“มีสามขั้นตอนของการเป็นนักธุรกิจ และนี่ก็คือขั้นตอนที่หนึ่ง มันเป็นขั้นตอนของการสะสมในตอนเริ่มต้น โดยการทำเงินอย่างไร้ระเบียบและขัดต่อมโนธรรมและศีลธรรม…”
เสี่ยวหลัวอธิบายสามขั้นตอนหลักในการเป็นนักธุรกิจ ให้กับ ลั่วฉี ฟัง ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ จาง ซูซาน ได้เคยปลูกฝังให้กับเขามาก่อนแล้ว“ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในเฟส 1 Taste Buds เริ่มการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมก่อน ดังนั้นฉันจะตอบกลับในลักษณะเดียวกับที่พวกเขาเริ่ม มันเป็นการต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน!”
“หัวหน้าใหญ่ ฉันก็รู้สึกว่าคุณช่างเป็นคนที่ น่ากลัว เหลือเกิน!” นี่คือเสียงที่ดังมาจากหัวใจของ ลั่วฉี
ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ มีไหวพริบ มีความสามารถสูง และที่สำคัญที่สุดคือชั่วร้าย มันไม่มีใครสามารถบอกถึงนิสัยของเสี่ยวหลัวได้จากที่เห็นเพียงแค่ภายนอก จนกว่าพวกเขาจะได้รู้จักเสี่ยวหลัวจริงๆ
“คุณยังคงเต็มใจ ที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน และยังทำงานให้กับฉันต่อไปหรือเปล่า” เสี่ยวหลัว ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ลั่วฉี พยักหน้าอย่างหนักแน่น: “แน่นอน ที่ฉันจะใช้คำว่า“น่ากลัว” มันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น มันหมายถึงคำชมเชย มันไม่ใช่ว่าหัวหน้าใหญ่น่ากลัวจริงๆ สักหน่อย”
“คำชมเชย?”
“บางครั้ง ฉันก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ถึงคำพูดของศิลปินอย่างคุณจริงๆ” เสี่ยวหลัว หัวเราะ
ลั่วฉี หัวเราะออกมา
“จริงสิ ตอนนี้ยังเหลืออยู่อีกกี่คน” เสี่ยวหลัว ถาม
ลั่วฉี เปิดโฟลเดอร์และมองผ่านรายการจากนั้นก็เงยหน้ามาขึ้นและตอบว่า“เหลืออีกเพียงแค่คนเดียว นั้นคือ เจียง หยงชุน เจ้าของโรงงานพลาสติก หยิงตง ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะจัดการได้ยากกว่าคนอื่น”
“ทำไม?”
“เจียง หยงชุน ถือได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของ Taste Buds เขาไม่ได้มีอะไรที่สนใจเป็นพิเศษ มีเพียงอย่างเดียวที่เขาชอบก็คือบุหรี่และไวน์รสเลิศ อย่างไรก็ตามเขายังโสด และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิง บางครั้งมีคนส่งผู้หญิงไปให้เขา แต่เธอก็ถูกเขาไล่กลับมา”ลั่วฉี พูด
เสี่ยวหลัวนั่งที่เบาะหลังและครุ่นคิด “เพียงแค่มีเงิน มันก็ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดหาบุหรี่หรือไวน์รสเลิศทุกชนิด แต่สิ่งเหล่านี้มันน่าจะไม่เพียงพอที่จะจัดการกับเขาได้ อย่างไรก็ตามมันทำให้ฉัน รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อย ที่เขาไม่สนใจผู้หญิงเลย” เสี่ยวหลัว ครุ่นคิด
“ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น?” ลั่วฉี ถาม พร้อมกับดวงตาที่มีเสน่ห์ของเธอกระพริบไปมา
“มันไม่มีอะไรแปลกที่ผู้ชายจะไม่ชอบบุหรี่หรือไวน์รสเลิศหรือแม้แต่รถสปอร์ต แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สนใจผู้หญิงสวยๆเลย เรื่องพวกนี้มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ มันเป็นรหัสที่เขียนอยู่ในยีนของเรา ตราบใดที่ยังเป็นผู้ชาย มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สนใจผู้หญิงสวยๆ” เสี่ยวหลัว พูด
เมื่อ ลั่วฉี ได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงและตอบโต้กลับในทันทีว่า “แต่หัวหน้าใหญ่ คุณก็ไม่ได้สนใจพวกผู้หญิงสวยๆเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วตอนนี้ เธอเห็นว่ามีผู้หญิงถูกส่งมาหรือยัง” เสี่ยวหลัว ถามกลับ
“แน่นอนว่ามี….”
