ไม่ใช่เพราะหลิงม่อได้รับบาดเจ็บ…แต่เป็นอาการข้างเคียงที่เกิดจากการเพิ่มระดับถ่ายเทพลังงานมหาศาลอย่างกะทันหัน และผลข้างเคียงอีกอย่าง ก็คือการโจมตีและควบคุมบลัดมาเธอร์ ล้วนสะดุดไปชั่วขณะ…
ขณะเดียวกัน เงาดำของผู้ลอบโจมตีพุ่งผ่านร่างหลิงม่อไปโดยตรง…เห็นชัดว่า เป้าหมายการโจมตีของเขาไม่ใช่หลิงม่อ แม้แต่เย่เลี่ยนที่รีบพุ่งเข้ามาถึงตรงหน้าหลิงม่อ ก็ไม่อาจทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลง…เขากำลังพุ่งตัวเข้าไปหาบลัดมาเธอร์
เวลานี้ ทุกคนมองเห็นหน้าตาของเงาร่างนั้นอย่างชัดเจน และต่างอดสูดหายใจด้วยความตื่นตะลึงไม่ได้
“นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย?!”
ดูจากโดยรวม คนคนนี้ยังมีรูปร่างคล้ายมนุษย์อยู่หลายส่วน…แต่ผิวสีดำแดงที่ขรุขระไม่เรียบเนียน ร่างกายพองโตและแขนขาทั้งสี่ข้างที่แข็งกระด้าง แล้วยังมีใบหน้าที่เปลี่ยนรูปไปอย่างสิ้นเชิง ล้วนทำให้ผู้พบเห็นขวัญหนีดีฝ่อ ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ บางจุดบนร่างกายเขายังมีร่องรอยถูกกัดแทะปรากฏให้เห็น และก็มีบางสิ่งที่ก่อตัวกันเป็นชั้นสูงต่ำไม่เท่ากันอยู่บนหัวของเขาอีกด้วย…
จางซินเฉิงรีบสาดแสงไฟฉายไปทันที และภาพที่เห็นต่อจากนั้น ทำให้มนุษย์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนเกิดอาการอยากอาเจียนอย่างรุนแรง…บางสิ่งที่ว่านั้นไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นแมงมุมตัวใหญ่หลายตัวนั่นเอง เดิมทีคนคนนี้ถูกแทะหนังศีรษะจนไม่เหลือแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงเนื้อสีแดงออกดำชั้นหนึ่ง และแมงมุมพวกนั้นก็ฝังตัวอยู่ระหว่างผิวหนังบางๆ ชั้นนี้กับกะโหลกศีรษะ เสี้ยววินาทีที่แสงไฟสาดกระทบ พวกมันยังเคลื่อนขยับไปมาอยู่ใต้ผิวหนัง…
และไม่ใช่เพียงศีรษะ แม้แต่ใบหน้า และรูต่างๆ ตามร่างกายของคนคนนี้ ก็ล้วนมีแมงมุมซ่อนอยู่ทุกที่…ภายใต้การช่วยเหลือของแมงมุมพวกเนี้ เขาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“หมอนี่คือ…คนที่หายไปคนนั้น!” ซย่าน่าได้สติทันที ส่วนทำไมคนผู้นี้ถึงได้มีสภาพอย่างนี้นั้น แน่นอนว่าเป็นเพราะลูกเล่นสกปรกของซุนซวี่อยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าซุนซวี่จะเป็นคนใจคอโหดเหี้ยมขนาดนี้ ก่อนตายก็ฆ่าพรรคพวกของตัวเองเพื่อจะยืดเวลา แถมยังทำให้คนเป็นๆ คนหนึ่งมีสภาพตายทั้งเป็นอย่างนี้อีก…
ขณะที่ซย่าน่าได้สติ พวกเย่ไคก็หันมาเล็งปืนใส่เขา และเริ่มรัวกระสุนโจมตีดัง “ตึงๆๆๆ” แต่ผิวหนังของคนคนนี้กลับแข็งแรงผิดคาด ลูกกระสุนที่ยิงโดนผิวของเขาไม่ต่างจากยิงยางแข็งๆ เลยแม้แต่น้อย นอกจากเสียงลูกกระสุนที่ปะทะผิวหนัง ก็ไม่ได้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ชั่วพริบตา ผู้รอดชีวิตคนนี้ก็เข้าใกล้บลัดมาเธอร์สำเร็จ…ดูจากที่เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่เขาคิดจะทำ ก็คือช่วยบลัดมเธอร์ให้ได้…นั่นทำให้ซย่าน่าพลันขมวดคิ้วสงสัย สิ่งที่ซุนซวี่บอกว่า “สายไปแล้ว” หมายถึงอะไรกันแนะ? มนุษย์แมงมุมที่แท้จริงตัวนี้ คือแผนสำรองสุดท้ายของเขางั้นหรอ?
