บทที่ 97 เขาต่างหากที่นอกใจ

รักหวานอมเปรี้ยว

“ฉันคิดว่า ในเมื่อสักครู่คุณมายมิ้นท์ก็บอกแล้วว่าประธานเปปเปอร์สามารถปฏิเสธเธอได้ เธอเองก็ไม่ได้บีบบังคับ แต่ประธานเปปเปอร์ไม่ได้ปฏิเสธเธอนั่นก็หมายความว่าเขาเต็มใจจะแต่งงานกับคุณมายมิ้นท์ ถ้าแต่งงานกับเธอแล้วทำตัวแบบนี้ มันก็พูดไม่ออกเหมือนกันนะ”

“นี่ยังไม่เท่าไหร่ ฉันคิดว่า ที่จริงแล้วประธานเปปเปอร์รักคุณส้มเปรี้ยวจริงรึเปล่า ถ้ารักเธอจริงทำไมถึงตอบตกลงแต่งงานกับคุณมายมิ้นท์? เขาน่าจะรอให้คุณส้มเปรี้ยวตื่นขึ้นมาก่อนไม่ใช่รึไง?”

เมื่อดูความคิดเห็นเหล่านี้แล้ว ส้มเปรี้ยวก็กัดฟันกรอด ดวงตาของเธอแดงเรื่อด้วยความโมโห

เปปเปอร์รักใครกันแน่ เธอเองรู้ดีกว่าใคร ที่จริงแล้วคนที่เขารักมาโดยตลอดคือมายมิ้นท์ ส่วนตัวเธอนั้นเพียงแสร้งทำเป็นคนที่เขียนจดหมายหาเขาซึ่งก็คือมายมิ้นท์ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าคนที่เขารักเป็นเธอ

หากมีวันหนึ่ง เขารู้ว่าคนที่เขียนจดหมายหาเขานั้นคือมายมิ้นท์ล่ะก็ ความรู้สึกที่มอบให้กับเธอทั้งหมดคงจะถูกพรากจากไปในทันที และหันเหไปหามายมิ้นท์เท่านั้น

อีกด้านหนึ่ง เมื่อทามทอยเห็นคอมเม้นท์เหล่านั้นก็ได้พูดขึ้นว่า “เปปเปอร์ผมคิดว่าคุณมันเลวจริงๆด้วย สิ่งที่มายมิ้นท์พูดมาเหล่านั้น ผมเป็นเพียงแค่คนก็ยังรู้สึกอึดอัดใจ แต่เธอกลับต้องเจอเรื่องแบบนี้มาถึงหกปี เห็นได้ชัดว่าเธอรักคุณขนาดไหน แต่คุณไม่เหมาะคู่ควรกับความรักที่เธอมอบให้เลย!”

เปปเปอร์บีบกำปั้นของตนเองไว้ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่หัวใจของเขามันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าเธอน่ารังเกียจ ใช้ช่วงเวลาที่ส้มเปรี้ยวสลบไม่ได้สติและแต่งงานกับเขา ดังนั้นเขาจึง ลืมไปว่าตนสามารถปฏิเสธเธอได้ เขาเองรู้ว่าเธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนวบดินทร์อย่างไร แต่ก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปช่วยเหลือเธอเลย

เขาทำผิดต่อเธอจริงๆ

“การที่ฉันพูดมามากมายขนาดนี้คาดว่าทุกคนคงจะเชื่อว่าฉันไม่ได้เข้าไปแทรกแซงระหว่างท่านประธานเปปเปอร์และคุณส้มเปรี้ยวจริงๆ” มายมิ้นท์มองไปที่นักข่าว

นักข่าวเหล่านั้น ได้แต่ยิ้มอย่างเขินอาย

การที่เธอกล้าพูดต่อหน้าสื่อมวลชนและออกอากาศถ่ายทอดสดเช่นนี้ นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหกแน่

เนื่องจากว่าหากตรวจพบว่าเป็นเรื่องโกหก ทั้งเทนเดอร์กรุ๊ปและตัวเธอเองก็จะต้องเผชิญหน้ากับผลเสียที่ร้ายแรง ซึ่งผลเสียนั้นเธอคงไม่อาจรับได้

