ณ ห้องอีกห้องหนึ่ง บนชั้นสิบห้าของหอคอย

ในขณะที่ระฆังดัง หุ่นเชิดตัวหนึ่งก็หยิบงานวิจัยแล้วรีบอ่านคร่าวๆ

“คลื่นเสียงงั้นหรือ? เวทมนตร์ระดับฝึกหัดงั้นหรือ?” เจ้าหุ่นเชิดพึมพำ “ท่านอาจารย์บอกว่าท่านจะไม่ตรวจงานวิจัยที่ต่ำกว่าระดับที่เป็นอยู่ แถมวันนี้ลูกศิษย์ของท่านก็ไม่อยู่เสียด้วยสิ โธ่เอ๊ย ถ้างั้นงานวิจัยชิ้นนี้ ก็ส่งให้ได้แค่พวกจอมเวทจาก ‘อาร์คานาสามัญ’ เท่านั้นสิ…”

หลังจากระบุระดับของงานวิจัย เจ้าหุ่นเชิดก็รอประมาณห้านาทีจนกระทั่งมีข้อความส่งมาว่าเวท ‘ค้างคาวกรีดร้อง’ ได้รับการยืนยันว่าเป็นเวทมนตร์ใหม่จริงๆ จากนั้นเจ้าหุ่นเชิดก็เรียกนกปากแดงขนเขียวตัวหนึ่งซึ่งอยู่นอกหน้าต่าง หน้าที่วันนี้ของมันก็คือนำบรรดางานวิจัยไปส่งให้หอคอยเวทมนตร์อีกหอหนึ่ง

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะใช้วงเวทในการส่งสิ่งต่างๆ ไปยังหอคอยอื่นๆ

เจ้านกบินเร็วจี๋ ขนของมันสร้างเกราะช่วยป้องกันลมแรง ไม่ช้าเจ้านกก็หายลับไปในท้องฟ้า

….

ณ ห้องห้องหนึ่งที่รกไปด้วยหนังสือ บนชั้นสามของหอคอยสีน้ำเงิน

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีหนวดสีเหลืองอ่อนกำลังมองกองหนังสือตรงหน้าพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด

สำหรับนักเวทระดับนี้เช่นเขา จำเป็นต้องพัฒนาสำนักอาร์คานาที่ตนเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง

ในตอนนั้นเอง เขาได้ยินเสียงจิกพลังที่ปกคลุมหอคอยอยู่ เขายิ้มแล้ววางหนังสือวารสารลงจากนั้นกดปุ่มบนโต๊ะ

พลังนั้นถูกดึงกลับแล้วหน้าต่างก็เปิด เจ้านกปากแดงขนเขียวบินเข้ามาข้างใน มันเดินไปมาบนโต๊ะอย่างผึ่งผาย แล้วก็วางงานวิจัยลง “ท่านวูดส์ นี่คืองานวิจัยของวันนี้ ได้โปรดตรวจให้เร็วที่สุดด้วยเจ้าค่ะ”

เสียงที่เจ้านกพูดนั้นไพเราะราวกับเสียงร้องเจื้อยแจ้ว

วูดส์เอาอนุภาคสีขาวหนึ่งหยิบมือออกมาแล้วโปรยให้เจ้านกเบาๆ “มีชิ้นไหนที่ให้ตรวจสอบว่าเป็นเวทมนตร์ใหม่ไหม เซเลน่า? ถ้าไม่มี เจ้าค่อยกลับมาเอาพรุ่งนี้”

ขณะกินอนุภาคสีขาวอย่างเอร็ดอร่อย เจ้านกน้อยก็ตอบว่า “มีชิ้นหนึ่งเจ้าค่ะ ท่านวูดส์ ช่วยตรวจสอบตอนนี้เลยนะเจ้าค่ะ”

แล้วเจ้านกน้อยก็จิกเอากระดาษหนังม้วนหนึ่งออกมา

ขณะที่วูดส์อ่านรายงานเวทมนตร์ชนิดใหม่ของลูเซียนอยู่นั้น ความอัศจรรย์ใจก็ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขา “เวทค้างคาวกรีดร้อง… ระดับฝึกหัด… น่าสนใจ…”

