บทที่ 311 ตั้งแต่แต่งงานกับเจ้า มีเรื่องวุ่นวายทุกวัน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

บทที่ 311 ตั้งแต่แต่งงานกับเจ้า มีเรื่องวุ่นวายทุกวัน
เห็นว่ากู้ชูหน่วนจะโมโหแล้ว ได้ยินเสียงฟิ้วดังขึ้นจากทางเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ และเลื้อยออกนอกหน้าต่างไปแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงา

เจ้านี่ คลานไวกว่าบินมาก

กู้ชูหน่วนลุกขึ้น จับชีพจรของเขาอีกครั้ง แล้วก็ตรวจสอบต้นขาที่แข็งทื่อของเขารอบหนึ่ง ยากที่จะพูดด้วยสีหน้าปกติได้ “อยากจะรักษาขาของท่านให้หายหรือ”

“เจ้ามีวิธีหรือ”ดวงตาของเย่จิ่งหานสว่างวาบขึ้นมา ลมหายใจก็แรงขึ้นอยู่บ้าง

“ไม่มั่นใจนัก แต่ก็มีโอกาสแน่นอน เพียงแต่เสี่ยงอันตราย”

“เสี่ยงอันตรายอะไร”

“สองทางเลือก ในร่างกายของท่านมีพิษอยู่สองชนิด พวกมันต่างก็ยับยั้งซึ่งกันและกัน ข้าสามารถถอนพิษหนึ่งในนั้นของท่านได้ อีกชนิดหนึ่งยังต้องรอก่อน แต่สองขาของท่านคงจะฟื้นฟูได้ยาก ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งคือข้าสามารถทำให้สองขาของท่านยืนขึ้นมาได้ แต่พิษทั้งสองชนิดในร่างกายของท่าน ข้าค่อยหาโอกาสถอนให้ ดูว่าท่านจะเลือกทางไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ล้วนเป็นไปได้ว่าอาจจะล้มเหลว ผลจากการล้มเหลว มีแนวโน้มว่าอาจทำให้ท่านถึงแก่ชีวิต ”

“แล้วพิษที่เจ้าช่วยข้าถอนก่อนหน้านี้เล่า”หรือว่าจะถอนพิษไปโดยเปล่าประโยชน์

“พิษที่ช่วยถอนให้ท่าน เป็นการค่อยๆขับพิษที่มีความเข้มข้นในร่างกายของท่าน แต่มีพิษตื้นมากเกินไป การใช้วิธีการก่อนหน้านี้ยากจะถอนพิษทั้งหมดออกไปได้ แน่นอนว่าถ้าหากท่านไม่กำจัดพิษร้ายในร่างกายอย่างต่อเนื่อง การถอนพิษเพียงครั้งเดียวไม่สามารถทำให้ถอนพิษทั้งหมดออกไปได้ ทั้งสองวิธีล้วนสำคัญทั้งสิ้น ”

เดิมทีคิดว่าการถอนพิษให้เขา อย่างน้อยต้องทำหลังจากนี้อีกหนึ่งปี

แต่การไปที่ภูเขาสืบมังกรครั้งนี้ นางหาสมุนไพรที่มีค่าได้ไม่น้อย มีสมุนไพรเหล่านี้ บางทีถ้ามีโอกาสก็ควรลองดู

เย่จิ่งหานนั้นภายนอกเย็นชาแต่ภายในอบอุ่น ปฏิบัติต่อนางไม่เลว ไม่ว่าเขาจะช่วยนางสังหารหัวหน้ากองธงกล้วยไม้หรือไม่ นางก็สมควรต้องช่วยเขา

เย่จิ่งหานนิ่งขรึมไปชั่วครู่ เอ่ยเสียงเข้มว่า “ข้าเลือกทางที่สอง”

เขาเชื่อ ด้วยฝีมือทางการแพทย์ของกู้ชูหน่วน ต้องช่วยรักษาพิษที่อยู่ในร่างกายเขาได้แน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

ใช้วิธีการของนางในการรักษา หลายวันมานี้เขาดีขึ้นมากแล้ว ตอนที่พิษกำเริบก็ไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้นแล้ว

“ลืมบอกกับท่านไป ช่วงที่ทำการรักษา ท่านจะสูญเสียพลังภายในทั้งหมดที่มี จะอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง แม้แต่ผู้ป่วยหนักธรรมดาก็ยังสู้ไม่ได้ ”

สีหน้าของเย่จิ่งหานดำคล้ำลงทันที

หญิงสาวคนนี้ จงใจแกล้งเขาหรือไม่

“ไม่ได้ ไม่ว่าจะเวลาไหน ข้าไม่สามารถสูญเสียวรยุทธไปได้ แม้จะแค่ชั่วคราวก็ตาม”

“พลังภายในของท่านจะทำการต่อต้านฤทธิ์ของยา และจะปิดกั้นการขับพิษออกมา ท่านเลือกเองเถอะ อยากจะลุกขึ้นยืนได้ ก็ต้องสูญเสียวรยุทธเป็นการชั่วคราว”

