144 : ความอับอายของฉ่หลิงเหยาและ การจัดการของเจียงเฉิน!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 144 : ความอับอายของฉ่หลิงเหยาและ การจัดการของเจียงเฉิน!

 

ตอนแรกเฉินเซินต้องการมาโอ้อวดตัวเองด้วยการพาแฟนสาวมาที่ร้านแห่งนี้

 

แต่คาดไม่ถึงว่าทันทีที่เข้ามาในร้านเขาก็ได้พบกับเจียงเฉินและฉู่หลิงเหยาที่กําลังมาเดตกันอยู่

 

ใบหน้าของเฉินเซินดํามืดราวกับก้นหม้อ!

 

และตอนนี้เจียงเฉินและฉู่หลิงเหยาเองก็กําลังพูดคุยไปหัวเราะไป เขาที่เห็นจะไม่โกรธได้ยังไง?

 

ความโกรธของเขาตอนนี้ราวกับจะทําลายสวรรค์ทั้งเก้าชั้นให้ได้

 

อย่างไรก็ตามเจียงเฉินไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อยเขา เอาแต่คุยกับฉ่หลิงเหยาอย่างเดียว

 

และฉู่หลิงเหยาเองก็ไม่ได้สนใจเขาเช่นกัน

 

สายตาของเธอนับว่าสูงมากและดูแล้วคงจะมีเพียงแค่เจียงเฉินเท่านั้นที่เข้าตาเธอ

และฉุหลงเหยาเองกเมเดสนเจเขาเช่นกัน

 

สายตาของเธอนับว่าสูงมากและดูแล้วคงจะมีเพียงแค่เจียงเฉินเท่านั้นที่เข้าตาเธอ

 

ตอนนี้แฟนสาวของเฉินเซินเองก็พบว่าเฉินเซินในตอนนี้ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว

 

แฟนสาวของเฉินเซิน “เฉินเซิน นายเป็นอะไรหรอ? นายกําลังคิดอะไรอยู่? นายไม่อยากรับผิดชอบฉันแล้วหรอ?”

 

เฉินเซินพูด “เปล่าจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงฉันแค่รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย”

 

เพราะท้ายที่สุดความสวยของฉู่หลิงเหยานั้นก็สามารถบดขยี้แฟนสาวคนปัจจุบันของเขาได้อย่างหมดจด

 

ถ้าคืนนั้นเขาไม่เมามากเกินไป เขาจะมาอยู่กับเธอตอนนี้ได้ยังไง?

 

เมื่อมองไปที่แฟนของตัวเองแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธเข้าไปอีก!

 

เวลาต่อมา ฉู่หลิงเหยาก็ถือกระเป๋าขึ้นมาก่อนจะลุกแล้วยิ้มออกมา

 

“เจียงเฉิน ฉันขอตัวไปห้องน้ําก่อนนะ”

 

“โอเค”

 

เจียงเฉินพยักหน้า

 

เพียงสิบวินาทีหลังจากที่ฉู่หลิงเหยาเดินออกไปก้เกิดความโกลาหลขึ้น

 

ปิก—

 

เพลง

เจียงเฉินหันไปทางทิศที่เสียงดังขึ้นมา ปรากฏว่าฉู่หลิงเหยาล้มแล้วเธอก็ทําให้ภาพวาดที่อยู่ข้างๆของเธอตกลงมาด้วย

 

ภาพวาดที่มีชื่อเสียงตกลงมาบนพื้นกรอบรูปก็แตกหัก กระจกที่แตกออกมาก็ทําให้ภาพนั้นขาดออกเป็นสองส่วน

 

ผู้คนที่อยู่รอบๆพากันตกใจ!

 

“โอ้พระเจ้า! รูปนั่นกลายเป็นแบบนี้ไปแล้วหรอ?”

 

“นี่มันภาพวาดที่มีชื่อเสียงไม่ใช่หรอ?”

