ไม่รู้หมอนี่ฝันเห็นอะไร ดูมีความสุขเหลือเกิน
“ฮี่ๆกับผีสิ ยิ้มหน้าโง่เชียว!” อวี๋หมิงซีดีดหน้าผากเขาหนึ่งที “ตาโง่ ฉันไปแล้วนะ ตั้งใจหาเมียล่ะ”
พูดจบเธอก็สาวเท้ายาวๆจะเดินออกจากห้อง แต่กลับมีเสียงดังตามหลัง
“ผมไม่เอาใครทั้งนั้นนอกจากคุณ เสี่ยวซี ผมจะรอคุณกลับมา”
อวี๋หมิงซีหยุดเดิน เอามือประสานกัน จากนั้นก็พูดโดยไม่หันกลับไปมอง “ไม่ต้องรอหรอก ฉันเป็นผู้หญิงที่ไร้หัวใจ สิ่งที่นายอยากได้ฉันให้ไม่ได้”
“คุณไม่ต้องให้ผม แค่ยอมรับผมก็พอ เรื่องอื่นผมทำเองไม่ได้เหรอ?”
เขาตื่นตอนที่เธอดีดหน้าผาก ในใจของทั้งสองคนต่างรู้ดีว่าตอนนี้มีสติกันทั้งคู่แล้ว แต่คนหนึ่งแสร้งทำเป็นละเมอ ส่วนอีกคนแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นความรู้สึกของเขา
“ไม่ได้ ฉันไม่รบกวนเวลาฝันหวานของนายแล้ว ยังไงฉันก็ไม่อยู่ในฝันของนาย” เธอเปิดประตูแล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
ไห่เจาเอาหมอนปิดหน้า แพ้อีกแล้วสินะ
ถ้าเธอไม่อยู่ในฝันของเขาแล้วใครจะอยู่?
ไหเจาเสียใจที่ตัวเองถูกปฏิเสธอีกแล้ว แต่การถูกปฏิเสธครั้งนี้ดูแตกต่างจากครั้งอื่น ถึงเขาจะปวดใจเหมือนกัน แต่มันคล้ายกับมีความหวังให้รอคอย เขารู้สึกว่าเรื่องเมื่อคืนทำให้เขาเห็นแสงอยู่รำไร บางทีใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยกับเขา
ใช่ ไปหาเฉินเสี่ยวเชี่ยน! เธอจะต้องมีวิธีแน่นอน!
ไห่เจาเหมือนคนตายแล้วฟื้นกลับมาใหม่ เขารีบลุกไปหาโทรศัพท์ ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี
“ไห่เจา เมื่อคืนทำหรือยัง?” น้ำเสียงของเสี่ยวเชี่ยนดังลอดออกมา
ในขณะที่ไห่เจากำลังจะโทรหาเสี่ยวเชี่ยน เธอก็โทรมาเสียก่อน
“ทำกับผีสิ! สภาพเขาเป็นแบบนั้นผมจะลงมือได้ไง?”
“ลูกเชี่ยน กินซุปแก้เมาซะสิ อย่าคิดว่าผมไม่เห็นว่าคุณเตรียมจะเทมันทิ้ง!” น้ำเสียงโมโหของอวี๋หมิงหลางดังมาตามสาย
“รู้แล้ว บ่นอยู่นั่นแหละ ก็มันไม่อร่อยนี่นา…” เสี่ยวเชี่ยนบ่น
“กล้าออกไปเที่ยวสนุกแต่ไม่กล้ากินซุปแก้เมาใช่ไหม? กินเดี๋ยวนี้! ยังต้องไปทำงานอีกนะ!” เสี่ยวเฉียงเตือนเสียงเข้ม
ไห่เจาถูกเสี่ยวซีปฏิเสธแต่เช้าตรู่ พอรับสายก็ยังมาถูกสองผัวเมียที่ทรมานคนโสด เขาฟังแล้วก็เจ็บใจ
“พวกนายสองคนหยุดทำร้ายคนโสดซะที ฉันน่าสงสารจะตายอยู่แล้ว เมื่อคืนเกือบจะสำเร็จอยู่แล้วเชียว แต่ฉันกลับปฏิเสธหน้าตาเฉย—” ไห่เจายังไม่ทันบ่นจบก็ได้ยินเสียงอวี๋หมิงหลางตะโกนอย่างโมโห
“ไห่เจานายอยากตายเหรอวะ ถ้านายกล้าแตะต้องเสี่ยวซีฉันจะทำให้นายกลายเป็นผี! ผีไร้บ้านเลยด้วย!”