คิ้วเข้มดกดำของเย่จิ่งหานขมวดแน่น”ชั่วคราวนี่มันนานแค่ไหน”

“ภายในสามวันถึงเจ็ดวันกระมัง”

“สามวันถึงเจ็ดวัน นี่เรียกว่าชั่วคราวหรือ”เสียงของเย่จิ่งหานเล็ดออกมาทางไรฟัน แทบอยากจะบีบคอนางให้ตาย

เผ่าเทียนเฟิ่นจ้องจะหาโอกาสโจมตี ทุกการเคลื่อนไหวของเขามีเผ่าเทียนเฟิ่นคอยจับตาดูอยู่

ถ้าหากคนของเผ่าเทียนเฟิ่นรู้ว่าเขาจะสูญเสียพลังภายในสามวันถึงเจ็ดวัน คงจะฉวยโอกาสนี้ ทำลายทุกสิ่งที่เขามี

ยังมีแคว้นเย่ ผู้มีอำนาจมากมายต่างก็จดจ้องอยู่ที่แคว้นเย่ ไม่มีเขาแล้ว เขาเกรงว่าจะแคว้นเย่จะเสี่ยงถูกล่มสลาย

“มีวิธีที่จะรักษาพลังภายในของข้าเอาไว้ แล้วยังสามารถรักษาขาของข้าให้หายได้หรือไม่”

“ไม่มี”

สามารถรักษาชีวิตเขาเอาไว้ได้ก็ไม่เลวแล้ว ยังจะให้รับประกันเรื่องขาทั้งสองข้างของเขาอีก

ไม่ดูซะบ้างว่าเขาถูกพิษร้ายแรงขนาดไหน และถูกวางยาพิษมานานกี่ปีแล้ว

ใบหน้าหล่อเหลาของเย่จิ่งหานที่มีเค้าโครงกรอบหน้าชัดเจนมีความหนักอึ้ง

กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ได้แต่รอให้เขาตัดสินใจอย่างเงียบๆ

สิ่งที่นางทำได้ ก็คือพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาขาทั้งสองข้างให้หาย รักษาชีวิตเขาเอาไว้ ค่อยวางแผนถอนพิษให้เขาต่อ

“มีโอกาสที่จะสำเร็จกี่ส่วน”

“สองส่วน”

ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียโมโหจนหน้าเขียวคล้ำไปหมด

สองส่วน

โอกาสที่จะสำเร็จต่ำเกินไปหรือไม่

โอกาสที่จะสำเร็จมีเพียงสองส่วน

หลังล้มเหลวแล้ว เจ้านายอาจจะต้องใช้เสี่ยงชีวิตของตัวเองด้วย

เจ้านายคงไม่โง่ ที่จะหลงเชื่อนาง ก่อนหน้านี้เจ้านายเสียเปรียบนางไปแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่

“ได้ สองส่วนก็เพียงพอแล้ว จะเริ่มเมื่อไหร่”อย่างน้อยก็มีโอกาสมากกว่าก่อนหน้านี้หนึ่งส่วน

อะ……

อะไรนะ……

เจ้านายเห็นด้วยอย่างนั้นหรือ

เจี่ยงเสวียผลักประตูเข้าไป คุกเข่าลงข้างหนึ่ง”ท่านอ๋อง โปรดพิจารณาให้ดี”

ชิงเฟิงก็คุกเข่าลงเช่นกัน “ท่านอ๋อง โปรดพิจารณาให้ดีด้วย”

พระชายาเจ้าเล่ห์เพทุบายนัก ใครจะรู้ว่าคำพูดของนางจะเชื่อได้หรือไม่

ก่อนหน้านี้นางก็เคยบอกว่าจะช่วยเจ้านายรักษาอาการบาดเจ็บจากยาพิษ สุดท้ายก็ยังทำไม่สำเร็จสักที

“ออกไป”

เย่จิ่งหานพูดเสียงเย็น

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังถูกกู้ชูหน่วนสูบเอาพลังภายในไปอีกมากกว่าครึ่ง ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอจนถึงขีดสุดแล้ว

ถ้าหากขาของเขาไม่สามารถยืนขึ้นได้ แม้จะมีพลังภายในบางส่วนหลงเหลืออยู่ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเผ่าเทียนเฟิ่นอยู่ดี

การต่อสู้ครั้งที่แล้ว เผ่าเทียนเฟิ่นเห็นว่าสองขาของเขาพิการ ฉะนั้นจึงเอาแต่โจมตีช่วงล่างของเขา

คิดถึงความแค้นที่มีแต่เผ่าเทียนเฟิ่น เย่จิ่งหานยิ่งมุ่งมั่นที่จะรักษาขาทั้งสองข้างให้หายและถอนพิษร้ายออกไป

