ตอนที่ 295 แต่ละบ้านต่างก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง
ตอนที่ 295 แต่ละบ้านต่างก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง
นั่นน่ะสิ ใครจะไม่อยากรับประทานแป้งขาวทุกวันบ้าง ปีนี้เห็นข้าวสาลีเก็บเกี่ยวได้เป็นอย่างดี ปีหน้าใครจะไม่ปลูกบ้าง? เพียงแต่เย่ฉูฉู่ไม่อยากคุยกับภรรยาของเหล่าหวังสามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากไปกว่านี้แล้ว เพราะภรรยาเหล่าหวังสามปากมากเกินไป
ภรรยาเหล่าหวังสามพูดต่อไป “ถ้าให้ฉันพูด การใช้ชีวิตแบบนี้ก็ต้องเรียนรู้นะ เธอดูสิ หมู่บ้านของเรา ที่ดินเหมือนกัน คนก็เหมือนกัน การใช้ชีวิตก็ยังไม่ดีเลย แล้วดูครอบครัวพวกเธอสิ โอ๊ย ชีวิตดีขึ้นเรื่อย ๆ เลย!”
“สถานการณ์ของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บ้านของพวกเราก็ไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอก” เย่ฉูฉู่พูดถ่อมตน
“ฉูฉู่ เธอพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ หมู่บ้านของเรา มีแต่ครอบครัวเธอนี่แหละที่มีชีวิตไม่เหมือนใครเลย!”
คำพูดนี้อันที่จริงก็ไม่ผิดเลยสักนิด ในหมู่บ้านคนที่มีชีวิตดีที่สุดก็คือจ้าวเหวินเทา บ้านก็ดี ชีวิตก็ดี ไหนจะธุรกิจขนาดใหญ่อย่างฟาร์มกระต่ายอีก เย่ฉูฉู่จึงไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้ ท้ายที่สุดก็ได้แค่พูดว่า “หนี้ของพวกเราก็ไม่เหมือนใครเหมือนกัน!”
ภรรยาของเหล่าหวังสามไม่รู้ว่าจ้าวเหวินเทาล้างหนี้หมดแล้ว จึงคิดว่าสิ่งที่เย่ฉูฉู่พูดคือเรื่องจริง แต่หล่อนก็ไม่ได้สนใจอะไร “เป็นหนี้แต่ทำให้ไม่เหมือนใครก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ บางคนอยากเป็นหนี้แต่ก็ยังไม่มีปัญญาเป็นหนี้เลย!”
อีกฝ่ายพูดแบบนี้แล้ว เย่ฉูฉู่ก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ เธอแค่ยิ้มและก้าวเท้าเดินต่อ ภรรยาเหล่าหวังสามกลับยังคงเดินตามและนินทาเรื่องในหมู่บ้านต่อ จนกระทั่งเดินมาไกลระยะหนึ่งแล้ว เย่ฉูฉู่จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เธอมาหาฉันคงมีธุระสินะ?”
ภรรยาเหล่าหวังสามยิ้มอย่างสดใส “ฉูฉู่เธอนี่ฉลาดนะ ปิดบังอะไรเธอไม่ได้เลย!”
ถ้าไม่มีธุระจะพูดมากขนาดนี้เหรอ พวกเราก็ไม่ได้เดินไปทางเดียวกันสักหน่อย เย่ฉูฉู่บ่นอยู่ในใจ ปากก็พูดไปว่า “มีธุระอะไรล่ะ?”
ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว “สามีของฉันเธอเองก็รู้ ขี้เกียจจะตาย ทนเหนื่อยก็ไม่ได้ ลำบากก็ไม่ไหว แต่งานในนาทั้งเหนื่อยทั้งลำบาก เขาก็เลยอารมณ์เสียใส่ฉัน เธอว่าฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ทำงานของผู้ชายไม่ไหวหรอก! แม่สามีของฉันก็รู้จักแต่เข้าข้างลูกชาย ฉันพูดแค่นิดหน่อยก็โกรธแล้ว บอกว่าวัน ๆ ฉันเอาแต่ออกไปนั่งคุยข้างนอก งานในบ้านก็ให้ลูกชายของนางทำหมดทุกอย่าง นี่มันคือการลืมตาพูดคำบอด[1] ไม่ใช่เหรอ? หรือจะบอกว่าฉันเอาแต่นอนอยู่ในบ้านทั้งวันล่ะ!”
