ตอนที่ 115

The Strongest Hokage

“ท่านกลับมาได้ทันเวลาพอดี เรากำลังเริ่มวางแผนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปกันอยู่”

จากนั้น ซาคุโมะ สั่งให้ นินจา จากนอกห้องให้นำเก้าอี้มาเพิ่มอีก 2 ตัว

ซึนาเดะ นั่งลงบนเก้าอี้ในทันที

จริง ๆ แล้ว ไนโตะ ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการประชุมใด ๆ แต่เมื่อเธอนั่ง ไนโตะ ก็ทำสิ่งเดียวกันโดยไม่ตั้งใจ เขาถึงกับส่ายหัวหลังจากที่เข้านั่งเก้าอี้ลงไปแล้ว

การประชุมได้เริ่มต้นขึ้นในทันที

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ดันโซ เห็น ซึนาเดะ การแสดงออกของเขาก็เยือกเย็นและเงียบทันที

ทันทีที่การประชุมสิ้นสุดลง ดันโซ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องในทันที

คนอื่น ๆ ก็ทยอยกันออกไปจนเหลือแค่ ไนโตะ , ซึนาเดะ และ ซาคุโมะ อยู่ในห้องเท่านั้น

“ถอนหน้ากากของเธอออกได้แล้ว ฉันรู้ตัวจริงของเธออยู่แล้ว”

ซาคุโมะ ยิ้มให้ ไนโตะ ในขณะที่ ไนโตะ กำลังถอดหน้ากาก ซาคุโมะ ก็ตบไหล่ ไนโตะ เบา ๆ

“ทำได้ดีมาก เจ้าลูกชาย”

คำชมเชยนี้มาจากใจ

ในมุมมองของ ซาคุโมะ เขาไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับวิธีที่ ไนโตะ ใช้ในการจัดการกับ กลุ่มนินจาอิวะ ไปมากกว่าความจริงที่ว่า ไนโตะ สามารถช่วย ซึนาเดะ ไว้ได้

“แต่ ไนโตะ ไม่ได้แค่ช่วยฉันไว้เท่านั้นนะ”

ซึนาเดะ มองไปที่ ซาคุโมะ และกระซิบข้างหูเขา

ไนโตะ มองดูเธอและได้แต่ชื่นชมความงามของเธอ

หลังจากนั้น ซึนาเดะ ก็เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงการเผชิญหน้ากับ นินขาซึนะ และเรื่องที่ ไนโตะ สามารถเอาชนะ ย่าโจ ได้

เมื่อ ซาคุโมะ รู้ว่า ไนโตะ สามารถเอาชนะ นินจาอิวะ ทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง เขาไม่แปลกใจมากนัก เพราะเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของ ไนโตะ

แต่เมื่อเขารู้ว่า ไนโตะ สามารถเอาชนะ ย่าโจ ได้ ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก

ซาคุโมะ ไม่คิดว่า ไนโตะ จะสามารถเอาชนะ ย่าโจ ได้

ไนโตะ ยังอายุไม่ถึง 11 ปีเลยนี้?!

เขาจะสามารถเอาชนะคนอย่าง ย่าโจ ตอนเขาอายุแค่นี้ได้อย่างไร?

ซาคุโมะ ไม่อยากคิดว่าความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ในอนาคตจะไปถึงขนาดไหน ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นภาพสะท้อนของ โฮคาเงะรุ่นแรก ฮาชิรามะ ในตัวของ ไนโตะ ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อ ซาคุโมะ ส่งข่าวเรื่องของ ไนโตะ กลับไปยัง หมู่บ้านโคโนฮะ เขาไม่ลืมที่จะเพิ่มหนึ่งประโยคที่เป็นความต้องการของ ไนโตะ นั่นคือ ไนโตะ ต้องการรู้ความลับในขั้นที่ 2 ของ อาภรณ์สายฟ้า