ลั่วฉี ยื่นอกของเธอออกมาพร้อมกับกัดปากเล็กๆ และเผยให้เห็นถึงเสน่ห์ที่งดงามของเธอ โดยพื้นฐานแล้วเธอนับได้ว่าเป็นสาวงามคนหนึ่ง แต่เสี่ยวหลัวก็เฉยเมยเหลือเกิน เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
เสี่ยวหลัว รู้สึกเขินอาย เขาไม่คิดเลยว่าหญิงสาวคนนี้จะล้อเล่นกับเขาแบบนี้
“ว้าว หัวหน้าใหญ่ เขินอายเป็นด้วย” ลั่วฉี หัวเราะอย่างร่าเริง เธอดีใจมากกับการค้นพบเล็กๆนี้
เสี่ยวหลัว แสร้งทำเป็นไอ ล้างคอแล้วทำน้ำเสียงเลียนแบบ สวี่ กว่างซ่ง เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า“จริงจังหน่อย!”
“รับทราบ ฮิฮิ…” ลั่วฉี หัวเราะ
เสี่ยวหลัวเปลี่ยนหัวเรื่องอย่างรวดเร็ว แล้ววกกลับไปที่หัวข้อก่อนหน้า“ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งจะไม่สามารถต้านทานต่อผู้หญิงที่น่ารักๆได้ เว้นเพียงแต่ว่า เจียง หยงชุน จะมีปัญหาที่ตรงนั้น…”
“หัวหน้าใหญ่ หมายความว่าเขาทำแบบ…ไม่ได้เหรอ?”
ลั่วฉี ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกเอียงอายอะไรกับปัญหาแบบนี้เลย เธอมองไปที่ เสี่ยวหลัว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นด้วยดวงตาสีดำที่กลมโตของเธอ
เสี่ยวหลัวพยักหน้ายืนยันสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไป ดูเหมือนว่าเขาจะค้นพบวิธีที่จะจัดการกับ เจียง หยงชุน แล้ว
“เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน~”
ทันใดนั้นเองมันก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา
เสี่ยวหลัวหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นคนโทรมา มันเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยซึ่งมันไม่ได้มีบันทึกไว้ในรายชื่อผู้ติดต่อของเขา ขณะที่เขากดปุ่มรับและกำลังจะถามว่าเป็นใครทันใดนั้นเองมันก็มีเสียงที่เร่งรีบดังขึ้นมาจากปลายของสายอีกด้าน
“ทำไมเขายังไม่รับสาย ทำไมเขายังไม่รับสายอีก…สวัสดีครับนี่คือเสี่ยวหลัว” เสียงจากอีกด้านรู้สึกโล่งใจหลังจากได้ยินเสียงของเสี่ยวหลัว
มันเป็นเสียงของผู้หญิง!
“คุณคือใครเหรอครับ?” เสี่ยวหลัว ถาม
“มาที่โรงพยาบาลเร็วๆเถอะค่ะ ตอนนี้ จ้าว เหมิ่งชี เธอกำลังอยู่ที่โรงพยาบาล” เสียงที่เป็นกังวลของผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้น
จ้าว เหมิ่งชี?
เสี่ยวเสี่ยวหลัวขมวดคิ้วอย่างเย้ยหยัน“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
เขากำลังจะวางสาย
“อย่าเพิ่งวางสาย จ้าว เหมิ่งชี ป่วยหนักมากและหมอบอกว่าเธออาจจะไม่รอด ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอาการโคม่าและเอาแต่ร้องไห้ชื่อเรียกชื่อของคุณ ฉันพบหมายเลขของคุณ จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์ของเธอ ได้โปรดมาที่นี่เร็วๆเถอะนะคะ” ผู้หญิงที่อยู่อีกปลายด้านหนึ่งของสายเป็นกังวล เธอพูดพร้อมกับเริ่มร้องไห้
เสี่ยวหลัวเงียบไปครู่หนึ่ง …
“เธออยู่ห้องอะไรงั้นเหรอ?”
เสี่ยวหลัวเขาไม่ใช่คนใจร้ายไส้ระกำอะไรขนาดนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่แฟนของ จ้าว เหมิ่งชี แล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่า พวกเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมวิทยาลัยด้วยกัน ตอนนี้เธอป่วยหนักและตกอยู่ในอาการโคม่า เขาคงจะเป็นคนที่ใจร้ายเกินไปแล้ว ถ้าไม่ไปเยี่ยมเธอ”
“ห้อง ICU,หมายเลขห้อง 306!”
