โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.376 – ป่านีลซีกโลกตะวันตก

สภาพแวดล้อมเชิงนิเวศวิทยาทางฝั่งซีกโลกตะวันตกดีกว่ามาก ผืนดินกว้างขวาง มีประชากรบางตา หลังจากยุคโลกาวินาศ พื้นที่รกร้างเหล่านี้ เกือบทั้งหมดเลยแทบจะกลายเป็นทุ่งล่า ทั้งพืชและสัตว์เกิดการกลายพันธุ์

และสถานที่ที่ฉินเฟิงมาเยือน คือป่าดิบชื้นผืนใหญ่ –เรียกกันว่าป่านีล

แน่นอน ป่าแห่งนี้เกิดขึ้นหลังยุคโลกาวินาศ

ฉินเฟิงสำรวจทิศทาง มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก

ก่อนอื่นเขาต้องหา‘เมืองรุ่งอรุณ’ ที่อยู่ใกล้กับป่านีล เมืองนี้คล้ายคลึงกับปราการชาตง มันคือแนวหน้า แต่ไม่ค่อยจะถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตในป่าเท่าไรนัก

ด้วยเหตุนี้เองเมืองรุ่งอรุณจึงตั้งตระหง่าน ยืนหยัดมั่นคงมาเป็นระยะเวลากว่า 100 ปี!

ฉินเฟิงเดินเข้าไปในป่าทึบ เคลื่อนกายอย่างระมัดระวัง พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งมีชีวิตอื่นๆเท่าที่จะทำได้

แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่รกทึบ และสภาวะของพื้นที่ค่อนข้างซับซ้อน มันจะหลีกเลี่ยงโดยไม่พบเจอสิ่งใดได้อย่างไร?

ในตอนนั้นเอง งูสีเขียวเข้มพลันโฉบออกมาจากพงหญ้า โอบรัดสองขาของฉินเฟิง

งูพิษตัวนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร มันยาวกว่า 3 เมตร ลำตัวกว้างสุดเทียบได้กับขนาดฝ่ามือ หากพงหญ้าไม่รกทึบพอ ย่อมไม่มีทางบดบังตัวมันได้

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่งูพิษเลเวล F เท่านั้น

ฉินเฟิงยกมือข้างหนึ่งขึ้น จิ้มหนึ่งนิ้วลงบนหัวงูและฉัวะ! แทงทะลุเข้าไปในกะโหลกของมันทันที

งูพิษคลายตัวจากขาเขา ร่วงลงกับพื้น ดิ้นสะบัดๆสองสามครั้ง สุดท้ายแน่นิ่งไป

สิ่งมีชีวิตดังกล่าว หากคิดว่าสร้างความรำคาญให้แก่ฉินเฟิง ที่รอมันอยู่มีเพียงความตาย!

ฉินเฟิงเริ่มมุ่งหน้าต่อไป ระหว่างทาง เขาสังหารสัตว์ร้ายและพวกเผ่าแมลงโดยไม่เหลียวมองสักนิด

แต่ในตอนนั้นเอง หัวใจของฉินเฟิงพลันกระตุกไหว เขาก้มมองลงไป

และค้นพบว่าใต้ฝ่าเท้า บนดินที่ค่อนข้างชื้น เหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ มันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ

และกลิ่นนี้ หากได้สูดดมเพียงครั้ง ก็จะไม่มีวันลืมเลือน

แนวสายตาของฉินเฟิงกวาดไปรอบๆ ไม่นานก็พบกับต้นอ่อนของพืชชนิดหนึ่งอย่างรวดเร็ว พืชชนิดนี้ดูเหมือนดอกทานตะวันมาก แต่ใจกลางของมันเป็นสีฟ้าอ่อน กลีบดอกมีสีเขียว ทั้งต้นมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าฝ่ามือ

“ดอกไม้หยาดน้ำตา!”

ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจาง

การที่เขาตั้งใจมาที่นี่ในครั้งนี้ แน่นอนก็เพื่อพืชชนิดพิเศษเบื้องหน้า

สำหรับผู้ใช้พลังคนอื่นๆในเลเวล D ไม่ต้องกล่าวถึงซีกโลกตะวันตก ต่อให้เป็นกลุ่มหวันซ่ง ก็เกรงว่าจะไม่มีทางเก็บรวบรวมดอกไม้ชนิดนี้ได้

แต่สำหรับฉินเฟิง มันไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

ฉินเฟิงดึงมีดสั้นเลเวล F ธรรมดาๆออกมา ตัดต้นอ่อนเป็นแนวขวาง ต้นอ่อนสั่นไหวอย่างรุนแรง พยายามดิ้นรนขัดขืน

–เคลื่อนไหวได้เช่นนี้ บ่งบอกชัดเจนว่ามันเป็นพืชกลายพันธุ์

ยังไงก็ตาม ความแข็งแกร่งของต้นอ่อนต่ำเกินไป แค่เพียงเลเวล G2 เท่านั้น แม้กิ่งไม้ฟาดเข้าใส่แขนของฉินเฟิงไม่ยั้ง แต่เขาก็ไม่รู้สึกใดๆ