“ถ้าอย่างนั้นคุณมายมิ้นท์จะอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องความพัวพันกับอดีตสามีในตอนนี้คะ?” นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น

“ประการแรก ฉันไม่ได้เข้าไปพัวพันกับเขา เมืองเดอะซีไม่ได้กว้างขวางเท่าไหร่ พวกเราล้วนเป็นนักธุรกิจ การที่ต้องเผชิญหน้ากันบ้างก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ทำไมฉันและประธานเปปเปอร์จึงได้ปรากฏตัวพร้อมกันที่โรงยิม”

ใบหน้าของมายมิ้นท์แสดงถึงความเบื่อหน่ายปรากฏขึ้น “นั่นเป็นเพราะว่าพวกเราได้รับตั๋วเข้าชมจากน้องชายประธานเปปเปอร์ ถ้าฉันรู้ล่วงหน้าว่าประธานเปปเปอร์จะเดินทางไปดูล่ะก็ฉันคงไม่ไปแน่นอน”

ทามทอยเอามือตบหน้าขาของตนเองแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง “เปปเปอร์ นายถูกรังเกียจแล้วล่ะ มองดูแล้วการที่คุณมายมิ้นท์พูดว่าไม่รักนายแล้วคงจะเป็นเรื่องจริงสินะฮ่าๆ!”

เปปเปอร์มองไปที่เขาด้วยดวงตาเยือกเย็น ก่อนจะละสายตากลับมาบนใบหน้าของมายมิ้นท์ด้วยแววตาอันซับซ้อน

เธอไม่ได้รักเขาแล้วจริงๆเหรอ?

“ฉันรู้ว่าบางทีทุกคนอาจไม่เชื่อ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เนื่องจากความคิดของแต่ละคนแตกต่างกันไป แต่อะไรที่ฉันอยากจะพูดก็คงต้องพูด สำหรับผู้ชายที่พยายามจะขับไล่ภรรยาของตนเองออกจากบ้านเพราะเพียงแค่มือที่สาม คนแบบนี้ ควรค่าที่ฉันจะเข้าไปพัวพันด้วยเหรอคะ?” น้ำเสียงของมายมิ้นท์หัวเราะเยาะออกมาอย่างเยือกเย็น

ส้มเปรี้ยวเบิกตากว้าง เธอรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

การที่หล่อนพูดออกมาแบบนี้หมายความว่าอะไร?

เปปเปอร์เองก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจว่ามายมิ้นท์จะทำอะไร

นักข่าวที่อยู่ในห้อง สัมผัสได้ว่ามายมิ้นท์กำลังจะทำอะไรบางอย่างจึงได้รีบเอ่ยถามว่า “คุณมายมิ้นท์คะช่วยอธิบายให้ละเอียดกว่านี้หน่อยได้ไหม?”

“แน่นอนค่ะ” ดวงตาของมายมิ้นท์เป็นประกายเยือกเย็นก่อนจะเอ่ยปากพูดว่า “ในโลกอินเทอร์เน็ต มีคนบอกว่าฉันมีชู้ ดังนั้นประธานเปปเปอร์จึงได้ขอหย่ากับฉัน คาดว่าเรื่องนี้ทุกคนคงจะรู้ดีสินะคะ และตอนนี้ฉันขอบอกว่าทุกคนว่า คนที่ นอกใจ จริงๆแล้วไม่ใช่ฉันแต่เป็นคุณเปปเปอร์เองต่างหาก!”

เธอเพียงอยากจะมีชีวิตที่ดีและพัฒนาเทนเดอร์กรุ๊ปเพื่อล้างแค้นให้กับพ่อของเธอ แต่คนในตระกูลตระกูลนวบดินทร์และส้มเปรี้ยวมักจะหาปัญหามาให้เธอมากมาย

เมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมเธอจะต้องไว้หน้าพวกเขาล่ะ?

ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล

“จริงเหรอ?”

“ประธานเปปเปอร์มีเมียน้อยเหรอ?”

ทามทอยมองไปยังเปปเปอร์ด้วยแววตาสนุกสนาน “เปปเปอร์ มองดูแล้วครั้งนี้ขนมผิงจะทำให้เธอหมดความอดทนจริงๆนะ”

เปปเปอร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูมืดมนไม่น่ามอง อากาศรอบตัวเขาดูกดดันขึ้นไม่น้อย

เขานอกใจเธอเหรอ?