หลังจากที่ได้รู้ว่า จ้าว เหมิ่งชี อยู่ที่ห้องอะไรแล้ว เสี่ยวหลัวก็วางหูโทรศัพท์ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าหมายเลขใหม่ของเขาถูกส่งไปยัง จ้าว เหมิ่งชี โดยไม่ได้ตั้งใจในตอนแรก มันก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้เขารู้แล้วว่า จ้าว เหมิ่งชี ป่วยหนักและตกอยู่ในอาการโคม่า เขาก็ไม่สามารถที่จะเพิกเฉยได้
“หัวหน้าใหญ่ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” ลั่วฉี ถาม
“เพื่อนเข้าโรงพยาบาลหนะ”
เสี่ยวหลัวไม่ได้โกหกเธอ เพราะว่ามันไม่มีอะไรจำเป็นที่จะต้องซ่อน จ้าว เหมิ่ง เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆคน ที่เข้ามาในชีวิตของเขา และก็จะไม่ใช่คนสุดท้าย ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องตัดเธอให้ออกไปอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ต้องการติดต่อเธออีกครั้งในอนาคต
“คุณกลับไปที่ บริษัท ก่อนเถอะ ฉันจะไปเยี่ยมเพื่อนสักหน่อย”
“อย่าลืมนำช่อดอกไม้ไปด้วยนะคะ นั่นเป็นสิ่งที่ควรทำเมื่อไปเยี่ยมผู้ป่วย” ลั่วฉี พูดเตือน
“ดอกไม้ชนิดใด ถึงจะเหมาะสม?”
เสี่ยวหลัวไม่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้มากนัก
“การนำดอกไม้ ไปเยี่ยมใครบางคนในโรงพยาบาล มันมีไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา มันแสดงให้เห็นถึงการดูแลและความห่วงใย และความปรารถนาที่จะให้พวกเขาปลอดภัยและหายจากอาการป่วยเร็วๆ คุณควรเลือกดอกไม้ที่สง่างามที่มีสีสันสดใสและมีกลิ่นหอมเช่น ดอกกล้วยไม้,ดอกลิลลี่เปรู,ดอกกุหลาบ,ดอกคาร์เนชั่น เป็นต้น” .. ลั่วฉี พูดรายการดอกไม้ออกมา
เสี่ยวหลัว รู้สึกว่าพวกนี้มันจะซับซ้อนเกินไป“ไม่เป็นไรฉันจะไปมือเปล่า”
นอกจากนี้เขาก็เพียงแค่จะไปเยี่ยม เธอแค่พักหนึ่ง และเขาก็ไม่ต้องการอะไรที่จะทำให้มันยุ่งยาก
เสี่ยวหลัวมาถึงที่โรงพยาบาลเทศบาลในเมือง โดยการนั่งรถแท็กซี่
จากนั้นเสี่ยวหลัวจึงเดินมุ่งตรงไปที่ห้อง ICU 306 และเคาะประตูเบาๆ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมที่หยักโศกเล็กน้อยเปิดประตูออกมาแล้วถามว่า “คุณใช่ เสี่ยวหลัว หรือเปล่า”
ดวงตาที่เป็นกังวลของเธอสว่างขึ้น เมื่อเธอเห็นเสี่ยวหลัวที่ประตู
เสี่ยวหลัวพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปในห้อง เขาเห็น จ้าว เหมิ่งชี กำลังนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เธอมีหน้ากากออกซิเจนอยู่เหนือจมูกและปากของเธอ ใบหน้าของเธอขาวซีดมาก เธอดูไม่เหมือนกับสาวสวยคนนั้นที่เขาจำได้
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” เสี่ยวหลัว ถามด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับที่เขาพูดกับคนแปลกหน้า
“เธอเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน หมอบอกว่าไส้ติ่งของเธอแตกออกมา และมันก็เป็นอันตรายถึงชีวิต เธอเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน และอาการของเธอก็มีความเสถียรชั่วคราวอย่างไรก็ตามมันก็มีค่ารักษา 70,000 ถึง 80,000 หยวน ที่จะต้องใช้ในการรักษาในภายหลัง” ผู้หญิงที่มีผมหยักโศกตอบอย่างรีบเร่ง เธอดูเป็นกังวลและเคร่งเครียดมาก
“ฮัว ไฟ่เฟิง แฟนของเธอไปอยู่ที่ไหนแล้วหละ?”
“เขาเลิกกับเธอเมื่อเธอป่วย เขาบอกว่าเธอตายไปได้ก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาให้กับเธอ” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับกัดริมฝีปากของเธอด้วยความโกรธ
เสี่ยวหลัว ส่ายหัว อย่างเย้ยหยัน ฮัว ไฟ่เฟิง มันสมกับเป็นขยะจริงๆ