โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.377 – ซื้อดอกไม้หยาดน้ำตา

 

อย่างไรก็ตาม ป่านีลไม่เหมือนทะเลทรายทะเลเหนือ ฉินเฟิงไม่กล้าเรียกฮอลเมฆครามออกมา เพราะเดี๋ยวจะถูกอีแร้งโจมตีเหมือนในตอนแรกอีก ต้องไม่ลืมนะว่าความแข็งแกร่งของมันอยู่ในเลเวล C !

 

ฉินเฟิงไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงมุ่งหน้าไปด้วยสองเท้า โชคยังดีที่เขาว่องไว เมื่อรีดเร้นพลังออกมาเต็มที่ ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึง

 

วูซซซ!

 

หวือ หวือ!

 

ไม่ทราบว่าเป็นเสียงใบไม้ถูกัน หรือเสียงของสัตว์ร้ายที่กำลังเคลื่อนไหว ผู้ใช้พลังกลุ่มเล็กๆที่กำลังอยู่ระหว่างพักเดินทางหันขวับไปเพราะคล้ายตระหนักได้ถึงบางสิ่ง

 

“หือ? เมื่อกี้นายเห็นเงาคนผ่านไปรึเปล่า?”

 

“ละเมออะไรของแก เงาคงเงาคนที่ไหนกัน ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”

 

“หยุดเพ้อเจ้อเถอะ รีบๆกินซะที เดี๋ยวพวกเราต้องสู้แล้วนะ”

 

คนกลุ่มนี้ไม่รู้ตัวเลย ว่ามีเงาอยู่จริงๆ และเงาที่ว่าเพิ่งผ่านพวกเขาไป

 

ที่นี่อยู่ใกล้กับสุดเขตแดนของป่านีล ส่งผลให้ทีมที่เจอ จากเลเวล E ก็กลายเป็นเลเวล F ความแข็งแกร่งของพวกเขาอ่อนแอมาก

 

แต่ในกรณีนี้ ย่อมบ่งบอกได้เช่นกัน ว่าตัวเขากำลังเข้าใกล้เมืองรุ่งอรุณแล้ว

 

ไม่นาน ฉินเฟิงก็มองเห็นถนนสายหลัก เพียงมองก็บอกได้ว่าเป็นถนนหลักที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็น่าจะเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยแล้ว

 

ฉินเฟิงวาดมือ สายฟ้าสีเงินถูกปล่อยออกมาทันใด รถศึกขับไปตามถนน ใช้เวลาราวๆ 5 นาที ฉินเฟิงก็เริ่มเห็นโครงร่างของเมืองเล็กๆ

 

ซึ่งเมืองนี้แตกต่างจากเมืองอื่นๆที่เขาเคยพบเจอมา มันเป็นเมืองเล็กที่สวยงามมากจริงๆ

 

ราวกับอยู่ในเทพนิยาย นอกเมืองล้อมรอบไปด้วยคูคลอง กำแพงเมืองถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ ทั้งยังมีเถาวัลย์เลื้อยลดอยู่บนมัน ยังไม่พอ ในเมืองนี้ มีต้นไม้สูงตระหง่านอยู่ต้นหนึ่ง ใหญ่โตถึง 50 เมตร เหนือขึ้นไปบนยอดไม้ ราวกับสามารถแทรกเข้าไปในก้อนเมฆได้ ยังไม่หมด บนกิ่งก้านของมัน มีกระทั่งบ้านหลังเล็กๆ และผู้คนอาศัยอยู่บนนั้น

 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ กลิ่นอายของต้นไม้ใหญ่ เป็นเลเวล C –มันคือต้นไม้กลายพันธุ์

 

ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงทราบอยู่แล้ว ว่าต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ เป็นฝีมือของผู้นำเมืองรุ่งอรุณ มันถูกเร่งปฏิกิริยาโดยผู้ใช้อบิลิตี้ไม้เลเวล C

 

เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำพันธะสัญญากับผู้นำเมือง!

 

รถศึกของฉินเฟิง ขับมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง เนื่องจากรถของเขาหรูหรา ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ผู้คนฝั่งนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน ตัวรถเลยกลายเป็นเป้าสายตา ระหว่างขับผ่าน ได้ยินกระทั่งเสียงผิวปาก

 

ตั้งแต่เข้ามา ผู้คนที่ฉินเฟิงเห็น มักจะเป็นคนสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้า มีบ้างที่ผิวคล้ำ เป็นชาติพันธุ์ที่ต่างจากทางฝั่งตะวันออก

 

ฉินเฟิงหันไปมองรอบๆจากในรถ ไม่นานก็พบเป้าหมายของเขา

 