แน่นอนว่า มันจะเร็วกว่าถ้าเขาให้คนที่อยู่ในหมู่บ้านช่วยหามัน

แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่าตอนนี้ หมู่บ้านโคโนฮะ กำลังต่อสู้ หมู่บ้านซึนะ, หมู่บ้านอิวะ และ หมู่บ้านอาเมะ จึงเป็นการยากที่จะให้ใครบางคนลอบเข้าไปเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิชา อาภรณ์สายฟ้า ใน หมู่บ้านคุโมะ ได้

ไนโตะ ไม่ได้หวังอะไรมากมายนักกับการร้องขอของเขาในครั้งนี้

ไนโตะ ถอดหน้ากากและเสื้อคลุมออก

ทันทีที่เขาถอดหน้ากากและผ้าคลุมออก เขาก็กลายเป็นแค่ นินจา ธรรมดา ๆ จาก โคโนฮะ  เท่านั้น เขาไม่ใช่ หน่วยลับ และเขาก็ไม่ใช่คนที่ทำลายทีมของ นินจาอิวะ หรือผู้ที่สามารถเอาชนะ ย่าโจ จากหมู่บ้านซึนะ ได้อีกต่อไป

ไนโตะ เหนื่อยล้ามากจากการต่อสู้ติดต่อกันนับไม่ถ้วน เขาจึงเดินไปรอบ ๆ ค่ายและยืดเส้นยืดสายร่างกายของเขาเพื่อพยายามผ่อนคลาย

อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่คิดว่าเขาจะได้พบกับใบหน้าที่คุ้นเคยที่นี่

มินาโตะ!

เมื่อ ไนโตะ เป็น มินาโตะ ไนโตะ ก็แสดงสีหน้าสงสัย

ซารุโทบิ ส่ง มินาโตะ ให้เข้าร่วมในสนามรบอย่างนั้นหรือ?!

อย่างไรก็ตามเมื่อ ไนโตะ เห็น มินาโตะ กำลังถืออุปกรณ์บางอย่างไว้ในมือ สีหน้าของ ไนโตะ ก็เปลี่ยนไป

ดูเหมือนว่า มินาโตะ จะอยู่ในทีมที่รับผิดชอบในการปกป้องขบวนลำเลียงทรัพยากรไปยังสนามรบ

สิ่งของต่าง ๆ พวก อาหาร , ยาสมุนไพร , ยาเม็ดและวัสดุในการทำยา พวกมันถูกผนึกเอาไว้และขนส่งมาในม้วนกระดาษ

อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถผนึกทุกอย่างลงในม้วนกระดาษได้ เพราะขนาดของมัน ดังนั้นสิ่งของธรรมดาก็ต้องขนส่งมาตามปกติ

ดังนั้น สิ่งของเหล่านี้ที่ไม่สำคัญ แม้ว่าพวกเขาจะถูกซุ่มโจมตีมันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสนามรบ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงส่ง มินาโตะ มาคุ้มกันขบวนและให้ม้วนกระดาษไว้กับ มินาโตะ

“ไนโตะ นั่นนายเหรอ?”

มินาโตะ สังเกตเห็น ไนโตะ หลังจากที่เขาประหลาดใจเล็กน้อย เขาก็ยิ้มให้ ไนโตะ และกล่าวทักทาย

ไนโตะ จบการศึกษาจากโรงเรียนมาก่อน มินาโตะ หลังจากนั้น มินาโตะ ก็ไม่ได้ยินข่าวของ ไนโตะ อีกเลย จนถึงตอนนี้ที่ มินาโตะ ได้มายังแคว้นแห่งฝน ทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้ง

มินาโตะ รู้สึกชื่อชม ไนโตะ ที่เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้

“ใช่แล้ว นี่ฉันเอง”

ไนโตะ พยักหน้าเบา ๆ ให้ มินาโตะ

มินาโตะ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นั่นคือ ไนโตะ ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ

ถ้า ไนโตะ ได้เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ เขาก็ต้องได้เข้าสังกัดหน่วยใดหน่วยหนึ่งก่อนไม่ใช่เหรอ?

