“แต่ว่าก่อนหน้านั้น…”
หลิงม่อยังพูดไม่จบประโยค บลัดมาเธอร์ตัวนั้นพลัน “ลุก” พรวด การเคลื่อนไหวของมันกระตุ้นสัญชาตญาณฆ่าของคนที่อยู่รอบตัวทันที ทว่าเพียงไม่นาน แววมุ่งร้ายและระแวดระวังที่สะท้อนอยู่ในดวงตาหลายคู่นั้น กลับกลายเป็นเครื่องหมายคำถาม
การ “ลุกยืน” ของบลัดมาเธอร์นั้น ความจริงคือการยืดขาแมงมุมที่กำลังโค้งงอให้เหยียดตรง กลายเป็นเหมือน “ไม้ค้ำ” ที่เหยียดตรงแปดเส้น และเมื่อร่างกายพลันยืดสูง ส่วนท้องของบลัดมาเธอร์ที่เดิมแนบติดกับพื้น ก็ได้เผยสู่สายตาทุกคน
และในตอนนี้เองที่ทุกคนได้ค้นพบ ว่าในท้องของบลัดมาเธอร์ตัวนี้ มีบางสิ่งซ่อนอยู่…
“แกอยากเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของฉันใช่ไหม? ก็ดีเหมือนกัน…ฉันก็ไม่ได้คุยกับคนอื่นตรงๆ อย่างนี้มานานแล้ว…”
สิ้นเสียงพูด ท้องของบลัดมาเธอร์ก็มีช่องว่างหนึ่งค่อยๆ ขยายออก ไม่นาน ก็มีวัตถุทรงกลมสีดำมุดออกมาจากข้างใน…จนกระทั่งมันบิดไปมาสองสามที แล้วลืมตาขึ้น เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจจึงดังมาจากมุมหนึ่ง
“นั่นมันหัวคนนี่!”
ศีรษะที่โผล่ออกมาจากท้องแมงมุมพลันเปล่งเสียงหัวเราะแหบพร่า จากนั้นก็พูดเสียงเย็นชา “ดูเหมือนว่าฉันจะทำให้พวกแกตกใจสินะ? แต่ก็จริง สภาพฉันอย่างนี้ คงไม่ค่อยมีมนุษย์คนไหนยอมรับได้หรอก มีแต่แมงมุมพวกนี้เท่านั้นที่ไม่รังเกียจฉัน”
“โผล่หน้าออกมาก็เริ่มพูดจาโทษฟ้าโทษดินเลย…ดูเหมือนแกคงจะมีความแค้นใหญ่หลวงสินะ ถ้าอย่างนั้น แม้แต่ลูกน้องของแก แกก็เกลียดพวกเขาด้วยหรอ?” หลิงม่อท่าทีถือว่าดูใจเย็น ทว่าก็ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ ความจริงศีรษะมนุษย์นั่นแทบมองรูปร่างเดิมไม่ออกแล้ว ผิวหนังของมันเต็มไปด้วยตุ่มสีดำมากมาย เส้นผมหลุดร่วงจนเกือบหมด ส่วนลำคอซึ่งอยู่ด้านล่างศีรษะคล้ายมีเนื้องอกขึ้นมาใหม่ ซึ่งเชื่อมต่อศีรษะของคนผู้นี้เข้ากับท้องของแมงมุม ไม่แน่ว่าในท้องของแมงมุม อาจมีร่างกายและแขนขาทั้งสี่ที่เปลี่ยนรูปไปแล้วของคนผู้นี้ซ่อนอยู่ โดยที่อวัยวะเหล่านั้นก็อาจหลอมรวมเข้ากับร่างแมงมุมเหมือนกับส่วนลำคอไปแล้ว ดังนั้นหากพูดให้ถูกต้อง บลัดมาเธอร์ตัวนี้ ความจริงแล้วเป็นสัตว์ประหลาดที่มีหัวเป็นคน ตัวเป็นแมงมุม…
“ไม่ถึงกับเกลียด แต่ก็ไม่ใช่ว่าชอบ นอกจากเจ้าซุนซวี่นั่น คนอื่นๆ ล้วนซ่อนความคิดของตัวเองไว้ในใจ ถึงแม้พวกเขาเลี้ยงแมงมุมแทนฉัน แต่ในใจกลับไม่พอใจกับสภาพชีวิตอย่างนี้ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรับมนุษย์ที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดอย่างฉันได้ ฉันรู้ภายนอกพวกเขากลัวฉัน แต่ลึกๆ แล้ว พวกเขาคงอยากหลุดพ้นจากฉัน แต่ที่น่าขำคือ ถ้าไปจากฉัน พวกเขาก็จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้” บลัดมาเธอร์หัวเราะหยัน แล้วตอบ