“ก็บอกอยู่ว่าไม่ได้ทำ…จริงๆ ขนาดฉันยังไม่รู้เลยว่าทำไมถึงได้ทำตัวเป็นพ่อพระแบบนั้น”
ไห่เจาเองก็แอบเสียดาย ตอนที่เสี่ยวซีออกไปเขายังคิดอยู่เลยว่า ทำไมเขาไม่ทำๆไปซะ เกิดครั้งเดียวติดได้ลูกขึ้นมา ไม่แน่เธออาจจะเห็นแก่ลูกยอมแต่งงานกับเขา?
“ไม่ทำก็ถูกแล้ว ทำไปอีกหน่อยมากสุดก็เป็นได้แค่เพื่อน ไม่ทำอะไรเลยเป็นดีที่สุด ยินดีด้วย เด็กน้อยไห่เจาที่แอบรักเขาข้างเดียวมากหลายปี วันของนายกำลังจะมาถึงแล้ว!”
คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนทำให้เลือดในกายของไห่เจาพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
“หมายความว่าผมยังมีโอกาสเหรอ?”
“มี ผู้ชายที่เอาน้องชายตัวเองอยู่หมัดอนาคตสดใสแน่นอน”
“เมีย! ระวังคำพูด!”
อวี๋หมิงหลางทนฟังต่อไปไม่ไหว นี่มันจะตรงเกินไปแล้ว!
คำพูดอย่างตรงไปตรงมาของเสี่ยวเชี่ยนเหมือนฉีดยากระตุ้นให้หัวใจของไห่เจาแข็งแรงขึ้น เขาเดินวนไปวนมาในห้องอย่างตื่นเต้น
คำพูดที่ออกมาจากปากเฉินเสี่ยวเชี่ยนศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น พูดแบบไหนเป็นแบบนั้น
“นายใจเย็นก่อน ฉันยังพูดไม่จบ อันที่จริงตอนนี้นายมีทั้งเรื่องน่ายินดีและน่าเศร้า”
“อะไรนะ?”
“เรื่องน่ายินดีก็คือ ต่อไปถ้าอวี๋หมิงซีอยากแต่งงาน นายน่าจะถูกจัดอยู่ในตัวเลือกแรกๆ นั่นก็หมายความว่า ถ้าเขาตัดสินใจแต่งงาน แปดสิบเปอร์เซ็นต์นายคือเจ้าบ่าว แต่ประเด็นคือนายต้องรัดเข็มขัดให้แน่นระหว่างนี้ อย่าออกไปยุ่งกับผู้หญิงอื่น”
“ฮ่าๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะลั่นดังมาจากปลายสาย เสี่ยวเชี่ยนเอาโทรศัพท์ออกอย่างแหยงๆ ขนาดเปิดลำโพงยังรู้สึกแสบแก้วหู
“คนๆนี้เพี้ยนไปแล้วเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนถามเสี่ยวเฉียง เสี่ยวเฉียงตักไข่ตุ๋นป้อนเธอ
“ครั้งนี้คุณมองพลาดหรือเปล่า เสี่ยวซีจะตาบอดขนาดนั้นเลยเหรอ ชอบคนปัญญาอ่อนเนี่ยนะ?”
“น้องชาย! ต่อไปพี่เขยจะดูแลนายอย่างดี วางใจได้ ต่อไปนายมาร้านพี่เขย พี่จะไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว ฮ่าๆๆ พี่มีเหล้าดีๆหลายขวดเลยนะ น้องสะใภ้เมื่อไรจะมาเอา?”