ต้นอ่อนถูกตัดออก ฉินเฟิงขุดดอกไม้หยาดน้ำตาขึ้นมา

ตามลำต้นดูเหมือนจะมีรอยด่างนิดหน่อย  บ่งบอกว่าตลอดมาแสงแดดสาดทอลงบนมันเพียงเล็กน้อย ฉินเฟิงยกดอกไม้หยาดน้ำตาขึ้น ให้แดดส่องลงบนดอกไม้โดยตรง ทันใดนั้นเอง ตรงสีฟ้าอ่อนใจกลางลำต้นปรากฏรูขึ้น ต่อมา หยดน้ำใสๆก็ไหลย้อยลงจากเบื้องบน

นี่เองคือที่มาของชื่อเรียกดอกไม้หยาดน้ำตา

กระบวนการของมันแปลกประหลาดมาก เมื่อโดนแสงแดด ก็จะปล่อยหยดน้ำออกมา และตราบใดที่มันโดนแสงแดด หยาดน้ำก็จะยังคงไหล ไม่มีวันเหือดแห้ง

แน่นอน หยดน้ำที่ว่านี้มิใช่น้ำธรรมดา มันมีคุณสมบัติช่วยในการขับไล่สัตว์ร้ายได้

ทว่าคุณสมบัตินี้ไม่ค่อยมีผลนักในป่าดิบชื้น

อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการขับไล่สัตว์ร้ายก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คน หากน้ำจากดอกไม้ลงบนร่างกาย มันจะช่วยรับประกันความปลอดภัยของชีวิตตนได้

นี่คือเหตุผลที่ดอกไม้หยาดน้ำตามีราคาแพง

ดอกไม้เล็กๆดังกล่าว เพียงต้นเดียวก็มีมูลค่าถึงครึ่งล้าน!

ระหว่างที่ฉินเฟิงกำลังก้มลงมองดอกไม้ ทันใดนั้นเองเสียง ‘ปัง’ ก็สะท้อนเข้ามาในหูเขา

ภายใต้พลังการรับรู้ที่แข็งแกร่งของฉินเฟิง พบว่ากระสุนนัดหนึ่งกำลังพุ่งเข้าหาตนอย่างรวดเร็ว –เป็นกระสุนแรงสูงจากปืนไรเฟิล

กระสุนพุ่งผ่านแมกไม้นับไม่ถ้วน เป้าหมายของมันคือกลางหน้าผากของฉินเฟิง

ฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กระสุนที่หมายจะเจาะผ่านศีรษะเขา หยุดนิ่งไปทันที

“สะท้อนกลับ!”

พลังสมาธิเข้าควบคุม กระสุนเรียวของไรเฟิลเด้งกลับทันใด อีกทั้งความเร็วของมัน เหมือนจะไวยิ่งกว่าขามาซะด้วยซ้ำ

เพียงพริบตาเดียว กระสุนพุ่งแหวกอากาศไปกว่า 500 เมตร ทะลุเข้าใส่ร่างมือปืนที่ซุ่มยิงอยู่บนต้นไม้ใหญ่

ชายคนนั้นเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ความผันผวนของจิตสำนึกในร่างกายค่อยๆสลายไป ใช่ว่าเขาไม่คิดจะตอบโต้ แต่พลังสมาธิของเขาอ่อนแอเกินไป มิอาจจับความเร็วขนาดนั้นจากกระสุนได้

–เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นแค่มือปืนเลเวล E

ร่างใหญ่ร่วงหงายลงไปข้างหลัง ตกลงจากต้นไม้

อีกคนที่กำลังซุ่มโจมตีอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลฉินเฟิง ตะลึงงันไปเล็กน้อย

วินาทีถัดมา ฉินเฟิงก็เริ่มเคลื่อนไหว

เริ่มจากเร้นกายด้วยซ่อนเงา อีกพริบตาหนึ่งไปปรากกฏกายเบื้องหลังผู้ใช้วรยุทธโบราณทันที

แน่นอน ทางแผ่นดินใหญ่ตะวันตก ไม่นิยมใช้คำเรียกว่าผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่มักเรียกกันว่า ผู้ใช้ทักษะทางกายภาพ

และช่างน่าสงสารไม่แตกต่างไปจากมือปืนคนเมื่อครู่ ความแข็งแกร่งของผู้ใช้ทักษะทางกายภาพคนนี้ สำหรับฉินเฟิงมันอ่อนแอเกินไป!

ฉินเฟิงยกเท้าขึ้น ถีบโด่งอีกฝ่ายจากเบื้องหลัง

และแรงถีบนี้ ใช้พละกำลังแค่ 1/10 ส่วนเท่านั้น

ยังไงก็ตาม ผู้ใช้ทักษะทางกายภาพคนนี้ ดั่งถูกโยนขึ้นไปนั่งบนรถไฟเหาะ พริบตาเดียวปลิวไปเบื้องหน้า กระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ดังตูม!

