เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 395
ลู่ฝานเอายาขวดหนึ่งออกมาจากอก กรอกยาใส่ปากเหมือนกินลูกอมต่อหน้าทุกคน

วิธีกินยาแบบนี้ พวกนักเรียนเห็นแล้วโมโห

“เสียดายของ เขากำลังกินยาเหรอ ยามันกินทีละเม็ดไม่ใช่หรือไง ทำไมเขากินทีละขวดล่ะ”

“อย่าบอกนะว่าคณะหนึ่งเดียวรวยมาก นักเรียนที่เข้าไปล้วนไม่กังวลเรื่องยางั้นเหรอ”

“ให้ตายเถอะ ฉันสมัครผิดคณะแน่ๆ ฉันจะย้ายคณะ ฉันจะไปคณะหนึ่งเดียว”

……

พวกนักเรียนพูดกันอย่างตกใจ พวกหานเฟิงได้ยินแล้ว หัวเราะจนท้องเกือบแตกตาย

“พวกโง่ ศิษย์น้องลู่ฝานกินยาเหมือนลูกอมแบบนี้ เพราะเขาได้รับจวนของเซียนบำเพ็ญชี่”

ฉู่เทียนที่อยู่ข้างๆ ก็พูดว่า “ศิษย์น้องหานเฟิง อย่าพูดความจริงสิ ปล่อยให้พวกเขาพูดกันไป ฉันจะรอดูว่าสุดท้ายคณะหนึ่งเดียวจะถูกพูดถึงแบบไหน”

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา

บนลานประลอง เสวียนเฟิงใบหน้ากระตุก

เป็นนักเรียนอันดับหนึ่งของคณะกระบี่ เขาก็มียาไม่น้อยเหมือนกัน แต่เขาไม่มีทางกล้ากินแบบลู่ฝาน เอายาเม็ดหนึ่งออกมามีค่าเป็นพัน กินเข้าไปในท้องเป็นเงินทั้งนั้น นอกจากพวกผู้ฝึกชี่ที่ไม่สนใจเรื่องเงิน ถึงคนที่รวยมากก็ไม่กล้ากินแบบลู่ฝาน

เมื่อกินยาหมดขวดหนึ่ง ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองฟื้นฟูพอประมาณแล้ว

บาดแผลบนตัวก็ตกสะเก็ด ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเสวียนเฟิงเข้าใจว่าตอนนี้เขาสูญเสียพลังไปมาก นั่นคือข้อผิดพลาดใหญ่หลวง

พลังฟ้าดิน กำลังเติมเต็มปราณชี่ของเขาอย่างสุดความสามารถ

เพราะเพิ่งกินยาไปเยอะขนาดนั้น ถึงพลังฟ้าดินบริเวณรอบๆ ผิดปกติ ทุกคนก็จะคิดไปว่าเป็นเพราะยา ไม่มีทางเดาได้ว่าเขามีวิชาของผู้ฝึกชี่

เกราะเกล็ดมังกรบนตัวหายไป ลู่ฝานกระจะแข่งวิชากระบี่กับเสวียนเฟิง

ว่ากันว่าวิชากระบี่ของคณะกระบี่ เป็นจุดสูงสุดของทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊ วันนี้มีโอกาสได้รับคำชี้แนะ แน่นอนว่าลู่ฝานต้องแอบเรียนรู้อะไรที่มีประโยชน์สักหน่อย

เหมือนกระบวนท่าที่เขาเอาชนะลั่วหยู่ได้เมื่อกี้ อันที่จริงเป็นพลังสะเทือนของวิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุ

แม้ตอนนี้ลู่ฝานไม่ได้กระตุ้นสายฟ้า แต่แก่นแท้สุดของพลังสะเทือน เขาพอจะใช้ได้อยู่บ้าง

ประสิทธิภาพไม่เลวเลย!

เสวียนเฟิงก้าวมาข้างหน้าสามก้าว กระบี่หนึ่งเมตรในมือรวมตัวเป็นแสงเยือกเย็น แววตาเป็นประกาย

“ไม่ได้ ฉันโดนผลกระทบจากพลานุภาพของเขา แม้ตอนนี้พลังปราณของเขาอาจไม่เพียงพอ แต่ฉันโดนค่ายกลกดพลังไว้สิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้จิตใจไม่มั่นคง หายไปอีกสิบเปอร์เซ็นต์ เหลือพลังแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ ต้องรีบต่อสู้ให้จบ ใช่ กระบวนท่าเดียวตัดสินแพ้ชนะ!”

เสวียนเฟิงมีแผนการในใจ

กระบี่หนึ่งเมตรชี้ไปที่ลู่ฝาน “ลู่ฝาน ฉันไม่เอาเปรียบนาย เรามาตัดสินแพ้ชนะ ด้วยกระบวนท่าเดียวเป็นไง”

ลู่ฝานอึ้งไปเล็กน้อย เขากระจะเตรียมโชว์วิชากระบี่ขั้นพื้นฐานของตัวเองสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าเสวียนเฟิงจะพูดอย่างนี้

ลู่ฝานลูบจมูกแล้วพูดว่า “กระบวนท่าเดียวใช่ไหม ได้สิ ในเมื่อนายต้องการแบบนี้ งั้นกระบวนท่าเดียวก็ได้”

ลู่ฝานจับกระบี่หนัก เริ่มยกระดับพลานุภาพของตัวเอง

ในเมื่อตัดสินแพ้ชนะด้วยกระบวนท่าเดียว ศัตรูต้องใช้ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งของตัวเองแน่นอน เขาจะประมาทไม่ได้

จู่ๆ เสวียนเฟิงปิดตาซ้ายของตัวเอง ประกายในตาขวาหายไป แม้แต่รูม่านตาก็หายไปด้วย เหลือเพียงลูกตา

“ตาทิพย์ กระบี่ไม้ตาย ตามองโลก สิบก้าวปลิดชีพ ดีๆๆๆ ลูกชายของเสวียนเจินได้รับการถ่ายทอดจากพ่อเขาอย่างแท้จริง”

อาจารย์เซินถูหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น