“ถึงฉันจะไม่ดูถูกทางเลือกของแก…แต่ดูเหมือนตัวแกเองก็รับไม่ค่อยได้เหมือนกันนี่? แล้วยังคิดจะให้คนอื่นยอมรับอย่างเต็มใจอีก? อีกอย่างจะว่าไปแล้ว แกมองมนุษย์เป็นเพียงเครื่องมือผลิตเลือดเลี้ยงแมงมุม แล้วยังจะต้องการให้คนอื่นเขามีความคิดเปิดกว้างมองโลกในแง่ดี ขอมากเกินไปแล้ว…” หลิงม่อส่ายหัว แล้วถามอีกว่า “ถ้าอย่างนั้นในเมื่อซุนซวี่เป็นเพียงคนเดียวที่แกไว้ใจ ทำไมแกถึงยัง…” พูดถึงตรงนี้ เขากลับสะดุดลง
มนุษย์แมงมุมที่ยอมสละชีวิตเพื่อช่วยบลัดมาเธอร์เมื่อกี้จะใช่หรือไม่ใช่ซุนซวี่ หลิงม่อเองก็ยังไม่แน่ใจ เพราะระหว่างที่เขาไล่ตามเจ้าบลัดมาเธอร์ตัวนี้มา พวกซย่าน่าบอกเขาว่าซุนซวี่ตายไปแล้ว และมนุษย์แมงมุมตัวนั้นก็เป็นเพียงหนึ่งในร่างปรสิตแมงมุมตัวผู้พวกนั้น ทว่าเขาได้รับอิทธิพลและคำสั่งมาจากซุนซวี่ หรือว่าถูกซุนซวี่ยึดครองจิตใต้สำนึกไปอย่างสิ้นเชิงแล้วกันแน่ เรื่องนี้กลับไม่มีใครให้คำตอบได้…ถ้าหากเป็นอย่างหลัง งั้นที่พวกซย่าน่าสังหารไปในตอนแรก ก็เป็นเพียงกระดองเปล่าเท่านั้น ซุนซวี่ตัวจริง เพิ่งจะตายอย่างแท้จริงไปเมื่อกี้…
“แกหมายถึงเมื่อกี้? เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว ในเมื่อเต็มใจมาช่วยฉัน ถ้าอย่างนั้นก็ควรช่วยให้สุด ถ้าฉันช่วยเขาออกมา จุดจบก็คงหนีไม่พ้นถูกจับได้ทั้งสองคน เรื่องที่ไม่มีประโยชน์แบบนั้น ฉันไม่มีทางทำแน่ แต่ฉันเองก็คิดไม่ถึง ว่าพวกแกจะตอบสนองเร็วขนาดนี้ เดิมทีฉันคิดว่าถึงระเบิดไม่โดนตัวแก แต่ถ้าโดนพวกเธอก็ยังดี” บลัดมาเธอร์ตอบอย่างตรงไปตรงมา ทว่าไม่นานมันก็ตระหนักได้ทันที พลางแค่นเสียงไม่พอใจ พูดว่า “แกยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน! ไหนบอกว่าจะบอกฉันไง!”
“หึ…ความจริงก็ไม่มีอะไรมากหรอก…ถึงแม้ว่าแกจะซ่อนตัวได้เนียนมาก แต่แกไม่ควรแอบมองฉันผ่านช่องว่างนั่นเลย เดิมทีฉันก็แค่รู้สึกแปลกๆ เท่านั้น แต่พอแกลอบโจมตีฉันอีกครั้ง ดวงตาอีกคู่ของฉันก็มองเห็นจากใต้พื้น…” คำว่า ‘ดวงตาอีกคู่’ ของหลิงม่อ หมายถึงหุ่นดวงจิตเสี่ยวเฮยนั่นเอง ตอนที่บลัดมาเธอร์มุดลงไปใต้ดินกะทันหัน เสี่ยวเฮยก็ถูกลากลงไปด้วย และเมื่อมันโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นอีกครั้ง เสี่ยวเฮยก็ตามมันออกมาด้วย ดังนั้นแม้ว่าบลัดมาเธอร์ตัวนี้จะระวังตัวตลอดเวลา แต่กลับหนีไม่พ้นสายตาของหุ่นดวงจิต…
“…” บลัดมาเธอร์พลันเงียบ จากนั้นจึงค่อยพูดขึ้นว่า “ถ้าพูดตรงๆ มันคือพลังพิเศษของแกสินะ…หึหึ เจอกับแก ถือว่าฉันดวงซวย…”
