ในตอนนี้หลินเซียวได้เข้าสู่เกมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในการแข่งขันครั้งนี้ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครได้สามตัว เขาทำการเลือกเคียวคุซานางิ ถัดมาคือยาชิโร่ นานะกะเส่ะ
“ผู้ชายผมขาวคนนี้ดูน่าประทับใจ เขาต้องมีพลังมากแน่” หลินเซียวทดสอบการเคลื่อนไหว
“ทำไมคนนี้ถึงใช้ได้แค่หมัดและเตะเท่านั้น” ยาชิโร่ที่ทำได้แค่ต่อยเตะโดยไม่แสดงถึงเทคนิคพิเศษ ส่วนเคียวคุแม้จะถูกฟางฉีฟาดจนเกือบเสียสติแต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่า เพราะตอนนี้เขารู้สึกผิดหวังกับยาชิโร่อยากมาก เขากล่าวว่า “แน่กว่าครั้งก่อนอีก ข้าอยากเปลี่ยนไปใช้ตัวละครตัวอื่น”
“เจ้าอยากลองเล่นตัวละครของข้ามั้ย?” ฟางฉีถาม
หลังจากชนะรอบที่แล้วตอนนี้ HP ของโลริยากามิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“ตกลง!” หลินเซียวกนะตือรือร้นที่จะลองโลริ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้เห็นเทคนิคกรงเล็บอันแข็งแกร่งของตัวละครนี้มันมีพลังระยะใกล้ แค่ HP ครึ่งหนึ่งที่เหลือจากฟางฉีก็เพียงพอแล้วที่จะเอาไปคุยโม้
พวกเขาเปลี่ยนตำแหน่งและทดสอบการเคลื่อนไหว “มาเลน” เมื่อหลินเซียวเห็นว่า HP ของฟางฉีใกล้เคียงกับตัวเองเขาจึงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น “ข้าจะมอบเปลวไฟสีม่วงให้แก่เจ้า!”
บนหน้าจอตอนนี้โลริส่งพลังคลื่นจากฟ่ามือเขา ส่วนชิกิพยายามโจมตีเขาด้วยเปลวไฟสีม่วงตอนนี้มันพุ่งเข้าหาฟางฉีด้วยความรวดเร็ว!
“ฮ่าๆๆๆ” หลินเซียวรู้สึกพอใจเมื่อเห็นฟางฉีพยายามที่จะสกัดกั้นการโจมตี ท้ายที่สุดผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่ของผู้ฝึกฝนเหนือนักรบก็คือการโจมตีระยะไกล ตอนนี้เขามีข้อได้เปรียบนี้เขาจึงไม่กลัวตัวละครผมขาวที่ไม่รู้อะไรเลยนอกจากการโจมตีด้วยหมัดและเตะ
“ตัวละครนี้แข็งแกร่งจริงๆ” ซูเหลียวบ่นกับตัวเองขณะดูพวกเขาเล่นเกมด้านหลัง
รวนหนิงจ้องหน้าจอแล้วพูดว่า “นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกฝนและนักรบ”
“นักรบคนนี้ฝึกฝนทั้งคาถาทางจิตวิญญาณและเทคนิคการต่อสู้ใบ่มั้ย?” หวังปู่เต๋าถามด้วยความสับสน
หลินเซียวมีความสุขกับการซ้อมรบอยากมาก ในขณะที่กำลังกดจอยเขาก็กระแทกปุ่มด้วยมือขวาเปลวไฟสีม่วงสว่างวาบขึ้นในมือของโลริยากามิ
ลำแสงสีมองอันหนายิงออกไปทั่วอวกาศไปทางอีกด้านหนึ่งของหน้าจอ!
“นี่เป็นคาถาทางจิตวิญญาณใช่มั้ย?”
“ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ เจ้าของเลือกตัวละคนเพื่อมารังแกเรา” เสียงประท้วง
ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ จ้องมองหน้าจอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
หวังปู่เต๋าผู้ที่เฝ้ามองจากด้านหลังก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “เขาเป็นนักรบจริงๆ หรอ?”
ฉากต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นอาจทำให้พวกเขาเกิดความงงงวยมากกว่าเดิม ภายใต้การควบคุมของฟางฉียาชิโร่นานะกะเส่ะที่กลิ้งตัวลงกับพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี หลังจากที่หลินเซียวพยายามปิดกั้นสกิลเขาเขาก็เตะใส่หลินเซียวเข้าเต็มแรง
“ท่าทางและร่างกายส่วนล่างของเจ้าอ่อนแอไปนะหลิน!” แสงสีแดงกระพริบบนตัวยาชิโร่นานะกาเส่ะซึ่งเหลือ HP เพียงเล็กน้อย
เมื่อคู่ต่อสู้ของเขาลุกขึ้นเขาก็เลือกจะจบด้วยหมัดสุดท้าย
ตึ้ง!
พลังงานอันยิ่งใหญ่พุ่งออกมาจากหมัดของเขามันทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้าม ร่างของฝ่ายตรงข้ามลอยไปไกลถึงยี่สิบเมตร ทุกคนยักไหล่หลังจากเห็นว่าโลริยากามิถูกทำลาย พลังของยาชิโร่นานะกาเส่ะจะแสดงออกก็ต่อเมื่อเขาอ่อนแอลงหากเทียบกับตัวละครสามตัวหลักแล้วเขามีพลังไม่น้อยไปกว่าใคร
“ทำไมเขาไม่สามารถป้องกันหมัดนี้ได้?”
