บทที่ 257 ฆ่าหรือไม่ฆ่า

The king of War

นักฆ่าดูเหมือนว่าอายุประมาณสี่สิบปี สวมชุดสีดำพรางดำ สายตาเหี้ยมโหดอย่างยิ่ง

อาจเป็นเพราะอยากจะดิ้นหลุดออกจากเชือกที่ผูกบนข้อมือ สภาพข้อมือของเขาจึงเสียหายจนจำไม่ได้แล้ว

เห็นหยางเฉินและลั่วปิงเดินเข้ามา ในดวงตาของนักฆ่าดุจเหยี่ยวเต็มไปด้วยสีแดงเลือด “ฉันขอเตือนพวกแก ดีที่สุดปล่อยฉันไปซะ ไม่อย่างนั้นพวกแกจะต้องเสียใจแน่!”

หยางเฉินเดินเข้ามาแล้ว มองนักฆ่าจากจุดที่อยู่สูงกว่าลงมา “บอกฉันมา ใครให้แกไปฆ่าเฉินอิงจวิ้น?”

เมื่อคืนนี้ ตอนอยู่ที่ภูเขาห้าธาตุเจอกับทายาทแห่งมีดทรราช หยางเฉินจึงเกิดความคิดอาฆาตแค้นต่อเฉินอิงจวิ้นขึ้นมาแล้ว เดิมทีจะให้เฉียนเปียวไปลงมือ ผลปรากฏว่ามีคนแย่งฆ่าเฉินอิงจวิ้นไปก่อนก้าวหนึ่ง

ตอนนั้นหยางเฉินรู้สึกว่าเรื่องนี้มีกลิ่นตุๆ เดิมแค่จะนำมือสังหารคนนี้มาควบคุมเอาไว้ ถือโอกาสตรวจสอบดูหน่อยว่าเป็นใครที่อยากฆ่าเฉินอิงจวิ้น

เพราะตระกูลเฉินและตระกูลซูอยากจะแต่งงานเกี่ยวดองกัน จึงมีคนไม่ยินยอมเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ดังนั้นขอเพียงค้นหาคนที่อยากฆ่าเฉินอิงจวิ้นเจอ ก็สามารถรู้ได้ว่าเป็นใครที่อยากจะฆ่าซูซาน

จนกระทั่งวันนี้ เฉินซิงไห่พาคนมาแก้แค้นด้วยตนเอง ถึงทำให้เขาสำนึกได้ว่าเรื่องราวนี้ไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้น

“ฉันจะไม่บอกแกหรอก!”

นักฆ่ากล่าวอย่างเย็นชา ในสายตาไม่มีความหวาดกลัวสักนิดเดียว

หยางเฉินหัวเราะเยาะเย้ย “คิดจริงเหรอว่าแกไม่พูด ฉันจะหาไม่ได้?”

ความจริงในใจของหยางเฉินพอจะคาดเดาได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ความจริงออกมาเท่านั้นเอง

“เป็นตระกูลหยวนแห่งเมืองโจวเฉิง คนที่ชื่อหยวนมู่!”

หยางเฉินเอ่ยปากขึ้นมากะทันหัน

ในสายตาที่หนาวเย็นของนักฆ่านั้น มีแววตาที่ตกใจแวบผ่านนิดๆ แล้วมลายหายไป

ทว่าแค่ความไม่มั่นคงของอารมณ์เพียงเสี้ยวหนึ่งนั้นเอง กลับถูกหยางเฉินจับไว้ทันแล้ว และพิสูจน์ความจริงที่เขาคาดเดาเอาไว้

“คนคนนั้นที่แกพูดถึง ฉันไม่รู้จัก!” นักฆ่าตอบอย่างเฉยชา

“ไม่ว่าแกจะยอมรับหรือไม่ ไม่เป็นอะไร!”

พูดจบ หยางเฉินพูดกำชับกับลั่วปิง “เอาคนไปจัดการ!”

“ครับ!”

ลั่วปิงรีบพยักหน้ารับ ในใจกลับรู้สึกตื่นตกใจอย่างยิ่ง

หยางเฉินเพียงแค่ถามคำถามเดียวกับนักฆ่า และบอกการคาดเดาของตนเองออกมา ส่วนนักฆ่ายังไม่ได้ตอบหยางเฉินเลย แต่เหมือนว่าเขาจะรู้ความจริงแล้ว

จนกระทั่งบอดี้การ์ดข้างกายของลั่วปิงเดินไปยังนักฆ่า นักฆ่าถึงสำนึกได้ว่าหยางเฉินไม่ได้กำลังพูดเล่น แต่ว่าอยากเอาชีวิตของเขาจริงๆ

ชั่วพริบตาเดียวก็สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ พูดอย่างตกใจโกรธ “แกฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉันคือคนของสมาคมบูโด ถ้าเกิดฉันตายไป สมาคมบูโดจะไม่ยอมเลิกรา จนกว่าจะฆ่าแกทิ้งได้!”

