บทที่ 1086 สัตว์ประหลาดตัวนี้เหมือนคนมาก

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เวลานี้ พวกเย่เลี่ยนไปถึงจุดเกิดเหตุของพวกร่างปรสิตแมงมุมตัวผู้แล้ว เลือดสีแดงสดที่นองเต็มพื้น กับกลิ่นคาวเลือดที่ลอยตลบอบอวล ทำให้หลี่ย่าหลินเบิกตากว้าง แล้วกวาดมองซ้ายขวา ถามว่า “ทำไมตายกันหมดแล้วล่ะ?”

“เจ้ามนุษย์นั่นคงไม่ได้หลอกเราหรอกนะ?” อวี๋ซือหรานเอียงคอทำหน้าคาดเดา

เย่เลี่ยนครุ่นคิด แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่แน่ว่า…ก่อนตาย เขาอาจจะอยาก…ถ่วงเวลาซักหน่อย…”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พวกพี่ดูนี่สิ” ซย่าน่าเดินวนรอบกองเลือดหนึ่งรอบ บอกว่า “แมงมุมพวกนั้นหายไปหมดแล้ว อีกอย่าง…” เธอสูดกลิ่นแรงๆ ถามว่า “ทุกคนจำได้ไหมว่าพวกเขามากันกี่คน?”

ได้ยินอย่างนั้น สามสาวซอมบี้ก็พากันพยักหน้าอย่างงุนงง ซย่าน่าพูดด้วยสายตาเย็นเยียบ “ถ้าอย่างนั้นก็ถูกแล้ว กลิ่นเลือดที่อยู่ตรงนี้มีบางอย่างผิดปกติ รุ่นพี่ พี่เก่งเรื่องแยกแยะกลิ่นใช่ไหม? ลองมาดมกลิ่นตรงนี้ดูดีๆ ซักครั้งเถอะ”

เย่เลี่ยนกับหลี่ย่าหลินมองหลี่ย่าหลินอย่างฉงน แต่หลี่ย่าหลินกลับพยักหน้า ก้าวออกมาข้างหน้า จากนั้นก็แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากสองสามที หลังพยายามรับรู้กลิ่นเสร็จ จึงบอกว่า “ดูเหมือนจะ…หายไปคนหนึ่ง กลิ่นเลือดของแต่ละคนที่อยู่ตรงนี้ล้วนต่างกัน ฉันดมกลิ่นไม่ผิดแน่นอน”

กลุ่มหญิงสาวต่างมองหน้ากัน ซย่าน่าสีหน้าเคร่งเครียด พูดเสียงเบา “เจ้ามนุษย์ที่หายไปนั่น ไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”

…………

“เชี่ยย มันเริ่มพ่นใยมาทางนี้แล้ว!”

เย่ไคตะโกนเสียงดัง ช่วยดึงความคิดของหลิงม่อให้กลับมาทันที เขาขมวดคิ้วแน่น รีบเพิ่มระดับการถ่ายเทพลังจิต กระชากขาทั้งแปดข้างของบลัดมาเธอร์ออกไปคนละทิศ แต่เพียงการเคลื่อนไหวง่ายๆ เท่านี้ กลับทำให้หลิงม่อต้องเค้นคำรามเสียงต่ำ พลังงานในดวงแสงแห่งจิตทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่งราวกับสายน้ำไหลหลาก แม้แต่ร่างกายของหุ่นดวงจิตอย่างเสี่ยวเฮยยังกระเพื่อมไหวไปชั่วขณะ เหมือนเงาผีที่มักโผล่ออกมากะทันหันในโทรทัศน์สมัยเก่า ซึ่งเป็นภาพเบลอและเต็มไปด้วยจุดดำขาว

สวี่ซูหานสังเกตเห็นว่าหลิงใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว เธอหันไปสบตากับเฮยซือที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็กระโจนเข้าไปพร้อมกัน ซอมบี้สองตัวนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าใกล้มากนัก สวี่ซูหานถือปืนสั้นคอยเดินวนรอบๆ เมื่อสบโอกาสก็ยิงสมทบเข้าไปเป็นครั้งคราว ส่วนเฮยซื้อนั้นใช้เส้นไหมสีเงินห้อยร่างตัวเองไว้กับขาข้างหนึ่งของบลัดมาเธอร์ ฉวยโอกาสตอนที่มันไม่ทันตั้งตัวเหวี่ยงตัวเข้าไปเตะมันเต็มแรง

