“วิธีน่ะมันก็มีอยู่หรอก ต้องรอให้เสี่ยวซีคิดได้เอง ขอแค่เขาคิดได้เขาก็จะมาหาฉัน ถึงตอนนั้นถ้าเขายอมให้ความร่วมมือในการรักษาเรื่องก็ง่ายแล้ว แต่ตอนนี้คงต้องทำใจ อาจจะเดือนสองเดือน หรืออาจจะปีสองปี ถ้าไม่เจอจังหวะที่เหมาะสม ก็อาจจะทั้งชีวิต และถ้านายอยากหาโอกาสให้ตัวเองละก็ คำเดียวเลย”
“ตาย” อวี๋หมิงหลางตอบให้ เสี่ยวเชี่ยนตบผัวะไปหนึ่งที “ไปไกลๆเลย ถ้ายังพูดแทรกอีกฉันจะเย็บปากนาย!”
“แผนรับมือที่ฉันจะให้นายมีคำเดียวคือ รอ!”
รอ...
หัวใจของไห่เจาที่ไฟแห่งความหวังลุกโชติช่วงเมื่อครู่ค่อยๆดับมอดลง รออีกแล้ว เขารอมานานขนาดนี้ยังไม่พออีกเหรอ!
“แน่นอนว่าอำนาจในการตัดสินใจอยู่ที่นาย จะรอไหม?”
“รอสิ! สิบกว่าปียังรอมาแล้ว แค่นี้ไม่สั่นหรอก”
“ปวดเยี่ยวเหรอ? มีส่งมีสั่น…ฮ่าๆ!” เสี่ยวเฉียงคนปากเสียถูกเสี่ยวเชี่ยนถลึงตาใส่ เขารีบทำท่ารูดซิปปาก อยู่เงียบๆดีกว่าเรา!
“ค่ารักษาฉันต้องการเป็นบัตรกินอาหารฟรีตลอดชีพสองรุ่น รวมถึงธุรกิจที่นายจะทำในอนาคตด้วย นายเปิดร้านชาบู พวกเราก็จะไปกินชาบูฟรี เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ต พวกเราก็จะไปขนของฟรี เปิดห้าง พวกเราก็จะ—”
“ทำอย่างกับตอนนี้จ่ายเงินนักหนิ โอเค! แต่ว่า อะไรคือฟรีสองรุ่น?”
ไห่เจาอยากจะขอคารวะเสี่ยวเชี่ยนเสียจริงๆ นี่มันเวลาไหนแล้วยังมีกะจิตกะใจพูดเรื่องค่าแรง? แม่มดนี่เคยต้องจ่ายเงินเวลามากินที่ร้านเขาด้วยเหรอ!
“ฟรีสองรุ่นก็คือไม่ใช่แค่พวกเราสองคนที่กินฟรี พอพวกเรามีลูกก็กินฟรีด้วย แน่นอนว่าพวกเราก็ไม่ใช่คนโลภมากอะไร เดี๋ยวพอรุ่นหลานก็ให้พวกเขาจ่ายเงินเองแล้ว”
“…ผมขอขอบคุณแทนหลานผมเลยแล้วกัน!” ไห่เจารู้สึกจนใจกับผู้หญิงคนนี้ ฉลาดเกินไปแล้ว!
“ผมยินดีทำตามความต้องการทุกอย่าง ตอนนี้จะบอกรายละเอียดของแผนได้หรือยัง?” มีเรื่องต้องขอร้องคนอื่นมันก็ต้องยอมทุ่มทุน
“แถวหน้าหมู่บ้านฉันมีห้างติดพื้นที่ให้เช่า ข้อเสนอดูคุ้มดีนะ ฉันว่านายมาเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ก็น่าจะกำไรมั่นคงอยู่” จากนั้นเธอก็จะไปหยิบของใช้ได้สบาย
ไห่เจาอยากจะก้มลงกราบ ยัยแม่มดนี่ถ้าข้อเสนอยังไม่สุดก็จะไม่ยอมพูดความจริง
“เดี๋ยวตอนบ่ายผมไปสำรวจดู”
เสี่ยวเชี่ยนพอได้คำตอบที่พอใจความเมตตาก็บังเกิด
“เสี่ยวซีจะคิดได้เมื่อไรมันขึ้นอยู่กับว่านายมีความสามารถทำให้ฉันสามารถเข้าไปหยิบผักผลไม้ฟรีในซุปเปอร์มาร์เก็ตของนายที่หน้าหมู่บ้านฉันก่อนหน้าหนาวได้หรือเปล่า ถ้านายทำได้ ฉันก็มีวิธีทำให้เสี่ยวซีคิดได้ไวๆ”
“จริงอะ?! คุณพระช่วย เฉินเสี่ยวเชี่ยนเป็นเทพชัดๆ สุดยอดเลย!” ไห่เจาดีใจมาก
มีแค่เสี่ยวเฉียงที่ลูบคางพลางมองเมียตัวเองที่ยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนนางจิ้งจอก
ไอ๊หยา ยัยตัวร้าย อันที่จริงมีแผนอยู่แล้วใช่ไหม แต่กลับจะหลอกเอาบัตรฟรีตลอดชีพสองรุ่นให้ได้ก่อน?