 

“ภาพวาดนี้มูลค่าไม่ต่ํากว่า 1 ล้านแน่ๆใช่ไหม?”

 

เจียงเฉินเดินเข้าไปหาเธอทันทีก่อนจะช่วยเธอลุกขึ้นมาแล้วถามด้วยความเป็นห่วง “เธอเป็นอะไรไหม?”

 

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่ารูปนั่น”

 

ใบหน้าของฉู่หลิงเหยาซีดขาวในใจของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

 

เธออยากจะร้องไห้ออกมาะ มันไม่ใช่เพราะเรื่องรูปแม้แต่น้อย แต่หลักๆคือภาพพจน์ของเธอในใจของเจียงเฉิน

 

เธอรู้สึกผิด เธอพยายามโทษตัวเองการเดตดีๆแบบนี้เป็นอย่างนี้ได้ยังไงกัน?

 

ผู้จัดการร้านรีบออกมาทันที ใบหน้าของเขาดํามืด!

 

“คุณผู้หญิง คุณสร้างเรื่องยุ่งยากให้พวกเราแล้ว”

 

“ภาพวาดนี้เป็นภาพวาดของแท้ มันเป็นผลงานชิ้นเอกของจิตกรชาวเดนมาร์กที่ชื่อ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน

 

ผลงานชิ้นนี้มีชื่อว่า “The Little Match Girl”!”

 

ผู้จัดการร้านจ้องไปที่ฉู่หลิงเหยาแล้วพูดอย่างเย็นชา “คุณทําภาพวาดเสียหายคุณจะต้องชดใช้มันนะครับ!”

 

“นี่ฉันทราบแล้วค่ะ แล้วฉันจะต้องชดใช้เท่าไหร่คะ?”

 

คิ้วของฉู่หลิงเหยาขมวดเธอนั้นรู้ดีนี่เป็นผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกราคาของมันจะต้องไม่น้อยแน่!

 

และที่มากไปกว่านั้น มันยังเป็นผลงานชิ้นเอกอย่าง The Little Match Girl ด้วย!

 

เมื่อมองไปที่ท่าทางของผู้จัดการที่ดูดุร้ายนิดหน่อย เธอนั้นไม่ได้กลัวที่จะเสียเงินแต่เธอนั้นกลัวว่าเธอจะไม่มีเงินพอมากกกว่า!

 

“หลิงเหยา ไม่เป็นไรหรอก”

 

เจียงเฉินดึงฉู่หลิงเหยาที่ใบหน้ากําลังซีดและอยากจะร้องให้เข้ามาข้างหลังเขาก่อนจะถามด้วยเสียงต่ํา “คุณแน่ใจนะว่าภาพวาดนี้เป็นของแท้?”

 

“มันเป็นของแท้แน่นอนครับคุณผู้ชาย!”

 

ผู้จัดการร้านยืนกรานเสียงแข็ง “เจ้านายของผมประมูลมันมาจากโรงประมูลคริสตี้ ด้วยรายงานการตรวจสอบที่น่าเชื่อถือและลายเซ็นร่วมรับรองจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ถึง 3 คนภาพวาด The Little Match Girl ภาพนี้เป็นของแท้แน่นอนครับ!”

 

“อืม”

 

เจียงเฉินมองไปที่การแสดงออกของผู้จัดการร้านเขา ก็มั่นใจได้ทันทีว่ามันเป็นของแท้ไม่งั้นเขาคงไม่แสดงออกมาแบบนี้แน่ “แล้วราคาเท่าไหร่ล่ะ”

 

“ภาพวาดนี้ในตอนนั้นมันถูกขายที่ราคา 2.58 ล้าน แต่จะให้ชดใช้ในราคาเดิมมันก็…”

 

ผู้จัดการร้านถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย!