ทว่าการตอบสนองของบลัดมาเธอร์กับเหนือความคาดหมายของพวกเธอ มันไม่ได้สนใจการโจมตีจากคนพวกนี้เลยแม้แต่น้อย เอาแต่พ่นใยและพยายามขยับขาอย่างรวดเร็ว เฮยซือเหวี่ยงร่างเข้าไปและฉวยโอกาสเหลือบมองแวบหนึ่ง ทันใดนั้นพลันร้องตกใจขึ้นมา “ระวัง มันกำลัง…”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูดของเธอ ทันใดนั้น หลิงม่อรับรู้ถึงแรงกระชากที่ถูกส่งผ่านมาทางขมับ ไม่รอให้เขาร้องครวญ พื้นอาคารตรงที่เสี่ยวเฮยกับบลัดมาเธอร์ยืนอยู่พลันทรุดลงดัง “ครืน” และพอพื้นถล่มลงไป ใยแมงมุมพวกนั้นพลันปกคลุมปากหลุมจนมิด และกำบังร่างบลัดมาเธอร์ไว้ด้านล่าง นอกจากนั้น สวี่ซูหานและเฮยซือที่อยู่ใกล้ที่สุดก็พลอยโชคร้ายไปด้วย ทั้งสองถูกใยแมงมุมเกาะตามร่างกายบางส่วนอย่างเหนียวแน่น ถึงแม้สามารถสลัดหลุด แต่ก็ต้องใช้เวลา

ที่แท้สิ่งที่เจ้าบลัดมาเธอร์ทำเมื่อกี้ ไม่ใช่เพียงเอาแต่ป้องกันตัวอย่างเดียว แต่มันอาศัยใยแมงมุมเป็นกำบัง เพื่อจะใช้ขาแมงมุมของมันโจมตีพื้นอาคารให้แตก หลังจากที่มันโจมตีพื้นอาคารจนใกล้แหลกละเอียด ถึงได้โจมตีเป็นครั้งสุดท้าย และทำให้ตัวเองร่วงลงไปในหลุม

ถึงแม้ทุกคนรู้ว่ามันมุดขึ้นมาจากใต้ดิน แต่ไม่มีใครคิดว่ามันจะสามารถขุดหลุมทั้งที่อยู่ต่อหน้าทุกคนและกำลังถูกรุมโจมตีอย่างนี้ได้

“เชี่ย! แม่แมงมุมตัวนี้ฉลาดเกินไปแล้ว!” อวี่เหวินซวนสาดกระสุนออกไปอย่างแม่นยำ จากนั้นก็ขว้างเปลวเพลิงออกไปอีกสองลูก แต่ถึงแม้เขาจะเคลื่อนไหวรวดเร็วอีกแค่ไหน ตอนนี้ก็สายไปแล้ว …

“หลิงม่อ ระวัง!”

เฮยซือรีบหันหน้ามา ตะโกนเตือนหลิงม่อเสียงดัง

ทว่าถึงเฮยซือไม่เตือน หลิงม่อก็สังเกตเห็นแล้ว…

“ครืนน!”

บลัดมาเธอร์เพิ่งจะหายลงไปใต้ดินไม่ถึงหนึ่งวินาที พื้นอาคารใต้เท้าหลิงม่อพลันระเบิดทันใด ไม่นาน ร่างกายบิดเบี้ยวทว่าใหญ่โตของบลัดมาเธอร์ก็มุดออกมาจากพื้น

หลิงม่อใช้หนวดสัมผัสโหนตัวขึ้นกลางอากาศแทบจะในทันที ทำให้หลบพ้นการโจมตีไปอย่างเฉียดฉิว แต่แม้ว่าร่างกายเขาจะลอยอยู่กลางอากาศ บลัดมาเธอร์ตัวนั้นกลับกระโดดขึ้นมา และพ่นใยแมงมุมก้อนหนึ่งมาทางเขา

นี่เป็นการโจมตีแบบล็อกเป้าหมาย ซึ่งเห็นชัดว่าบลัดมาเธอร์ตระหนักรู้อย่างดี ว่าในนี้คนที่สามารถสร้างอันตรายให้กับมันได้มากที่สุด ก็คือเด็กหนุ่มคนนี้ ถ้าหากมีเขาอยู่ พลังอันน่ากลัวของมันก็จะสำแดงออกมาไม่ได้ หรือที่ร้ายแรงกว่านั้น คือมันที่เดิมทีเป็นผู้ล่า อาจติดอยู่ในตาข่ายที่ตัวเองเป็นคนถักทอขึ้นมาเอง เทียบกับพลังควบคุมของหลิงม่อ พลังของคนอื่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแมงมุมตัวนี้ แทบไม่มีข้อได้เปรียบให้พูดถึงได้เลย

“หัวหน้า!”