“เดี๋ยวๆ ขอร้องหยุดโทษฟ้าดินซักที พูดอย่างกับแกถูกโชคชะตาทอดทิ้งอย่างนั้นแหละ ถึงจะเป็นผู้มีพลังพิเศษคนอื่น ถ้ามีโอกาสสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ แก ก็ต้องเห็นพิรุธกันทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะผู้มีพลังจิต…” หลิงม่ออดพูดไม่ได้ เป็นอย่างนั้นจริงๆ สาเหตุที่บลัดมาเธอร์ปิดบังตัวตนได้อย่างแนบเนียน เป็นเพราะพลังต่อสู้ระยะประชิดอันน่ากลัวของมัน วิธีที่พวกหลิงม่อใช้ต่อกรกับมัน ก็คือการหลีกเลี่ยงสิ่งที่มันถนัด และใช้วิธีตรึงร่างและโจมตีจากระยะไกล ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของมัน ยิ่งหลังจากที่หลิงม่อค้นพบร่างจริงของมัน จุดอ่อนของมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้น …
นอกจากตรึงร่าง หลิงม่อยังสามารถโจมตีดวงจิตมันได้โดยตรง…ดังนั้น ถึงแม้สัตว์ประหลาดที่มีหัวเป็นคนมีตัวเป็นแมงมุมตัวนี้จะมีร่างกายใหญ่โต แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิธีสู้รบอันคล่องแคล่วของพวกหลิงม่อ มันกลับอ่อนด้อยกว่า…
ทว่าเห็นได้ชัดว่าบลัดมาเธอร์ไม่คิดอย่างนั้น อยู่ๆ มันก็หัวเราะ บอกว่า “ผู้มีพลังจิตหรอ? ดูเหมือนว่าในกลุ่มของพวกแกคงผู้มีพลังพิเศษไม่น้อย…แต่ถ้าฉันบอกว่า ความจริงฉันเป็นแค่คนธรรมดา แกจะเชื่อไหมล่ะ?”
“คนธรรมดา?” หลิงม่ออึ้งงันไปครู่หนึ่ง เหล่าร่างปรสิตที่ถูกบลัดมาเธอร์บงการ แท้จริงเป็นเพียงคนธรรมดา เรื่องนี้พอทำความเข้าใจได้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้านี้เปลี่ยนแปลงไปถึงขนาดนี้แล้ว ซ้ำยังเรียกได้ว่าเป็นแมงมุมร่างแม่ ถ้าหากเขาเป็นคนธรรมดา แล้วเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
น่าแปลก!
ถึงแม้ท่าทางของบลัดมาเธอร์แสดงให้เห็นว่ามันกำลังจงใจถ่วงเวลา เพื่อหากลยุทธ์รับมือ แต่หลิงม่อก็ยอมเปิดโอกาสให้มัน…เพียงแต่ท่าทีใจเย็นของหลิงม่อ กลับทำให้บลัดมาเธอร์ใจเต้นไม่เป็นส่ำกว่าเดิม
“แกพูดต่อสิ” หลิงม่อบอก
“ให้ฉันพูดจริงๆ?” บลัดมาเธอร์กลับอึ้งงันไปครู่หนึ่ง…แต่พอมันมองหลิงม่ออีกครั้ง ก็เห็นว่าเขายกมือกอดอก ทำหน้าเหมือนเชิญพูดมาได้เลย ในขณะที่สายตาหลายคู่ที่อยู่รอบกายเองก็แสดงออกถึงความสงสัยเช่นกัน บรรยากาศพลันเงียบกริบ เพียงรอให้มันเปิดปากเล่า…
“นี่เห็นฉันเป็นนักโทษไปแล้วจริงๆ หรอ? ไม่กลัวฉันหนี? จะว่าไปแล้วคนพวกนี้ช่างอยากรู้อยากเห็นกันจริงๆ!” บลัดมาเธอร์แค่นเสียง แต่สุดท้ายก็ไม่อาจละทิ้งโอกาสนี้ไป จึงทำได้เพียงเปิดบทพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก “ร่างกายร่างนี้ เริ่มแรกเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของฉัน…”
ในช่วงแรกที่เพิ่งเกิดภัยพิบัติ บลัดมาเธอร์และมนุษย์กึ่งแมงมุมยังเป็นคนละร่าง มนุษย์กึ่งแมงมุมเป็นเพียงคนธรรมดา และร่างเดิมของแมงมุมก็เป็นเพียงแมงมุมสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ ภายใต้สถานการณ์ที่โลกเต็มไปด้วยซอมบี้ หนึ่งคนหนึ่งแมงมุมซ่อนตัวอยู่ในบ้านตัวเอง ไม่กล้าออกไปไหน แต่พวกเขาไม่ออกไปไหน กลับไม่ได้หมายความว่าซอมบี้จะไม่มาหาพวกเขา…
