ตอนที่ 293

Black Tech Internet Cafe System

ในตอนนี้หลินเซียวได้เข้าสู่เกมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในการแข่งขันครั้งนี้ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครได้สามตัว เขาทำการเลือกเคียวคุซานางิ ถัดมาคือยาชิโร่ นานะกะเส่ะ

 

“ผู้ชายผมขาวคนนี้ดูน่าประทับใจ เขาต้องมีพลังมากแน่” หลินเซียวทดสอบการเคลื่อนไหว

 

“ทำไมคนนี้ถึงใช้ได้แค่หมัดและเตะเท่านั้น” ยาชิโร่ที่ทำได้แค่ต่อยเตะโดยไม่แสดงถึงเทคนิคพิเศษ ส่วนเคียวคุแม้จะถูกฟางฉีฟาดจนเกือบเสียสติแต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่า เพราะตอนนี้เขารู้สึกผิดหวังกับยาชิโร่อยากมาก เขากล่าวว่า “แน่กว่าครั้งก่อนอีก ข้าอยากเปลี่ยนไปใช้ตัวละครตัวอื่น”

 

“เจ้าอยากลองเล่นตัวละครของข้ามั้ย?” ฟางฉีถาม

 

หลังจากชนะรอบที่แล้วตอนนี้ HP ของโลริยากามิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

“ตกลง!” หลินเซียวกนะตือรือร้นที่จะลองโลริ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้เห็นเทคนิคกรงเล็บอันแข็งแกร่งของตัวละครนี้มันมีพลังระยะใกล้ แค่ HP ครึ่งหนึ่งที่เหลือจากฟางฉีก็เพียงพอแล้วที่จะเอาไปคุยโม้

 

พวกเขาเปลี่ยนตำแหน่งและทดสอบการเคลื่อนไหว “มาเลน” เมื่อหลินเซียวเห็นว่า HP ของฟางฉีใกล้เคียงกับตัวเองเขาจึงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น “ข้าจะมอบเปลวไฟสีม่วงให้แก่เจ้า!”

 

บนหน้าจอตอนนี้โลริส่งพลังคลื่นจากฟ่ามือเขา ส่วนชิกิพยายามโจมตีเขาด้วยเปลวไฟสีม่วงตอนนี้มันพุ่งเข้าหาฟางฉีด้วยความรวดเร็ว!

 

“ฮ่าๆๆๆ” หลินเซียวรู้สึกพอใจเมื่อเห็นฟางฉีพยายามที่จะสกัดกั้นการโจมตี ท้ายที่สุดผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่ของผู้ฝึกฝนเหนือนักรบก็คือการโจมตีระยะไกล ตอนนี้เขามีข้อได้เปรียบนี้เขาจึงไม่กลัวตัวละครผมขาวที่ไม่รู้อะไรเลยนอกจากการโจมตีด้วยหมัดและเตะ

 

“ตัวละครนี้แข็งแกร่งจริงๆ” ซูเหลียวบ่นกับตัวเองขณะดูพวกเขาเล่นเกมด้านหลัง

 

รวนหนิงจ้องหน้าจอแล้วพูดว่า “นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกฝนและนักรบ”

 

“นักรบคนนี้ฝึกฝนทั้งคาถาทางจิตวิญญาณและเทคนิคการต่อสู้ใบ่มั้ย?” หวังปู่เต๋าถามด้วยความสับสน

 

หลินเซียวมีความสุขกับการซ้อมรบอยากมาก ในขณะที่กำลังกดจอยเขาก็กระแทกปุ่มด้วยมือขวาเปลวไฟสีม่วงสว่างวาบขึ้นในมือของโลริยากามิ

 

ลำแสงสีมองอันหนายิงออกไปทั่วอวกาศไปทางอีกด้านหนึ่งของหน้าจอ!

 

“นี่เป็นคาถาทางจิตวิญญาณใช่มั้ย?”

