กระบี่สะบั้นเก้าสวรรค์ ตอนที่ 87 โลหิตเทพกระบี่, ประคําดารา
ตอนที่ 87 โลหิตเทพกระบี่, ประคําดารา
จี้เทียนซิงเงยหน้าขึ้นมองอนุสาวรีย์กระบี่โบราณ และถามด้วยน้ําเสียงแผ่วเบา “ผู้อาวุโสจางเทียน ท่านเรียกข้ามาที่นี่หรือ?”
ภายในอนุสาวรีย์กระบี่โบราณเกิดเสียงแหบพร่าของดวงจิตกระบี่จางเทียนขึ้นมาในทันที มันยังคงฟังดูสูงส่งและเกินอาจเอื้อมเหมือนเช่นเคย
“ถูกแล้ว”
จี้เทียนซิงพยักหน้าและถามอีกครั้ง “ข้าขอบังอาจถามท่านผู้อาวุโส ท่านเรียกข้ามาที่นี่เพื่อกิจธุระอันใดหรือ ?”
จิตกระบี่จางเทียนกล่าวด้วยเสียงต่ํา “เจ้าหนู ถึงแม้ว่าเจ้าจะสามารถฝึกปรือวิถีใจกระบี่จนถึงระดับต้นได้จริง แต่ทั้งหมดทั้งมวล เจ้าก็ยังเป็นเพียงมนุษย์ผู้ต้อยต่ําที่ถูกจํากัดศักยภาพและพรสวรรค์ ชั่วชีวิตลิขิตให้เจ้าฝึกได้ถึงขั้นที่สี่เท่านั้น ไม่มีทางก้าวถึงขั้นที่ห้าได้”
“ต่อให้การหยั่งรู้และความเข้าใจของเจ้าจะพอให้ข้ายอมรับได้ และมีมวลอารมณ์ที่หนักแน่นแข็งแกร่ง แต่เจ้าก็มิได้ครอบครองกายาและสายเลือดที่แข็งแกร่งพอ เจ้าไม่มีวาสนาที่จะก้าวไปได้ไกลกว่านี้แล้ว”
เมื่อได้ยินคําพูดของอีกฝ่าย จี้เทียนซิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และถามว่า ” อาวุโสจางเทียน ท่านเรียกข้ามาที่นี่ก็เพื่อชักชวนให้เลิกฝึกวิถีใจกระบี่หรือไง ?”
จิตกระบี่จางเทียนเงียบไปครู่หนึ่งและเริ่มพูดต่อไปว่า ” แม้นว่าร่างกายเจ้าจะอ่อนปวกเปียกและศักยภาพต้อยต่ํา แต่จากการสังเกตของข้า เจ้ามีจิตใจที่แน่วแน่และไม่ยอมแพ้ต่อหนทางที่ยากลําบากในการฝึกวิถีใจกระบี่”
จี้เทียนซิงพยักหน้าและพูดแทรกด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “แน่นอน ! วิถีใจกระบี่เป็นหนทางเดียวที่จะทําให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นได้ ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้ !”
หลังจากหยุดพูดชั่วคราว จี้เทียนซิงก็มองไปที่อนุสาวรีย์กระบี่ ด้วยสายตาที่ครุ่นคิดและถามว่า “อาวุโสจางเทียน ในเมื่อท่านชักนําข้ากลับเข้ามาในนี้และยังชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของข้า แถมยังบอกความลับพวกนี้ให้ฟัง แสดงว่าท่านย่อมมีหนทางแก้ไขคุณสมบัติตามธรรมชาติที่ข้าพร่องไป ถูกหรือไม่ ?!”
จิตกระบี่จางเทียนกล่าวด้วยเสียงต่ํา “ถูก เจ้าฉลาดมาก”
“เนื่องจากเจ้าสามารถฝึกวิถีใจกระบี่ด้วยกายมนุษย์สําเร็จแม้จะเป็นเคล็ดความส่วนน้อยก็ตาม ข้าสามารถช่วยเจ้าแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องศักยภาพโดยกําเนิดได้”
“ในอดีตกาล เทพกระบี่เคยย่างกรายเข้าสู่อาณาจักรเทียนเฉิน และทิ้งสมบัติบางอย่างไว้ในดินแดนดาราบรรพกาล มันคือเลือดหนึ่งหยดของเทพกระบี่ที่ถูกปิดผนึกไว้ในประคําดารา”
“หากเจ้าสามารถค้นพบประคําดาราและได้รับเลือดหยดนั้นมา เจ้าจะสามารถผสานสายเลือดเทพกระบี่ ซึ่งช่วยแก้ไขข้อบกพร่องโดยธรรมชาติของเจ้า จากนั้นเจ้าจะสามารถบ่มเพาะได้อย่างต่อเนื่องจนถึงขีดขั้นสูงสุดแห่งเต่ากระบี่ !”
