ตอนที่ 295

Black Tech Internet Cafe System

“ท่าน! ข้าต้องการซื้อคฆาเวทย์มนตร์จากสมาคมราชวงศ์ ช่วยข้าทำขช้อตกลงด้วย!”

 

“ท่าน! ข้าต้องการซื้อหนังสือทักษะช่วยข้าทำข้อตกลงที!”

 

“ท่าน ..

 

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาฟางฉีรู้สึกถูกคุกคามจากการทำข้อตกลงข้ามภูมิภาคหลังจากการซื้อขายเสมือนจริงที่ตอนนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก

 

ด้วยหนังาือทักษะที่มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหนังสือทักษะที่ได้จากสัตว์ประหลาดระดับสูงยิ่งมีราคาสูงตามลำดับ ตอนนี้สมาชิกระดับสูงของกองกำลังสำคัญทุกคนล้วนพึงพอใจในหนังสือที่พวกเขาได้รับ พวกเขาต่างทบทวนดูรายการต่างๆ

 

แม้ว่าไอเทมบางอย่างจะไม่สามารถนำมาใช้กับหนังสือได้โดยตรง แต่สิ่งต่างๆ เมื่อนำมาใช้ฆ่า ปล้นผู้เล่นอื่นเพื่อชิงสมบัติและการต่อสู้กับเหล่าหัวหน้าสัตว์ประหลาดนั้นบางทักษะกับมีผลดีอย่างไม่คาดคิด นั่นเป็นเหตุผลให้ผู้เล่นมักแย่งชิงหนังสือทักษะเพื่อที่จะได้เรียนรู้ในหลายรูปแบบ

 

ผู้เล่นบางคนถึงกับเริ่มเบี่ยงเบนว่าเขาควรจะเก็บค่าประสบการณ์และรอของตกหรือควรจะซื้อหนังสือเก็บไว้เมื่อถึงระดับก็จะสามารถเรียกใช้ได้เลยอันไหนคุ้มกว่ากัน

 

ตัวอย่างเช่นหัวหน้ากลุ่มปีศาจดำที่ตอนนี้เขาครอบครองคฆาที่ดีที่สุดและทุกคนในกลุ่มเขาก็ควรจะได้รับมันเช่นกันแม้ว่าจะยังไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับเขาแต่ทุกคนต้องมีไว้ก่อนเพื่อถือเป็นเกียรติที่ได้รับไอเทมเดียวกับหัวหน้ากลุ่ม!

 

 

“นี่หัวหน้าสมาคมทักษะโล่เวทย์มนตร์แพงมั้ย? แล้วทักษะการต่อสู้ไรขีดจำกัดละ? ข้ากลัวว่าราคาจะลดลงหากเก็บไว้นานเกินไป” คลังของซียือแตกต่างจากคลังของรวนหนิง ซียือนั้นมีของมากมายที่เธอหามาเอง

 

“ข้ากำลังวางแผนว่าจะขายสักอย่างสองอย่าง”

 

“ยังไง?” ฟางฉีขมวดคิ้ว “เกมนี้เต็มไปด้วยคนหน้าเลือด!”

 

“ข้าไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน ..” ซียือตอบ “ข้าว่าจะลองขายโดยการประมูล”

 

ณ เมืองชั้นในของเมืองครึ่งที่นั้นเป็นศูนย์กลางอำนาจที่มีผู้อยู่อาศัยระดับสูงอาศัยอยู่

 

กองกำลังทั้งหมดในเมืองชั้นนอกเองยังต้องลงทะเบียนกับเมืองชั้นในเพื่อรับการยอมรับและนั่นเป็นเพียงก้าวแรกของการตั้งฐานรากที่นี่ แม้แต่สำนักมังกรม้วนเองก็ยังถือเป็นกองกำลังขนาดเล็กเมื่อตั้งอยู่ในเมืองชั้นใน

 

ได้ยินว่าส่วนที่ลึกที่สุดของเมืองครึ่งนั้นซ่อนสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวหลายตัวไว้ชั้นใน ซึ่งอยู่ลึกลงไปในส่วนแกนของดินแดนทะเลดวงดาว ไม่มีใครกล้ากำจัดมันเพราะพวกมันถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่

 

สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าผู้ฝึกฝนและนักรบบางกลุ่มที่สามารถทำตามกฎ ไม่ว่าพวกเขาจะชั่วร้ายหรือชอบธรรมหากเข้ามาอาศัยที่นี่พวกเขาจะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายของที่นี่ แม้ว่าครึ่งหนึ่งของเมืองจะถูกทำลายแต่อีกครึ่งหนึ่งก็ยังคงสภาพสมบูรณ์และยังคงมีกฎระเบียบของประเพณีคงเดิม

 

ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้

 

ในเมืองครึ่งชั้นในนั้นมีคนบอกว่าทุกคนสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการหากมีเงินมากพอ แม้แต่วัตถุที่ผู้คนไม่คิดว่าจะมีอยู่ หากเงินมากพอมันก็จะสามารถนำพาไปจนเจอ นั่นเป็นเหตุผลที่การประมูลในเมืองครึ่งเป็นสิ่งอะไรที่ขึ้นชื่อมาก แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนแห่งทะเลดวงดาวก็ยังมารวมตัวกันที่นี่เพื่อซื้อของหายาก

 

“เจ้าวางแผนว่าจะขายพวกมันจากการประมูลหรือ?” ฟางฉีถามด้วยความประหลาดใจ “ปัญหาคือ .. ร้านค้าของค้าไม่มีรายการหรือสินค้าที่สามารถจับต้องได้จริง”

 

“มันไม่ยาก!” ซียือกล่าว “ในอดีตการประมูลมีวัตถุพิเศษบางอย่างที่ไม่สามารถส่งไปยังเมืองชั้นในเพื่อรักษาความปลอดภัยได้ แต่พวกเขาสามารถมอบหมายให้ผู้บริหารของเมืองชั้นในได้ เช่นเราสามารถสร้างบัญชีและใช้คลังสินค้าเป็นตัวกลาง เราสามารถจัดเก็บรายการต่างๆ ในบัญชีนี้ซึ่งแสดงว่าเรามีรายการเหล่านี้จริงและเราเป็นผู้อนุมัติรายการต่างๆ”

“เจ้ารอบครอบ ..” ฟางฉีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เราจะเปิดการประมูลเมื่อไร?”