ถูกต้อง~ แบบนั้นนั่นแหละ!
จุดที่ร้ายกาจของประธานเชี่ยนก็คือ เธอมีวิธีที่จะทำให้คนอื่นพูดขอบคุณเธออย่างซาบซึ้งใจหลังจากถูกเธอหลอกได้เสมอ
หลังจากเสี่ยวเชี่ยนรับปากไห่เจาก็แทบจะคุกเข่าขอบคุณเสี่ยวเชี่ยน พูดชมเสี่ยวเชี่ยนดุจเทพก็ไม่ปาน พอวางสายก็รีบไปจัดการเรื่องซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยพลังใจเต็มเปี่ยม
เสี่ยวเชี่ยนจัดการเรื่องนี้เสร็จก็กินไข่ตุ๋นต่อ เธอรู้สึกว่าอวี๋หมิงหลางมองเธอด้วยสายตาแปลกๆจึงหันไปถามด้วยความสงสัย
“ทำไมมองฉันแบบนั้น?”
“เมียจ๋า เมื่อกี้เรียกฆ่าแกะหรือเปล่า? ไห่เจาเป็นเพื่อนซี้ผมตั้งแต่เด็กๆเลยนา”
ถูกเมียเขาหลอกขนาดนั้นแถมยังทำท่าทางมีความสุข บัตรกินฟรีตลอดชีพสองรุ่น…พออวี๋หมิงหลางนึกถึงคำว่าสองรุ่นเขาก็รู้สึกว่าเป็นคำที่น่ารักไม่ไหวแล้ว
เอาให้ตัวเองกินฟรียังไม่พอ ยังจะเผื่อแผ่ถึงรุ่นลูกด้วย?
“โง่ปะเนี่ย ถ้าเขาไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็กของนายฉันจะคิดถูกขนาดนี้เหรอ? นายลองคำนวณดูดีๆ ตอนนี้ค่ารักษาของฉันเท่าไร? อีกหน่อยฉันยังต้องรักษาเสี่ยวซี มันต้องใช้เวลานานแค่ไหน แถมยังต้องหาวิธีทำให้เสี่ยวซีคิดได้ ไม่ต้องใช้เซลล์สมองมากมายมหาศาลเลยเหรอ? บ้านเราสามคน—อ่อ อาจจะสี่คนก็ได้ แหวกท้องออกมาจะกินได้สักเท่าไรกัน จะสิ้นเปลืองไห่เจาเท่าไรกัน?”
ดังนั้นถ้าคำนวณดีๆ ไห่เจากำไรกว่าเห็นๆ!
“เอ๋ เมียจ๋า คุณคิดจะมีลูกสองคนเหรอ?” อวี๋หมิงหลางพอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดว่าสี่คนก็ทิ้งเรื่องไห่เจาไว้ข้างหลังทันที
“แน่นอน เกิดวันนึงมีนโยบายให้มีลูกสองคนได้ ยีนพวกเราดีขนาดนี้ พ่อแม่ออกจะฉลาด ถ้าไม่มีลูกที่ฉลาดออกมาเยอะๆไม่ถือว่าอกตัญญูต่อประเทศเหรอ?”
“ฮ่าๆ อันนี้ได้!” อวี๋หมิงหลางคล้ายกับเห็นภาพลูกชายลูกสาวของตัวเอง เดี๋ยวนะ ไปไกลแล้ว เมื่อกี้คุยอะไรกันอยู่?
