“ข้าเลิกเล่นละ!” หลิวหนิงหยุนตะโกนขึ้นเธอแพ้เขาสามครั้งรวดแม้เขาจะเล่นด้วยมือเดียว!
เธอรู้สึกโกรธจนไม่สามารถทนเล่นอีกต่อไป
“เจ้าของจัดการทุกคนโดยไม่เหลือคราบและร่องรอย” รวนหนิงรู้สึกไม่พอใจแทนรวนหนิง “เจ้าบอกว่าเขาเล่นด้วยมือเดียวแถมยังกระโดดใช้ท่าไม้ตายแล้วงี้เจ้าจะต่อสู้ต่อไปได้ยังไง?”
“ซงฉิงเฟิงเราจะเล่นกันอีกสักรอบมั้ย?”
“มาเลย! ข้าจะเลือกตัวละครที่เจ้าของเพิ่งเล่น!” หลินเซียวเข้าเกมอีกครั้งและเขาเลือกตัวละครโจฮิกาชิ เขาเลือกใช้ท่าเฮอริเคนอัปเปอร์คัทหนึ่งครั้งจากนั้นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็เริ่มขึ้น
อีกด้านหนึ่งฟางฉีก็กำลังควบคุมตัวละครโลริยากามิด้วยมือข้างเดียว
“หึ! ข้าดูสิ่งที่เจ้ากำลังจะทำมันอีกในครั้งนี้!” หลิงหนิงหยุนพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เธอยะงคงโกรธเกินที่จะกลับไปจับเกมนี้อีกครั้ง “ฟางฉีสอนวิธีการต่อสู้ที่หน้าอายของเขาแก่เราและคู่ต่อสู้ของเขากำลังจะใช้มันกับเขา!”
ฟางฉีดีดนิ้วก้อยไปรอบๆ จอยเขาใช้เพียงนิ้วโป้งและนิ้วชี้เพื่อกดปุ่มอย่างสบายใจหลังจากเปิดตัวโลริยากะมิที่กระโดดข้ามพายุหมัดเฮอริเคนและขัดจังหวะการโจมตีของคู่ต่อสู้ด้วยหมัดไฟที่ว่องไว!
เมื่อมองไปที่โจฮิกาชิที่ล้มลงกับพื้น ฟางฉียักไหล่แถมร้องเพลงเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง “วันนี้ข้าเห็นหิมะลอยผ่านคืนที่หนาวเหน็บ ..”
มันคือเพลง The Boundless Sea and Sky ของ Beyond
“นั่นเขากำลังร้องเพลงอะไร?” ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ กำลังงุนงงกับเนื้อเพลง
“ข้าไม่เห็นจะเข้าใจสักคำ” ซูเหลียวขมวดคิ้ว
“เหมือนเขากำลังร้องว่า ‘หม้อ .. ซ้อมหม้อ’ ” นวนหนิงพยายามคัดลอกเสียงร้อง
(ผู้แปล : นี่เป็นคำแปลจากจีนกวางตุ้งไปเป็นจีนกลาง)
ซงฉิงเฟิงสูญเสียคำพูดไปชั่วครู่
หลิวหนิวหยุนมีข้อสงสัยที่คำตอบของมันดูจหายากเธอทำหน้างงเกี่ยวกับรสนิยมทางดนตรีของฟางฉี
หวังปู่เต๋าทำหน้าอาย “ข้าไม่ยักรู้ว่าฟางฉีจะชอบเพลงพื้นบ้านแบบนี้ ..”
ฟางฉีเหล่ตามองเขาพูดไม่ออก
จากนั้นเขาเอ่ยอย่างเหยียดหยาม “พระเจ้า! พวกเจ้าไม่เคยได้ยินเพลงของหว่องก๊าเค่ย มาก่อนหรือ!?”