เมื่อได้ยินคําพูดของจางเทียน ดวงตาของจี้เทียนซิงก็สว่างไสว และหัวใจเต็มไปด้วยความคาดหวังและความปรารถนา
“ดินแดนดาราบรรพกาล โลหิตเทพ ประคําดารา…”
“ขอบคุณท่านมากผู้อาวุโสจางเทียน ข้าจําได้หมดแล้ว !”
ชายหนุ่มรู้ดีว่าสิ่งที่จิตกระบี่จางเทียนกล่าวมานั้นไม่ใช่เพียงแค่ทําให้ฝึกวิถีใจกระบี่ขั้นสูงขึ้นได้เท่านั้น แต่มันยังเป็นรากฐานที่มั่นคงในการฝึกเต๋กระบี่ในระดับที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก
หากเขาได้รับโลหิตเทพกระบี่จากประคําดารา เขาไม่เพียงแค่สามารถชดเชยข้อบกพร่องและขีดจํากัดของกายมนุษย์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถฝึกฝนวิถีใจกระบี่ได้อย่างไม่ติดขัด
เรื่องนี้จะไม่ให้เขาตื่นเต้นไหวได้อย่างไร ?
อย่างไรก็ตาม จี้เทียนซิงสงบใจลงอย่างรวดเร็ว ภายในใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอย่างลึกล้ํา
“ดินแดนดาราบรรพกาลว่ากันว่าเป็นดินแดนโบราณที่ลึกลับที่สุดในอาณาจักรเทียนเฉิน ตํานานกล่าวไว้ว่ามันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มหาอํานาจในยุคโบราณใช้ผ่านเข้าออก ในนั้นเป็นเหมือนโลกเล็กๆใบหนึ่ง”
“สุดยอดนิกายทั้งเจ็ดรวมไปถึงนิกายหนุนสวรรค์ ล้วนตั้งอยู่ใกล้กับดินแดนดาราบรรพกาล แต่ละนิกายต่างก็ตั้งอยู่บนชีพจรวิญญาณของดินแดนแห่งนั้น…”
“ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้า การเดินทางไปยังดินแดนดาราบรรพกาลเพื่อตามหาประคําดารา ไม่ต้องสงสัยเลย มันย่อมเป็นการงมเข็มในกองฟาง ชั่วชีวิตไม่รู้ว่าจะหาเจอหรือไม่”
“จิตกระบี่จางเทียนบอกเรื่องนี้แก่ข้า แม้ว่ามันจะน่าตื่นเต้นยินดี แต่ก็เหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝัน.
ในเวลานี้เอง จิตกระบี่จางเทียนก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าหนู อีกไม่กี่วันนี้เจ้ากําลังจะเดินทางไปยังนิกายหนุนสวร รค์ใช่หรือไม่ ?”
“นิกายแห่งนั้นก็นับว่าอยู่ในดินแดนดาราบรรพกาลนั่นแหละ เมื่อเจ้าตั้งหลักในนิกายได้ก็จงพยายามตามประคําดาราอย่างสุดความสามารถก็แล้วกัน”
“หากเจ้าต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญกระบี่ เจ้าต้องมีรากฐานในการบ่มเพาะกระบี่อันล้ําลึกเฉกเช่นเดียวกับเทพกระบี่ ซึ่งนี่เป็นหนทางเดียวเท่านั้น !”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วกับคําพูดของจางเทียนและถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าต้องเดินทางไปยังนิกายหนุนสวรรค์ในอีกไม่กี่วัน?”
จิตกระบี่จางเทียนหัวเราะลั่น “ฮ่าๆๆ ที่เรื่องอื่นล่ะหัวไวเป็นกรด ไฉนเรื่องแค่นี้ถึงเดาไม่ออกได้เล่า? ก็ข้าสถิตย์อยู่ในกายของเจ้า เจ้าทําอะไรข้าย่อมรู้หมด”
“หากไม่ใช่เพราะข้า ตอนที่เจ้ากําลังจะถูกจิ้งจอกสวรรค์ตัวน้อยนั่นจับกินในถ้ําน้ําแข็งทมิฬ เจ้าจะรอดมาถึงวันนี้หรือ? มันจะยอมสยบและตามเจ้าต้อยๆได้อย่างไร”
จี้เทียนซิงตกตะลึง เขาอ้าปากค้างและสีหน้าแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่มีต่อจิตกระบี่จางเทียน
“จริงสิ อาวุโสจางเทียน ท่านพูดว่าเฉียนเยวี่ยเป็นจิ้งจอกสวรรค์ ? ท่านช่วยอธิบายเรื่องนี้ได้หรือไม่”
จิตกระบี่จางเทียนกล่าวด้วยน้ําเสียงแผ่วเบาว่า “มันก็แค่สัตว์อสูรเทวะจากสวรรค์ก็เท่านั้น บนโลกใบนี้นับว่าไม่มีค่าอันใด แต่ถ้าเป็นโลกนั้น.”