ได้ยินสมาคมบูโดชื่อนี้ ลั่วปิงสีหน้าเปลี่ยนไปมาก

ว่ากันว่าภายในสมาคมบูโดมีผู้แข็งแกร่งมากมาย ในนั้นยังมียอดฝีมือที่เกรียงไกรขั้นสุดไม่น้อยเลย

จุดหนึ่งที่สำคัญสุด องค์กรแห่งนี้ชอบปกป้องคนของตนอย่างมาก ถ้าเกิดคนของพวกเขาถูกฆ่า ย่อมต้องค้นหาแบบทุ่มเทสุดกำลังจนหานักคนร้ายเจอแน่ และจู่โจมสังหาร

“ท่านประธานครับ ท่านว่า……”

คำพูดของลั่วปิงยังไม่ทันจบ กลับถูกหยางเฉินขัดจังหวะ “ฆ่า!”

“ครับ!”

ลั่วปิงไม่กล้าพูดมากอีกสักประโยคเดียว รีบส่งสายตาไปให้บอดี้การ์ดทันที

“อย่าฆ่าฉัน ฉันพูดแล้ว! แกอยากจะรู้อะไร ฉันจะบอกแกทั้งหมด! คือคนหนุ่มที่ชื่อหยวนมู่ ให้ฉันมาห้าล้าน ให้ฉันฆ่าคนคนหนึ่งทิ้ง ฉันถึงได้ลงมือ”

ชั่วขณะนั้นมือสังหารตกใจยกใหญ่จนสีหน้าเปลี่ยน ดวงตาแดงก่ำตะโกนขึ้นมา

ตอนที่บอดี้การ์ดของลั่วปิงกำลังลังเลว่าจะฆ่าหรือไม่ฆ่าดี ทันใดนั้นมีแสงเงินแวววาวแวบผ่านไปฉับพลัน

“ฟึ่บ!”

มีดที่คมกริบแวบไป จ้วงเข้าหัวใจของมือสังหารอย่างลึก เขาเบิกดวงตากลมโต จ้องที่หน้าอกตาไม่กะพริบ มีดที่แทงมานั้น ก็คือมีดที่เขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วน

ลั่วปิงและบอดี้การ์ดต่างตกใจค้างกันหมด เห็นเพียงมีดเล่มนั้นที่เมื่อสักครู่หยางเฉินเอามาเล่นในมือ ตอนนี้กลับไม่เห็นแล้ว

เมื่อสักครู่หยางเฉินขว้างมีดเข้าไปอย่างไรกัน แม้กระทั่งพวกเขายังไม่มีใครมองเห็นเลย มือสังหารของสมาคมบูโดคนนั้นก็ตายเสียแล้ว

“แค่นักฆ่าของสมาคมบูโดคนหนึ่ง ต่อให้เป็นหัวหน้าสมาคมของพวกเขามาแล้ว ขอเพียงเขากล้าก่อกรรมทำเข็ญ ฉันก็จะฆ่าแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”

หยางเฉินเอามือไพล่หลัง พูดด้วยท่าทางทระนงองอาจ

ลั่วปิงและบอดี้การ์ดมีความรู้สึกที่อยากจะก้มลงกราบ หยางเฉินในเวลานี้มีพลังอำนาจโดดเด่นที่สุด เป็นธรรมไปทั้งหมด ไม่เห็นสมาคมบูโดอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย

สมาคมบูโดนั้น เปิดตามองดูทั้งจิ่วโจว เป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรและลึกลับอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง สาขาของพวกเขายิ่งกระจายไปทั่วโลก

ที่เยนตูมีคำพูดหนึ่งที่แพร่หลายไปทั่ว: ยินยอมผิดใจแปดตระกูลแห่งเยนตู แต่ไม่สามารถล่วงเกินสมาคมบูโด

แค่คิดก็รู้แล้วว่าสมาคมบูโดอยู่ที่จิ่วโจว มีตำแหน่งอย่างไรกัน

“นึกไม่ถึงว่าตระกูลหยวนจะแอบทำบ้าบออยู่ลับหลัง ถ้าไม่อย่างนั้นให้ผมพาคนไปที่ตระกูลหยวนตอนนี้เลย ไปหาหยวนซื่อหวู่ผู้นำของตระกูลหยวน ให้คำอธิบายมา?” ลั่วปิงถามด้วยความระมัดระวัง

“ยังไม่ต้องแตะต้องตระกูลเฉิน สำหรับตระกูลหยวน ก็ไม่ต้องสนใจ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

หลังหยางเฉินสั่งการไปพักครู่หนึ่ง จึงเอ่ยปากบอกว่า “ตามฉันไปตระกูลเฉินสักเที่ยว!”