 

“เร็วๆ นี้”

 

 

ฟางฉีค้นพบว่ามันเรื่องปกติที่คนในโลกนี้จะชอบดนตรีคลาสสิกมากกว่าร็อค เพราะเพลงร็อคดูจะเป็นเพลงที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจสำหรับพวกเขา ตัวอย่างเช่นซูเทียนจิที่ชอบเล่นเพลงประจำของเธอ ฟังแล้วชวนพลิ้วไหวตามสายลมในคิวโซน สำหรับซงฉิงเฟิงเองเขาก็มีเพลงประจำตัวเช่นกัน

 

ฟางฉีเคยพยายามที่จะอธิบายเนื้อเพลงของเขาให้คนอื่นฟังในสิ่งที่เขาร้อง เนื่องจากเขาพบว่าตอนที่เขาร้องนั้นก่อนทุกคนเคยเพิกเฉยแต่ตอนนี้บางครั้งกลับกายเป็นถูกหัวเราะเยาะ

 

ตอนนี้ฟางฉีตัดสินใจที่จะไม่พูดเกี่ยวกับเพลงนี้อีก เมื่อใดก็ตามที่เขาจะเล่นเกมไพ่หรือสตีทไฟเตอร์เขาจำต้องดื่มชาและฟังเพลงเพื่อเรียกพลัง นั่นเป็นสาเหตุที่ซงฉิงเฟิงและหลินเซียวเริ่มติดฮัมเพลงนี้ขณะที่เดินไปตามท้องถนน

 

เพลงนี้ติดหูพวกเขาหลังจากที่ฟังมานับครั้งไม่ถ้วนมันมักวนเวียนซ้ำในหัว

 

“ไม่!” หลินเซียวกำลังคัดลอกทักษะของชิกิยามิ, โลริยากะมิเขาตะโกนขณะเรียกพลังภายในเพื่อส่งก้อนหินเล็กๆ ให้ลอยขึ้น

 

.. เวลาเช้าตรู่ ณ ทะเลดวงดาว

 

กลุ่มหนานหัวพร้อมด้วยหลิวหนิงหยุนกำลังเดินเล่นในป่าที่จะนำพาพวกเขาไปสู่สถานที่บ่มเพาะสำหรับผู้สูงอายุ เธออารมณ์ดีและเผลอฮัมเพลงโดยไม่รู้ตัว

 

คำภาษาจีนกวางตุ้งหลุดลอยออกจากปากเธอ เธอมองไปรอบๆ และหน้าแดงเมื่อพบว่าศิษย์น้องบางคนอ้าปากค้างขณะมองมาทางเธอ

 

บ้า! เธอกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ทำไมข้าถึงร้องออกมาได้นะ

(ผู้แปล : คำในภาษาจีนกวางตุ้งบางคำที่แปลมาเป็นจีนกลางจะให้ความหมายต่างกัน ในเรื่องตัวละครร้องเพลงภาษาจีนกวางตุ้งแต่เมื่อแปลเป็นความหมายจีนกลางแล้วจึงดูพิลึกไป)

 

เธอรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของเธอถูกทำลายโดยความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ ที่สำคัญกว่านั้นหลายคนที่ได้ยินมองเธอด้วยแววตาพิลึก ด้วยภาพลักษณ์ที่สั่งสมมาจนถึงวัยสามสิบในตอนนี้ เธอกลับมามีสติและแสดงสีหน้าอันไร้อารมณ์อีกครั้ง เมื่อพบกับคนตรงหน้า ..

 

“อะ อาจารย์ ..”

 

“ดีที่เจ้ายังจำข้าได้!” ผู้หญิงตรงหน้าตอบ “ข้าส่งศิษย์น้องของเจ้าไปหาเจ้าเมื่อวานนี้ แต่เจ้าออกไปก่อน เมื่อวานเจ้าไม่ได้กลับมาจากเมืองครึ่ง ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่ได้เข้าร่วมการฝึกฝนกับฝ่ายแต่กลับเดินทางไปเมืองครึ่งไม่เว้นวัน ข้าพูดถูกมั้ย?”

 

“ใช่ ..” หลิวหนิงหยุนรู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ข้าไปที่นั่นเพื่อ ..”

 

“เพื่อ?” ผู้หญิงตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าบอกข้านะว่าที่เจ้าไปที่นั่นเพื่อเพราะตั้งใจไปฝึกฝนด้วยความขยันขันแข็ง!”

 

หลิวหนิงหยุนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่สามารถปฏิเสธอาจารย์ของเธอและไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเธอไปเมืองครึ่งเพื่อฝึกฝน เธอเองก็คาดเดาไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

“ดี ..” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวต่อ “เจ้าควรจะอยู่และฝึกฝนต่อไป!”

 

เอ่อ ..

 

หลิวหนิงหยุนกำลังเซ เธอกำลังจะเดินทางไปยังคาเฟ่ .. แต่แล้วก็เหมือนฟ้าผ่าลงหัว

 

ข้าควรทำอย่างไรดี!?