บทที่ 90 ฉันไม่สนใจนายสักนิด

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

วันรุ่งขึ้น

ตื่นขึ้นมาตอนแปดโมงเช้าผ้าห่มข้างๆเย็นหมดแล้ว ชัดเจนว่าเขาออกไปสักพักแล้ว

ลุกลงจากเตียง ลงไปที่ห้องรับแขก สุนันท์ กับ หยาดฝนกำลังยุ่งกันอยู่

ของขวัญวันเกิดที่ส่งมาที่บ้านสิริไพบูรณ์ไม่น้อยเลย มีเข้ามาเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร แต่ดูจากข้างนอกแล้วก็รู้ว่าต้องเป็นของมีราคา

เห็นว่ายุ่งกัน เชอร์รีนก็เริ่มเข้ามาช่วยด้วย เมื่อเห็นเธอสุนันท์ก็เอ่ยปากถาม “เมื่อวานปรึกษากับออกัสรึยังว่าจะฉลองยังไง?”

ได้ยินแบบนั้น หยาดฝนก็หยุดมือลง เงี่ยหูไปฟังที่ทั้งสองคนพูดกัน

“ฉันไม่ได้ปรึกษาเขาค่ะ ยังไงก็คือวันเกิด ก็เลยคิดว่าเซอร์ไพร์สเขาหน่อยน่าจะดี เขาบอกว่าเขาว่างหลังทุ่มนึงขึ้นไป ฉันก็เลยอยากจะมาปรึกษากับแม่ กับป้าว่าจะเตรียมการกันยังไงดี ”เธอพูด

แม้ว่าเดิมทีจะอยากเซอร์ไพร์สเขาสักหน่อย แต่เห็นของขวัญเยอะขนาดนี้เชอร์รีนรู้สึกว่าเซอร์ไพร์สครั้งนี้คงยาก

ของขวัญเยอะขนาดนี้ถูกส่งมาที่บ้านสิริไพบูรณ์ ต้องมีคนอีกหลายคนแน่ที่เอาของขวัญส่งไปที่บริษัท

หันหน้ากลับมา สุนันท์มองไปที่หยาดฝน “ในใจเธอคิดไว้ไหมว่าจะเซอร์ไพร์สหรือจัดการยังไง?”

“ฉันไม่ได้คิดอะไรไว้เลยค่ะ ยังไงก็เอาตามพี่สะใภ้เลยค่ะ ”สีหน้าของหยาดฝนยังคงนอบน้อม ยิ้มตอบ

“เอาตามฉันล่ะก็ ก็แบบนี้แล้วกัน ตอนแรกฉันจะไปจัดงานในโรงแรมแต่ว่า อำเภอซีซ่าเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวไม่นานมานี้ พี่ชายของเธอก็เป็นเจ้าคณะมณฑลที่นั่น ตอนนี้ถ้าฟุ่มเฟือยเกินไปก็จะไม่ดีต่อชื่อเสียงของเขา นอกจากนี้ ออกัสก็ไม่ชอบความครื้นเครงอะไรอยู่แล้ว งั้นก็จองโรงแรมแล้วสั่งอาหารที่เขาชอบกินสักโต๊ะนึง พวกเธอคิดว่าไงบ้าง? ”

ทั้งสองคนไม่ได้ขัดอะไร เรื่องทั้งหมดก็เอาตามนี้

เมื่อช่วยจัดการของเสร็จเชอร์รีนก็ไปที่วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง วัดภูษา ไปเผาเครื่องหอม ไหว้พระ แล้วก็ขอเครื่องรางมา เป็นไม้พีช สามารถสวมข้อมือได้

จากนั้น เธอก็ไปซื้อของ ของขวัญวันเกิดจำเป็นต้องซื้อ

และของขวัญที่ผู้ชายใช้ได้ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง ชุดสูท เสื้อเชิ้ต เข็มขัด นาฬิกา กระเป๋าเงิน น้ำหอม เน็กไท

