ตอนที่ 346 คำนินทา

นายน้อยเจ้าสำราญ

ตอนที่ 346 คำนินทา

นับจากคืนที่เมฆหมอกปกคลุมเมืองหลวง บัดนี้ได้ผ่านไปถึงสามวันแล้ว

สีหน้าของต่งชูหลานและหยูเวิ่นหวินดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ศิษย์แห่งสำนักเต๋าทั้งเจ็ดก็มีสีหน้ารู้สึกผิดเช่นกัน พวกเขาไปชางฮ่ายเจี้ยนหลูเพื่อตามไปฆ่าเป่ยหวังฉวน ทว่าพวกเขามิเห็นแม้แต่เงาของเป่ยหวังฉวน

เมื่อพวกเขากลับมาที่แห่งนี้อีกครา ก็พบว่าบนพื้นมิได้มีศพกองเกลื่อนกลาดแล้ว เหลือเพียงรอยเลือดสีดำเท่านั้นที่ยังติดอยู่บนพื้น หนิงซือเหยียนกล่าวว่าเขานำซากศพเหล่านั้นไปฝังไว้ในป่าซิ่งหลินหลังเขา

พวกเขาจึงได้รับรู้ว่าที่แห่งนี้ได้เกิดการต่อสู้อันดุเดือดขึ้น มิเพียงแต่โหยวเป่ยโต้ว แม้แต่เป่ยหวังฉวนก็ยังเดินทางมาที่นี่ด้วย อีกทั้งฟู่เสี่ยวกวนยังอยู่ในอาการสาหัส บัดนี้องค์หญิงไท่ผิงได้รับตัวไปรักษาแล้ว

เรื่องนี้ได้ลือกันไปทั่วเมืองกวนหยุน ถูกดัดแปลงไปต่าง ๆ นานา เช่นว่า อัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาจัวอี้สิง ได้จัดการกับฟู่เสี่ยวกวนเพื่อให้หลานชายของเขาจัวตงหลาย ขึ้นครองอันดับหนึ่งในงานชุมนุมวรรณกรรม

อีกเช่นขันทีเกาเจ้าหมาแก่ตัวนั้นต้องการล้างแค้นให้บุตรชายของเขา จึงได้ส่งผู้มีฝีมือบุกเข้าไปโจมตีฟู่เสี่ยวกวนในทะเลสาบจิ้งหู

และอีกเช่นองค์หญิงรักฟู่เสี่ยวกวนอย่างสุดหัวใจ แต่ว่าจักรพรรดินีเซียวมิเห็นด้วย จึงได้ทำลายความสัมพันธ์นี้ลง พระนางมิมีวิธีอื่นนอกจากบั่นคอฟู่เสี่ยวกวนทิ้งเสีย

ประเดี๋ยวนะ !

ยังมีเรื่องลือกันอีกอย่างหนึ่งว่า

ฟู่เสี่ยวกวนเป็นบุตรนอกสมรสขององค์จักรพรรดิ เมื่อคราที่พระองค์เสด็จไปศึกษายังราชวงศ์หยู !

มีประเด็นออกมาโต้แย้งกันสองประเด็น อย่างแรกคือ ว่ากันว่าจักรพรรดิเหวินมีนิสัยเกเรตอนวัยหนุ่ม ได้ยินมาว่าสวี่หยุนชิงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งในเมืองหลินเจียง จักรพรรดิเหวินจะปล่อยนางไปได้เยี่ยงไร

อย่างที่สองคือ เนื่องจากฟู่เสี่ยวกวนคือบุตรนอกสมรสขององค์จักรพรรดิ อีกทั้งยังเดินทางมาที่เมืองกวนหยุนแห่งนี้ และคาดว่าเขาอาจจะคว้าตำแหน่งชนะเลิศในงานชุมนุมวรรณกรรมได้ เปรียบเทียบกันแล้วช่างแตกต่างจากองค์รัชทายาทโดยสิ้นเชิง จึงทำให้ฝ่าบาททรงเปลี่ยนพระทัย ประสงค์ให้ฟู่เสี่ยวกวนเข้าสู่ราชวงศ์ จึงเป็นเหตุทำให้ตำแหน่งองค์รัชทายาทสั่นคลอน ดังนั้นจักรพรรดินีเซียวจึงได้ลงมือจัดการเขา

“หากเป็นเช่นนี้ องค์จักรพรรดิช่างเก่งกาจอย่างแท้จริง บุตรชายในราชวงศ์หยูของเขา บัดนี้เป็นถึงนักปราชญ์อันดับหนึ่งในใต้หล้า ! ”

“หาใช่ไม่ เจ้าเคยอ่านความฝันในหอแดงหรือไม่ ? ข้าจะบอกเจ้าว่า เยาวชนราชวงศ์หยูกล่าวนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็เป็นผู้เขียน แต่ฝ่าบาททรงมิพอพระทัยยิ่ง ทรงเห็นว่าควรแก้ไขเป็นเยาวชนราชวงศ์อู๋กล่าวเสีย”