 

“2.58 ล้าน? ฉัน.ผู้จัดการร้านคะ ฉันไม่มีเงินพอ ฉัน…”

 

ฉู่หลิงเหยาร้องไห้ออกมาอย่างกระวนกระวาย และในใจของเธอก็มีแต่ความกังวล

 

ตอนแรกเธอเพียงต้องการชวนเจียงเฉินออกมาทานอาหารเย็นเพื่อขอบคุณแต่ตอนนี้มันกลับกลายมาเป็นแบบนี้…

 

เธอนั้นอับอายมาก เธออับอายจนไม่กล้ามองหน้าเจียงเฉินอีกแล้ว

 

“สาวน้อย เธอสามารถโทรขอความช่วยเหลือจากครอบครัวของเธอได้เงิน 2.58 ล้านมันก็ไม่น้อยเลยมีเพียงแค่ครอบครัวของเธอเท่านั้นที่พอจะจ่ายได้…”

 

ผู้จัดการร้านพยายามพูดกดดัน

 

ฉู่หลิงเหยาเอาโทรศัพท์ของเธอออกมาด้วยความตื่นตระหนกก่อนที่เธอจะได้โทรหาพ่อของเธอเจียงเฉินก็หยุดเธอไว้เสียก่อน

 

เจียงเฉินส่ายหัวของเขาแล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก ฉันจัดการเอง”

 

ในฐานะที่เขาเป็นผู้ชายเขาจะยอมให้ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขาอับอายและรู้สึกผิดได้ยังไง!

 

มันก็แค่ 2.58 ล้านเองไม่ใช่หรอ? เขามีเยอะพออยู่แล้ว

 

ในเวลานี้เองผู้ชายคนหนึ่งก็เดินผ่านมา

 

เจียงเฉินมองตามด้วยความประหลาดใจ

 

คนๆนี้คือเลขาของฉินกั่วทุ่ง!

 

เจอกันได้ทุกที่จริงๆ

 

ผู้ช่วยที่เดินผ่านก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกันที่ได้เจอเจียงเฉิน!

 

เขานั้นยังจําได้อย่างชัดเจนว่าฉันกั่วทุ่งปฏิบัติยังไงต่อเจียงเฉิน

 

เลขาครุ่นคิดอยู่ซักพักก่อนจะเดินเข้ามาและเริ่มตําหนิผู้ จัดการร้าน “นายเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? ที่แขวนอยู่นี่ไม่น่าใช่ของจริงนะมันควรจะเป็นของปลอมไม่ใช่หรอ? แล้วทําไมต้องจ่ายตั้ง 2.58 ล้านด้วย?”

 

ผู้จัดการร้านมองดูอย่างโง่งม

 

แน่นอนว่าเขาต้องรู้จักเลขาจ้าวซุนเลขาของบอวฉินกั๋วต่ง!

 

เมื่อพูดถึงฉินกั๋วต่งรายนั้นเป็นขาใหญ่ ที่แม้แต่เจ้านายของเขาก็ยังต้องต้อนรับด้วยตัวเอง! แต่น่าเสียดายที่ฉินกั๋วต่งไม่ชอบทําให้ตัวเองเป็นจุดเด่นและไม่ค่อยมาที่ร้านแห่งนี้บ่อยนัก ไม่งั้นเจ้านายของเขาคงมาบริการให้อีกฝ่ายด้วยตัวเองทุกวันแน่!

 

และที่มากไปกว่านั้นคือจ้าวซุนคนนี้เป็นคนที่ชอบผลงานศิลปะมากดังนั้นเขาเลยมีโอกาศได้ไปชื่นชมผลงานศิลปะต่างๆมากมายกับเจ้านายของตัวเอง

 

ด้วยสายตาระดับนี้ย่อมไม่มีทางแยกไม่ออกแน่ว่าชิ้นไหนของแท้ชิ้นไหนของปลอม!

 

แต่ทําไมตอนนี้เขาถึงบอกว่ามันเปยของปลอมกัน?

 

ผู้จัดการร้านที่กําลังสงสัยอยู่ก็เข้าสใจในทันทีเมื่อเขาเห็นจ้าวซุนขยิบตาให้เขา!

