เฉินช่าวเย่ตกใจอย่างมากเพราะชื่อ ชูยุนเทียน มันทำให้เขานึกถึงชื่อ ชูฮัน ขึ้นมาทันที การเชื่อมต่อที่เห็นได้ชัดทำให้เฉินช่าวเย่นึกถึงพ่อแม่ของชูฮันขึ้นมาทันที เขารู้ว่าชูฮันตามหาพ่อแม่มาตลอดและยังคงไม่พบหลังจากตัดสินใจมาซางจิง เฉินช่าวเย่เองก็ไม่กล้าถามถึง แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นการแสดงออกที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์มากล้น มันก็ชัดเจนเลยว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของชูฮันอย่างแน่นอน
แต่ Mensa?
มันคืออะไรกัน?
ความลับของ Mensa คือไม่แค่เพียงสมาชิกในองค์กรจะเป็นคนระดับต้นๆของจีนเท่านั้น มันยังมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับ Mensa แม้แต่เฉินช่าวเย่ที่ตอนนี้มีตำแหน่งสูงในกองทัพก็ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้เลย ตอนนี้หัวของเฉินช่าวเย่ว่างเปล่า เขาไม่รู้จริงๆว่า Mensa คืออะไรและไม่เข้าใจด้วยว่ามันเป็นอะไร
หลิวยู่ติวแตกต่างจากเฉินช่าวเย่อย่างสิ้นเชิง หัวใจของหลิวยู่ติงเต้นระรัวพลางชี้นิ้วไปที่ชื่อบนเอกสาร “ชูฮัน นี้มัน? ชูยุนเทียน นี่มันชื่อพ่อนายไม่ใช่เหรอ?”
แม้ว่าหลิวยู่ติงจะไม่รู้ว่า Mensa คืออะไร แต่เขาก็รู้อะไรมากกว่าเฉินช่าวเย่ ชูยุนเทียนต้องเป็นชื่อของพ่อชูฮันแน่ๆแต่ที่เขาไม่แน่ใจและตกใจมากก็คือ…
ทำไมชื่อพ่อชูฮันถึงมาอยู่ในรายงานภารกิจของทีมหลงยา?
แม้โลกาวินาศจะปะทุและการก่อตั้งที่เคยทำไว้ในยุคศิวิไลซ์หลายอย่างจะสลายหายไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากทีมหลงยายังคงเป็นทีมอันดับหนึ่งของจีนเหมือนเดิม ถึงแม้ในตอนนี้วิวัฒนาการและพรสวรรค์ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ทว่าสมาชิกของทีมหลงยาก็ยังคงเป็นที่น่าเกรงขามและหวาดกลัวเหมือนเดิม พวกเขามีพละกำลังในการต่อสู้มากที่สุดในจีน
ในยุคโลกาวินาศ ภารกิจของทีมหลงยาจะเรียกได้ว่ายากลำบากมากหรือสำคัญอย่างยิ่ง มันมีความสำคัญมากจนถึงขนาดอาจส่งผลกระทบต่อทั้งจีนได้!
และชูยุนเทียน?
ภารกิจของช่วยชีวิตชูยุนเทียนคือภารกิจที่ 5 ดังนั้นความสำคัญของภารกิจจึงเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด
ทว่า…
ชูยุนเทียนเป็นชื่อของพ่อชูฮัน จีนมีจำนวนประชากรขนาดใหญ่มาก หลายคนมีทั้งชื่อและนามสกุลซ้ำกัน หลิวยู่ติงมองเอกสารในมือชูฮันที่บ่งบอกถึงความสำคัญของภารกิจนี้
เพราะฉะนั้นชูยุนเทียนที่ทีมหลงยาปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตจะต้องเป็นพ่อของชูฮันแน่ๆ!
อย่างไรก็ตาม หลิวยู่ติงก็สงสัยมากเช่นกัน เขาและชูฮันโตขึ้นมาด้วยกันและเขาก็รู้สถานการณ์ครอบครัวของชูฮันดี พ่อแม่ของชูฮันเป็นคนใช้แรงงานธรรมดาทั่วไป พวกเขาเป็นคนธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ เป็นไปได้ยังไงที่ทีมหลงถึงกับต้องทำภารกิจช่วยชีวิตพ่อแม่ชูฮัน?
แล้วนี่มันองค์กรอะไรที่ชื่อว่า Mensa?
