145 : นายจะเอาอะไรมาเทียบกับเจียงเฉิน? นายประเมิณตัวเองสูงเกินไปแล้ว

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 145 : นายจะเอาอะไรมาเทียบกับเจียงเฉิน? นายประเมิณตัวเองสูงเกินไปแล้ว!

 

เมื่อทุกคนเห็นว่าการโอ้อวดของเฉินเซินพังไม่เป็นท่าพวกเขาก็ดูมีความสุขขึ้นมาทันที

 

10 เท่า 13.6 ล้านงั้นหรอ?

 

ใบหน้าของเฉินเซินแดง…เขาจ้องไปที่ผู้จัดการร้าน “ทําไมของปลอมพวกนี้ถึงได้แพงขนาดนี้กัน? ราคาเดิมของมัน 1.36 ล้านจริงหรอ?”

 

“ใครบอกคุณลูกค้าหรอครับว่านี่ของปลอม?”

 

ผู้จัดการร้านตอบอย่างเฉยเมยแล้วยิ้มออกมา

 

“ก็เมื่อกี้นายบอกผู้ชายคนเมื่อกี้ว่ามันเป็นของปลอมไม่ใช่รึไงกัน?”

 

เฉินเซินชี้ไปที่เจียงเฉินด้วยความโกรธ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ผู้จัดการร้านตอบกลับอย่างเย็นชา “คุณไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าไปเปรียบเทียบกับเขา? เขาก็คือเขา ส่วนคุณก็คือคุณนะครับคุณลูกค้า ภาพวาดที่ถูกลูกค้าท่านนั้นทําเสียหายไปต่อให้ไม่ใช่ของปลอมมันก็เป็นของปลอม แต่ภาพวาดที่คุณทําให้เสียหายก็ต้องชดใช้ตามราคา!”

 

เฉินเซินมองดูอย่างโง่งมก่อนที่จะระเบิดออกมา

 

เฉินเซิน “พวกแกเป็นร้านต้มตุ้นกันใช่ไหม? คิดจะใส่ความฉันคนนี้แล้วแบล็กเมล์เอาเงินฉันงั้นหรอ?”

 

“คุณลูกค้า ใจเย็นๆก่อนนะครับพวกเราเองก็มีหลักฐานมากพอ ที่จะเอามายืนยันว่ามันเป็นภาพวาดที่ถูกขายมาจากโรงประมูลคริสตี้จริงๆนะครับ”

 

ผู้จัดการก็สั่งให้ลูกน้องของเขาเอาเอกสารยืนยันออกมา

 

“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นของปลอมแน่ๆ!”

 

เฉินเซินในตอนนี้ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น “ทําไมเจียงเฉินนั้นมันทําเสียหายแล้วมันไม่ต้องจ่ายกัน นายเองก็ต้องจ่ายให้ฉันด้วยความเท่าเทียมกันมันอยู่ที่ไหน!”

 

ภายในร้านอาหารฝรั่งเศษตอนนี้ทั้งวุ่นวายและมีชีวิตชีวา

 

เจียงเฉินกับฉ่หลิงเหยาเองก็ดูละครตรงหน้ากันอย่างเงียบๆ

 

เจียงเฉินยิ้มออกมา “สายตาเธอนี่ดีมากเลยนะเนี่ยโชคดีจริงๆที่ปฏิเสธเขาไป”

 

“เจียงเฉิน นายบอกฉันได้ไหมว่าทําไมเราถึงไม่ต้องชดใช้ภาพวาดนั้น? ฉันไม่คิดว่า”The Little Match Girl” นั่นจะเป็นของปลอมหรอกนะ?”

 

ในดวงตาสวยของลู่หลิงเหยาเต็มไปด้วยความสงสัย เธอนั้นอยากจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเจียงเฉินมาก!

 

“ความลับ”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมา

 

อีกฝั่งหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายต่างทะเลาะกันเป็นเวลานานใบหน้าของเฉินเซินในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ว

 

ผู้จัดการร้านพูดอย่างโหดเหี้ยม “คุณครับ ผมว่าผมพูดไปชัดเจนแล้วและหลักฐานเองก็อยู่ตรงนี้ หากคุณยังยืนกรานที่จะไม่ชดใช้งั้นผมคงต้องเรียกตํารวจแล้ว!”