 

ใช่แล้ว!

 

จ้าวซุนยิ่มรู้แน่นอนว่าภาพนี้เป็นของแท้แต่เขากลับพูดว่ามันเป็นของปลอมจุดประสงค์ของเขาย่อมไม่มีอะไรมากกว่าการที่เขาไม่ยอมให้คนทั้งสองชดใช้มัน!

 

ผู้จัดการมองไปทางเจียงเฉินพร้อมกับความกลัวในใจ!

 

คนๆนี้แม้แต่เลขาของฉินกวางก็ยังยอมเข้ามาช่วยอย่างลับๆ!

 

เขาเกือบทําให้คนที่ไม่สมควรเข้าไปยุ่งด้วยขุ่นเคืองเข้าแล้ว!

 

ผู้จัดการร้านหลั่งเหงื่อเย็นๆออกมา!

 

เหตุการณ์เปลี่ยนไปในเวลาไม่กี่วินาที

 

“โอ้ย ดูความจําของผมสิ! ภาพวาดนี้มันของปลอ มชัดๆมันเป็นของปลอม! ผมต้องขอโทษแขกผู้มีเกียรติที่แสนสวยคนนี้จริงๆ! จริงๆแล้วภาพวาดนี้เราราคาแค่ไม่กี่สิบดอลลาร์ไม่ต้องชดใช้อะไรหรอกครับ! เชิญกลับไปนั่งได้เลยครับเชิญเลยครับ”

 

ผู้จัดการร้านโค้งคํานับพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างประจบประแจง

 

ฉู่หลิงเหยารู้สึกมึนงง

 

????

 

เมื่อกี้ยังพูดอย่างจริงจังอยู่เลยฉันสาบานได้เลยว่าเมื่อกี้ เขายังพูดออกมาพร้อมกับจะเอาหลักฐานมาให้ดู เพื่อให้ฉันชดเชยเป็นเงิน 2.58 ล้านอยู่เลยนะ

 

แล้วในเวลาเพียงพริบตาเดียวมันจะกลายเป็นของปลอมได้ยังไง?

 

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

ภพวาดนี้เป็นของแท้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

เจียงเฉินเองก็รู้ดีว่าเลขาของฉันกั่วต่งนั้นเข้ามาให้ความช่วยเหลือเขา

 

เขายิ้มออกมาให้จ้าวซุนเป็นการขอบคุณและอีกฝ่ายก็ยิ้มกลับมา

 

เฉินเซินที่เห็นฉู่หลิงเหยาทําภาพวาดที่มีชื่อเสียงเสียหาย และจะต้องชดใช้เป็นเงิน 2.58 ล้านเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา!

 

เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในใจ!

 

ฮ่าฮ่าฮ่า- น่าอับอายไหมล่ะ?

 

แฟนของเธอมันก็แค่คนขับที่ไม่มีเงิน ครั้งนี้ฉันจะให้เธอได้รับรู้ว่าหน้าตามันไม่มีค่าอะไรเลยแม้แต่น้อย!

 

แต่ใครจะรู้การพลิกผันในครั้งนี้ที่จู่ๆผู้จัดการร้านก็ออกมาบอกด้วยตัวเองว่าภาพนี้เป็นของปลอมและไม่จําเป็นต้อง เสียเงินชดใช้และเป็นฝ่ายออกตัวขอโทษทั้งเจียงเฉินและฉู่หลิงเหยาแทน!

 

เฉินเซินที่เห็นการพลิกผันก็อดค่าออกมาไม่ได้เขาพูดออกมา “แม่งเอ้ย! มันเป็นของปลอมงั้นหรอ? ไม่มีอะไรผิดพลาดใช่ไหม?!”