 

“ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ เจ้าของเลือกตัวละคนเพื่อมารังแกเรา” เสียงประท้วง

 

ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ จ้องมองหน้าจอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

 

หวังปู่เต๋าผู้ที่เฝ้ามองจากด้านหลังก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “เขาเป็นนักรบจริงๆ หรอ?”

 

ฉากต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นอาจทำให้พวกเขาเกิดความงงงวยมากกว่าเดิม ภายใต้การควบคุมของฟางฉียาชิโร่นานะกะเส่ะที่กลิ้งตัวลงกับพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี หลังจากที่หลินเซียวพยายามปิดกั้นสกิลเขาเขาก็เตะใส่หลินเซียวเข้าเต็มแรง

 

“ท่าทางและร่างกายส่วนล่างของเจ้าอ่อนแอไปนะหลิน!” แสงสีแดงกระพริบบนตัวยาชิโร่นานะกาเส่ะซึ่งเหลือ HP เพียงเล็กน้อย

 

เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาลุกขึ้นเขาก็เลือกจะจบด้วยหมัดสุดท้าย

 

ตึ้ง!

 

พลังงานอันยิ่งใหญ่พุ่งออกมาจากหมัดของเขามันทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้าม ร่างของฝ่ายตรงข้ามลอยไปไกลถึงยี่สิบเมตร ทุกคนยักไหล่หลังจากเห็นว่าโลริยากามิถูกทำลาย พลังของยาชิโร่นานะกาเส่ะจะแสดงออกก็ต่อเมื่อเขาอ่อนแอลงหากเทียบกับตัวละครสามตัวหลักแล้วเขามีพลังไม่น้อยไปกว่าใคร

 

“ทำไมเขาไม่สามารถป้องกันหมัดนี้ได้?”

 

อ๊ากกกกกก! แต๊กๆๆๆๆๆ หลินเซียวกดจอยด้วยความหงุดหงิด

 

ซูเหลียวกล่าวว่า “เจ้ามันแค่ขยะ ขอข้าลองบ้าง! ”

 

รวนหนิงที่ยืนอยู่ต่อมอยากทำงาน “ขอข้าลองบ้าง”

 

ไม่กี่นาทีต่อมา

 

พวกเขาดูชิซูรุกากุระและเชมี่ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นและพูดว่า “บ้าเอ้ย! เจ้าของร้านต้องสอนบทเรียนเกี่ยวกับตัวละครในเกมนี้”

 

“โอ้ย! แทนที่เจ้าจะยอมรับว่าเจ้าอ่อนแอกลับมาบอกให้สอนอีก” ฟางฉีพูดเย้ย “ใครอยากเล่นอีกมั้ย ข้าจะต่อให้ ข้าจะเล่นทือเดียว!”

 

“มือเดียว?” หลายคนไม่พอใจ เกมนี้ต้องใช้สองมือสีมือข้างเดียวจะควบคุมได้อย่างไร ไม่งั้นจะคอมโบราบรื่นหรอ

 

“มันก็แค่เกมเล็กๆ” หลายคนในห้องต้องการให้บทเรียนแก่เขา เขานั่นหยิ่งยโสจริง!

 

“ข้าจะเล่น!” หลิวหนิงหยุนไม่คิดว่าเกมเล็กๆ นี้จะเป็นเรื่องยาก แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงผู้เริ่มต้นแต่เธอก็ได้ดูคนอื่นเล่นมาหลายรอบและเริ่มคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวพร้อมเรียนรู้ในการคอมโบ เธอไม่เชื่อว่าฟางฉีจะเอาชนะเธอไดด้วยมือเดียว!

 

เขานั่นยโส!

 

เธอทิ้งตัวลงบนที่นั่งถัดจากฟางฉีที่ดูหมิ่น เธอเริ่มเลือกตัวละคร คนแรกที่เธอเลือกคือ โลริยากามิเป็นตัวเลือกอันดับต้น

 

ที่สองคือชิซูรุกากุระที่ซูเหลีวเพิ่งเล่น หลิวหนิงหยุนจำการเคลื่อนไหวของตัวละครนี้ได้

 

ส่วนตัวที่สามคือเชมี่ที่แข็งแกร่ง เธอสามารถใช้สายฟ้าได้

 

ขฯธเดียวกันฟางฉีเลือกโจฮิกาชิผู้สวมกางเกงขาสั้นตัวใหญ่ จากนั้นเขาเลือกตัวละครอีกสองตัวแบบสุ่ม

 

โจฮิกาชิเป็นตัวเองที่เข้าร่วมการต่อสู้

 

ก่อนการต่อสู้หลิวหนิงหยุนได้ทำการทดสองท่าทีและการเคลื่อนไหว เธอจำคอมโบของโลริยากามิได้ท่าของตัวนี้ไม่ยากนักในการจดจำ ต้นเกมเธอใช้ท่าประจำตัวอย่างชาญฉลาดเพื่อทดสอบคู่ต่อสู้ของเธอ!

 

“เอลิกะ!” โจฮิกาเหวี่ยงหมัดออกไปพายุทอร์นาโดก็พุ่งไปที่โลริด้วยความเร็วสูง

 

จาดนั้น “เอลิกะ!”

 

โจฮิกายิงพายุทอร์นาโดเล็กๆ ออกมาสม่ำเสมอ หลิวหนิงหยุนที่เพิ่งใช้ท่าชิกิยามิเพียงครั้งเดียวโดนพายุ เธอพยายามที่จะตั้งตัวแต่เธอก็ได้รับพายุลูกที่สองสามสี่ห้า ..

 

หลิวหนิงหยุนพยายามกระโดดข้ามพายุทอร์นาโดเพื่อไปโจมตีฟางฉี

 

“อย่าขยับ!” ฟางฉีทุบขาของฝ่ายตรงข้ามด้วยพายุ

 

หลิวหนิงหยุนยังไม่ต้องการความพ่ายแพ้ในตอนนี้ เธอพายามต่อสู้และหลบหมัดต่อไป

 

“เจ้ากล้ามากที่จะหลบ!” ฟางฉีเปิดตัวพายุระดับสองรวดเร็วบนใบหน้าคู่ต่อสู้

 

เธอลุกขึ้นและสวนด้วยสกิลลชิกิยามิทันที

 

“เอลิกะ!” ฟางฉีตะโกน โลริยากามิถูกพายุกลืนกิน

 

“อ่าาาา!” หลิวหนิงหยุนกระแทกกำปั้นของเธอลงบนปุ่มอย่างรุนแรง

 

แกร๊ก! แกร๊ก! เสียงขูดจอย

 

เธอกัดฟันกรอด ตัวละครตัวที่สองของเธอคือชิซูรุกากุระได้เข้าร่วมกันต่อสู้รอบที่สอง ในช่วงแรกของการต่อสู้หลิวหนิงหยุนเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

 

“เอลิกะ!” ฟางฉีตะโกนคำนี้ทีไรพายุมาทุกที

 

หลิวหนิงหยุนกระแทกมือลงบนโต๊ะด้วยความโมโห ตัวละครตัวที่สามของเธอเข้าร่วมการต่อสู้

 

“เอลิกะ!” ฟางฉีทรมานจิตใจฝ่ายตรงข้ามโดยไร้ความปราณี

 

หลิวหนิงหยุนไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือโจมตีกลับได้เลย เธอกัดฟันกรอดถ้าทำได้เธออยากจะกระโดดและฟาดหมัดใส่ฟางฉีสักทีให้สลบ! ได้แต่คิดสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือทุบจอยและโต๊ะเพื่อระบายความแค้น

 

ตึง! ตึง! ตึง!

 

แม้แต่หน้าจอยังสนั่นหวั่นไหว

 

“บ้าเอ้ย! อย่าทำลายโต๊ะของข้า!” ฟางฉีประท้วง