หลังอ่านรายงานจบ วูดส์ก็รีบค้นหาอะไรบางอย่างท่ามกลางม้วนกระดาษหนังบนโต๊ะ “ไม่ใช่อันนี้… อันนี้ก็ไม่ใช่… มันน่าจะมีงานวิจัยอย่างเดียวกันอยู่นี่นา… นี่ไง! ลูเซียน อีวานส์… ค้างคาว…”

วูดส์ดึงม้วนกระดาษงานวิจัยของลูเซียน อีวานส์ แล้วเริ่มอ่านอย่างละเอียด

“ชายหนุ่มคนนี้… แปลกมาก มีศักยภาพที่จะเป็นจอมเวทได้” วูดส์พึมพำ “น่าทึ่งมาก เจ้าหนุ่มนี่สังเกตค้างคาวอย่างละเอียด ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่มีเวทมนตร์ ในขณะที่นักเวทโบราณส่วนใหญ่หมกมุ่นกับการทดสอบสัตว์เวทเพื่อค้นหาพลังของพวกมัน… การทดลองแบบควบคุมตัวแปรนั้นออกแบบมาอย่างรอบคอบ ถึงการทดลองนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาร์คานาเท่าไรนัก แต่วิธีการคิดของเจ้าหนุ่มนี่สร้างสรรค์และน่าประทับใจมาก แต่เอ๊ะ… ลูเซียน อีวานส์ เป็นนักเวทระดับหนึ่งเองหรือ? นี่ก็น่าทึ่งเหมือนกัน…”

วูดส์รู้สึกว่าชื่อลูเซียน อีวานส์ เป็นชื่อที่แสนธรรมดาสำหรับนักเวทเปี่ยมพรสวรรค์ ซึ่งไม่สะดุดหูในสถาบันนี้ เขาจึงคิดว่าน่าจะแนะนำให้ลูเซียน อีวานส์ เติมคำท้ายชื่อสักหน่อยหลังชื่อเพื่อให้โดดเด่น

เมื่ออ่านงานวิจัยจบ วูดส์ก็ลุกขึ้นแล้วบอกให้ลูกศิษย์ของเขาไปจับค้างคาวมาสองตัว

วูดส์ใช้เวลาเพียงครู่เดียวอ่านทวนการทดลองของลูเซียน และเขารับรองผลการทดลองในงานวิจัยของลูเซียน วูดส์ตื่นเต้นมาก “คลื่นเสียงสามารถใช้ในการระบุตำแหน่งได้! แบบนี้ก็ไม่ต้องใช้อาวุธสำหรับขัดขวางหรือสังหารแล้วสิ!”

คลื่นเสียงไม่ได้อยู่ในสำนักใดสำนักหนึ่งโดยเฉพาะ อันที่จริง ทุกสำนักมีเวทมนตร์คลื่นเสียง ยกตัวอย่างเช่น ‘เวทแกว่งกวัดโฮมาน’ เป็นเวทมนตร์สำนัก ‘พลัง’ และ ‘เวทวิญญาณโหยหวน’ อยู่ในสำนักศาสตร์มืด

ถึงแม้วูดส์แทบอดใจรอเขียนตอบงานของลูเซียนไม่ไหว แต่เขาก็ตัดสินใจนั่งลงตามเดิมแล้วเขียนข้อคิดเห็นของเขาลงในงานวิจัยก่อนว่า “การค้นพบใหม่…”

ภาพแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในสำนักงานของหอคอยเวทมนตร์อีกแห่งหนึ่ง แต่สำนักงานนี้คือสำนักงานใหญ่ของวารสาร ‘คลื่นเสียง’

…..

ในห้องโถงของฝ่ายบริหารจัดการนักเวท ลูเซียนนั่งอยู่บนโซฟา ลิ้มรสเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ชื่อว่า ‘ฟ้าคราม’ ที่ลาร์ซาแนะนำ ลูเซียนชอบรสหวานของเครื่องดื่มนี้

ลูเซียนแกว่งน้ำสีฟ้าบริสุทธิ์ในแก้วใส แล้วจิบพลางสนทนากับลาร์ซาอย่างผ่อนคลายถึงเรื่องความมีเหตุมีผลของสภา

เวลาขณะนั้นจวนห้าโมงสี่สิบนาทีแล้ว อีกไม่นานหอคอยเวทมนตร์ก็จะปิด แต่นักเวททั้งสองคนยังคงนั่งคุยกันเพลินอยู่ในห้องโถง ทั้งซินดี้และโดนาสงสัยมาก ซินดี้จึงชะเง้อถามเบาๆ ว่า “ท่านลาร์ซา ท่านอีวานส์ คอยอะไรอยู่หรือเปล่าเจ้าคะ?”