สองผัวเมียที่กำลังจินตนาการไปไกลมองหน้ากัน “พูดเรื่องไห่เจาต่อ คุณคิดจะทำไงให้เสี่ยวซีคิดได้?”
“อยากให้เสี่ยวซีคิดได้ก็ต้องแก้ปมในใจเขาให้ได้ก่อน ฉันต้องทำให้เขาไปพบคนที่อยู่ในคุกคนนั้น หลังจากนั้นการรักษาก็จะง่าย ทำให้เขาเห็นว่าถึงอนาคตจะไม่ได้ดีอย่างที่วาดฝัน แต่บางทีก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นฉันต้องสร้างโอกาสให้เขากับไห่เจาก่อน ให้พวกเขาได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้น”
“พวกเราวิ่งตูดเปิดกันมาตั้งแต่เด็กยังรู้จักกันไม่พออีกเหรอ?”
เสี่ยวเชี่ยนมองเหยียดเสี่ยวเฉียง “ความเข้าใจแบบนั้นของพวกนายมันเหมือนกับความเข้าใจทางจิตวิทยาไหม? ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ถ้าจะรอให้คุยกันเองอาจต้องรอทั้งชีวิต รอก่อนเถอะ รอฉันทำงานเป็นผู้ช่วยในหน่วยเสร็จก่อนฉันจะหาเวลาวางแผน ฉันจะต้องแก้ปัญหาของพวกเขาให้ได้ก่อนหน้าหนาวแน่!”
จิตแพทย์ย่อมมีความมั่นใจในตัวเอง
“อื้อ ก่อนหน้าหนาวพวกเราต้องมีผักผลไม้กินฟรีให้ได้!” อวี๋หมิงหลางเห็นพ้องกับเสี่ยวเชี่ยน จากนั้นทั้งสองคนก็กินข้าวต่อ
แต่ทว่าต่อให้เป็นเสี่ยวเชี่ยนที่คาดการณ์อนาคตได้แม่นยำดุจเทพกลับคิดไม่ถึงว่า เรื่องบางอย่างมีหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ยังไม่ทันที่เสี่ยวเชี่ยนจะได้วางแผน สวรรค์ก็ช่วยไห่เจาครั้งใหญ่ และก็ทำให้เสี่ยวเชี่ยนประหยัดแรงไปมาก แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในวันพรุ่งนี้
กินอาหารเช้าเสร็จทั้งสองคนก็ไปที่หน่วยพร้อมกัน เมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนลางานไปดูคอนเสิร์ตอวี๋หมิงซี ด้วยเหตุนี้วันนี้พอเพิ่งจะเดินเข้าหน่วยจึงถูกอาเพียวพูดจาแดกดัน
“ในที่สุดภรรยาหัวหน้าใหญ่ก็มาสักที คิดว่าวันนี้ก็จะลาด้วยเสียอีก สุดยอดเลยนะครับ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ทีมเรา ทำงานได้วันเดียวก็ลา จึ๊ๆ เอางี้ลาต่อเลยดีไหม? พอพวกเราวิเคราะห์ทำผลงานเสร็จเมื่อไรค่อยมาร่วมลงชื่อด้วยเป็นไงครับ รีบกลับบ้านไปปรนนิบัติหัวหน้าใหญ่ดีกว่า เอาใจเขาให้มากๆเขาจะได้ให้ลาหยุดต่อไง!”
เพิ่งทำงานวันแรกก็ลาหยุด งานครั้งนี้แค่ไม่กี่วันกลับทำตัวแบบนี้ แต่ก็ไม่โทษอาเพียวที่จะคิดแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อวานเขาก็เพิ่งไปต่อปากต่อคำกับเพื่อนเก่ามา เลยอารมณ์ไม่ดีเข้าไปใหญ่ ความโกรธครั้งนี้ไม่มีที่ระบาย เสี่ยวเชี่ยนผู้มีสิทธิพิเศษจึงกลายเป็นที่เป้าหมายของเขาในทันที
วิธีรับมือกับอาเพียวของเสี่ยวเชี่ยนนั้นง่ายมาก เธอจ้องอาเพียวเงียบๆอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็น