“ในเมื่อเขาเป็นองค์ชายแห่งราชวงศ์อู๋ เช่นนั้นบทความในเนื้อหาก็ควรเป็นของราชวงศ์อู๋”

“หมายความว่า…หากฟู่เสี่ยวกวนได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันวรรณกรรมในครานี้ ก็จะเป็นเกียรติยศของราชวงศ์อู๋เยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“เจ้าบ้าหรือโง่กัน ? ในเมื่อฟู่เสี่ยวกวนคือโอรสขององค์จักรพรรดิ เขาก็ต้องเป็นคนของราชวงศ์อู๋สิ แน่นอนว่าต้องนำมาซึ่งเกียรติยศแห่งราชวงศ์อู๋ ! ”

“พวกเจ้าคิดมากเกินไปหรือไม่ ? ฝ่าบาทยังมิได้ประกาศว่าเขาเป็นบุตรเลยด้วยซ้ำ ! ”

“เจ้าคือคนโง่เง่าอย่างแท้จริง…” ชายผู้นั้นลดเสียงลงจากนั้นก็เอามือทุบโต๊ะ “ข้าได้ยินมาว่าวันบวงสรวงสู่สวรรค์ จักรพรรดิเหวินจะทรงพาฟู่เสี่ยวกวนไปด้วย ! ”

ผู้คนต่างพากันยื่นหน้าเข้ามา แล้วสูดหายใจเข้า “ไอหยา ! จริงเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ชายผู้นั้นทำท่าทางหยิ่งผยอง “วันบวงสรวงสู่สวรรค์ตรงกับวันที่เก้าเดือนสี่ เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น ถึงเวลาแล้วพวกเจ้าจะรู้เอง”

……

เมื่อฝานเทียนหนิงได้ยินเรื่องนี้เข้า เขาก็มีท่าทางที่ตกใจมิแพ้ชาวบ้านเหล่านี้เลย เนิ่นนานเสียทีเดียวกว่าเขาจะตั้งสติได้

นี่มันอะไรกัน !

บุตรพ่อค้าที่ดินแห่งหลินเจียงฟู่เสี่ยวกวน เมื่อเดินทางมายังเมืองกวนหยุนเพียงพริบตากลับกลายเป็นบุตรนอกสมรสของจักรพรรดิเหวิน…ให้ตายสิ เหตุใดเขาจึงมิเป็นบุตรนอกสมรสของเสด็จพ่อกัน ?

หากว่าฟู่เสี่ยวกวนเป็นพระเชษฐาของเขาจะดีสักเท่าใดกัน ?

เรื่องนี้ทำให้ฝานเทียนหนิงใช้เวลาคิดตลอดช่วงเช้า จนกระทั่งสุดท้ายเขาจึงมั่นใจว่าฟู่เสี่ยวกวนคือโอรสของจักรพรรดิเหวินอย่างแท้จริง !

เช่นนั้นการที่จักรพรรดิเหวินทรงยกเลิกคำสั่งนั้น คงเป็นเพราะว่าอู๋หลิงเอ๋อร์คือพระขนิษฐาของเขา หากว่าฟู่เสี่ยวกวนได้ตำแหน่งชนะเลิศไป เรื่องนี้คงมิดีเป็นแน่

ประการที่สอง ในฐานะจักรพรรดินี หากมิได้ทำเรื่องนักหนาจนเกินไป คงจะมิถูกสั่งให้กักตัวอยู่ในตำหนักเย็นเป็นแน่ แต่ทว่าจักรพรรดินีเซียวกลับยอมละทิ้งตำแหน่งจักรพรรดินีแล้วยอมถูกส่งไปยังตำหนักเย็น

ฟู่เสี่ยวกวนนั้นเติบโตมาในราชวงศ์หยูเมืองหลินเจียง ในฐานะบุตรชายของเขา จักรพรรดิเหวินรู้สึกว่าติดค้างฟู่เสี่ยวกวนมากมายเสียเหลือเกิน อีกทั้งชื่อเสียงอันเลื่องลือของฟู่เสี่ยวกวนทำให้ฝ่าบาททรงชื่นชมยิ่งนัก

แต่ทว่าจักรพรรดินีเซียวกลับใช้กลวิธีมากมายในการจัดการกับฟู่เสี่ยวกวนให้ถึงชีวิต สิ่งนี้ทำให้องค์จักรพรรดิหมดความอดทน จักรพรรดิเหวินได้บอกถึงตัวตนของฟู่เสี่ยวกวนแล้ว แต่ทว่าจักรพรรดินีก็ยังเลือกที่จะทำเช่นนั้น นางก็สมควรถูกขังในตำหนักเย็นแล้ว

“เสียแรงที่อุตส่าห์ทำมามากมาย ! ”

ฝานเทียนหนิงส่ายหัว เพื่อที่ปกป้องฟู่เสี่ยวกวน ผู้มีฝีมือระดับปรมาจารย์ของราชวงศ์อู๋ถึง 2 คนได้มารวมตัวกัน แต่น่าเสียดายที่เป่ยหวังฉวนมาช้าเกินไป ฟู่เสี่ยวกวนจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส

