แต่พอคิดไปคิดถึงพฤติกรรมของเย่เทียนในช่วงนี้ เฉินหวั่นชิงก็ลอบถอนหายใจ รู้ว่าต่อให้ตัวเองถามเย่เทียนก็ไม่บอกอะไรหรอก จึงได้แต่สลัดความคิดนี้ทิ้งไป
“เฮอะ ฉันจะรอดูว่านายมีความลับอะไรอีก”
เฉินหวั่นชิงคิดในใจ แม้ว่าก่อนหน้านี้หวงเย่าโจวคิดไม่ดี แต่ตอนนี้อีกฝ่ายมาถึงที่ เธอย่อมไม่ปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไป
เธอสั่งลูกน้องลงไปในวันนั้นเลยให้ไปวางแผนงานนี้กับหวงเย่าโจว
หารู้ไม่ ตอนที่กำลังจะเลิกงาน ลูกน้องก็กลับมาด้วยสีหน้าดีใจ บอกว่าสัญญาเซ็นเรียบร้อยแล้ว
เฉินหวั่นชิงผงะในใจ คิดไม่ถึงว่าประสิทธิภาพในการทำงานของหวงเย่าโจวจะไวขนาดนี้
“เห็นได้ชัดว่าหวงเย่าโจวคนนั้นโดนใครข่มขู่มา ไม่อย่างนั้นทำไมถึงยอมเชื่อฟังแต่โดยดีล่ะ”
เฉินหวั่นชิงพึมพำในใจ พอเห็นหน้าเย่เทียนแล้วสายตาก็ยิ่งประหลาดขึ้นอีก
แน่นอนว่าเย่เทียนไม่รู้ว่าเฉินหวั่นชิงคิดอะไรอยู่ เห็นเธอมองตรงมาที่ตัวเองก็อดหัวเราะไม่ได้
“เธอจ้องฉันทำไม หรือว่าแค่อาหารเย็นสองมื้อก็ทำให้เธอใจอ่อน หลงรักฉันเข้าให้แล้ว”
พอได้ยินคำพูดล้อเลียนของเย่เทียน เฉินหวั่นชิงนึกเซ็งในใจ มองบนใส่เขาให้เขาไปคิดเอาเอง
“ไปส่งฉันที่ฐานการวิจัย”
เย่เทียนได้ยินแล้วยิ้มให้ ไม่พูดอะไรมาก รับขับรถตามทางที่เฉินหวั่นชิงบอก ไปอยู่แถวขอบๆของฐานทัพลับที่ชานเมือง
“เอาล่ะ นายกลับไปได้เลย ฉันทำงานเสร็จแล้วมีคนไปส่งฉันกลับบ้าน”
ถึงยังไงก็เป็นความร่วมมือกับทางทหารที่เป็นความลับ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ดังนั้นเฉินหวั่นชิงไม่คิดจะให้เย่เทียนเข้าไป
เย่เทียนรับคำ หันไปมองฐานการวิจัยที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาลึก และขับรถออกไปโดยไม่อิดออด
รถแล่นไปตามถนน ตอนแรกเย่เทียนคิดว่าจะกลับไปที่บาร์
ยังไงซะเขาก็รับปากซูเหมยไปแล้ว ไม่โผล่ไปหลายวันแบบนี้ออกจะเกินไปหน่อย
เพียงแต่ตอนที่เขากำลังจะกลับรถ ก็พลันนึกถึงผู้ช่วยของเฉินหวั่นชิง กู้กวนชี สายตาของเขาเป็นประกายวูบวาบ และมุ่งหน้าตรงไปที่บ้านของกู้กวนชี
หลังจากมาถึงชั้นล่างของบ้านกู้กวนชีแล้ว เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรงพอดี
เย่เทียนที่ลงจากรถมาหยิบมือถือออกมา กดโทรหากู้กวนชีด้วยท่าทีเกียจคร้าน
“เสี่ยวชี บ้านเธออยู่ชั้นไหนนะ ฉันอยู่ข้างล่างบ้านเธอนะ!”