ลาร์ซายิ้ม ชี้ไปที่ลูเซียน “ข้าอยู่กับอีวานส์เพราะรอผลการประเมินเวทมนตร์ใหม่กับผลงานวิจัยของเขา… ผลงานวิจัยคงไม่ได้ เจ้าก็รู้นี่ว่าการตรวจสอบงานวิจัยปกติแล้วใช้เวลาสามวัน เพราะพวกคณะกรรมการน่ะรอบคอบมาก”

“จริงค่ะ พวกนั้นน่ะมีเรื่องต้องจัดการเยอะ” ตอนแรกซินดี้ก็เออออไปกับลาร์ซา แต่แล้วนางก็หันไปหาลูเซียนด้วยความแปลกใจอย่างยิ่ง “เดี๋ยวนะ งานวิจัยของท่านอีวานส์หรือเจ้าคะ?”

ลาร์ซาพยักหน้า

ทั้งซินดี้และโดนาประหลาดใจกว่าเดิมมอีก “ท่านอีวานส์ ท่านเคยเรียนอาร์คานาหรือเจ้าคะ?”

“ข้าเริ่มเมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อนน่ะ” ลูเซียนตอบ “ถึงแม้ข้าจะก้าวหน้าอยู่บ้าง แต่งานวิจัยชิ้นนี้ก็มาจากประสบการณ์เดิมของข้า”

“อย่างนั้นเอง…” ซินดี้พยักหน้าและยิ้ม “บอกตรงๆ นะเจ้าค่ะ ถึงแม้งานวิจัยชิ้นนี้ดูเหมือนจะตรวจสอบไม่ผ่าน แต่ข้าแน่ใจว่าเวทมนตร์ใหม่จะช่วยเปิดใช้งานเหรียญตราอาร์คานาของท่านได้นะเจ้าค่ะท่านอีวานส์ เท่าที่ข้าเห็น ท่านเป็นคนแรกเสนองานวิจัยตั้งแต่วันแรกที่มาถึงสภาเลย! ข้าจะจดชื่อท่านลงในสมุดบันทึกแน่นอน!”

“ด้วยความยินดี” ลูเซียนยิ้ม เขารู้สึกผ่อนคลายมาก

ครู่ต่อมา ลาร์ซาก็หยิบนาฬิกาพกออกมาดู “อีวานส์ เราไปหาท่านอีริคตอนนี้กันเถอะ”

“โชคดีเจ้าค่ะ” สองสาวอวยพร

ในห้องทำงานของอีริค

“ผลยังไม่ส่งมาที่นี่เลย ดูเหมือนวันนี้คณะกรรมการค่อนข้างยุ่ง” อีริคบอก เขาเองก็ประหลาดใจอยู่เหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่การตรวจสอบเวทมนตร์ระดับฝึกหัดมักใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที

ลาร์ซากังวลเล็กน้อย “ท่านอีริค พวกเรารอที่นี่ได้ไหม?”

“ตามสบาย” อีริคพยักหน้าแล้วหันหลังไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งมาทำงาน

ลูเซียนยังคงใจเย็น เขามั่นใจว่า ‘เวทค้างคาวกรีดร้อง’ นั้นตรวจสอบผ่านแล้ว มิฉะนั้นข่าวร้ายน่าจะมาถึงไวกว่านี้ และนี่หมายความว่าลูเซียนได้คะแนนอาร์คานาอย่างน้อยที่สุดหนึ่งคะแนนแล้ว

ห้องทำงานเงียบกริบ

เมื่อเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก่อนที่หอคอยจะปิด กรงก็เปล่งแสงสีขาวอีกครั้ง

อีริควางปากกาขนนกแล้วลุกขึ้น “ในที่สุดก็มาเสียที”

เมื่อแสงสีขาวหายไป อีริคก็เกิดอาการงงงวย “ทำไมมีม้วนกระดาษสามม้วนล่ะ?”