พวกเย่ไคเล็งปืนหมายโจมตี แต่กลับสายไปเสียแล้ว

ในขณะที่หลิงม่อกำลังจะถูกใยแมงมุมห่อหุ้ม ม่านตาเขากลับหดเล็กลงชั่วขณะ จากนั้นก็พลันอ้าปากตะโกนออกมา

“แกเป็นคน!”

คนอื่นๆ ต่างงงงันเมื่อได้ยินประโยคนี้ ทว่าบลัดมาเธอร์กลับชะงักไปชั่วขณะ

ฉวยโอกาสนี้ หลิงม่อรีบโหนตัวไปข้างหน้า หลบเลี่ยงใยแมงมุมกับขาหลังของบลัดมาเธอร์สำเร็จ และทิ้งตัวลงพื้นอย่างรวดเร็ว เขาหอบหายใจหนักหน่วง แต่กลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้บลัดมาเธอร์ตั้งตัวทัน เงาร่างของเสี่ยวเฮยพลันปรากฏข้างหลังบลัดมาเธอร์อีกครั้ง หลิงม่อสะบัดสองมือกลางอากาศ หนวดสัมผัสนับร้อยพลันปรากฏรอบตัวบลัดมาเธอร์ทันใด

ถึงแม้มองไม่เห็นหนวดสัมผัสเหล่านั้น แต่บลัดมาเธอร์ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังกลุ่มใหญ่ทันที เห็นชัดว่า ขณะเดียวกับที่พยายามพันธนาการมัน มนุษย์ผู้นี้ยังก็กำลังเตรียมแผนอื่นไปด้วย ส่วนมันนอกจากลอบโจมตีล้มเหลว กลับถูกตาข่ายของอีกฝ่ายตะครุบตัวไว้ได้อีก

ที่แย่ที่สุดก็คือ หลังจากที่มนุษย์ผู้นี้ตะโกนประโยคนั้นออกมา กลับไม่คิดจะเสียเวลาพูดอะไรอีก พลันลงมือโจมตีทันที…

“บิดมันให้เละ!”

หนวดสัมผัสร้อยกว่าเส้นพลันแปรเปลี่ยนเป็นรูปสสาร ราวกับเครื่องบดเนื้อที่เปิดใช้งานอัตโนมัติ ทุกเส้นพุ่งแหวกอากาศเป็นเกลียว เกี่ยวหมุนเอาร่างบลัดมาเธอร์ที่อยู่ตรงกลางเข้าไปในวงล้อม…

“ตึงๆๆๆ…”

สะเก็ดไฟพลันกระจายว่อน และทันใดนั้น ในที่สุดบลัดมาเธอร์ก็หวีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

เฮยซือกับสวี่ซูหานที่ตาไวสังเกตเห็นทันที ว่าการโจมตีของหลิงม่อนั้น ความจริงมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พุ่งเป้าไปที่กระดองบนหลังของบลัดมาเธอร์ การโจมตีส่วนมากล้วนเพ่งเล็งไปที่ข้อต่อตามร่างกายของมันอย่างแม่นยำ รวมถึงดวงตาพวกนั้นของมันด้วย…

การโจมตีดำเนินไปไม่ถึงหนึ่งวินาที บลัดมาเธอร์ก็สะบัดร่างกายอย่างบ้าคลั่งสองที และพ่นใยแมงมุมออกมาป้องกันตัวเองอีกครั้ง แต่ถึงแม้อย่างนั้น เมื่อมันมองมาที่หลิงม่ออีกครั้ง ดวงตาข้างหนึ่งของมันก็ระเบิดกระจุยไปแล้ว…

เดิมทีบนดวงตาของบลัดมาเธอร์มีแมงมุมตัวเล็กไต่ยั้วเยี้ยอยู่มากมาย แล้วยังมีเยื่อสีแดงบางๆ ปกคลุมอีกหนึ่งชั้น ซึ่งมีพลังป้องกันที่อ่อนกว่ากระดองบนหลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงแม้อย่างนั้น ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดหากหลิงม่อจะโจมตีซ้ำๆ ที่ตาของมันเพียงข้างเดียว!