สิ่งที่ขาดไม่ได้สุดๆในเมืองรุ่งอรุณก็คือร้านขายพืชกลายพันธุ์ หากเป็นในสามเฉิงหรือทะเลเหนือ นี่คงไม่พ้นร้านสมุนไพรวิญญาณ

 

ฉินเฟิงหยุดรถ สายตาของเขาเหลือบมองไปยังพืชที่ถูกเก็บไว้ภายในหน้าต่างกันกระสุน ก่อนจะผลักประตูเดินเข้าไป

 

เสียงกระดิ่งเหนือประตูดังขึ้น ภายในร้าน ชายวัยกลางคนเอี้ยวตัวจากเคาท์เตอร์มองมายังฉินเฟิง

 

“ยินดีต้อนรั– โอ้ ที่แท้ลูกค้าก็เป็นไอ้ลิงเหลืองนี่เอง สนใจอะไรล่ะไอ้หนู? หน้าตานายเหมือนจะยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ”

 

ในน้ำเสียงของชายวัยกลางคนแฝงไว้ซึ่งความดูถูก

 

“ฉันต้องการซื้อดอกไม้หยาดน้ำตา”

 

ฉินเฟิงมิได้เอ่ยปากพูด แต่เลือกปลดปล่อยพลังสมาธิ สื่อสารผ่านจิตสำนึกโดยตรง

 

ต้องรู้นะว่า พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นสิ่งที่พวกสัตว์ร้ายมักจะทำกันเวลาสื่อสารกับพวกต่างเผ่า

 

ใช่ว่าฉินเฟิงจะไม่รู้วิธีพูดภาษาตะวันตก ในชีวิตที่แล้ว ก่อนเขาจะก้าวขึ้นสู่เลเวล A หรือก่อนกลายเป็นราชาแห่งทหารรับจ้าง ฉินเฟิงเคยท่องไปทั่วทุกมุมโลกมาแล้ว

 

แม้ฉินเฟิงในเวลานั้นจะไม่ได้ครอบครองแก่นอบิลิตี้ แต่พลังสมาธิของเขาก็ไม่เลวร้าย ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถเรียนรู้ภาษาต่างถิ่นได้อย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตาม การที่เขาเลือกสื่อสารด้วยวิธีนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะง่ายดาย แต่ยังถือเป็นการแสดงอำนาจข่มอีกฝ่ายอีกด้วย

 

พลังสมาธิอันแข็งกร้าว เล่นเอาชายวัยกลางคนสะดุ้งตกใจ

 

“ขะ .. เข้าใจแล้ว เจ้าหนูหน้าใส นายต้องการหยดน้ำจากดอกไม้หยาดน้ำตาสินะ ต้องการกี่มิลลิลิตรกันล่ะ? เดี๋ยวฉันจะยกขวดบรรจุให้ฟรีๆเลย”

 

ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจาง ชี้ไปยังหน้าต่าง และเอ่ยปากว่า “ไม่ใช่แค่หยด แต่ฉันต้องการเจ้าสิ่งนั้น และจะจ่ายให้ในราคาต้นละ 50 เหรียญพลังงาน”

 

ชายกลางคนผงะตกใจ ได้สติค่อยเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ที่บอกราคาต้นละ หมายความว่ายังไง นายต้องการจะซื้อมันทั้งหมดเลยหรือ?”

 

ในกระจกกันกระสุนของพ่อค้า มีดอกไม้หยาดน้ำตาอยู่มากกว่า 20 กระถาง

 

อันที่จริงนั่นไม่ใช่ของเขา แต่เป็นใครบางคนนำมาฝากขาย เพราะท้ายที่สุดแล้ว ดอกไม้หยาดน้ำตามีค่าดั่งทองคำ ดังนั้นมันเลยต้องอยู่ในกระจกกันกระสุน เพื่อป้องกันคนขโมยไป

 

เพราะไม่มีใครสามารถเฝ้าดูมันได้ตลอดเวลา

 

และหากสามารถขายดอกไม้หยาดน้ำตาได้ในคราวเดียว พ่อค้าย่อมสามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน

 

ฉินเฟิงไม่คิดเอ่ยคำใดอีก เขาพลิกฝ่ามือ ปรากฏถุงกระเป๋าในมือ และโยนมันลงบนเคาท์เตอร์

 

พ่อค้าเร่งหยิบขึ้นมา เปิดดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน –ปรากฏว่าเป็นผลึกพลังงานใสที่มีขนาดหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตร หรือก็คือเหรียญพลังงาน

 

หากเทียบกันในแง่มูลค่า เงินเหรียญของฉินเฟิง จะเท่ากับ 1 : 10,000

 