ข่าวนี้เยียนหานยวี่และท่าป๋ายวนรับรู้มาก่อนฝานเทียนหนิงเสียอีก

ทั้งสองก็มิอาจเชื่อหูของตนเองได้ แต่ทว่าคลั่งดาบฉือมู่แห่งแคว้นฮวงมิใช่คนที่จะเอ่ยคำโกหกเช่นนี้

อีกทั้ง กงซุนแห่งแคว้นอี๋ก็ได้หายตัวไปตั้งแต่ค่ำคืนนั้น

ปรมาจารย์ถึง 2 คน คาดว่ากงซุนคงตกตายในน้ำมือของพวกเขาเป็นแน่ ฟู่เสี่ยวกวนเอาชีวิตรอดมาจากมีดบินของแม่นางกงซุนได้…เยียนหานยวี่มิอาจทำใจเชื่อได้

“เยี่ยงนั้นหมายความว่า เป่ยหวังฉวนที่ลอบฆ่าฟู่เสี่ยวกวน ณ เมืองเปียนเฉิงได้เข้าช่วยเหลือฟู่เสี่ยวกวนในครานี้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”

เยียนหานยวี่ทำหน้าเคร่งขรึม “กาลเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว ในตอนนั้นเป่ยหวังฉวนยังมิรู้ถึงตัวตนของฟู่เสี่ยวกวน ดังนั้นการโจมตีเขาจึงมิต้องคิดอันใดมาก แต่บัดนี้ตัวตนของฟู่เสี่ยวกวนได้ปรากฏขึ้นชัดเจนแล้ว การที่เป่ยหวังฉวนช่วยเหลือเขาก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว”

“หรือเขาจะเป็นบุตรนอกสมรสของจักรพรรดิเหวินอย่างแท้จริง ? ” ท่าป๋ายวนรู้สึกว่านี่มันช่างไร้สาระสิ้นดี

ฟู่เสี่ยวกวน พ่อค้าที่ดินแห่งเมืองหลินเจียงจากราชวงศ์หยูอันอยู่ห่างไกลออกไปจากราชวงศ์อู๋ กลับกลายเป็นบุตรนอกสมรสของจักรพรรดิเหวิน !

เช่นนั้นเขาเป็นโอรสของจักรพรรดิเยี่ยงนั้นหรือ ?

บัดนี้จักรพรรดินีทรงอยู่ในช่วงย่ำแย่ องค์รัชทายาททรงโดดเดี่ยว หากว่าฟู่เสี่ยวกวนใช้วิธีจัดการสักเล็กน้อย เขาอาจจะกลายเป็นองค์รัชทายาทก็ได้ !

จากพ่อค้าที่ดินกลายมาเป็นองค์รัชทายาท ท่าป๋ายวนอยากจะหัวเราะเยาะตนเองยิ่งนัก “มิน่าเล่าจักรพรรดิเหวินถึงได้ยกเลิกราชโองการนั่น การแข่งขันวรรณกรรมในครานี้ขาดสีสันอย่างแท้จริง”

เดิมทีคาดว่าจะใช้จังหวะในงานชุมนุมวรรณกรรมในครานี้ เหยียบฟู่เสี่ยวกวนเพื่อให้จัวตงหลายก้าวขึ้นแทนที่เสียหน่อย แต่บัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนกลายเป็นองค์ชายแล้ว จัวตงหลายจะเหยียบหัวองค์ชายขึ้นไปได้เยี่ยงไร !

“น่าเสียดายอย่างแท้จริง ท้ายที่สุดก็มิสามารถทำให้เขาตายได้ ต่อจากนี้ก็คาดว่าคงจะมิมีโอกาสแล้ว” ท่าป๋ายวนเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงหดหู่ “เขากลายเป็นองค์ชายแห่งราชวงศ์อู๋ ต่อจากนี้พวกเราทั้งสองแคว้นคงจะวุ่นวายเป็นแน่”

เยียนหานยวี่ตกตะลึง เขาเข้าใจในความหมายของท่าป๋ายวนเป็นอย่างดี

แคว้นอี๋และแคว้นฮวงล้วนเป็นศัตรูกับแคว้นหยู ฟู่เสี่ยวกวนใช้ชีวิตในแคว้นหยูมา 17 ปี เขาต้องผูกพันกับที่นั่นเป็นแน่ อีกทั้งคู่หมั้นหมายของเขาก็เป็นถึงองค์หญิงแห่งราชวงศ์หยู

กองทัพทหารของราชวงศ์อู๋ก็นับว่าแข็งแกร่งยิ่ง หากว่าเขาส่งกองกำลังไปช่วยราชวงศ์หยู สงครามในครานี้จะเป็นเยี่ยงไร !

“ดังนั้น เขาจะต้องตาย ! ” ท่าป๋ายวนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดุดัน

แต่เยียนหานยวี่กลับหัวเราะขึ้นมาทันพลัน มิได้ เขาจะตายมิได้เป็นอันขาด !