“ฉันเพิ่งจบจากโรงเรียนนินจา ฉันได้รับภารกิจให้ขนย้ายเครื่องมือและสิ่งของต่าง ๆ แล้วนายละ ไนโตะ…พวกเขาคงละเลื่อนขั้นให้นายเป็น จูนิน เร็ว ๆ นี้สินะ”

มินาโตะ พยักหน้าเล็กน้อยให้ ไนโตะ แต่คำพูดนี้ก็แฝงไปด้วยนัยยะบางอย่างของ มินาโตะ

จูนิน ?

ไนโตะ ตกใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยิ้มและตอบกลับไป “ฉันเองก็ไม่รู้หรอก แต่ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด”

“ฉันไม่คิดว่าเรา 2 คน จะได้เผชิญหน้ากันอีก…ไนโตะ นายอยากจะปะลองกับฉันอีกสักครั้งไหม?”

มินาโตะ มอง ไนโตะ ด้วยท่าทางที่ท้าทาย

“หยอก ๆ … ฉันล้อเล่น ฉันรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาปะลองกันใช้ไหมละ”

ไนโตะ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปหยุดอยู่ข้าง ๆ มินาโตะและตบไหล่เขาเบา ๆ

“ขอโทษนะ ฉันต้องรีบไปทำธุระก่อน ไว้คราวหน้าค่อยคุยกันใหม่นะ”

หลังจากนั้น ไนโตะ ก็เลี้ยวซ้ายและเดินจากไป

มินาโตะ ถึงกับตะลึงในสิ่งที่เขาทำ การแสดงออกของ มินาโตะ เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เขายืนตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง

ความเร็วนี้ มันอะไรกัน?!

มินาโตะ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขาเคยเห็นความเร็วของ จูนิน มามากมายหลายคน แต่ก็ไม่มีใครมีความเร็วมากขนาดนี้!

มินาโตะ เป็นคนที่มีประสาทสัมผัสดีที่สุดในโลกนินจาแห่งนี้ และด้วยเหตุนี้ เขาจึงตกใจยิ่งกว่าคนอื่น ๆ

เพราะเขาสามารถตอบสนองต่อความเร็วของ ไนโตะ ได้ แต่ร่างกายของเขายังไม่พร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแบบนี้!

ความเร็วของร่างกายของ มินาโตะ ไม่สามารถตอบสนองต่อประสาทสัมผัสของเขาได้ หรือพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า ถ้า ไนโตะ คือศัตรู ไนโตะ จะสามารถจัดการกับเขาได้อย่างง่ายดาย!

หลังจากนั้นไม่นาน มินาโตะ ก็ดึงสติกลับมาและยิ้มออกมา

“ฉันไม่คิดว่าเขาจะเก่งกว่าฉันถึงขนาดนี้ ฉันคิดว่าฉันจะลดความห่างชั้นของพลังให้น้อยลงได้…แต่ความเร็วของเขาก็ช่างน่าเหลือเชื่อเหลือเกิน เขาทำได้ยังไงกันนะ หรือเป็นเพราะว่าการเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มินาโตะ ก็รู้สึกหมดหนทาง เขารู้ว่า ไนโตะ เป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงมาก แต่เขาก็เชื่อว่าสงครามครั้งนี้ทำให้พรสวรรค์ของ ไนโตะ แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ มินาโตะ จะได้เข้าร่าม แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อ มินาโตะ คิดถึงความเร็วของ ไนโตะ ทำให้เขารู้สึกไร้พลัง

“ความเร็ว…ความเร็ว…”

มินาโตะ มองไปยังทิศทางที่ ไนโตะ เดินจากไป เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยคำเหล่านี้