กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 444
เจฟฟรีย์รู้ดีว่า หากผู้คนยังคงประมูลโสมสีม่วงระดับพรีเมี่ยมนี้ต่อไป ราคาของโสมสีม่วงอาจจะแพงถึงยี่สิบหรือถึงสามสิบล้านดอลลาร์ในที่สุด ดังนั้นเขาจึงเพิ่มราคาโสมสีม่วงเป็นสองเท่าในการเสนอราคาครั้งแรก เพียงเพื่อที่เขาจะได้ทำให้บางคนตกใจ เขายังหวังว่าเขาจะสามารถนำโสมสีม่วงไปได้ในราคาที่ถูกกว่านี้แทน!
“สิบเอ็ดล้านดอลลาร์” ชายวัยกลางคนในห้องโถงก็ตะโกนขึ้นขณะที่เขายกป้ายประกาศ
เจฟฟรีย์เหลือบมองชายคนนั้นอย่างดูถูกเหยียดหยาม ก่อนที่เขาจะยกป้ายขึ้นอีกครั้งและพูดว่า “สิบห้าล้านดอลลาร์”
“สิบหกล้านดอลลาร์”
มีคนพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ยี่สิบห้าล้านดอลลาร์” เจฟฟรีย์ตะโกนขณะชูป้ายประกาศอีกครั้ง
ในความเป็นจริง เจฟฟรีย์เพียงแค่ช่วยเคนเน็ธในการร่วมการประมูลในครั้งนี้เท่านั้น เคนเน็ธจะเป็นผู้ที่จ่ายเงินสำหรับการเสนอราคาซื้อในวันนี้ ดังนั้น เขาจึงไม่รู้สึกทุกข์ใจแต่อย่างใด
ราคายี่สิบห้าล้านดอลลาร์ ทำให้หลายคนคิดยอมแพ้
แม้ว่าโสมสีม่วงหายากจะดีและมีประสิทธิภาพมาก แต่ประสิทธิภาพของพืชก็มีจำกัดมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นเงินยี่สิบห้าล้านดอลลาร์จึงเป็นราคาที่สูงมากสำหรับการจ่ายเงินค่าโสมม่วงนี้
ในเวลานี้ มีคนในห้องโถงตะโกนออกมาว่า “ผมจะจ่ายสามสิบล้านดอลลาร์สำหรับมัน!”
ทุกคนรีบมองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาว่าการเสนอราคานั้นเกิดขึ้นจริง ๆ โดยเป็นชาร์ลีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอนโธนีนั้นเอง
เจฟฟรีย์และเคนเน็ธ ไม่คาดคิดว่าชาร์ลีจะท้าทายพวกเขาในการประมูลครั้งนี้ ดังนั้นทั้งคู่สบตากันก่อนที่เคนเน็ธจะเข้ายึดป้ายในมือของเจฟฟรีย์โดยตรง และชูมันขึ้นพร้อมตะโกนว่า “สี่สิบล้านดอลลาร์!”
เคนเน็ธ รู้ดีว่าชาร์ลีเป็นคนที่รับมือได้ยากมาก หากเขายืนกรานที่จะท้าทายเขาด้วยราคาของโสมสีม่วงนี้แล้ว ราคาของมันจะต้องสูงมาก ๆ อย่างแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น เคนเน็ธรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ชาร์ลีจะสามารถซื้อโสมสีม่วงนี้ได้ เขาแค่สันนิษฐานว่าชาร์ลีต้องรู้แล้วว่าเขาต้องการโสมสีม่วงที่ยอดเยี่ยมนี้ เพื่อไปฟื้นฟูความเป็นชายของเขา และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเขาถึงจงใจขึ้นราคาเพื่อที่จะทำให้เขาเดือดร้อนนั้นเอง
นั่นเป็นสาเหตุที่เคนเน็ธเสนอเงินสี่สิบล้านดอลลาร์ทันที เพราะเขาต้องการทำให้ชาร์ลีตกใจ
โดยไม่คาดคิด ชาร์ลียกป้ายขึ้นอีกครั้งก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า “ห้าสิบล้านดอลลาร์!”