มากสุดเจ็ดวัน

ขอเพียงอดทนให้ผ่านพ้นเจ็ดวันไปได้ก็พอแล้ว

“จะเริ่มเมื่อไหร่”
“เริ่มได้ตลอดเวลา แต่ก่อนจะเริ่มรักษา มีสองจุดที่ต้องระวัง หนึ่ง จำเป็นต้องหาที่ที่ร้อนอยู่เสมอ อย่างเช่นน้ำพุร้อนหรือหินหลอมเหลวทะเลโลหิต ที่ที่มีทะเลโลหิตดีที่สุด สอง อย่าให้ใครรบกวนอย่างเด็ดขาด ต้องเงียบสงบที่สุด ถ้าถูกรบกวน เป็นไปได้สูงว่าชีพจรจะแปรปรวน สติเสียการควบคุมจนตายได้”
“เจี่ยงเสวีย ไปจัดการเดี๋ยวนี้ ไปเมืองอู๋ซวง”

ชิงเฟิงกับเจี่ยงเสวียยังอยากจะขอร้องอีกครั้ง แต่น้ำเสียงของเจ้านายไม่ยอมให้ตอบโต้กลับ ไม่มีพื้นที่สำหรับการต่อรองเลย

เขาได้แต่รับคำสั่งและไปทำตามเท่านั้น

กู้ชูหน่วนนิ่งอึ้ง

เมืองอู๋ซวง?

นางกำลังจะไปเมืองอู๋ซวงพอดี

แผนที่บนกระดิ่งทลายวิญญาณ แสดงให้เห็นโดยไม่ผิดจากที่คิด ก็คือเมืองอู๋ซวง

เป็นเช่นนี้ก็ดี นางอยากจะไปดูว่าที่เมืองอู๋ซวงจะสามารถตามหามุกมังกรในตำนานเจอหรือไม่

“ให้เวลาข้าหนึ่งวัน ข้าต้องจัดการเรื่องบางส่วน”

แววเย็นชาวาบผ่านไปหน้าของเย่จิ่งหาน มุมปากมีรอยยิ้มเย็นที่แฝงด้วยความมีเสน่ห์และมั่นใจ

กู้ชูหน่วนรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

รอยยิ้มเช่นนี้

เขากำลังคิดวางแผนจะจัดการใครอยู่

“ได้ ข้าก็ต้องจัดเตรียมยาบางส่วนพอดี ถ้าเช่นนั้นหลังจากนี้หนึ่งวันพวกเราจะออกเดินทางไปยังเมืองอู๋ซวง” 

ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ กู้ชูหน่วนหมกตัวอยู่ในห้องหลอมยาไม่ออกไปไหนเลย

วันต่อมา มีข่าวส่งมาจากพระนคร

เทพสงครามป่วยหนักอย่างกะทันหัน พระชายาพร้อมกับเทพสงครามไปพักฟื้นยังเรือนพักร้อนชิวเฟิง คงไม่ได้กลับมายังจวนอ๋องหานในระยะเวลาสั้นๆนี้

ในพระนครเกิดการวิจารณ์ต่างๆนานา

เทพสงครามเพิ่งจะแต่งงานก็เกิดป่วยหนักขึ้นมา

หรือว่าพระชายาที่แต่งงานด้วยจะมีกลิ่นอายแห่งความชั่วร้ายมากเกินไป ไม่เพียงแต่จะเสริมสิริมงคลต่อเทพสงครามไม่ได้ กลับกันยังทำให้เขาต้องพบเจอกับสิ่งเลวร้าย

ที่วิจารณ์กันมากกว่านั้น คือเทพสงครามที่โหดเหี้ยมเลือดเย็น ป่วยจนแทบจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว กลับยังโปรดปรานพระชายาหานอยู่

ก็ไม่รู้ว่าพระชายาหานใช้วิธีการใด จึงเกี่ยวหัวใจของเทพสงครามไว้ได้อย่างแน่นหนา

ทางขึ้นภูเขาแห่งหนึ่งในเมืองอู๋ซวง

รถม้าที่ไม่สะดุดตานักกำลังเคลื่อนไปข้างหน้า

บนรถม้านอกจากคนขับที่อายุมากแล้ว ก็มีแค่กู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหาน ที่เหลือไม่มีใครเลย

กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น

“เทพสงครามป่วยหนัก ไปพักฟื้นที่เรือนพักร้อนชิวเฟิง เพราะพระชายาของเทพสงครามนำเคราะห์ร้ายมาสู่เขา จุ๊ๆๆ เย่จิ่งหาน ท่านไม่อายบ้างหรือ”

นิ้วเรียวยาวของเย่จิ่งหานกำลังพลิกหนังสือไปทีละหน้า แม้แต่ศีรษะก็ไม่เงยขึ้นมา

เขาพูดเสียงเรียบว่า”ตั้งแต่แต่งงานกับเจ้า จวนอ๋องก็มีเรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน เจ้าว่าเจ้าเป็นตัวนำเคราะห์ร้ายมาหรือไม่เล่า ”