 

เฉินเซินพ่นลมหายใจเย็นชาออกมาก่อนจะตะโกน “พวกร้านต้มตุ้น! กล้าดียังไงมาแบล็กเมล์ฉันคนนี้? ไม่เห็นรึไงว่าฉันคือเฉินเซิน? ฉันขอพูดไว้ก่อนเลยละกันนะแกอย่าได้มาคุกเข่าขอโทษฉันง่ายๆก็แล้วกัน!”

 

หลังจากพูดจบ เขาก็โทรหาลุงตัวเองทันที

 

ลุงของเขานั้นเป็นเจ้าหน้าที่รายการระดับสูงและยังมีอํานาจมากมาย

 

เฉินเซินเชื่อว่าทุกๆคนในเมืองหลงเฉิงจะต้องไว้หน้าลุงของเขาแน่!

 

และเขาก็อยากจะรู้มากว่าภาพที่เจียงเฉินและรู่หลิงเหยา ทําพังไปเมื่อกี้เป็นของจริงด้วยรึเปล่า?

 

หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเจียงเฉินนั้นดูเย่อหยิ่งจนผู้จัด การคิดว่าตัวเองอาจจะไม่สามารถยั่วยุเขาได้จนต้องบอกออกไปว่ามันเป็นของปลอมและยอมปล่อยไป!

 

แต่พอมาถึงที่ของเขาผู้จัดการร้านกลับต้องการให้เขาชดใช้เพราะตัวเขาอาจจะจัดการได้ง่ายกว่า!

 

ผู้จัดการร้านยิ้มเยาะออกมา

 

โทรให้คนมาช่วยงั้นหรอ?

 

ก็แล้วแต่ก็แล้วกัน!

 

ในอดีตมีคนมากมายเข้ามาสร้างปัญหาแบบนี้แต่สุดท้ายพวกเขาทั้งต่างก็ต้องยอมอ่อนข้อให้อย่างว่าง่ายในที่สุด!

 

เฉินเซินกดโทรออกอย่างรวดเร็ว

 

“ลุงครับ ตอนนี้ผมมาทานอาหารที่ร้านอาหารตะวันตก แต่แฟนของผมเธอดันทําภายในร้านเสียหาย

 

“พวกเขาแย่มากพวกเขาจะให้ผมจ่ายเงินชดใช้ 13.6ล้าน!”

 

“ลุงไม่คิดว่านี่มันเป็นการดูถูกหรอ?”

 

“ลุงเป็นลุงของผมนะแล้วผมเองก็เป็นหลานของลุงด้วย ถ้าผมยอมโดนร้านนี้แบล็กเมล์มันจะไม่น่าอับอายไปหน่อยหรอครับ?”

 

“ลุงได้โปรดช่วยหาใครมาช่วยผมจัดการปัยหานี้หน่อยเถอะครับ!”

 

เฉินเซินพูดออกมาง่ายๆเขานั้นต้องการที่จะโอ้อวดอํานาจของตัวเองต่อหน้าแฟนสาวของเขา

 

และท้ายที่สุดเขาเองก็มีโอกาศที่จะได้โอ้อวดตัวเองออกมา

 

มันก็แค่เรื่องสบายๆ

 

ลุงของเฉินเซินที่ได้ยินว่าเป็นร้านอาหารตะวันตกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากแล้วถามออกไป “ร้านไหนล่ะ? ลุงจะได้ส่งคนไป”

 

“Famello Western Restaurant ครับลุง”

 

“อะไรนะ?!”

 

ลุงของเขาถามชื่อร้านอีกครั้งก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป!

 

“ลุงครับมีปัญหาอะไรหรอ”

 

เฉินเซินรู้สึกสับสน

 

ทําไมเขารู้สึกแปลกๆ?

 

“แก ไอ้หลานเวร*%

 

ลุงของเฉินเซินโมโห “แกกล้าเข้าไปสร้างปัญหาที่นั่นได้ยังไง? แกไม่รู้นี้ยังไงว่าเจ้าของร้านแห่งนั้นเป็นใคร?”

 

“อะไรนะ?”

 

เฉินเซินโง่งม

 

“แกไม่ต้องคิดอะไรแล้วเบื้องหลังของคนๆนี้เป็นของจริง!”