ในเวลานี้ ชาร์ลีมีเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ ที่จัสมินมอบให้เขาอยู่ในกระเป๋า
เมื่อไม่นานมานี้ ชาร์ลีได้มอบเช็คนี้ให้กับเอเลน แม่ยายของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ และเกือบจะก่อให้เกิดความหายนะครั้งใหญ่ ดังนั้น ชาร์ลีจึงมองหาโอกาสที่จะใช้เช็คนี้ ในขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจว่า เขาสามารถใช้เงินหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เพื่อซื้อโสมสีม่วงได้ในวันนี้!
อย่างไรก็ตาม นอกจากเช็คเงินสดหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์แล้ว ชาร์ลียังมีเงินจำนวนมากในบัตรธนาคารของเขา ในสายตาของเขาแล้ว เช็คนี้เป็นเพียงเศษกระดาษที่เขาไม่รู้ว่าจะต้องจัดการกับมันอย่างไรดี เขาดีใจจริง ๆ ที่ในที่สุดวันนี้ก็มีประโยชน์
ทันทีที่เคนเน็ธได้ยินว่าชาร์ลีเสนอราคาห้าสิบล้านดอลลาร์ เคนเน็ธก็แทบจะเป็นลมด้วยความโกรธ
เขากัดฟันแน่นก่อนจะพูดกับเจฟฟรีย์ว่า “ขยะชิ้นนั้นน่ากลัว! เขาจงใจสู้กับผม! ห้าสิบล้านดอลลาร์หรอ?! เขาจะจ่ายค่าโสมสีม่วงห้าสิบล้านดอลลาร์ได้อย่างไรกัน!”
เจฟฟรีย์พยักหน้าขณะที่เขาสบถ “เด็กคนนั้นเป็นคนเลวและไร้ค่าจริง ๆ! โสมสีม่วงนี้มีมูลค่ามากสุดก็แค่ยี่สิบล้านดอลลาร์ การซื้อมันมาในราคาห้าสิบล้านดอลลาร์นั้น เป็นการสิ้นเปลืองอย่างแท้จริง! ในความเป็นจริง มันเป็นการเสนอที่โง่เขลาเท่านั้น!”
เคนเน็ธกัดฟันอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะพูดไปว่า “บ้าเอ้ย! ผมจะเสนอราคาต่อเขาเป็นครั้งสุดท้าย ผมไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถเสนอราคาสูงกว่าผมได้หรอก!”
หลังจากนั้น เคนเน็ธก็ยกป้ายขึ้นก่อนที่เขาจะตะโกนออกไปว่า “ผมจะจ่ายหกสิบล้านดอลลาร์!”
ถึงเวลานี้ เคนเน็ธมั่นใจว่าชาร์ลีจะไม่กล้าเรียกราคาที่สูงกว่าหกสิบล้านดอลลาร์อย่างแน่นอน
โดยไม่คาดคิด ชาร์ลียกป้ายขึ้นโดยไม่ลังเล ขณะที่เขาตะโกนไปว่า “ผมจะจ่ายแปดสิบล้านดอลลาร์!”
เคนเน็ธลุกขึ้นยืนและระเบิดออกมาในทันที พร้อมกับตะโกนไปว่า “นายทำอย่างนี้ หมายความว่าอย่างไร นายนามสกุลเวด? ทำไมนายถึงพยายามให้ฉันซื้อโสมสีม่วงนี้สูงกว่าราคาปกติ! แน่ใจหรือว่านายจะจ่ายแปดสิบล้านดอลลาร์ได้!”
ชาร์ลียิ้ม ขณะที่เขาตอบไปว่า “คุณเป็นหลานชายที่ดีมาก ไม่ต้องกังวลไปหรอก คุณปู่ของคุณคนนี้สามารถจ่ายได้อย่างแน่นอน!”