ฝั่งตะวันตก มักจะชอบซื้อขายกันด้วยพลังงาน เนื่องจากที่นี่มีประชากรน้อย และปัญหาทางด้านภูมิศาสตร์ที่ยากต่อการเดินทางในระยะไกล ดังนั้นไม่สะดวกที่จะติดต่อสื่อสาร พวกเขาไม่เชื่อถือเงินตราบนอุปกรณ์สื่อสาร ยิ่งเป็นเมืองรุ่งอรุณที่เก่าแก่ยาวนานกว่า 100 ปีคงไม่ต้องกล่าวถึง

 

พ่อค้านั่งนับเหรียญพลังงาน เขาพบว่าปริมาณของมันตรงกับราคาซื้อดอกไม้หยาดน้ำตาภายในกระจก

 

พ่อค้าหรี่ตาลงเล็กน้อย เอ่ยปากว่า “ยังจ่ายไม่ครบ ดอกไม้หยาดน้ำตาที่ฉันขาย ราคาต่อต้นคือ 55 เหรียญพลังงาน”

 

เมื่อมีโอกาสแล้ว ก็ขอฟันกำไรหน่อยเถอะ!

 

ฉินเฟิงแสยะยิ้ม พลังสมาธิพลันแปรผันเป็นแรงกดดันมหาศาลทันใด

 

พลังสมาธิระดับจักรพรรดิปะทุออกในฉับพลัน

 

“เชื่อไหม ว่าฉันฆ่าคุณได้ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ?”

 

ใบหน้าของชายวัยกลางคนกลายเป็นซีดเผือด ทั้งร่างทั้งเก้าอี้สั่นเทา ตกอยู่ในความหวาดกลัวจนฉี่รดกางเกง

 

พ่อค้าคนนี้แม้เป็นแค่ผู้ดูแลร้าน แต่ก็ยังมีความแข็งแกร่งถึงเลเวล F ทั้งยังมีคนคอยหนุนหลัง ไม่งั้นคนคงไม่กร่างถึงขนาดนี้

 

แต่ช่างน่าเสียดาย ที่วันนี้เขาดันมาเตะแผ่นเหล็กเข้าอย่างจัง!

 

ฉินเฟิงเห็นได้ชัดว่ามิใช่เป้าหมายที่สามารถรังแก

 

“ยังไม่รีบไปเตรียมของให้ฉันอีก!” ฉินเฟิงเน้นย้ำทีละคำ

 

“อา .. โอ้พระเจ้า! โปรดรอสักครู่”

 

ชายวัยกลางคนผุดลุก สะดุดขาตัวเองล้มกลิ้ง คลานไปถึงกระจกกันกระสุนค่อยยืนขึ้น ไขกุญแจกระจก และมอบดอกไม้หยาดน้ำตาให้แก่ฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงวาดแขนส่งๆ ดอกไม้หยาดน้ำตาทั้งหมดหายวับเข้าไปในสุสานเทพสงครามทันที

 

เขาซื้อทั้ง 20 กระถางในคราวเดียว หากนับเป็นจำนวนเงินคือ 10 ล้านเหรียญ และที่ฉินเฟิงต้องการ มิใช่แค่ 20 กระถาง

 

หากเป็นไปได้ เขาต้องการซื้อทั้งสิ้น 200,00 กระถาง รวมเป็นเงินกว่า 100,000 ล้าน!

 

ก่อนจะเดินทางมา ฉินเฟิงได้แลกเปลี่ยนเงินของเขาเป็นเหรียญพลังงานเรียบร้อยแล้ว

 

ฉินเฟิงเดินออกจากร้านขายพืชกลายพันธุ์ และขับรถจากไป

 

ภายในร้าน พ่อค้าที่หวาดกลัวจนฉี่ราด เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงจากไป ก็เร่งยกอุปกรณ์สื่อสารขึ้นโทรออกทันที

 

“เจ้านาย ฉันเจอแกะอ้วนเข้าให้แล้ว บางทีคุณอาจสนใจก็ได้” ใบหน้าของชายวัยกลางคน ฟุ้งไปด้วยรอยยิ้มน่าหวาดกลัว

 

 

ฉินเฟิงใช้เวลาตลอดทั้งวัน วนไปทั่วเมืองรุ่งอรุณ แต่สุดท้าย ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาหาซื้อดอกไม้หยาดน้ำตามาได้แค่ 1,000 กระถางเท่านั้น ยังไงก็ตาม ระหว่างซื้อขายเขาก็ได้สอบถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์มา

 

ใจความว่า ดอกไม้หยาดน้ำตาเป็นสินค้าพิเศษ มันเคยถูกนำไปเพาะตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว และสถานที่แห่งนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองรุ่งอรุณ

 

ซึ่งน่าจะปลูกร่วมกับพื้นที่ไร่ นอกจากตั้งอยู่ในดินที่เหมาะสม ยังช่วยป้องกันการบุกทำลายพืชพรรณของสัตว์ร้ายได้อีกด้วย