซียนเอ๋อไปถึงสามครั้ง หลิงหยุนก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนอยู่บนเกาะข้าสอนอะไรเจ้าไปบ้าง? ไม่เท่าไหร่เจ้าก็ลืมหมดแล้วรึ?”
แม้หลิงหยุนจะตบหน้าไป๋เซียนเอ๋อไม่เบาเลย แต่ก็ตบด้วยกำลังของคนธรรมดาเท่านั้น ไม่มีการใช้กำลังภายในเลยแม้แต่น้อย
และด้วยความแข็งแกร่งของไป๋เซียนเอ๋อในยามนี้ นางเองก็แทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวด เพราะแม้แต่โดนหมัดปีศาจเถียนกังของเขาเข้าไปเต็มๆ นางก็ยังทนทานได้อย่างสบาย แล้วเพียงแค่การตบหน้าด้วยแรงคนธรรมดา จะทำให้นางรู้สึกอะไรได้
ไป๋เซียนเอ๋อเปรียบเหมือนชีวิตของหลิงหยุน เขาก็แค่แสร้งทำดุไปแบบนั้นเอง!
ไป๋เซียนเอ๋อตอบว่า “นายท่านบอกว่า.. ต่อไปเซียนเอ๋อจะต้องนั่ง กิน ดื่ม และทำทุกอย่างเช่นเดียวกับมนุษย์ เซียนเอ๋อยังจำได้ดี!”
สายตาของไป๋เซียนเอ๋อนั้นทำให้หลิงหยุนรู้สึกสงสารมาก และไม่กล้าที่จะลงโทษนางอีก..
หลิงหยุนจึงได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยว และทำท่าทางให้ดูขึงขัง “แล้วเมื่อครู่เจ้านั่งอย่างไร?”
ไป๋เซียนเอ๋อทำหน้าตาน่าสงสาร “เซียนเอ๋อผิดไปแล้ว.. นายท่านได้โปรดลงโทษข้าด้วย!”
มีหรือที่หลิงหยุนอยากจะลงโทษนางอีก!
“กร๊ด..!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นทั่วทั้งห้อง
หลิงหยุนคิดไม่ถึงว่าระหว่างที่เขากำลังอบรมสั่งสอนไป๋เซียนเอ๋ออยู่นั้น หลงหวู่จะอาบน้ำเสร็จ และเดินออกมาพอดี!
เมื่อหลงหวู่ได้เห็นภาพที่ไป๋เซียนเอ๋อกำลังนั่งอยู่บนตักของหลิงหยุน เธอก็กรีดร้องเสียงดังออกมาทันที!