อ๊ากกกกกก! แต๊กๆๆๆๆๆ หลินเซียวกดจอยด้วยความหงุดหงิด
ซูเหลียวกล่าวว่า “เจ้ามันแค่ขยะ ขอข้าลองบ้าง! ”
รวนหนิงที่ยืนอยู่ต่อมอยากทำงาน “ขอข้าลองบ้าง”
ไม่กี่นาทีต่อมา
พวกเขาดูชิซูรุกากุระและเชมี่ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นและพูดว่า “บ้าเอ้ย! เจ้าของร้านต้องสอนบทเรียนเกี่ยวกับตัวละครในเกมนี้”
“โอ้ย! แทนที่เจ้าจะยอมรับว่าเจ้าอ่อนแอกลับมาบอกให้สอนอีก” ฟางฉีพูดเย้ย “ใครอยากเล่นอีกมั้ย ข้าจะต่อให้ ข้าจะเล่นทือเดียว!”
“มือเดียว?” หลายคนไม่พอใจ เกมนี้ต้องใช้สองมือสีมือข้างเดียวจะควบคุมได้อย่างไร ไม่งั้นจะคอมโบราบรื่นหรอ
“มันก็แค่เกมเล็กๆ” หลายคนในห้องต้องการให้บทเรียนแก่เขา เขานั่นหยิ่งยโสจริง!
“ข้าจะเล่น!” หลิวหนิงหยุนไม่คิดว่าเกมเล็กๆ นี้จะเป็นเรื่องยาก แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงผู้เริ่มต้นแต่เธอก็ได้ดูคนอื่นเล่นมาหลายรอบและเริ่มคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวพร้อมเรียนรู้ในการคอมโบ เธอไม่เชื่อว่าฟางฉีจะเอาชนะเธอไดด้วยมือเดียว!
เขานั่นยโส!
เธอทิ้งตัวลงบนที่นั่งถัดจากฟางฉีที่ดูหมิ่น เธอเริ่มเลือกตัวละคร คนแรกที่เธอเลือกคือ โลริยากามิเป็นตัวเลือกอันดับต้น
ที่สองคือชิซูรุกากุระที่ซูเหลีวเพิ่งเล่น หลิวหนิงหยุนจำการเคลื่อนไหวของตัวละครนี้ได้
ส่วนตัวที่สามคือเชมี่ที่แข็งแกร่ง เธอสามารถใช้สายฟ้าได้
ขฯธเดียวกันฟางฉีเลือกโจฮิกาชิผู้สวมกางเกงขาสั้นตัวใหญ่ จากนั้นเขาเลือกตัวละครอีกสองตัวแบบสุ่ม
โจฮิกาชิเป็นตัวเองที่เข้าร่วมการต่อสู้
ก่อนการต่อสู้หลิวหนิงหยุนได้ทำการทดสองท่าทีและการเคลื่อนไหว เธอจำคอมโบของโลริยากามิได้ท่าของตัวนี้ไม่ยากนักในการจดจำ ต้นเกมเธอใช้ท่าประจำตัวอย่างชาญฉลาดเพื่อทดสอบคู่ต่อสู้ของเธอ!
“เอลิกะ!” โจฮิกาเหวี่ยงหมัดออกไปพายุทอร์นาโดก็พุ่งไปที่โลริด้วยความเร็วสูง
จาดนั้น “เอลิกะ!”
โจฮิกายิงพายุทอร์นาโดเล็กๆ ออกมาสม่ำเสมอ หลิวหนิงหยุนที่เพิ่งใช้ท่าชิกิยามิเพียงครั้งเดียวโดนพายุ เธอพยายามที่จะตั้งตัวแต่เธอก็ได้รับพายุลูกที่สองสามสี่ห้า ..
หลิวหนิงหยุนพยายามกระโดดข้ามพายุทอร์นาโดเพื่อไปโจมตีฟางฉี
“อย่าขยับ!” ฟางฉีทุบขาของฝ่ายตรงข้ามด้วยพายุ
หลิวหนิงหยุนยังไม่ต้องการความพ่ายแพ้ในตอนนี้ เธอพายามต่อสู้และหลบหมัดต่อไป
“เจ้ากล้ามากที่จะหลบ!” ฟางฉีเปิดตัวพายุระดับสองรวดเร็วบนใบหน้าคู่ต่อสู้
เธอลุกขึ้นและสวนด้วยสกิลลชิกิยามิทันที
“เอลิกะ!” ฟางฉีตะโกน โลริยากามิถูกพายุกลืนกิน
“อ่าาาา!” หลิวหนิงหยุนกระแทกกำปั้นของเธอลงบนปุ่มอย่างรุนแรง
แกร๊ก! แกร๊ก! เสียงขูดจอย
เธอกัดฟันกรอด ตัวละครตัวที่สองของเธอคือชิซูรุกากุระได้เข้าร่วมกันต่อสู้รอบที่สอง ในช่วงแรกของการต่อสู้หลิวหนิงหยุนเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
“เอลิกะ!” ฟางฉีตะโกนคำนี้ทีไรพายุมาทุกที
หลิวหนิงหยุนกระแทกมือลงบนโต๊ะด้วยความโมโห ตัวละครตัวที่สามของเธอเข้าร่วมการต่อสู้
“เอลิกะ!” ฟางฉีทรมานจิตใจฝ่ายตรงข้ามโดยไร้ความปราณี
หลิวหนิงหยุนไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือโจมตีกลับได้เลย เธอกัดฟันกรอดถ้าทำได้เธออยากจะกระโดดและฟาดหมัดใส่ฟางฉีสักทีให้สลบ! ได้แต่คิดสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือทุบจอยและโต๊ะเพื่อระบายความแค้น
ตึง! ตึง! ตึง!
แม้แต่หน้าจอยังสนั่นหวั่นไหว
“บ้าเอ้ย! อย่าทำลายโต๊ะของข้า!” ฟางฉีประท้วง