เขาหยิบม้วนกระดาษหนังขึ้นมาม้วนหนึ่งแล้วอ่าน “ ‘เวทค้างคาวกรีดร้อง’ เวทมนตร์ระดับฝึกหัด จากการตรวจสอบของท่านการ์ฟีลด์และท่านเจฟฟรีย์ เวทมนตร์นี้เป็นการค้นพบใหม่ แต่โครงสร้างเวทมนตร์ยังเป็นปัญหา จากเกณฑ์ตัดสินห้าอย่าง ได้แก่ ระดับ ทฤษฎี ประสิทธิผล โครงสร้าง และความหมาย ผู้เสนอจะได้รับค่าชื่อเสียงอาร์คานาสามค่าและคะแนนอาร์คานาสี่คะแนน”

อีริครู้สึกทึ่ง ในขณะที่มองลูเซียน ปากเขาก็พึมพำ “การค้นพบใหม่งั้นหรือ? ค่าชื่อเสียงอาร์คานาสามค่า? กับเวทมนตร์ระดับฝึกหัดเนี่ยนะ…?”

อีริครู้ดีว่าเวทมนตร์ใหม่ระดับที่หนึ่งนั้นนักเวทจะได้ค่าชื่อเสียงอาร์คานาสองค่า และเขาก็เข้าใจดีว่า คำว่า “การค้นพบใหม่” นั้น หมายความว่าอย่างไร

ลาร์ซาเองก็พูดทวน เขารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องจริง “ค่าชื่อเสียงอาร์คานาสามค่า และคะแนนอาร์คานาสี่คะแนน… กับเวทมนตร์ใหม่ของอีวานส์เนี่ยนะ?”

ตรงกันข้าม ลูเซียนใจเย็นกว่าเดิมเสียอีก เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่ารางวัลนี้มากมายเพียงไร และยังคงรอฟังข้อคิดเห็นสำหรับงานวิจัย

อีริคมองลูเซียนแวบเดียวแต่มีความหมาย เขายื่นม้วนกระดาษให้ลาร์ซา “ใช่แล้ว ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ แต่มันเป็นความจริง”

หลังจากลาร์ซาอ่านเอกสารซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ เขาก็มองลูเซียนราวกับคนแปลกหน้า “เลียนแบบค้างคาวหรือ?”

“ถูกต้อง” ลูเซียนตอบคำถามหนักแน่น “เลียนแบบค้างคาวตรวจจับวัตถุ”

“เอ่อ… มัน… สร้างสรรค์มากเลย…” ลาร์ซาถูหน้าผากเล็กน้อย “ขอบอกว่าข้ารู้สึกอิจฉาแล้วสิ”

ในตอนนี้เอง อีริคก็คลี่ม้วนกระดาษอีกสองม้วนที่เหลือ เขาดูตกใจมากทีเดียว “นี่คือ… ผลการตรวจสอบงานวิจัยของอีวานส์”

ลาร์ซาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายปรากฏบนสีหน้าของอีริค เพราะเขานึกถึงว่าตอนที่เขาส่งงานวิจัยอาร์คานาครั้งแรกเขาได้รับการตอบรับอย่างไร

“ใช่แล้ว” อีริคหยุดครู่หนึ่งแล้วตอบ “จากการตรวจสอบของท่านการ์ฟีลด์ งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการค้นพบใหม่ มีการออกแบบการทดลองอย่างรอบคอบ ชาญฉลาดและน่าประทับใจ และผู้เขียนงานวิจัยจะได้รับค่าชื่อเสียงอาร์คานาสี่ค่า และคะแนนอาร์คานาหกคะแนน ท่านการ์ฟีลด์ยังแนะนำให้ผู้เขียนเพิ่มคำพิเศษต่อท้ายชื่อเพื่อให้ดูโดดเด่น”

ทั้งอีริคและลาร์ซาต่างมองลูเซียนเนื่องจากไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย!

……………………………………………………