คิดถึงตรงนี้ เธอรีบสบตากับหลี่ย่าหลินแวบหนึ่ง จากนั้นสองสาวก็พุ่งตัวเข้าไปทันที
ดวงตาข้างเดียวที่เหลืออยู่ของผู้รอดชีวิตคนนั้นเหลือบมองพวกเธออย่างเย็นชา แต่กลับไม่คิดจะสู้กับพวกเธอ ในช่วงเวลาที่ทุกวินาทีมีค่าอย่างนี้ เขายอมละทิ้งการป้องกันและต่อต้าน ได้แต่วิ่งฝ่ากลางระหว่างสองสาวไปโดยตรง
“หมอนั่นเคลื่อนไหววู่วามมาก ดังนั้นมนุษย์แมงมุมคนนี้จะต้องมีจุดอ่อนแน่นอน ทุกคนไม่ต้องยิงปืนแล้ว!” ซย่าน่าตะโกนบอก
ส่วนหลิงม่อเวลานี้กำลังยืนโดยมีเย่เลี่ยนช่วยประคอง เขามองเงาร่างที่พุ่งตัวไปข่างหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความตกตะลึง แล้วอยู่ๆ ก็เกิดรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าปรหะหลาด…
“ซุนซวี่?”
เวลานี้ เงาวาบวับพุ่งไปทางตัวมนุษย์แมงมุม เคียวดาบของซย่าน่ากับจูบอสรพิษของหลี่ย่าหลิน พุ่งแทงเข้าไปในร่างกายของคนคนนี้พร้อมกัน พวกเธอทั้งสองไม่เพียงระเบิดพลังอันแข็งแกร่งของซอมบี้ออกมา แต่ขณะโจมตี ยังเล็งไปที่รูที่อยู่ตามตัวของคนคนนี้ด้วย…ในเมื่อกระสุนยากจะทำให้เกิดแผลบนตัวเขาได้ ถ้าอย่างนั้นวิธีที่ดีที่สุด ก็คือจู่โจมแผลที่มีอยู่แล้วบนตัวเขา
ตามคาด เมื่อคมดาบเสียดแทงเข้าไปในรู ร่างกายมนุษย์แมงมุมพลันสะดุด แต่จากนั้นไม่นาน เขาไม่เพียงไม่หยุด แต่กลับพุ่งตัวฝ่าการโจมตีของทุกคนเข้าไปเร็วกว่าเดิม เห็นชัดว่า เขาตัดสินใจแล้วที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยบลัดมาเธอร์…และในระหว่างที่พุ่งตัวเข้าไป ศพแมงมุมร่วงกราวลงจากร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง และร่างกายที่เดิมทีพองใหญ่ กลับค่อยๆ หดเล็กลงเรื่อยๆ…
ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวินาที มนุษย์แมงมุมตัวนี้ก็ถูกซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินโจมตีไปนับร้อยครั้งแล้ว…เมื่อเขาพุ่งตัวไปถึงตรงหน้าบลัดมาเธอร์ รูแผลตามร่างกายเขาก็มีเลือดสีดำไหลออกมาเป็นสาย ศพแมงมุมที่ร่วงหล่นลงไปยิ่งมากเป็นหลายร้อยตัว…
“อ๊ากกก!” มนุษย์แมงมุมกรีดร้อง และพุ่งกระโดดไปที่เท้าของบลัดมาเธอร์ ก่อนที่ซย่าน่าจะตามมาทัน เขากระชากบลัดมาเธอร์เต็มแรงหนึ่งครั้ง…หลิงม่อในตอนนี้ยังไม่ฟื้นตัวจากการลอบโจมตีเมื่อครู่ พอถูกมนุษย์แมงมุมกระชากอย่างนั้น ท่ามกลางความเจ็บปวดของบลัดมาเธอร์ มันกลับหลุดพ้นจากพันธนาการไปได้ทันที…มันกระโดดขึ้นกลางอากาศ พลันพ่นใยใส่พวกเฮยซือที่พุ่งเข้ามาหมายโจมตีมัน ขณะเดียวกันก็ก้าวขยับขาแมงมุม มุ่งหน้าไปยังพื้นที่โล่งเพียงจุดเดียวอย่างรวดเร็ว