ภรรยาของเหล่าหวังสามบ่นถึงความทุกข์ทรมานของตนไม่จบสิ้น เย่ฉูฉู่ไม่ได้สนใจเรื่องครอบครัวของคนอื่นอยู่แล้ว เธอจึงพูดแทรกไปว่า “เธอพูดมาเถอะว่าเรื่องอะไร?”
ภรรยาเหล่าหวังสามแอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อถูกพูดแทรกขณะที่กำลังเล่าอย่างออกรส แต่ก็ยังพูดว่า “ฉันอยากไปทำงานที่ฟาร์มกระต่าย ก็เลยอยากถามเธอดูว่าทำได้หรือเปล่า?”
เย่ฉูฉู่ชะงัก ภรรยาของเหล่าหวังสามไปทำงานที่ฟาร์มกระต่าย? เธอฟังภรรยาเหล่าหวังสามพูดถึงสามีตัวเองเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้ คิดว่าจะหางานให้เหล่าหวังสามเสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนกำลังหางานให้ตัวเอง
“เธอไปทำงานที่ฟาร์มกระต่ายแล้วที่บ้านจะทำยังไง?” เย่ฉูฉู่ถาม
“ในบ้านก็ยังมีแม่สามีของฉันอยู่ทั้งคน ลูกก็อายุ 15-16 แล้ว ไม่ต้องมีคนดูแลแล้วด้วย พ่อสามีฉันก็ร่างกายยังแข็งแรงดี มีพวกเขาอยู่งานในนาก็ไม่ต้องกังวลใจอะไร อีกอย่างฉันก็ยังมีลูกด้วย อายุ 15-16 แล้วก็ช่วยทำงานได้ไม่น้อย ไหนจะสามีของฉันอีกคน ถึงแม้ว่าเขาจะขี้เกียจ แต่ก็ยังทำงานนิด ๆ หน่อย ๆ ได้ จะมีฉันอยู่หรือไม่มีก็ไม่ต่างกันหรอก”
เย่ฉูฉู่มองหล่อนด้วยความสงสัย นี่เป็นเพราะทะเลาะกันหรือเปล่านะ? เธอรู้สึกไม่ดีที่จะถามมากไปกว่านี้ จึงพูดแค่ว่า “ฉันจะไปถามเหวินเทาให้ก็แล้วกัน ฟาร์มกระต่ายยังขาดคนหรือเปล่าฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ได้สิ เธอช่วยพูดให้ฉันหน่อยนะ” ภรรยาเหล่าหวังสามถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันบอกเธอตรง ๆ นะ ฉันเองก็ไม่มีทางเลือกอื่น ลูกชายสามคนของฉัน คนโตก็อายุสิบเจ็ดแล้ว ถึงเวลาจะแต่งงานแล้วด้วย ตอนนี้บ้านก็ยังไม่มี เงินก็ยังไม่มี ถึงเวลานั้นถ้าไปสู่ขอภรรยาไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไง!”