 

เฉินเซินนั้นสารภาพรักกับฉู่หลิงเหยาไป 39 ครั้งและเขานั้นชอบฉู่หลิงเหยามากแต่คาดไม่ถึงว่าฉู่หลิงเหยาจะบอกกับเขาว่าเธอนั้นชอบเจียงเฉิน

 

เฉินเซินอิจฉามากเขาพยายามคิดหาทางว่าเขานั้นจะทําให้เจียงเฉินและฉู่หลิงเหยาต้องอับอายยังไงดี

 

ในเวลานี้แฟนสาวของเขาเองก็เริ่มเห็นแล้วว่าสายตาของแฟนของเธอนั้นตกอยู่ที่เจียงเฉินและฉู่หลิงเหยาตลอดเวลาเธอนั้นรับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว

 

“นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? ตั้งแต่ที่เราเข้ามาในร้าน นายก็ไม่ได้มองมาทางฉันเลยนะ!”

 

หญิงสาวโมโหและตื้นขึ้นมาทันที “นายเอาแต่มองไปที่ผู้หญิงที่โต๊ะนั่น นายรู้จักกับเธอมาก่อนรึยังไง? นายพูดวกไปวนมาไม่ได้สนใจตัวฉันเลยด้วยซ้ํา!”

 

“ถ้านายไม่ได้อยากจะรับผิดชอบฉันก็แค่บอกมา ฉันจะได้ไม่ต้องมาที่นี่!”

 

ยิ่งหญิงสาวพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเท่านั้นเธอชี้ไปที่จมูกของเฉินเซินแล้วสาปแช่งออกมา

 

เฉินเซินรู้สึกอับอาย

 

คนรอบๆต่างหันมามอง เฉินเซินรีบจับมือให้เธอนั่งลงแต่หญิงสาวก็ไม่สนใจ

 

หญิงสาวดึงมือของเธอออกก่อนจะเริ่มเดินออกไปด้วยความโกรธแต่เธอนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าตอนที่เธอดึงมือออกมากระเป๋าของเธอก็หลุดลอยออกไปทางภาพวาดที่อยู่บนกําแพง!

 

แกร็ก-เพล้ง–

 

ภาพวาดที่น่าสงสารล่วงหล่นลงมาก่อนจะแตกหักไปอีกหนึ่ง!

 

ผู้จัดการที่เห็นก็แทบจะกระอักเลือดออกมา

 

นี่ฉันไปทําผิดอะไรมา?

 

ทําไมต้องมีอีกอันด้วย?

 

หญิงสาวชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะพูดออกมาอย่างเย็นชา “นายต้องเป็นคนรับผิดชอบ!”

 

เฉินเซินพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไรพร้อมกับยิ้มออกม “ผู้จัดการ พวกเราทํารูปของคุณพัง งั้นมาคุยกันเรื่องราคาเถอะ! ว่ามาเลย เดี๋ยวผมจะจ่ายให้คุณ 10 เท่า!”

 

จากที่เขารู้รูปในร้านมันมีราคาแค่ไม่กี่สิบดอลลาร์เท่านั้น!

 

ดังนั้น 10 เท่ามันก็แค่ไม่กี่ร้อย!

 

เขาแสดงออกมาราวกับว่าราคาแค่นี้ไม่ได้สกิดเงินในกระเป๋าของเขาแม้แต่น้อย!

 

“10 เท่านั้นสินะคุณผู้ชายคุณพูดแล้วนะ!”

 

ปากของผู้จัดการร้านบิดเบี้ยว เขาเอาเครื่องคิดเงินของร้านออกมาก่อนจะกรอกราคาเข้าไป!

 

“นี่ครับ! ภาพวาดนี้ค่อนข้างถูกเลยทีเดียว! ราคาเดิมของมันอยู่ที่ 1.36 ล้านเท่านั้นดังนั้นตามที่คุณลูกค้า พูดออกมาว่าจะจ่าย 10 เท่าราคาจึงอยู่ที่ 13.6 ล้านครับ!” 

 

เฉินเฉินสะอึกพร้อมกับหญิงสาว!

 

 13.6 ล้าน?! นี่นายไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม?