ด้วยการพักผ่อนอย่างเพียงพอและคุณภาพทางกายภาพที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาในไม่ช้า เฟิง อู๋ฮั่น และพี่น้องทั้งสี่ก็หายดีจากการบาดเจ็บ และฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขารู้สึกอับอายที่อยู่และกินอาหารของเสี่ยวหลัว โดยที่ไม่ได้ทำอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงขอให้เสี่ยวหลัวจัดหางานให้พวกเขาทำ
“งานอะไรพวกเราก็จะทำ พี่ใหญ่เสี่ยวได้โปรดหางานให้พวกเราทำด้วยเถอะ” เฟิง อู๋ฮั่น พูดกับเสี่ยวหลัว ด้วยความเคารพ
เสี่ยวหลัวที่นั่งอยู่บนโซฟา เขากำลังสลับช่องทีวีไปมา เพื่อดูว่ามีรายการที่น่าสนใจหรือไม่ จากนั้นเขาก็ถามพวกนั้นว่า “พวกนายหายดีกันแล้วใช่ไหม?”
“หายดีแล้ว!” เฟิง อู๋ฮั่น ทุบหน้าอกของเขาอย่างหนักแน่น
“พวกเขากิน กระโปกหมู,กระโปกวัวและกระโปกไก่ทุกวัน * เพื่อ”บำรุง” จากนั้น จาง ซูซาน ก็พูดต่อว่า“ถ้าบาดแผลของพวกเขาไม่หายดี ฉันก็คิดว่า ฉันคงจะต้องปรับมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้แล้ว!” จาง ซูซาน พูดขณะที่เดินไปหาพวกเขา
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เฟิง อู๋ฮั่น และเหล่าพี่น้องทั้งสี่คนของเขา ก็รู้สึกพูดไม่ออก
จาง ซูซาน ทิ้งตัวลงบนโซฟาและฉกรีโมทโทรทัศน์มาจากมือของเสี่ยวหลัว จากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเป็นช่องเรียลลิตี้นัดบอด ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เมื่อเขาจ้องตรงไปที่แถวบนสุดของผู้หญิง “เกิดเรื่องอะไรขึ้นวะเนี้ย! หมายเลขสิบสอง ที่ฉันติดตามมาตลอดเลย เธอถูกพาตัวไปแล้ว? โดยชายผิวดำ เธอชอบคนผิวดำที่มีไอนั่นใหญ่มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เสี่ยวหลัว จ้องมองไปที่ จาง ซูซาน แล้วพูดว่า“สมองของแกมันยังโอเคอยู่ใช่ไหม? แกอยู่บ้านตลอดทั้งวัน เพื่อดูรายการนัดบอดพวกนี้งั้นเหรอหะ?”
“แกจะไปรู้อะไร แกคิดว่าฉันกำลังดูอยู่เพราะฉัน…กำลังดูมันอยู่จริงๆงั้นเหรอหะ ที่ฉันดูมันก็เพื่อศึกษาหาสไตล์ที่เหมาะสม จากความเฉลียวฉลาดของเจ้าบ้าหัวโล้นนั่น! ดูวิธีที่เขาพูด เขาพูดเหมือนกับนักปราชญ์ เมื่อฉันเข้ารับตำแหน่งที่ หลัวฝาง ต่อจากแก ฉันต้องการมีท่าทางเหมือนกับนักปราชญ์แบบเขา!” จาง ซูซาน โต้กลับ
“ถ้าอย่างนั้น แกก็ควรที่จะไปโกนหัวของแก เหมือนอย่างเขา!” เสี่ยวหลัวลุกขึ้นและเดินไปที่ก๊อกน้ำเพื่อดื่มน้ำ
“โกนหัวน้องสาวแกสิ แกดูด้วยว่าใบหน้าอันทรงเสน์ของฉัน มันจะไปเหมาะกับทรงผมแบบนั้นได้ยังไง?” จาง ซูซาน พูดโต้กลับ ด้วยความโกรธ
“พี่จาง ฉันคิดว่าพี่กำลังเข้าใจผิด พี่จะเรียกว่าทรงผมได้ยังไง ในเมื่อพี่ไม่มีผมเหลือเลยซักเส้น”
“ใช่แล้ว ในภาษาถิ่นของเรามันเรียกว่า ทรงผม พระภิกษุสงฆ์” ซึ่งหมายถึง พระ ที่หัวล้านเหมือนลาแก่”
“การเป็นลาหัวล้าน มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี พวกเขาสามารถอยู่ได้แต่กับแม่ชี และแม่ชีมันก็แย่ที่สุด ใครก็ตามที่แต่งงานกับแม่ชี จะนำโชคร้ายมาสู่คนสามชั่วอายุคน หลิง อู๋เฉิง ใน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นแม่ชี เขาจะสูญเสียการเดิมพันทุกครั้งที่เขาเดิมพัน!”