“ละ…ลูกพี่?” มนุษย์แมงมุมกลับอ้าปากค้าง เปล่งเสียงร้องประหลาดออกมาในเวลานี้ สิ้นเสียงพูดของเขา ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลัง เรี่ยวแรงขัดขืนทั้งหมดของเขา ล้วนใช้ไปกับการช่วยเหลือบลัดมาเธอร์จนหมด…เขาในตอนนี้ ซูบผอมและแห้งเหี่ยวไปทั้งตัว นอกจากแมงมุมที่อยู่บนศีรษะ แมงมุมที่อยู่ตามร่างกายล้วนกลายเป็นศพแห้งกรัง ร่วงกราวลงพื้นราวกับถูกสตาฟไว้
หลังจากได้ยินเสียงเรียกของเขา บลัดมาเธอร์กลับไม่คิดจะหันไปมองซักนิด…กระทั่งยังรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวจากเงาร่างที่กำลังวิ่งหนีอย่างลนลานของมัน…
“ลูกพี่…ช่วย…ช่วยด้วย…ช่วยผมด้วย…”
มนุษย์แมงมุมจ้องมองเงาด้านหลังของบลัดมาเธอร์อย่างตกตะลึง พลางตะโกนเรียก
“ยอมแพ้เถอะ”
เสียงพูดอันเย็นชาของซย่าน่าดังมาจากเหนือศีรษะ ขณะเดียวกันเธอยกเคียวดาบขึ้น
บลัดมาเธอร์ยังคงไม่หยุดวิ่ง ในขณะที่ในดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของมนุษย์แมงมุมมีแววสิ้นหวังสะท้อนผ่าน อยู่ๆ เขาเหมือนรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมา เขาอ้าปากกว้าง เหมือนต้องการจะตะโกนพูดบางสิ่ง
ทว่าในตอนนี้เอง หลิงม่อพลันรับรู้ได้ถึงความอันตรายจากสายตาที่เปลี่ยนไปของเขา จึงรีบตะโกนเตือนแทบจะทันที “ซย่าน่า! รุ่นพี่! หลบเร็ว!”
ซอมบี้สาวสองตัวนี้ก็มีสัมผัสรู้ต่ออันตรายที่ว่องไวมากเช่นกัน แทบจะในเวลาเดียวกับที่หลิงม่อร้องเตือน พวกเธอกระโดดถอยหลัง ออกห่างจากมนุษย์แมงมุมในพริบตา ส่วนมนุษย์แมงมุมยังไม่ทันได้พูดสิ่งที่ต้องการจะพูดออกมา ศีรษะเขาพลันระเบิดดัง “แผละ” ทันใด แมงมุมหลายสิบตัวพลันกระจายออกมา พุ่งเข้าใส่เหล่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดทันที
ทว่าเหล่าซอมบี้สาวรวมถึงเฮยซือและอวี๋ซือหรานล้วนเตรียมพร้อมรับมืออยู่แล้ว พอเห็นแมงมุมพวกนั้นปรากฏตัวก็รีบตอบสนองทันที ขระเดียวกัน หลิงม่อสะบัดศีรษะแรงๆ หันมองเย่เลี่ยนที่กำลังประคองตัวเอง บอกว่า “ปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้เด็ดขาด พวกเราตามมันไป!””