ตอนแรกปลายสายมีเสียงกรุบกรับดังมา ก่อนที่เสียงตกใจระคนดีใจของกู้กวนชีดังเข้ามา
“หา เย่ เย่เทียน? นายจะมาทำไมไม่บอกฉันล่วงหน้าเล่า? ฉันจะได้เก็บกวาดไว้!”
“จะเป็นอะไรไป”
เย่เทียนหยอกล้ออย่างไม่ถือสา “ว่ากันว่าจะรังทองหรือรังเงินก็ไม่ดีเท่ารังหมาของตัวเอง ต่อให้จะรกแค่ไหนก็เป็นบ้านตัวเอง มองยังไงก็สบายตาใช่มั้ยล่ะ?”
กู้กวนชีหัวเราะเสียงหวาน พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “นายคารมดีขนาดนี้ คงจะเด็กสาวไปได้ไม่น้อยล่ะสิ?!”
“ก็ต้องมีเด็กสาวให้ฉันหลอกก่อนสิ?”
เย่เทียนหัวเราะร่า สายตาเปล่งประกายอันซับซ้อน “เธอก็รีบเข้าแล้วกัน ฉันรอเธออยู่ข้างล่าง”
“ได้ นายรอฉันก่อนนะ เดี๋ยวฉันรีบลงไป” กู้กวนชีรีบวางสาย
แต่ถึงกระนั้นเย่เทียนก็ยังรออยู่ข้างล่างเกือบสิบห้านาที กู้กวนชีถึงปรากฏตัว
ผู้หญิงคนนี้ดูก็รู้ว่าตั้งใจแต่งตัวมา ใบหน้างดงามแต่งแต้มสีสันบางๆ เพิ่มเสน่ห์แพรวพราว ตัวเธอใส่ชุดกระโปรงสั้นปาดไหล่คอวีที่ยั่วยวนสุดๆ
เย่เทียนตาเป็นประกายทันที แอบพึมพำกับตัวเอง ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวแบบนี้คงไม่ได้ตั้งใจยั่วฉันใช่มั้ย?
สัมผัสได้ถึงสายตาฉายความต้องการรุกรานของเย่เทียน กู้กวนชีกระสับกระส่ายเล็กน้อย ใบหน้างดงามเป็นสีแดงระเรื่อ “พวกเรา พวกเราขึ้นไปข้างบนก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ได้!” เย่เทียนพยักหน้า หัวเราะเหอะๆเดินตามหลังกู้กวนชีขึ้นไป
ขณะเดียวกัน หน้าประตูของฐานการวิจัยบริษัทแซ่เฉิน
“ตาเฒ่า ได้เวลาแล้ว เราควรเข้าไปข้างในได้แล้ว”
ผู้ชายต่างชาติในชุดสูทสองคนเดินลงจากรถ
“เดี๋ยวสิ จอห์น แค่ลักพาตัวผู้หญิงตัวเล็กๆไม่ใช่หรอ นายจำเป็นต้องพกปืนกลไปด้วยหรอ?”
“ระวังตัวหน่อยไม่ผิดอะไรหรอก”
ในขณะที่พูดกันอยู่ ทั้งสองเข้าใกล้ฐานการวิจัยอย่างรวดเร็ว กำแพงรั้วที่สูงสองเมตรแท้ๆพวกเขากลับปีนข้ามไปได้อย่างง่ายดาย ไม่เป็นจุดสนใจของ รปภ เลยสักนิด
……
หลังจากที่เย่เทียนเข้ามาในที่พักของเด็กสาวแล้ว กู้กวนชีก็ก้มหน้าอยู่ตลอด ท่าทางตื่นเต้นขี้อายน่าเอ็นดูสุดๆ
เย่เทียนชำเลืองมองกู้กวนชี นึกสนุกขึ้นมา เขาเอื้อมมือไปโอบไหล่บางของกู้กวนชี สูดดมกลิ่นหอมไม่เหมือนใครจากตัวเด็กสาว อารมณ์ดีสุดๆ เขาแซวขึ้น “ดูไม่ออกเลยนะว่าเธอเป็นพวกผู้หญิงติดบ้าน วันหยุดไม่ต้องไปทำงานก็อยู่บ้านกินขนมดูซีรี่ส์?”