ไหนจะค่า IQ เป็นอันดับที่ 10…นี่มันหมายความว่าอะไร? มันมีการทดสอบทางปัญญาสำหรับองค์กรนี้ด้วยเหรอ?
เฉินช่าวเย่และหลิวยู่ติงทั้งตกใจและเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะนั้นชูฮันก็ไล่สายตาอ่านเนื้อหาทั้งหน้ากระดาษ ซึ่งมันค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะมากเกี่ยวกับขั้นตอนการช่วยเหลือและการเตรียมการต่างๆหลังจากการช่วยเหลือ
พรึบ!
ชูฮันปิดรายงานในมือ สายตาเต็มไปด้วยความจริงจัง ตั้งแต่เกิดการปะทุขึ้นเขาไม่เคยได้ยินข่าวพ่อแม่เขาเลย แต่เนื้อหาในรายงานนี้แสดงให้เห็นว่าตอนนี้พ่อของเขาอยู่ที่หนานตู้!
ความสงสัยมากมายที่ไม่มีคำตอบฉายชัดบนสีหน้าของชูฮัน ทุกอย่างมันยิ่งสับสนขึ้นไปอีกสำหรับชูฮัน หลายๆจุดที่ดูกำกวมในอดีตเริ่มจะชัดเจนขึ้น
อำนาจของซางจิงยังไม่หนักแน่น ไม่ว่าจะทั้งทีมฮูหยาหรือหลงยาไม่ได้อยู่ข้างฝั่งอำนาจไหนเลย ถึงแม้ว่าคำสั่งปฏิบัติภารกิจจะมาจากผู้บัญชาการสูงสุดทว่านั่นเป็นผลสรุปจากการปรึกษาหารือของกลุ่มนายทหารชั้นสูง เช่นเดียวกับภารกิจช่วยเหลือพ่อของเขา ถ้าก่อนหน้านี้ชูฮันวิ่งไปถามสมาชิกของทีมหลงยาหรือผู้บัญชาการมู๋ ทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผยออกมาหมด โดยเฉพาะเมื่อหลังจากได้เห็นเนื้อหาในรายงานนี้ชูฮันก็ยิ่งกลัวขึ้นไปอีก ต้องขอบคุณหวังไคที่เข้าไปขโมยข้อมูลนี้มาให้เขาได้ก่อน
ในตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเขาคือชูยุนเทืยน และไม่มีใครรู้ว่าพ่อของเขามีลูกเป็นพลเอก
เขายังมีเวลา!
แต่เมื่อนั้นเอง…
จู่ๆชูฮันก็รีบมองไปที่เนื้อหาของภารกิจในรายงาน ที่ซึ่งมีข้อมูลส่วนตัวของพ่อเขาอยู่ เนื้อหามันไม่เยอะมากแต่มันมีคำพูดหลักๆที่ทำให้ชูฮันสนใจ
“สมาชิกหลัก…อันดับ 10”
เพราะงั้นมัน…
ชูฮันนึกบางอย่างออก…หวังไคเป็นฝ่ายที่ไปขโมยสำเนารายงานภารกิจของทีมหลงยามา ถึงแม้มันจะไม่มีการจัดอันดับอย่างเป็นทางการ แต่มันก็เป็นที่รู้กันดีว่าทีมหลงยาคืออันดับหนึ่งและฮูหยาคืออันดับสอง
ในตอนนั้นที่ชูฮันรีบเข้าไปช่วยแม่เขาออกมา เขาก็รู้แล้วว่าพ่อของเขาถูกทีมหลงยาพาตัวออกไปและในตอนนั้นทีมหลงยาก็ใช้สมาชิกที่แกร่งที่สุดถึงสามคนเพื่อปฏิบัติภารกิจ ทว่าภารกิจช่วยเหลือแม่เขากลับเป็นหน้าที่ของทีมฮูหยาและใช้เจ้าหน้าที่เพียงแค่สองคนเท่านั้น และสมาชิกคนหนึ่งของฮูหยาก็ตายก่อนที่ภารกิจจะเริ่มขึ้นเสียอีก ส่วนเจ้าหน้าอีกหนึ่งคนที่เหลือก็คือติงซือเย้านั้นเอง และติงซือเย้าก็ไม่รู้รายละเอียดเฉพาะของแม่เขาเนื่องจากอำนาจที่มีอย่างจำกัด
แม่ของเขาก็เป็นสมาชิกของ Mensa เหมือนกันแต่การปฏิบัติและความสนใจที่ได้รับกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชูฮันยังคงหาสาเหตุของเรื่องนี้ไม่พบจนกระทั่งวันนี้
พ่อของเขาเป็นคนที่มีอำนาจจริงๆ แม้แต่ใน Mensa ที่รวบรวมสมาชิกระดับอัจฉริยะ พ่อของเขายังมีค่า IQ อยู่อันดับที่ 10 แถมยังเป็นถึงสมาชิกหลักขององค์กรด้วย
“หึ!”