เห็นชัดว่าหลังจากถูกโจมตี สภาพร่างกายของบลัดมาเธอร์ก็แข็งแกร่งไม่เท่าตอนแรกแล้ว หลังจากที่วิ่งหนีออกมาอย่างเร็วที่สุดระยะหนึ่ง ความเร็วของมันก็ต่ำลงอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินเสียงระเบิดที่ดังอยู่ข้างหลัง สายตาของมันก็ยิ่งมีแววผิดหวังพาดผ่าน ขณะเดียวกันก็มีแววหวาดกลัวผสมอย่างปิดไม่มิด…
ตอนนี้ ประตูใหญ่อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น…
“แกยังคิดหนี? ไม่คิดเลยว่าทั้งที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ แต่การกระทำกลับขี้ขลาดไม่ต่างจากพวกไร้น้ำยา ทำไมล่ะ พอโจมตีล้มเหลวก็จมสู่เส้นทางแห่งความพ่ายแพ้จนกู่ไม่กลับแล้วงั้นหรอ? แต่ก็ไม่แปลก ร่างกายร่างนี้ถึงแม้แข็งแกร่งดุดัน แต่แกที่เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง จะสามารถแสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย บลัดมาเธอร์ค่อยๆ ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม มันอยากพุ่งตัวไปที่ประตูใหญ่ แต่เมื่อมองไปที่ประตูที่เปิดอ้าอยู่ มันกลับรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ถ้าหากว่ามันทำอย่างนั้นจริงๆ เกรงว่าเพิ่งจะถึงหน้าประตู มันคงถูกโจมตีไปแล้ว…และด้วยสภาพร่างกายของมันตอนนี้…
ร่างกายของบลัดมาเธอร์ไม่ได้บาดเจ็บมากนัก แต่สภาพโซซัดโซเซของมัน กลับแสดงให้เห็นว่ามันถูกโจมตีทางจิตอย่างรุนแรง…หลังชะงักงันไปครู่หนึ่ง สุดท้ายบลัดมาเธอร์ก็เลือกจะหมุนตัวกลับมา…
เงาร่างหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล กำลังมองมาที่มัน และบอกว่า “แต่ไม่ว่ายังไง ตอนนี้แกก็ถือว่าเป็นครึ่งมนุษย์แมงมุมแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็มีคำถามหนึ่ง…ภายใต้สภาพจิตใจที่เป็นมนุษย์แกสร้างแมงมุมตัวเล็กมากมายขนาดนั้นขึ้นมาได้ยังไง? อ้อใช่สิ…แล้วยังเอามนุษย์กับศพให้พวกมันกินเป็นอาหารอีก…”
“เหอะ…”
บลัดมาเธอร์เปล่งเสียงไม่ได้ศพท์ออกมา ไม่นานเสียงพูดก็แปรเปลี่ยนเป็นชัดเจน “แกอย่าดูถูกคนอื่นให้มากนัก”
“แกละทิ้งความเป็นคนไปแล้วไม่ใช่หรอ?” หลิงม่อพูดสวนออกไปทันทีโดยไม่คิด
“…” บลัดมาเธอร์อึ้งงัน จากนั้นก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวโกรธ “แกคงไม่อยากได้โกดังอาหารแล้วสินะ?”
“หึหึ ถึงขนาดนี้แล้วยังคิดจะขู่ฉันอีก แกช่างเป็นแมงมุมที่กล้าหาญจริงๆ แต่จะว่าไปแล้ว พวกแกก็เหมือนกาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์…” อยู่ๆ หลิงม่อก็รำพึงรำพันโดยพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมา จากนั้นจึงกวักมือหนึ่งครั้งท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบลัดมาเธอร์ ไม่นานหุ่นดวงจิตตัวใหญ่พลันก่อตัวด้านหลังเขา ดวงตาดั่งเปลวเพลิงคู่หนึ่งของมันจ้องมองลงไปที่บลัดมาเธอร์ ดูน่าครั่นคร้าม…
“แกน่าจะรู้ดี ด้วยสภาพของแกในตอนนี้ หมดสิทธิ์ข่มขู่ฉันไปนานแล้ว ดังนั้นฉันจะพูดตรงๆ เลยแล้วกัน เลิกพูดจาไร้สาระ แล้วเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า หรือพูดอีกอย่าง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว แกก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาแต่โดยดีเถอะ…” ทุกคำพูดของหลิงม่อ นำพาให้ร่างกายของบลัดมาเธอร์สั่นสะเทือนทุกครั้ง…
“แกรู้ได้ยังไง…” ทันทีที่อ้าปาก มันก็ถามคำถามโง่ๆ ออกมา แต่ ณ วินาทีนี้ มันสงสัยจริงๆ ว่าหลิงม่อรู้ได้ยังไง อีกทั้งตอนนี้มันตระหนักแล้ว ว่ารอบกายมีดวงตาหลายคู่ปรากฏเพิ่มขึ้นมา ดวงตาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่กำลังมองพิจารณามันอย่างเย็นชา…ดังนั้น ถ้าหากรู้ว่าตัวเองถูกมองจุดอ่อนออกได้อย่างไร ไม่แน่ว่ามันอาจหาโอกาสพลิกสถานการณ์ได้…
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้มันรู้สึกลนลานคือ หลังจากที่หลิงม่อได้ยินคำถามนี้ เขากลับมองมันด้วยสายตาที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม จากนั้นก็โบกมือไปมาอย่างไม่ยี่หระ “ในเมื่อแกกล้าถามออกมาตรงๆ งั้นฉันจะบอกให้ก็ได้”