ทันทีที่พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกไป

ลั่วปิงตะลึงแวบหนึ่งถึงได้สติกลับมา รีบตามเข้าไปทันที

ในขณะเดียวกัน ที่ตระกูลเฉิน

คนของตระกูลเฉินยังไม่กระจ่างต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ รู้เพียงว่าเฉินซิงไห่พาคนไปหาหยางเฉินด้วยตนเอง อยากจะชำระแค้นแทนเฉินอิงจวิ้น

ในเวลานี้เอง เฉินซิงไห่พาคนกลับมาแล้ว

“พ่อคะ ล้างแค้นให้เสี่ยวจวิ้นแล้วเหรอคะ? มีท่านออกหน้า จะต้องเป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกคนแน่เลยใช่ไหมคะ?”

ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งรีบเข้ามาทันที ดวงตาแดงก่ำ ถามแบบหน้าตารอคอย

เฉินอิงจวิ้นเป็นลูกชายของเธอ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ เธอร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งหมดแล้ว

“นี่ยังต้องพูดอีกเหรอ? ผู้นำออกหน้าด้วยตัวเอง จะให้คนร้ายลอยนวลได้ที่ไหน?”

คนอื่นๆ ต่างทำหน้าตารอคอย

โดยเฉพาะตระกูลเฉินเป็นตระกูลใหญ่ชั้นนำของเมืองโจวเฉิง กลับโดนคนฆ่าที่เมืองโจวเฉิงเข้าแล้ว สำหรับตระกูลเฉินนั้น เรื่องนี้คือความอัปยศอดสู

มีเพียงให้คนที่สังหารเฉินอิงจวิ้นได้รับโทษแบบเดียวกัน ถึงจะสามารถลบล้างความอัปยศอดสูนี้ได้

เดิมทีเฉินซิงไห่อารมณ์แย่มากอยู่แล้ว เวลานี้ถูกคนทั้งตระกูลมารุมถาม ชั่วขณะนั้นจึงระเบิดความโกรธออกมา “ไสหัวไปให้หมด!”

พูดจบ เขาก็กลับไปยังห้องของตนเองอย่างโมโหเดือดดาล

“หรือว่าไอ้หนุ่มคนนั้นยังมีชีวิตอยู่?”

คนของตระกูลเฉินสัมผัสได้ถึงอะไรเข้าแล้ว แต่ละคนสีหน้าดูแย่กันมาก

“พ่อครับ ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี? หรือว่าต้องขอร้องเจ้าหมอนั่นให้ยกโทษจริงๆ เหรอครับ?”

ในคฤหาสน์ของเฉินซิงไห่ ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ถามแบบท่าทางไม่ยินยอม

เขาคือเฉินเห้าบิดาของเฉินอิงจวิ้น เวลานี้หน้าตาดูโกรธแค้น

ในสายตาของเฉินซิงไห่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้นที่รุนแรง พูดจาอย่างฉุนเฉียว “ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนั้นไม่ยอมเจอพวกเรา อยากจะได้รับการอภัยของเขา เดิมทีเป็นไปไม่ได้!”

“งั้นทำอย่างไรดีครับ? หานเซี่ยวเทียนต้องไม่ปล่อยพวกเราไปแน่นอน หรือว่าตระกูลเฉินจะสูญสิ้นลงแล้วจริงๆ เหรอครับ?” เฉินเห้าเงยหน้าตะโกนเสียงดัง

“ตึง!”

ในเวลานี้ มีเสียงเครื่องยนต์คำรามสนั่นดังขึ้นมากะทันหันจากด้านนอก

เฉินซิงไห่และเฉินเห้าสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ในขณะนั้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ปึง!”

ประตูห้องโดนเปิดฉับพลัน ภาพคนสีดำลอยเข้ามาโดยตรง ร่วงอยู่แทบเท้าของเฉินซิงไห่อย่างแรง

ตอนที่เขามองเห็นว่านั่นคือศพคนตาย หน้าตาก็เต็มไปด้วยความตกใจกลัว

“ผู้นำเฉิน ของขวัญชิ้นใหญ่นี้ พอใจหรือยัง?”

เสียงของหยางเฉินดังขึ้นทันใด เห็นเพียงเขาก้าวเท้าเข้ามา ด้านหลังยังมีลั่วปิงตามมาด้วย

“นายเองเหรอ!”

ลูกตาของเฉินซิงไห่หดตัว เขานึกไม่ถึงว่าหยางเฉินจะมาที่ตระกูลเฉินด้วยตนเอง

ประเด็นสำคัญคือเขาพาแค่ลั่วปิงมา คาดไม่ถึงว่าแม้แต่บอดี้การ์ดสักคนยังไม่พามา

การเคลื่อนไหวทางนี้ ไม่นานก็ดึงดูดยอดฝีมือของตระกูลเฉินกลุ่มใหญ่มากันแล้ว ชั่วขณะนั้นล้อมรอบหยางเฉินและลั่วปิงเอาไว้