ผู้ใชัทักษะทางกายภาพฝั่งตะวันตก มักจะเน้นการเสริมสร้างร่างกาย ผิวหนังหนาเนื้อหยาบ ตรงส่วนนี้แทบจะเหมือนกับผู้ใช้วรยุทธโบราณ ทว่าร่างกายของพวกเขาสูงใหญ่ ยากนักที่จะหาคนสูงต่ำกว่า 2 เมตร

ด้วยเหตุนี้คนที่ถูกฉินเฟิงยันออกไป ทั้งคนทั้งร่างของเขาจึงดูราวกับกระสุนมนุษย์ขนาดย่อม

โครม!

ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ในเวลาเดียวกัน ร่างของผู้ใช้ทักษะกายภาพก็งองุ้ม คล้ายหักเป็นสองท่อน

แรกเริ่ม กระดูกสันหลังของเขาถูกทำลายจากการถีบของฉินเฟิง กำลังภายในรุกล้ำเข้าไปยังอวัยวะภายในทั้งห้า บ่อนทำลายเส้นเลือดและหัวใจของเขาจนป่นปี้

ร่วงหล่นลงสู่ความตายไปอีกคน!

“ลูกพี่ ให้ฉันจัดการเอง!”  เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของหญิงคนหนึ่งดังขึ้น ตามมาติดๆด้วยเปลวไฟที่ลุกโชน

“คิดใช้ไฟเล่นกับฉันอย่างงั้นหรอ?” ฉินเฟิงเยาะหยัน วาดมือออก เปลวเพลิงปะทุโหมทันใด

รูนไฟถูกระดมเร่งเร้า เปลวเพลิงนี้ทรงพลังยิ่งกว่ามาก ทั้งยังผันผวนรุนแรง

สองเปลวเพลิงก็ปะทะเข้าใส่กัน ในชั่วพริบตาเดียว เป็นฝั่งฉินเฟิงที่โถมกลืนอีกฝ่ายไป

ไฟอันร้อนแรงท่วมทับหญิงตะวันตกทันใด กลืนทั้งคนทั้งร่างของเธอ

“กรี๊ดดดด!”

เสียงหวัดแหลมด้วยความหวาดกลัวสะท้อนไปทั้งป่า เฝ้ารอจนกระทั่งเปลวไฟสลายไป ซากศพไหม้เกรียมที่ยังหลงเหลือก็ปรากฏสู่สายตา

เป็นผู้ใช้อบิลิตี้ไฟ แต่ดันต้องตกตายลงด้วยเปลวเพลิง ช่างเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสลดเสียจริง

ในเวลานั้นเอง ภายใต้การรับรู้ของฉินเฟิง ยังเหลืออีกสองคนอยู่ที่นี่ แต่ ณ จุดนี้ทั้งคู่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัว ทำได้เพียงหุบปากเงียบ และค่อยๆย่องถอยหลังไปทีละก้าวอย่างระแวดระวัง

ด้วยพลังสมาธิของฉินเฟิง ‘เห็น’ ว่าหนึ่งในนั้นกำลังยื่นมือแตะไหล่ซ้ายตน ลากมาทางขวา ยกขึ้นไปแตะหน้าผาก และเลื่อนลงมาแตะอีกครั้งตรงอก –วาดมือเป็นรูปไม้กางเขน คล้ายกำลังวิงวอนต่อพระเจ้า

แต่ช่างน่าสงสาร เพราะเวลานี้ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้  ตั้งแต่ที่พวกเขาตั้งใจลอบโจมตีฉินเฟิง ก็ควรจะเตรียมใจถึงจุดจบของตัวเองแล้ว

พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกเร่งเร้าทันใด

“เสาแมกมา!”

ด้วยการขับเคลื่อนเพียงเล็กน้อยของพลังสมาธิ ทั้งสองไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น พื้นใต้เท้าของพวกเขาจู่ๆก็กลายเป็นเพลิงหนืด  ปะทุจากเบื้องล่างเข้าห่อหุ้มทันใด กักขังพวกเขาจมอยู่ใต้ลาวาอันร้อนแรง ด้วยอุณหภูมิสูง ร่างก็พลันถูกย่างจนสุก แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีเทาดำทันใด

ฉินเฟิงวาดมือ ถุงผ้าของคนเหล่านั้นลอยมาตกในมือของฉินเฟิง

นี่น่าจะเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แตกต่างกัน อุปกรณ์รูนมิติทางฝั่งตะวันตก มันจะอยู่ในรูปแบบของกระเป๋า

จากนั้น ฉินเฟิงก็เดินไปข้างๆผู้ใช้พลังที่ถูกเขาถีบจนตาย หยิบอุปกรณ์สื่อสารของอีกฝ่ายขึ้นมา

ฉินเฟิงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสาร และได้รับแผนที่อย่างรวดเร็ว

ปรากฏว่าระยะทางสู่เมืองรุ่งอรุณ อยู่ไม่ไกลจากที่นี่จริงๆ