เสี่ยวอู๋ และชายอีกสามคน กำลังพูดโต้แย้งกัน ด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา ดูเหมือนว่าพวกเขาพยายามที่จะไม่เยาะเย้ยใคร แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังพูดถึง จาง ซูซาน
“ออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้เลยไป!”
จาง ซูซาน ไม่ได้มีหน้าตาที่ดีนัก เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาต้องมาดูแลพวกกอลิลาพวกนี้ แต่ตอนนี้ที่พวกมันหายดี พวกมันกลับมาหักหลังเขาแบบนี้เนี้ยนะ!
เสี่ยวหลัว หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จเขาก็เดินมานั่งที่โซฟาอีกครั้ง: “พวกนายทั้งหกคน ไม่ต้องอยู่บ้านเฉยๆอีกต่อไป บริษัท เพิ่งได้รับคำสั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก และตอนนี้ที่โรงงานก็กำลังยุ่งอยู่กับคำสั่งซื้อเหล่านี้ พวกนายเตรียมตัวให้พร้อมและตามฉันไปที่ บริษัท เราต้องไปหา หลิน เฉาตง จากแผนกทรัพยากรบุคคล เพื่อหางานให้พวกนายทำ””
“รวมฉันด้วยหรือเปล่า” จาง ซูซาน ชี้ไปที่ตัวเอง
“แน่นอนว่ารวมถึงแกด้วย พวกเขาทุกคนรู้ว่ามันน่าอายที่จะกินอาหารฟรีๆโดยที่ไม่ได้ทำอะไร แกไม่รู้สึกอะไรเลยบ้างเลยหรือไง?”
เสี่ยวหลัวจิบชาแล้วพูดช้าๆ “แกจะได้มันแน่นอน เมื่อสถานการณ์ใน หลัวฝาง มีเสถียรภาพ ตอนนี้แกต้องมีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับระบบของ หลัวฝาง ฉันคิดเกี่ยวกับมันแล้ว ฉันคิดว่าแกควรเริ่มต้นจากระดับล่างก่อน แกอาจจะต้องเริ่มด้วยการเรียนรู้เทคโนโลยีการแปรรูปอาหารของเรา”
“ให้ตายเถอะ!แกให้ฉันไปเป็นพนักงานประจำเนี้ยนะ พี่ชายจิตสำนึกของแก มันไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ไม่ยุติธรรมของฉันเลยใช่ไหม?”
จาง ซูซาน ทำตัวเหมือนกับว่าเขาอกหัก แน่นอนว่าเขาไม่ได้ต่อต้านข้อตกลงนี้ เขารู้แล้วว่าความสามารถของเสี่ยวหลัวนั้นเหนือกว่าเขาในทุกๆด้าน หากเขาไม่ทำงานให้หนักขึ้น เขาก็จะไม่สามารถรับตำแหน่งประธานของ บริษัท หลัวฝาง ในอนาคตได้ เขาเข้าใจถึงความต้องการของเสี่ยวหลัวที่จะให้เขาเริ่มต้นจากจุดที่ต่ำสุด
เสี่ยวหลัวไม่สนใจเขาและดื่มชาของเขาต่อไป
“พี่ใหญ่เสี่ยว จ่ายเงินเดือนเท่าไหร่งั้นเหรอ?” เฟิง อู๋ฮั่น สอบถามด้วยความคาดหวัง
“เงินเดือนพื้นฐานจะเป็น 2,200 หยวน ในช่วงสามเดือนแรก และจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ถึง 2,600 หลังจากนั้น หากนายทำงานล่วงเวลาทุกวัน เนื่องจากจำนวนคำสั่งซื้อที่เรามีอยู่ในตอนนี้ นายจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 5,000-6,000 ต่อเดือน” เสี่ยวหลัว กล่าว
5,000 หยวน?
พวกเขาทั้งห้า รู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“5,000 หยวนต่อคนต่อเดือน หรือเปล่า”
“ใช่แล้ว”
เสี่ยวหลัวพยักหน้ายืนยัน
พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความงุนงงกับสิ่งที่พวกเขาได้ยิน ห้าพันหยวนต่อเดือน? มีทองคำอยู่ทุกหนทุกแห่งในเมืองใหญ่ ในที่สุดพวกเขาก็หาเจอ
“ขอบคุณพี่ใหญ่เสี่ยว เร็วเข้า!” เฟิง อู๋ฮั่น พูดเตือนเพื่อนของเขาอย่างรวดเร็วเพื่อขอบคุณเสี่ยวหลัว
“ขอบคุณพี่ใหญ่เสี่ยว!”