เย่ฉูฉู่เข้าใจแล้ว ที่แท้ภรรยาของเหล่าหวังสามก็อยากไปทำงานที่ฟาร์มกระต่ายเพื่อลูกชายนี่เอง
“เธอไม่ต้องเป็นกังวลให้มากมายหรอก ตอนนี้เขาบอกว่าต้องอายุถึงเกณฑ์ก่อนถึงจะแต่งงานได้ไม่ใช่เหรอ? นี่ก็ยังเหลือเวลาอีกสองปีนะ” เย่ฉูฉู่ปลอบใจ
“นั่นเป็นสิ่งที่คนในเมืองพูดกัน ชนบทของพวกเราไม่ได้พิถีพิถันมากมายขนาดนั้นสักหน่อย ฉันไปถามเรื่องอายุที่อยู่ในเกณฑ์สมรสมาแล้ว ต้องรอถึงอายุยี่สิบกว่าแน่ะ อายุมากขนาดนั้นยังจะหาคนมาแต่งงานได้ง่าย ๆ เหรอ!” ภรรยาเหล่าหวังสามไม่เห็นด้วย “ฉันคิดไว้ว่าจะให้ลูกชายคนโตหมั้นหมายปีหน้า ถัดไปอีกปีค่อยสร้างบ้าน ปีถัดไปถึงจะแต่งงาน ฉันเองก็วางแผนไว้ให้เจ้ารองกับเจ้าสามแล้ว เฮ้อ ลูกชายสามคนนั้นของฉันคือระเบิดสามลูกเลยแหละ คนในหมู่บ้านต่างก็กำลังมองอยู่ว่าพวกเราจะโยนระเบิดออกไปได้หรือเปล่า นี่ถ้าโยนออกไปไม่ได้ คงได้ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะตายเลย!”
เย่ฉูฉู่ยิ้ม “ต้องโยนระเบิดออกไปได้อยู่แล้ว มีอะไรต้องกังวลใจอีก!”
ภรรยาเหล่าหวังสามก็หัวเราะ มีใครบ้างไม่ชอบฟังคำพูดดี ๆ หลังจากพูดคุยกับเย่ฉูฉู่อย่างสนิทสนมอยู่สองสามคำ ก็แยกย้ายกันไป
คุยกันอยู่พักใหญ่ก็เกือบจะถึงช่วงเที่ยงแล้ว เย่ฉูฉู่จึงเข็นรถเข็นกลับมาทำอาหารที่บ้าน ระหว่างทางเธอก็เห็นชุนเยี่ยนภรรยาของเจ้ารองฉวี่เดินพยุงท้องกลับมาจากการทำนาพอดี
ท้องของชุนเยี่ยนยังไม่ใหญ่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าตั้งครรภ์แล้ว นี่เป็นช่วงฤดูร้อน การสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นยิ่งทำให้เห็นชัดเจนมาก
“พี่ฉูฉู่ กล่อมลูกอยู่เหรอ!” ชุนเยี่ยนรีบสาวเท้าเข้ามา
เย่ฉูฉู่รีบห้าม “เธอเดินช้าหน่อย!”
“ไม่เป็นไรหรอก!” ชุนเยี่ยนไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย หล่อนหิ้วตะกร้าเดินเข้ามา ในตะกร้ามีต้นแดนดีไลออนวางอยู่ส่วนหนึ่งด้วย
“ตอนนี้แดนดีไลออนกินอร่อยเหรอ?” เย่ฉูฉู่มองปราดหนึ่งพลางเอ่ยถาม
“ฉันเป็นร้อนในนิดหน่อยน่ะ ก็เลยตัดกลับไปต้มเป็นซุปดื่มสักหน่อย” ชุนเยี่ยนมองดูเสี่ยวไป๋หยางด้วยความเอ็นดู “เด็กคนนี้สะอาดสะอ้านจังเลย พี่ฉูฉู่ทำได้ไงเนี่ย?”
“ก็ทำความสะอาดร่างกายทุกวันไง” เย่ฉูฉู่ตอบ และถามหล่อนเกี่ยวกับเรื่องตั้งครรภ์
“ฉันก็ยังดีนะ กินดื่มได้ปกติเลย” ชุนเยี่ยนพูดด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้ฉันเห็นคนพวกนั้นอ้วกตอนท้องแถมยังกินข้าวไม่ลงด้วย ฉันกลัวมากเลย แต่ยังดีที่ลูกของฉันไม่ได้ทำให้ฉันทรมานขนาดนั้น”
“เด็กคนนี้ดีจังเลยนะ รู้จักรักแม่แล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม
“พี่ฉูฉู่ ฉันได้ยินพี่ซงจือบอกว่าตอนที่พี่ตั้งครรภ์ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย?”