คนบางคนถูกเสี่ยวเชี่ยนหลอกให้ดีใจจนกู่ไม่กลับแล้ว เปลี่ยนคำเรียกไวเชียว
อวี๋หมิงหลางฟังแล้วก็เส้นเลือดปูด ยกนิ้วกลางใส่โทรศัพท์ ดีนะที่อยู่ไกล ถ้าอยู่ใกล้ๆจะตามไปอัดถึงที่ เอาให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย!
“อย่าเพิ่งได้ใจไป ฉันยังไม่ได้บอกข่าวร้ายเลยนะ” เสี่ยวเชี่ยนเตรียมสาดน้ำเย็นเต็มที่
“ข่าวร้ายอะไร?” สำหรับไห่เจาแล้ว ขอแค่ยังพอมีหวังกับอวี๋หมิงซี ก็นับเป็นข่าวดีที่สุดแล้ว มีเรื่องนี้อยู่ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ถือเป็นข่าวร้าย
“ข่าวร้ายก็คือ เขาอาจไม่แต่งงานเลยตลอดชีวิต”
“…” ไห่เจาช็อค
วินาทีถัดมากลายเป็นเสี่ยวเฉียงหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆๆ!”
“เก็บอาการหน่อย อย่าเยอะ แค่นี้เขาก็น่าสงสารพอแล้ว นายใช่เพื่อนสนิทไห่เจาจริงไหมเนี่ย?” เสี่ยวเชี่ยนทำหน้าขยะแขยงใส่เสี่ยวเฉียง หมอนี่หัวเราะได้ใจเกินไปจริงๆ
“เฉินเสี่ยวเชี่ยน หมายความว่าไง? เขาไม่อยากแต่งงานเหรอ?!” ไหนว่าเขาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งไง?
“ใช่ จิตใต้สำนึกของเขาปฏิเสธความรักและการมีชีวิตคู่ แถมยังเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นว่าการเป็นโสดนี่แหละเหมาะกับเขาที่สุดแล้ว ดังนั้น..นายเข้าใจนะ”
ข่าวดีคือ อวี๋หมิงซีรู้สึกดีกับไห่เจาจริงๆ
ข่าวร้ายคือ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เอาไห่เจา แต่เธอไม่เอาความรักกับชีวิตคู่ต่างหาก ซึ่งแตกต่างจากโรคกลัวการแต่งงาน เรื่องที่เกิดขึ้นสมัยวัยรุ่นทำให้เธอคิดว่าชีวิตในตอนนี้เหมาะกับตัวเองที่สุดแล้ว ไม่อยากเปลี่ยนแปลง
ไห่เจาฟังแล้วก็ช็อค
ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมเมื่อคืนเสี่ยวซีถึงทำกับเขาแบบนั้น ที่แท้เธอก็มองว่าเขาเป็นของฟรี ประเภทที่หลับนอนกันเสร็จไม่ต้องให้เงินแบบนั้น…
“ผู้ชายที่คิดแบบนั้นมีเยอะมาก ไม่ค่อยเจอในผู้หญิง ถ้าเจอผู้หญิงแบบนี้ก็คงเป็นผู้หญิงแกร่งที่หาเลี้ยงตัวเองได้ ยินดีด้วยนะ นายตาถึงมาก”
ไห่เจายอมรับผลแบบนี้ไม่ได้ “เฉินเสี่ยวเชี่ยน ไม่สิ เจ๊เชี่ยน! เจ้าแม่เชี่ยนมีวิธีช่วยแน่นอนใช่ไหม?”
“เมื่อกี้ใครเรียกพวกเราน้องชาย น้องสะใภ้? จึ๊ๆๆ!” อวี๋หมิงหลางแทงเข้าให้หนึ่งที
“ผมผิดไปแล้วค้าบ ผมไม่ควรทำตัวได้ใจ นายท่านผู้มีเมตตา เทพเชี่ยน เทพต้องมีหนทางแน่นอน บอกหน่อยว่าผมควรทำยังไง?” นักธุรกิจเป็นพวกพูดจาสับปลับ เปลี่ยนคำพูดได้ตลอดเวลา ไม่มีการวางมาดอะไรทั้งนั้น