พวกเขาประสานมือขอบคุณเสี่ยวหลัวในรูปแบบจีนดั้งเดิม แม้แต่ในความฝันของพวกเขา พวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะได้งานที่จ่ายเงิน ห้าพันหยวน ต่อเดือนเช่นนี้ วันที่เลวร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายที่พวกเขาต้องเผชิญในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา พวกเขาก็อดที่จะรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมไม่ได้
“อย่างเพิ่งดีใจจนเกินไป ในฐานะคนงานปกติ พวกนายอาจได้รับผลประโยชน์ แต่งานเองนั้นก็ลำบาก เมื่อพวกนายทำงานเป็นสองกะ กะกลางวัน และกะกลางคืน มันจะทำให้พวกนายหมดแรง 5,000 หยวน นั้นไม่ใช่เงินที่ได้มาง่ายๆ พวกนายจะต้องเตรียมจิตใจไว้ให้พร้อม” จาง ซูซาน เตือน
“พวกเราไม่กลัวความลำบาก!” เฟิง อู๋ฮั่น พูดอย่างมุ่งมั่น
เสี่ยวหลัวลุกขึ้นยืนและตบไหล่พวกเขา“ทำงานและเรียนรู้ให้มากๆ เมื่อพวกนายมีทักษะมากพอแล้ว ฉันจะให้พวกนายไปทำอย่างอื่น”
“ได้เลย พี่ใหญ่เสี่ยว” เฟิง อู๋ฮั่น พยักหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังสำหรับงานใหม่
จาง ซูซาน ตัวสั่นเทาด้วยความสยดสยอง“ให้ตายเถอะ! แกกำลังแสดงเก่งมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้แกเข้าถึงบทบาทของประธานบริษัทจริงๆแล้วใช่ไหม? เสี่ยวหลัวแกรู้วิธีกระตุ้นพนักงานของแกดีจริงๆ”
******
“ประธานเสี่ยว ผมบอกตามตรงตอนนี้ปริมาณการสั่งซื้อในปัจจุบันของเรา มันอยู่นอกเหนือขอบเขตของกำลังการผลิตของโรงงานของเราแล้ว และเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง ก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่ครึ่งเดือน แม้ว่าโรงงานจะทำงานล่วงเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่่หลับนอนเลยก็ตาม มันก็ไม่สามารถที่จะทำงานให้เสร็จได้ทันเวลา ” จางตงไห่ ผู้อำนวยการของโรงงาน หลัวฝาง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น ขณะที่พูดต่อหน้าเสี่ยวหลัว
คำสั่งซื้อของ ฟู้ดคอร์ท กรุ๊ป และคำสั่งซื้อเดิมที่เป็นของ taste buds เมื่อนำมารวมกันแล้ว กำลังการผลิตนั้นมากเกินไปสำหรับพวกเขา
“คุณไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามคำสั่งซื้อทั้งหมด เพียงผลิตให้ได้มากเท่าที่คุณสามารถทำได้ก็พอ” เสี่ยวหลัว พูดเบาๆ
“แต่เราจะไม่ทำผิดสัญญาของเราเหรอ? หากสิ่งนั้นเกิดขึ้น เราจะต้องจ่ายเงินก้อนโตเป็นจำนวนมาก” จาง ตงไห่ ขมวดคิ้ว
เสี่ยวหลัวยิ้ม“ไม่ต้องกังวล เราจะไม่ทำผิดสัญญา สัญญาของเราถูกร่างขึ้นตามกำลังการผลิตของเรา ก่อนถึงช่วงเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถผลิตได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ มันไม่มีปัญหา”
สำหรับคู่ค้าที่ เสี่ยวหลัวฉกชิงมาจาก Taste Buds สัญญาของพวกเขาไม่ได้ระบุว่า บริษัท หลัวฝาง จะต้องทำตามข้อกำหนดคำสั่งซื้อในสัญญา เงื่อนไขก็คือพวกเขาจะได้รับคำสั่งซื้อตามปริมาณที่ หลัวฝาง สามารถผลิตได้ เสี่ยวหลัวเพิ่มรายละเอียดของสัญญานี้โดยเฉพาะ เมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิตของโรงงาน หลัวฝาง
เหล่าประธานของ บริษัท พวกนั้นที่แพ้การเดิมพัน หรือพวกที่ถูกเขาข่มขู่ พวกเขาต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการก็ตาม
“ฮะ? แบบนั้นมันจะโอเคเหรอ?”
จาง ตงไห่ ตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นสัญญาที่ดื้อรั้นและไร้เหตุผลเช่นนี้มาก่อน กุญแจสำคัญก็คือคู่ค้าเหล่านั้น เขาเซ็นสัญญาที่มีเงื่อนไขแบบนี้มาได้อย่างไร มันเกิดอะไรขึ้น? เสี่ยวหลัวเขาทำอะไรลงไป?
“ก๊อก ก๊อก ~”
ทันใดนั้นเองประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