หลังจากที่เสียงกรีดร้องดังต่อเนื่องทั้งคืน เช้าวันถัดมา “บลัดมาเธอร์” ที่ขดตัวอยู่ตรงมุมห้องก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากข้างนอก เสียงนั้นเบามาก แต่ “บลัดมาเธอร์” ที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืนกลับยังคงพยายามตั้งสติตลอดเวลา ดังนั้นวินาทีที่เสียงนั้นดังมา มันก็ตัวสั่นสะท้าน พลันนั่งตัวตรงทันที
“ตอนนั้น ฉันจ้องประตู ในสมองมีแต่ความคิดหนึ่งเต็มไปหมด…ได้โปรดอย่าเป็นสัตว์ประหลาดพวกนั้นเลย ได้โปรด! ถึงแม้ในใจกลัวแทบตาย แต่ฉันก็ยังค่อยๆ คลานเข้าไป ยิ่งเข้าใกล้ ฉันก็ยิ่งได้ยินชัด เสียงข้างนอกนั้น เหมือนเสียงหยดน้ำ…ตอนนั้นฉันใกล้บ้าเต็มที แต่มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้แหละ ทั้งที่กลัวแทบตาย แต่ก็ยังบังคับตัวเองให้ไปดูให้เห็นกับตา ดังนั้นฉันก็เลยลุกขึ้น เตรียมจะส่องตาแมวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก แต่ทันใดนั้น เสียง ‘ปึงปัง’ ก็ดังมาจากบานประตู…”
น้ำเสียงของบลัดมาเธอร์ในยามนี้ถือว่าใจเย็นมาก แต่ดูจากการเล่าเรื่องอย่างละเอียดก็พอรู้แล้วว่าภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำของมัน…
หลังจากเสียงปึงปังดังขึ้น บลัดมาเธอร์ที่เดิมก็กล้าๆ กลัวๆ พลันทิ้งตัวนั่งลงไปกับพื้น และพอได้ยินเสียงที่ดังมาจากในบ้าน ประตูนิรภัยบานนั้นก็ราวกับถูกทุบตีอย่างบ้าคลั่งกว่าเดิม บานประตูสั่นคลอนดัง “โครมคราม” เศษฝุ่นที่เกิดจากปูนซึ่งยึดติดกับขอบบานประตูแตกร้าวร่วงคลุ้งลงมา ทำให้บลัดมาเธอร์ตกตะลึงค้างไป…
จากนั้น แม้แต่ตัวมันก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด…อยู่ๆ เสียงที่ประตูก็เงียบหายไป หลังจากที่บานประตูสั่นเบาๆ อีกสองสามที ทุกอย่างก็เงียบกริบ จนกระทั่งมีเลือดไหลเข้ามาตามช่องประตู บลัดมาเธอร์จึงพลันได้สติ…
“มันเป็นซอมบี้ผู้หญิงตัวหนึ่ง…ที่ตายแล้ว และล้มอยู่หน้าประตูห้องฉัน! แกรู้ไหมตอนนั้นฉันรู้สึกยังไง? มีคนเดินผ่านหน้าห้องฉัน และฆ่าซอมบี้ตัวนั้น แต่กลับไม่ช่วยฉันออกไป…อย่างน้อยถ้าเขาตะโกนถามไถ่ซักคำก็ยังดี! แต่ว่า เขากลัวจะถึงดูดซอมบี้ตัวอื่นเข้ามา กลัวตัวเองถูกจับได้ ก็เลยไม่เรียกฉัน บางทีเขาอาจกำลังบอกตัวเองว่าหลังประตูบานนั้นไม่มีคนอยู่หรอก ไม่แน่ว่าข้างในอาจเป็นซอมบี้ก็ได้…แต่น่าเสียดาย ที่ต่อมาฉันเองก็ตามหาคนคนนั้นไม่เจอ บางทีหลังจากนั้นไม่นาน เขาอาจตายไปแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ บลัดมาเธอร์ก็หัวเราะอีกครั้ง “เรื่องต่อจากนั้น ฉันว่าแกก็น่าจะเดาได้แล้ว ฉันสิ้นหวังมาก กระทั่งไม่ทันสังเกตว่าตู้เลี้ยงแมงมุมถูกฉันชนจนล้มคว่ำไปแล้ว ตกดึกวันนั้น ฉันถึงค่อยรู้ว่ามันปีนออกมาแล้ว แต่ว่าตอนนั้นมันดูผิดไปจากปกติ…”
“จากนั้นมันก็กัดแก?” หลิงม่ออดพูดขึ้นไม่ได้ในที่สุด