คนที่นอกใจเป็นเธอเองไม่ใช่รึไง?

เมื่อนึกถึงบรรดาชายหนุ่มที่อยู่รอบกายมายมิ้นท์ ในใจของเปปเปอร์ก็รู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน

“คุณมายมิ้นท์คะนี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?” บรรดานักข่าวตื่นเต้นเสียจนมือสั่น

ประธานเปปเปอร์นอกใจภรรยา!

นี่เป็นข่าวใหญ่มากทีเดียว คาดว่าอีกสัปดาห์ข้างหน้าคงไม่ขาดแคลนประเด็นร้อนแล้วล่ะ

“แน่นอนค่ะว่าเป็นเรื่องจริง” มายมิ้นท์พยักหน้า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันยังไม่ได้หย่าร้างกับเปปเปอร์ เขามักจะแอบฉัน ไปพบปะส่วนตัวกับส้มเปรี้ยวที่โรงพยาบาล นั่นก็เพื่อที่จะต้องการให้ส้มเปรี้ยวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนวบดินทร์ เขาต้องการให้ฉันย้ายออกไปจากที่นั่น ก็เพื่อที่จะให้ส้มเปรี้ยวขึ้นมาแทนที่ฉัน”

“พระเจ้า! มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย” ทุกคนพากันตกใจ

ทามทอยเองก็หันไปมองเปปเปอร์ด้วยความประหลาดใจ “เปปเปอร์ นายทำแบบนี้จริงเหรอ?”

ริมฝีปากของเปปเปอร์ขยับเขยื้อนเล็กน้อยแต่ก็ไม่ปฏิเสธออกมา

แววตาของทามทอยดูแปลกไป “เปปเปอร์ นายคิดอะไรอยู่กันเนี่ย ต่อให้อยากจะอยู่กับคุณส้มเปรี้ยวใจจะขาด แต่ก็ไม่ควรจะบีบบังคับ สั่งให้คุณมายมิ้นท์ออกไปจากตระกูลนวบดินทร์หรอกนะ คฤหาสน์ใหญ่โตขนาดนั้นมีห้องไม่เพียงพอสำหรับแขกคนหนึ่งรึไง?”

“ส้มเปรี้ยวไม่อยากเห็นมายมิ้นท์” เปปเปอร์ก้มหน้าลง น้ำเสียงของเขาดูแหบแห้ง

ทามทอยรู้สึกโมโหเขาขึ้นมาจนน้ำตาจะไหล พูดว่า “ต่อให้ส้มเปรี้ยวไม่อยากเห็นมายมิ้นท์ นายก็ควรให้เธออยู่ข้างนอกสิ จะเอาเธอเข้ามาในบ้านนวบดินทร์ทำไม?”

ลำคอของเปปเปอร์ขยับเขยื้อนแต่ไม่ได้ตอบอะไรออกมา

ที่จริงเขาก็รู้ว่าการทำแบบนี้มันไม่ดี

แต่ในตอนนั้นส้มเปรี้ยวเพิ่งจะฟื้นขึ้น เขาจะทำให้เธอผิดหวังได้ยังไง

“ฉันรู้ว่าหลายๆท่านคงจะพูดว่า ประธานเปปเปอร์และคุณส้มเปรี้ยวรักกันมากขนาดนั้น การที่พวกเขาทำแบบนี้ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือในตอนนั้นฉันและประธานเปปเปอร์ยังไม่ได้หย่าร้างกัน เรื่องที่พวกเขาทำนั้นมันผิดศีลธรรม”

ทุกคนไม่อาจปฏิเสธคำพูดนี้ได้

ที่จริงแล้วไม่ว่าประธานเปปเปอร์และคุณส้มเปรี้ยวจะรักกันมากเพียงใดก็ตาม แต่การที่ทั้งสองคนทำเช่นนี้มันผิดศีลธรรมจริงๆ

บัดนี้ส้มเปรี้ยวโมโหจนตัวสั่นไปทั้งตัว

มายมิ้นท์แกกล้าดียังไง!