ใบหน้างดงามของกู้กวนชีแดงมากขึ้นไปอีก เธอแลบลิ้นเล็กๆ
“ก่อนหน้านี้นายบอกว่าจะมาไม่ใช่หรอ ฉันไม่รู้สักหน่อยว่านายจะมาตอนไหน ก็ได้แต่ดูซีรี่ส์รอ”
“ครับๆๆ ฉันผิดเองที่บอกไม่ชัดเจน”
เย่เทียนรีบยอมรับผิด ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด เขาเอ่ยอย่างภาคภูมิ “แต่ให้คนสวยอย่างเธอยอมรอฉัน เป็นเกียรติของฉันจริงๆ”
“นายนั่งก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเอาอะไรมาให้ดื่ม”
กู้กวนชีเงยหน้าเหลือบมองเย่เทียนอย่างระมัดระวัง และรีบหนีออกมาจากกรงเล็บปีศาจของเย่เทียน
“อื้ม” เย่เทียนพยักหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขกอย่างกับว่าสนิทสนม
ที่อยู่ของกู้กวนชีเป็นห้องคอนโดสำหรับอยู่คนเดียว เหมาะสำหรับอาชีพของเธอดี
จุดที่เด่นที่สุดก็ตรงที่ห้องรับแขกติดหน้าต่างบานใหญ่ถึงพื้นที่สามารถมองเห็นวิวกลางคืนของเจียงหนันอย่างชัดเจน
“เย่เทียน นายอุตส่าห์มาแล้ว เรามาดื่มไวน์กันหน่อยดีมั้ย? สร้างบรรยากาศกันหน่อย”
ในขณะที่เย่เทียนมองไปรอบๆ กู้กวนชีได้หยิบไวน์ขวดหนึ่งออกมาพร้อมกับแก้วสองใบ
“ฉันไม่ใช่คนพิถีพิถันนัก ไวน์ก็ได้” เย่เทียนหัวเราะ
กู้กวนชียิ้มหวานตอบ เปิดไวน์อย่างช่ำชองและรินให้เย่เทียนหนึ่งแก้ว
“ไวน์นี่ไม่เลวเลย แต่…..”
เย่เทียนจิบอย่างวางท่าสุดๆ ก่อนจะมองกู้กวนชีพร้อมเอ่ย “ฉันมาตั้งไกล คงได้มาเพราะหวังไวน์แค่นี้หรอกใช่มั้ย”
“ยังไงซะนี่ก็ยังไม่สายมาก เรามาทำอะไรกันหน่อยดีมั้ย”
ใบหน้างดงามของกู้กวนชีเต็มไปด้วยความกังวล เธอเริ่มพูดติดอ่าง “นาย นายจะทำอะไร”
เย่เทียนประชิดตัวเด็กสาว และพูดหยอกล้อ “เธอคิดว่าฉันอยากทำอะไรล่ะ?”
มองเย่เทียนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม รู้สึกถึงไอร้อนที่ส่งผ่านมาช่วงคอ กู้กวนชีทนการหยอกเช่นนี้ไหวที่ไหน อย่าว่าแต่ใบหน้าเลย แม้แต่หูยังแดงก่ำ
เด็กสาวก้มหัว เม้มปากไม่รู้จะพูดอะไรดี
แต่ตาโตแพรวพราวนั้นกลับคอยแอบมองใบหน้าด้านข้างอันเด็ดเดี่ยวของเย่เทียน