วิธีการโจมตีที่โหดร้ายขนาดนี้ มีเพียงหลิงม่อคนเดียวที่ทำได้ คนอื่นแม้ว่าจะมีฝีมือยิงปืนดีขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะยิงไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งของบลัดมาเธอร์ได้อย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์ที่มันเคลื่อนขยับไม่หยุด หนวดสัมผัสของหลิงม่อมีประสิทธิภาพอันน่าทึ่งไม่ต่างจากใยแมงมุมของบลัดมาเธอร์…

“อ๊ากกกก!” บลัดมาเธอร์พลันระเบิดเสียงร้องแหลมๆ ออกมา ทว่าเสียงนั้น กลับดังมาจากในร่างกายของมัน…

“รีบลงมือเร็ว!” หลิงม่อหาจังหวะหันมาตะโกนบอกพวกเขา พวกเย่ไคกำลังตกตะลึงกับการลอบโจมตีของเขาจนถึงขั้นลืมเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ และในขณะเดียวกับที่หลิงม่อร้องเตือน เขาพลันรีบควบคุมเสี่ยวเฮยให้ยื่นมือตะครุบไปทางบลัดมาเธอร์ไปด้วย

ถึงแม้ว่าร่างกายของเสี่ยวเฮยเป็นเงามายา ทว่าการเคลื่อนไหวนี้กลับทำให้ผู้คนขนลุกไปทั้งตัว…เมื่อแขนของมันล้วงเข้าไปในร่างของบลัดมาเธอร์ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนหวาดหวั่นพรั่นพรึงกันถ้วนหน้า

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่มีวันคาดคิดก็คือ ทันทีที่มือของเงาร่างนั้นยื่นเข้าไป บลัดมาเธอร์ที่กำลังดิ้นรนขัดขืนกลับชะงักทันใด…และเสี้ยววินาทีนี้เอง หนวดสัมผัสจำนวนมากพลันปรากฏเพิ่มขึ้นมา และพุ่งโจมตีไปยังเป้าหมายเดียวกัน…

“อ๊าก อ๊ากกกกก!”

บลัดมาเธอร์กรีดร้องโหยหวนอย่างที่สุด…ราวกับมีบางสิ่งในร่างกายของมันกำลังถูกเสี่ยวเฮยดึงออกมาทีละนิดๆ ขณะเดียวกันร่างกายของมันสูญเสียการควบคุม ใยแมงมุมที่พ่นออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านั้นก็พลันชะงักหยุด ร่างกายมหึมาส่ายเอนไปมา

เมื่อเห็นอย่างนั้น พวกเย่ไคพลันมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาทันที

“ยิงแม่งให้ตาย!”

“เชี่ยย หัวหน้าหาจุดอ่อนของมันเจอแล้วหรอ?”

“เมื่อกี้เขาบอกว่าแมงมุมตัวนี้เป็นคนไม่ใช่หรอ? หมายความยังไงกัน?”

“พวกนายก็ฟังดูสิ เสียงร้องของมัน เหมือนคนจริงๆ ไม่ใช่หรอ?”

ระหว่างโจมตี พวกเขาไม่ลืมถกเถียงกันอย่างไม่อยากเชื่อ เพราะถึงอย่างไรการที่บอกว่าแมงมุมยักษ์ตัวหนึ่งเป็นมนุษย์ ถือเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อสำหรับมนุษย์ที่แท้จริงอย่างพวกเขา แต่ถ้าหากไม่ใช่ แล้วหลิงม่อทำให้สถานกาณณ์พลิกผันได้ยังไง?

บลัดมาเธอร์หวีดร้องอย่างต่อเนื่อง และที่แย่ที่สุดก็คือ เวลานี้พวกเย่เลี่ยนได้ตามมาสมทบกับพวกเขาแล้ว…ภายใต้วงล้อมของซอมบี้สาวและสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์กลุ่มนี้ ถึงแม้มันสามารถหลุดพ้นจากเงาดำนี้ไปได้ แต่ก็ยากจะหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย…บลัดมาเธอร์ดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน เสียงร้องของมันเริ่มมีแววสิ้นหวังเจือปน ในขณะที่ร่างกายกลับยังคงขัดขืนสุดชีวิต…

ในตอนนั้นเอง เงาดำขนาดใหญ่ กลับปรากฏตัวด้านหลังหลิงม่อกะทันหัน…

เงาดำนั้นยกแขนที่บิดเบี้ยวจนเปลี่ยนรูปข้างหนึ่งขึ้นสูง จากนั้นก็ทุบลงไปโดยมีศีรษะของหลิงม่อเป็นเป้าหมาย

ขณะเดียวกัน เย่เลี่ยนค้นพบผู้ลอบโจมตีตัวนี้ทันที เธอพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนเตือนเสียงดัง “พี่หลิง…ข้างหลัง!”

หลิงม่อเพียงเหลือบมองข้างหลังแวบหนึ่ง หนวดสัมผัสหลายเส้นก็พลันพุ่งโจมตีไปตามสายตาของเขา ทว่าไม่นาน กลับมีเหตุที่ทำให้หลิงม่อต้องตื่นตะลึง…

ทันทีที่แขนข้างนั้นทุบลงมา สมองของหลิงม่อพลันขาวโพลนไปชั่วขณะ…

เป็นพละกำลังที่สุดยอดมาก!