การที่มายมิ้นท์พูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าเธอและเปปเปอร์ทำเรื่องอับอายอย่างสิ้นเชิง เป็นเพราะเปปเปอร์เกิดนอกใจชีวิตการแต่งงาน แม้ว่าเธอกับเปปเปอร์จะยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กันจริงๆ แต่ก็นับได้ว่าเปปเปอร์นอกใจเรื่องของความรู้สึกแล้ว

ส่วนตัวเธอ กลับกลายเป็นมือที่สามที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวระหว่างชีวิตความแต่งงานของเปปเปอร์กับมายมิ้นท์ ท้ายที่สุดแล้วต่อให้เธอจะได้แต่งงานกับเปปเปอร์แต่ก็คงไม่ได้รับการอวยพรสักเท่าไหร่ กลับจะทำให้ผู้คนต่างพากันเยาะเย้ยติฉินนินทา นี่คือจุดประสงค์ของมายมิ้นท์

สิ่งที่ส้มเปรี้ยวคิดได้ แน่นอนว่าเปปเปอร์ก็คิดได้เช่นกัน แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด

“เอาละค่ะทุกท่าน ในวันนี้เรื่องที่ฉันควรจะอธิบายก็ได้พูดออกมาจนหมดแล้วและพูดไว้อย่างชัดเจน ฉันไม่ได้เข้าไปแทรกแซงระหว่างความรักของประธานเปปเปอร์และคุณส้มเปรี้ยว ฉันไม่ได้เข้าไปพัวพันกับประธานเปปเปอร์ ดังนั้นฉันจึงหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต”

เมื่อพูดจบมายมิ้นท์ก็หรี่ตาลง “แน่นอนว่าเรื่องนี้ผู้ริเริ่มคือคุณขนมผิง เนื่องจากว่าคุณขนมผิงสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงของฉันและเทนเดอร์กรุ๊ป ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจจะฟ้องเธอ ขณะเดียวกันก็จะฟ้องบัญชีการตลาดอีกยี่สิบบัญชี ชาวเน็ตอีกสามร้อยคนที่วิพากษ์วิจารณ์ฉันโดยใช้คำหยาบคาย”

บัญชีการตลาดยี่สิบบัญชี ชาวเน็ตอีกสามร้อยคน!

ทุกคนสูดลมหายใจเข้าเมื่อได้ยินตัวเลขนี้ ต่างพากันประหลาดใจในความกล้าหาญของเธอ

“คุณมายมิ้นท์คะ คุณจะฟ้องพวกเขาจริงเหรอ?” นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น “คุณไม่กลัวว่าจะสร้างความขุ่นหมองให้แก่สาธารณชนเหรอคะ?”

ใบหน้าของมายมิ้นท์ตอบกลับอย่างเฉยเมยว่า “ในเมื่อฉันตัดสินใจแล้วว่าจะฟ้องร้อง แล้วฉันจะไปกลัวทำไมล่ะคะ ฉันก็เพียงแค่ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของฉันตามเหตุผล อีกอย่างพวกบัญชีและชาวเน็ตเหล่านี้ฉันต้องการจะให้บทเรียนแก่พวกเขาว่า อินเทอร์เน็ตไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะนำมาทำเรื่องผิดกฎหมายได้ พวกคุณรอหมายจับจากฉันเถอะ”

เมื่อพูดจบเธอก็วางไมโครโฟนลงแล้วใช้ไม้ค้ำเดินตรงไปยังประตูห้องประชุม

ซินดี้เดินตามหลังเธอไป

ส่วนลาเต้อยู่ต่อเพื่อสรุปงานแถลงข่าวครั้งนี้

บรรดาผู้ชมที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดล้วนพากันตกตะลึงกับวิธีการจัดการของมายมิ้นท์ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าเธอจะฟ้องพวกเขา

ขณะนี้ชาวเน็ตจำนวนมากพยายามลบความคิดเห็นที่ด่าทอเธอเอาไว้ เนื่องจากกลัวว่าจะอยู่ในรายชื่อที่เธอเตรียมยื่นฟ้องศาล

ขนมผิงเองก็หวาดกลัวมาก เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาส้มเปรี้ยว