(ผู้แปล : Wong Ka Kui หว่องก๊าเค่ยเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงและผู้ก่อตั้งวงร็อคบียอนด์)
“ใครคือหว่องก๊าเค่ย?” พวกเขาถามพร้อมเพียงกัน
ฟางฉีตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อพวกเขาเพราะไม่อยากอธิบายและคิดว่าพวกเขาเองคงไม่รู้อะไรเลย .. ขณะเดียวกันฟางฉีได้รับข้อความใน QQ
กงยีซิว [มีคนสบประมาทข้าในเกมของเจ้า ทำไมไม่มีใครจัดการเรื่องนี้!!]
กงซุนซุยส่งหน้าอิโมจิโกรธ [ข้าฆ่าสัตว์ประหลาดสองสามตัวอยู่และกลับถูกคนอื่นฆ่าห้าถึงหกครั้ง เจ้าไม่มีกฏเกี่ยวกับพฤติกรรมพวกนี้เลยหรือ?]
“กฏ” ฟางฉีอ่านแล้วคิดตาม คงต้องยอมรับว่าช่างเป็นโชคชะตาที่โหดร้ายสำหรับมือใหม่ เขาจึงเลือกถามกลับไปว่า [ทำไมพวกเขาถึงฆ่าเจ้าทั้งสอง? พวกเจ้าสบประมาทพวกเขาหรือ?]
กงซุนซุน [ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น!]
ฟางฉี [หรอ?]
กงซุนซุย [แน่นอน]
ฟางฉี [เจ้าพบใครบางคนที่มีชื่อว่าข้าวสามสามฤดูหรือไม่?]
กงซุนซุนถาม [เขาคือใคร?]
ฟางฉีตอบ [เขาคือคนที่ชอบฆ่าผู้เล่นระดับต่ำ]
กงซุนซุย [ไม่!]
เขาคิดในหัวว่ามีคนแบบนี้บนโลกด้วยหรอ? ที่รอฆ่าผู้เล่นมือใหม่? หืม .. ถ้าข้าอยู่ในระดับสูงบ้างละก็ข้าจะ ..
ฟางฉี [นี่คือคำแนะนำจากข้า ดูเหมือนว่าสมาคมราชวงศ์จะมีขนาดใหญ่ในพื ้นที่ของเจ้าและเจ้าสามารถเข้าร่วมได้ ข้ามั่นใจว่าต่อไปคงไม่มีใครกล้าฆ่าเจ้าอีก!]
กงซุนซุย [สมาคมอะไร?]
ฟางฉี [สมาคมราชวงศ์ของดาจิน!]
กงซุนซุย [เจ้าพูดว่าอะไรนะ!?]
ฟางฉี [โอ้ ข้าลืมไปว่าพวกเจ้ามาจากหยุนเตียนระดับสูง .. พวกเขาเพิ่งเอาชนะพวกเจ้ามา ดูเหมือนว่ามีบางอย่างที่ข้าพูดผิดไป ..]
กงซุนซุยหน้าแดง เขากำลังหัวร้อน
บ้าเอ้ย! เจ้านี่มันหลายความว่าอะไร? ‘ดูเหมือนข้าจะพูดผิดไป ..’
ข้างๆ เขากงยีซิวที่นอนอยู่บนพื้นเขาไม่สามารถลุกขึ้นได้ “เจ้าของร้านพูดว่าอะไร?”
กงซุนซุยยิ้มให้เขาและกัดฟันพูดด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กนี้บอกให้เราเข้าร่วมกับสมาคมราชวงศ์ของดาจิน เพื่อที่จะได้รับการป้องกันจากการถูกฆ่า!”
“เจ้ากำลังจะระเบิดหรือ?” ฟางฉีส่งข้อความไปหาเขาทันที [หรือพวกเจ้าอยากให้ข้าแนะนำสมาคมจากทะเลดวงดาวให้แทนมั้ย?]
ซงซุนซุยถามว่า “ศิษย์พี่ยีเราจะทำอะไรต่อดี?”
“…”
ข้าจะไปรู้ได้ไงเล่า! กงยีคิดในหัว
กงซุนซุยพูดด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ “หรือบางทีเราควรจะพักเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพไว้แล้วไปเล่นเกมอื่นกันก่อน?”