 

ลุงของเขาพูดออกมา “ฉันขอเตือกแกเลยนะ รีบชดใช้แล้วขอโทษพวกเขาเดี๋ยวนี้ ถ้าแกทําให้เจ้าของร้านนั้นขุ่นเคือง อย่าโทษว่าฉันไม่ปกป้องแกก็แล้วกัน!”

 

หลังจากพูดจบลุงของเขาก็วางสายไปด้วยความโกรธทัน

 

เฉินเซิน “???”

 

นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

 

ทําไมเขาต้องโกรธด้วยเมื่อได้ยินชื่อของร้าน Famello? 

 

นี่เขาไม่เพียงแต่ต้องชดใช้แต่ยังต้องขอโทษด้วยงั้นหรอ?

 

ในทางตรงกันข้ามทันทีที่คนในร้านเห็นเจียงเฉินพวกเขา กลับแสดงความหวดกลัวออกมาจนต้องบอกว่าภาพนั้นเป็นของปลอม?

 

เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับเจียงเฉินแล้วมันต่างกันมาก!

 

ไม่ใช่ว่าเจียงเฉินมันเป็นแค่คนขับรียังไง?

 

ทําไมกัน? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

แต่เฉินเซินเองก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วในตอนนี้ แม้แต่ลุงของเขายังต้องเตือนเขาแล้วเขาจะทําอะไรได้อีก?

 

ต้องยอมรับแล้วว่าวันนี้โชคเขาไม่ดีจริงๆ!

 

เฉินเซินยิ้มออกมาช้าๆก่อนจะขอโทษผู้จัดการร้าน “ผมขอโทษครับ! ที่เมื่อกี้ผมอารมณ์เสียแล้วตะโกนออกไปจนทําให้บรรยากาศในร้านเสียไปหมด ผมผิดไปแล้ว!ยกโทษให้ผมเถอะครับ!”

 

ผู้จัดการร้านพยักหน้าอย่างเย็นชา “แขกท่านนี้ ผมขอรับการขอโทษและค่าเสียหายในวันนี้ไว้แต่ในอนาคตคุณจะไม่ได้รับสิทธิในการจองโต๊ะของเราอีก ดังนั้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็ขอเชิญออกไปทันที”

 

แฟนสาวของเฉินเซินมองไปที่เฉินเซินที่กําลังอับอาย เธอนั้นจําได้ดีว่าเขานั้นเล่าเกี่ยวกับเบื้องหลังที่ใหญ่โตของเขามาตลอดทั้งรวยและมีอํานาจ แต่สุดท้ายเธอก็รู้แล้วว่ามันล้วนแล้วแต่เป็นของปลอมทั้งนั้นเธอตัดสินใจที่จะบอกเลิกกับเขาทันทีที่กลับไป!

 

แต่ยังไงก็ตามเธอยังต้องการให้เขาเป็นคนชดใช้ค่าเสียหาย เธอจึงยังไม่สามารถเลิกกับเขาได้!

 

อู่หลิงเหยาที่อยู่ข้างๆก็เอาตัวนอนลงไปบนโต๊ะพร้อมกับยิ้มออกมาะ

 

เฉินเซินเองก็หมดอารมณ์ทันทีที่เขาจ่ายเงินเขานั้นหันมามองที่เจียงเฉินตลอดจนกระทั่งเขาเดินออกไปจากร้าน

 

เขาคิดไม่ออกจริงๆว่าคนขับติ์ตี้แบบเจียงเฉินทําไมถึงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากตัวของเขา?

 

เจียงเฉินเองก็มองมาที่เขาและก็ราวกับเขานั้นรู้ความคิดของเจียงเฉิน “ไม่ต้องคิดหรอกก็แค่ฉันหล่อกว่านายก็เท่านั้น!”

 

เฉินเซินกระอักเลือดออกมาจิตใจของเขาพังทลาย!

 

เขารีบพาแฟนสาวออกไปทันที

 

วันต่อมา

 

เจียงเฉินได้รับสายจากซูเสียวเสียวเธอกับครอบครัวของเธอนั้นกลับมาจากการท่องเที่ยวแล้ว

 

ซูเสี่ยวเสี่ยว “สามี–ฉันคิดถึงนายจังเลย”

 

“เกิดอะไรขึ้นหรอ? มีอะไรในใจรึเปล่า?”