จางเทียนกล่าวยังไม่จบประโยคก็หยุดไปทันทีและไม่พูดต่อ เขาหันเหหัวเรื่องว่า
“เอาเป็นว่าช่วงนี้เจ้าดูแลมันไว้ก็แล้วกัน มันนับเป็นโชควาสนาที่ดี นอกจากนี้มันจะเป็นตัวช่วยอันยิ่งใหญ่ให้เจ้าได้ในอนาคต”
ในเมื่อจิตกระบี่จางเทียนไม่คิดที่จะพูดถึงเฉียนเยวี่ยไปมากกว่านี้ จี้เทียนซิงก็ไม่กล้าถามให้มากความ เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านอาวุโสจางเทียนกระตุ้นเตือน”
“อาวุโส วันนี้ท่านบอกกล่าวเรื่องราวต่อข้ามากมายแถมยังช่วยหาวิธีแก้ไขศักยภาพแต่กําเนิดของข้า ข้าเดาว่าท่านย่อมมีเหตุผลบางประการใช่หรือไม่ ?”
จี้เทียนซิงรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าบนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีๆ การที่อีกฝ่ายช่วยมันแสดงว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
นอกจากนี้จิตกระบี่จางเทียนก็ไม่ได้มีมิตรภาพอันดีต่อมันมากนัก แต่อีกฝ่ายกลับบอกความลับมากมายแถมยังช่วยคิดหาวิธี
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด จิตกระบี่จางเทียนกล่าวออกมาตามตรง โดยไม่ปิดบังว่า “ถูกต้องข้าช่วยเจ้าย่อมมีเหตุผล ประการแรก ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้ามีบางอย่างที่เชื่อมโยงกับเทพกระบี่”
“แต่เหตุผลหลักก็คือ ข้าต้องการให้เจ้าเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น เพื่อช่วยให้ข้าได้ดูดซับพลังงานที่มากยิ่งขึ้นจนกระทั่งลืมตาตื่นได้อย่างสมบูรณ์”
“พลังงานที่ข้าได้ดูดซับมาจากจิ้งจอกสวรรค์ตัวน้อยนั้นอ่อนแอเกินไป มันทําให้ข้าได้สติเท่านั้นแต่ยังไม่ถึงกับตื่นได้ตลอดเวลา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้จี้เทียนซิงก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นและเผยรอยยิ้มลี้ลับขึ้น
“เป็นแบบนี้นี่เอง อาวุโสจางเทียน งั้นนี่คือข้อตกลงระหว่างเรา”
“ท่านชี้นําให้ข้ามุ่งสู่เส้นทางเดํากระบี่ของเทพกระบี่ หลังจากที่ข้าแข็งแกร่งเพียงพอ ข้าจะช่วยท่านฟื้นฟูพลังงาน เช่นนี้เป็นไง ?”
จิตกระบี่จางเทียนหัวเราะลั่นขึ้นมาทันที จากนั้นอนุสาวรีย์กระบี่ก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยเจตน์กระบี่อันเกรี้ยวกราดที่เปาพัดสายลมบนท้องนภา
“ฮ่าๆๆๆ เจ้าหนูมนุษย์ที่ต้อยต่ํากลับกล้าวางเงื่อนไขกับจิตวิญญาณกระบี่ปิดสวรรค์อย่างข้า !”
“ดี! นับว่าเป็นเจ้าหนูน้อยที่น่าสนใจไม่เลว… มันเป็นอย่างที่เจ้าพูดนั่นแหละ”
เรื่องนี้ได้รับการยอมรับจากจางเทียนอย่างอ้อมๆในที่สุด
จากนั้นอนุสาวรีย์กระบี่ก็แผ่พุ่งพลังงานไร้สภาวะสายหนึ่งออกมาและผลักร่างของจี้เทียนซิงออกจากสุสานเทพกระบี่
“วูบ !”
จิตสํานึกของชายหนุ่มกลับคืนสู่สังขาร ดวงตาของมันเปิดขึ้น
“ดินแดนดาราบรรพกาล, ประคําดารา, โลหิตแห่งเทพกระบี่!”
“ข้าไม่มีวันท้อถอยต่อเส้นทางแห่งวิถีใจกระบี่ ข้าจะหาประคํา ดาราเพื่อโลหิตเทพกระบีให้ได้อย่างแน่นอน !”
จี้เทียนซิงกําหมัดแน่นและลอบสาบานในใจ
หลังจากนั้นไม่นานอารมณ์ของเขาก็สงบลงและเริ่มฝึกฝนอย่างหนักต่อเนื่อง ในช่วง 4 วันต่อมาเขาเก็บตัวอยู่ในห้องลับและไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย
จนกระทั่งเช้าตรู่ของวันที่ 5 หลังจากบ่มเพาะจนเพียงพอแล้ว เขาก็เดินออกจากห้องลับใต้ดิน
ในเวลานี้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากและอยู่ไม่ไกล จากเขตแดนต้นกําเนิดแท้จริงขั้นที่ 6!
และแล้ววันนี้ก็มาถึง มันเป็นวันที่เขาและองค์หญิงน้อยจี้เค่อจะต้องออกเดินทาง