กงยีซิวหรี่ต่มอง เขาค้นพบว่าแม้ว่าเจ้าจะมีผู้คนมากมาย แต่เขาก็ไม่สามารถสร้างแรงในโลกของเกมนี้ได้เลยในเมื่อตอนนี้เขาทั้งสองอยู่ในระดับต่ำกว่าสิบจะให้เอาอะไรที่ไหนไปสู้กับผู้อื่นได้ กงยีซิวคิดอยู่พักหนึ่ง เขาไตร่ตรองแล้วว่าหากไม่ได้รับการปกป้องจากกองกำลังขนาดใหญ่พวกเขาคงไม่ประสบความสำเร็จในการหาของหรือสร้างกองทัพได้แน่
“มันเป็นแค่สมาคมในเกมเสมือนจริง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หากเราเข้าร่วมสมาคมนี้! ท้ายที่สุดพวกเขาจะไม่สามารถแทรกแซงพวกเขาหยุนเตียนได้! พวกเราต้องอดทน!”
“ขณะที่เราอยู่ในสมาคมเราอาจจะสามารถรับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านนี้ได้!” แสงอันชาญฉลาดแวบเขามาในดวงตาของกงยีซิว
“บางทีเราสามารถพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับปัญหาอื่นๆ ..”
ในไม่ช้าฟางฉีก็ได้รับคำตอบของพวกเขา [เราต้องขอบอกก่อนว่าหากกฏของสมาคมเจ้ามีเยอะเราคงจะเลือกออกตอนไหนก็ได้ว่าแต่เจ้ามีสิทธิพิเศษให้พวกข้าหลังจากเข้าร่วมสมาคมมั้ย?]
ฟางฉี [เข้าหรือไม่?]
สิทธิพิเศษ!? ตลก! ฟางฉีคิดกับตัวเอง
ทั้งสองพูดไม่ออกเมื่อเห็นคำถามที่ดูไม่ใบดีเท่าไร
…
ขณะเดียวกัน ณ ฝ่ายไทชิ
“กงยีซิวและกงซุนซุยไปสร้างปัญหาอะไรในร้านจิวหัวเป็นการส่วนตัว?” ชายชราสวมเสื้อสีขาวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นั่นสิขอรับ” สาวกชุดคลุมขาวยืนอยู่ข้างหลังเขาตอบรับหลังจากที่เพิ่งส่งข่าว “ด้วยความสามารถของชายทั้งสองข้าละกลัวว่ากองกำลังของพวกเขาจะพังพินาศ”
“หากชายสองคนนั้นร่วมมือกัน ..” ชายชรายิ้มอ่อน “อย่างไรด็ตามความสามารถพิเศษของพวกเขาอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บได้”
“ท่านอาจารย์ดูเหมือนว่าท่านจะสามารถมองเห็นเกี่ยวกับพลังที่ออกมา” ศิษย์กล่าว “จากความเห็นของข้าข้าเป็นเพียงแค่กบตัวเล็กๆ ที่กำลังมองท้องฟ้าอันกว้างไกลซึ่งคาดเดาได้ยากว่าเกิดอะไรขึ้น”
ชายชราหัวเราะ “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นการดีที่เจ้าได้มองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่จะได้รู้ว่ามันสวยแค่ไหน”
…
ขณะเดียวกันกงซุนซุยก็ลึกขึ้นจากพื้นดินหลังจากถูกฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความโกรธเขารีบออกจากเกมทันที “ข้าเลิกเล่นละ!”
“ลืมมันซะ ไปเล่นเซียนกระบี่พิชิตมารแทนละกัน!” กงยีซิวส่งข้อความถึงฟางฉีด้วยท่าทางเย็นชา [ข้าขอความเห็นในการตัดสินใจเพื่อเจ้าร่วมสมาคม]
เขาคิดในหัวว่า อยากจะให้เจ้าเด็กนี่เป็นกังวลและค่อยเข้าร่วมสมาคมในอีกสองสามวัน ..