 

เจียงเฉินที่ได้ยินน้ําเสียงของเธอก็สัมผัสได้ว่าเธอกําลังรู้สึกหดหูเล็กน้อยตามปกติแล้วคนที่เพิ่งจะกลับมาจากการท่องเที่ยวอย่างเธอนั้นควรจะมีแต่ความสุขมากกว่า

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยมีชีวิตชีวาและร่าเริงและเธอนั้นก็มองโลกในแง่ดีเสมอ!

 

ซึ่งวันนี้มันผิดปกติจริงๆ

 

“ตกลง….”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวเม้มปากของเธอ

 

ปรากฏว่าพ่อของซูเสี่ยวเสี่ยว ซูยี่ไห่นั้นเป็นทนายระดับต้นๆของบริษัทกฎหมาย [King&Wood Mallesons] ในเมืองหลวง

 

เมื่อเช้านี้เธอนั้นได้ยินตอนที่พ่อของเธอกําลังคุยโทรศัพท์และดูเหมือนเขาจะเสียใจมาก

 

ก่อนหน้านี้หลังจากที่ซูยี่ไห่ออกจากโรงพยาบาลเขานั้น ก็ขอลางานเพื่อไปเที่ยวกับภรรยาและลูกของเขา

 

ซึ่งในเวลานี้เองก็มีคุณชายคนหนึ่งไปก่อคดีใหญ่มาแล้ว เขาก็ต้องการให้ซูไห่มาช่วยคดีของเขา

 

แต่ตอนนั้นซูยี่ไห่กลับไม่อยู่พอดีทําให้ทนายระดับต้นๆอีกคนรับคดีไป แต่สุดท้ายเขาก็แพ้คดี

 

คุณชายคนนั้นถูกสั่งจําคุกไปเป็นเวลา 10 ปี!

 

และตอนนี้คนในครอบครัวของคุณชายคนนั้นก็ไม่พอใจซูยี่ไห่จนพาคนมาก่อนเรื่องที่บริษัทกฎหมายทุกๆวัน

 

พวกเขาเอาแต่โทษบริษัทที่ไม่ส่งซูยี่ไห้ให้ไปช่วยเหลือพวกเขาจนตอนนี้บริษัทเองก็เริ่มที่จะรับแรงกดดันไม่ไหวแล้วจนสุดท้ายเพื่อที่จะรักษาชื่อเสียงของบริษัทไว้…

 

พวกเขาก็ตัดสินใจไล่ซูยี่ไห่ออก!

 

เป็นผลให้ซูยี่ไห่เกิดปัญหา

 

หลังจากที่กลับมาบ้าน เขานั้นก็ถูกไล่ออกด้วยเหตุผล “หยุดงานโดยไม่ได้รับอนุญาติและขาดความเป็นมืออาชีพ”!

 

เขานั้นรู้สึกราวกับตัวเองโดนหักหลัง ดังนั้นหลังที่กลับมาจากการเที่ยวพ่อของเธอก็ไม่ยอมทําอะไร นอกจากดื่มเหล้าตลอดเวลา!

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวเองก็รู้ว่าพ่อของเธอนั้นขยันทํางานแค่ไหนในวงการมีแต่คนยกย่องพ่อของเธอ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานั้น เรียกได้ว่านับครั้งได้เลยที่พอของเธอนั้นจาขอลาหยุดนานๆสักครั้งหนึ่ง

 

และในครั้งนี้การที่เขาอยากอยู่กับลูกและภรรยาเพื่อหาความสุขในครอบครัว

 

ทําให้ผลที่ออกมา

 

ทนายความดีๆอายุ 40 กว่าๆกลับโดนไล่ออก?!

 

มันกลายเป็นจุดด่างพร้อยและความอับอายในชีวิตของเขาทันที!

 

ดังนั้นซูเสี่ยวเสี่ยวเลยรู้สึกเสียใจแล้วก็โทษตัวเอง ถ้าเธอนั้นไม่เสนอความคิดไปเที่ยวครั้งนี้เรื่องแบบนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น

 

“ไม่ต้องเศร้าไปหรอก บางที่ฉันไปคุยกับเขาซักหน่อยก็อาจจะหาทางแก้ไขอะไรได้บ้างนะ”

 

เจียงเฉินยิ้มอย่างอบอุ่น

 

“อืม

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกโล่งใจเธอนั้นค่อยรู้สึกมีความสุขขึ้นมา