“ไม่มีเลย ฉันเองก็กินดื่มได้หมด ตอนที่คลอดออกมาก็ราบรื่นมาก หมอบอกว่าอย่าไปคิดถึงตลอดเวลา ควรทำอะไรก็ทำไป งานที่ทำได้ก็ทำสักหน่อย ทำกิจกรรมเยอะ ๆ ถึงเวลานั้นเวลาคลอดลูกก็จะคลอดได้ง่าย” เย่ฉูฉู่แบ่งปันประสบการณ์ส่วนหนึ่งในช่วงที่ตนตั้งครรภ์
ชุนเยี่ยนพยักหน้า “พี่สาวของฉันก็บอกแบบนี้เหมือนกัน พี่บอกฉันว่าอย่าเอาแต่นั่งเฉย ๆ ขยับร่างกายได้ก็ขยับสักหน่อย แต่ฉันไม่ค่อยชอบขยับตัวเลย จริงสิ ฉันได้ยินมาว่าในเมืองมีการผ่าคลอดที่ทันสมัยด้วย บอกว่าไม่เจ็บเลย พี่ฉูฉู่ ไม่เจ็บจริง ๆ เหรอ?”
เย่ฉูฉู่ “ฉันเองก็ได้ยินเหมือนกัน แต่บอกว่าไม่เจ็บเลยจะเป็นไปได้ยังไงกัน ถูกทิ่มก็ต้องเจ็บมากอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนเปิดท้องเพื่อเอาลูกออกมาเลย เธอคิดดูสิว่าจะไม่เจ็บเหรอ?”
ชุนเยี่ยน “นั่นสิ ถึงยังไงก็เป็นการกรีดเพื่อเปิดท้อง ไม่รู้ว่าคนในเมืองคนอะไรอยู่”
“ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ผ่าคลอด ถ้าคลอดเองได้ก็คลอดเองนั่นแหละ แต่ถ้าคลอดยากถึงจะใช้วิธีผ่าคลอด” เย่ฉูฉู่คิดว่าไม่มีใครอยากให้หมอใช้มีดกรีดผ่าเปิดท้องตัวเองหรอก เว้นเสียแต่ว่าจำเป็นจริง ๆ
“ใช่ แค่นึกภาพตอนมีดกรีดท้องก็สยองมากแล้ว” ชุนเยี่ยนนึกถึงฉากแบบนั้นก็รู้สึกกลัวมาก
“เธออย่าคิดให้มากมายขนาดนั้นเลย ควรกินก็กินควรดื่มก็ดื่ม ถึงเวลานั้นก็คลอดออกมาได้เองแหละ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชุนเยี่ยนตอบ ‘อืม’ ออกมา หล่อนมองดูเสี่ยวไป๋หยางแล้วพูดว่า “ฉันหวังจริง ๆ ว่าลูกคนนี้จะเป็นลูกชาย”
“หา?”
“ถ้าได้ลูกชายก็ไม่ต้องคลอดอีกคนแล้ว” ชุนเยี่ยนถอนหายใจ “ถึงแม้ว่าจะกินดื่มได้ปกติ แต่ฉันก็ไม่อยากคลอดอีกคนแล้ว ตอนนี้ขนาดนั่งยอง ๆ ยังเป็นเรื่องยากเลย”
…………………………………………………………………………………………………………………………
[1] ลืมตาพูดคำบอด (睁着眼说瞎话) ความหมายประมาณว่า ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าฝนตกอยู่ แต่กลับบอกว่าอากาศดี
สารจากผู้แปล
ภรรยาเหล่าหวังสามจะได้ทำงานไหมนะ เห็นบริหารปากเยอะมาก ไม่รู้ว่าทำงานเป็นไงบ้าง
ไหหม่า(海馬)