ในไม่ช้าชูฮันก็เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา พ่อแม่ที่ดูธรรมดาของเขา เขาไม่คิดเลยว่าพวกท่านจะซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ไว้
หลังจากได้อ่านรายงานภารกิจของทีมหลงยาเสร็จ ชูฮันก็หยิบเอกสารที่วางซ้อนไว้ข้างหลังอีกชิ้นขึ้นมาดู นอกเหนือจากข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของฟางเฉิงและภารกิจของทีมหลงยา เขายังให้หวังไคเอาบางอย่างมาให้เขาอีกด้วย
มันคือความลับทางทหารเช่นเดียวกัน แต่นี่เป็นรายชื่อคุ้มครอง ไม่เหมือนกับกรณีภารกิจช่วยเหลือพ่อแม่ชูฮัน รายชื่อคุ้มครองนี่ไม่สามารถส่งทีมแบบฮูหยาหรือหลงยาไปช่วยเหลือได้เพียงเพราะคนในรายชื่อมีตำแหน่งสูง อีกทั้งยังมันไม่ลึกลับและสำคัญเท่ากับสมาชิกของ Mensa
จำนวนรายชื่อของคนในรายชื่อคุ้มครองค่อนข้างใหญ่หากมันไม่ได้มากขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวของนายทหารระดับสูงกันและเลาเสี่ยวเสยวก็อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายชื่อนี้
โชคดีชูฮันที่เคยเห็นมันมาก่อนในชาติที่แล้วแต่การได้เห็นมันอีกครั้งในตอนนี้กลับให้ความรู้สึกที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ชื่อของเลาเสี่ยวเสียวในรายชื่อคุ้มครองไม่ได้เขียนว่า หายตัว อีกต่อไปแต่กลับถูกทำเครื่องหมายว่า เรียบร้อย ไว้ หากรายชื่อด้านบนและด้านล่างของชื่อเธอกลับเขียนคำว่า หายตัวแทน
และในบรรทัดที่สองที่มีชื่ออันดับที่ 2 อยู่แสดงถึงความสำคัญอย่างมาก และทำให้ชูฮันต้องบิดปาก
ซงเสี่ยว เจ้าเด็กนั่น!
ชูฮันค่อนข้างประหลาดใจเมื่อได้เห็นชื่อซงเสี่ยว ถึงแม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะมีอายุเท่ากับเลาเสี่ยวเสียวทว่าทักษะความสามารถของซงเสี่ยวนั้นแตกต่างจากเด็กอายุ 12 ปี อย่างสิ้นเชิง อีกทั้งความคิดและพฤติกรรมที่ซ่อนเร้นของซงเสี่ยวทำให้ชูฮันรู้ทันทีตั้งแต่แรกเห็นว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาให้หวังไคขโมยรายชื่อนี้มาเหมือนกัน หนึ่งเพื่อยืนยันว่าใช่คนคนเดียวกับที่เขาคาดไว้หรือไม่ และสองเขาอยากจะรู้ว่ารายชื่อตอนนี้กับชาติที่แล้วจะต่างกันมั้ย ชูฮันกวาดตามองอย่างรวดเร็ว ข้อมูลของหลายคนที่เขาจำไม่ได้และยังคงมีชีวิตอยู่
ในตอนนี้เมื่อได้เห็นชื่อของซงเสี่ยวอีกครั้งแถมอันดับความสำคัญของเด็กนี่ยังสูงกว่าเลาเสี่ยวเสียวอีก จึงทำให้ชูฮันไม่สามารถห้ามหัวใจที่เต้นราวกับจะระเบิดออกมาได้…อายุ 12 ปี ใช่ คือเขานั่นเอง!