เสื้อเชิ้ตเคยซื้อให้แล้ว ก็ไม่ซื้อให้อีกละกัน มีคิดๆอย่างละเอียดดูแล้ว เธอคิดว่ากระเป๋าเงินก็ไม่เลว

ดังนั้น เธอก็ไปที่ห้างที่ขายของแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง ที่นั่นมีทุกอย่างที่พอจะจินตนาการได้

ในแวบแรก เห็นแล้วก็ชอบกระเป๋าเงินสีดำเข้มมีลาย ลวดลายดูเหมือนจะเป็นลายกิ่งดอกไม้ ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

แต่ว่า เมื่อถามราคาแล้วเชอร์รีนกลับต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ กระเป๋าเงินใบเดียว ตั้งกี่พันเชียว!

แล้วก็ไปที่ร้านแบรนด์เนมรอบๆอีกหลายร้าน ถึงแม้ว่ากระเป๋าจะมีเยอะแยะ ราคาก็เข้าท่า แต่ว่าไม่มีอันที่อยากซื้อเลย

เธอก็กลับไปที่ร้านนั้นอีกครั้ง ให้พนักงานจัดใส่กล่องให้ จากนั้นก็รูดบัตร แล้วก็เดินออกมา

ในตอนที่เธอเดินออกจากร้าน หยาดฝนก็เดินเข้ามาในร้านเดียวกัน

พนักงานสาวก็ยิ้มเข้าไปให้บริการทันที “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ?”

“ฉันอยากจะซื้อของขวัญวันเกิดสักชิ้น”หยาดฝนพยักหน้า ตอบด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

“ให้แฟนหรือว่าเพื่อนต่างเพศธรรมดาคะ?”

หยาดฝนขมวดคิ้วถาม “ทั้งสองอย่างต่างกันยังไงหรอคะ?”

พนักงานสาวอธิบาย “มีความแตกต่างอยู่ค่ะ ที่จริงแล้ว เสื้อเชิ้ต เน็กไท ชุดสูท ของที่เป็นเสื้อผ้าติดตัวเนี่ยซื้อให้แฟนจะดีค่ะ ถ้าเป็นเพื่อนต่างเพศธรรมดา สามารถเลือกให้ นาฬิกา กระเป๋าเงิน หรือว่าน้ำหอม”

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปด้วยสุนันท์ เธอก็สามารถเลือกได้เองตามใจชอบ อีกทั้ง เธอยังอยากที่จะให้เสื้อเชิ้ตกับเขา

ตอนที่เธอเห็นชายคนนึงสวมใส่เสื้อเชิ้ตที่เธอเลือกให้เองกับมือ ก็จะรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ไม่อาจจะหาคำพรรณนาอะไรมาอธิบายได้เลย

แต่ว่าสุนันท์อยู่ด้วย เธอจึงเลือกซื้อไม่ได้

“ที่จริงแล้ว ในเวลาแบบนี้ พวกเราขายดีที่สุดก็คือกระเป๋าเงินค่ะ ใจกว้างเรียบง่ายดูดี เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ไม่เลวเลย ”พนักงานสาวก็ขายของต่อ แล้วก็เดินมาถึงหน้าตู้ หยิบกระเป๋าเงินออกมา ให้กับหยาดฝน “คุณผู้หญิงลองดูนี่สิคะ”

ความมันวาวของหนังกำลังพอดี ดูไม่เยอะเกินไป และก็ไม่หมองเกินไป สีดำที่มีลวดลายของดอกไม้ก็เพิ่มความมีระดับและความสง่างามขึ้นไปอีก ดูสงบและน่าเกรงขาม

หยาดฝนใช้มือจับลวดลายบนกระเป๋าเงิน นุ่มนวลมาก หนังก็ดูสวยงามมาก

“เชื่อคำแนะนำของฉันไม่ผิดแน่ค่ะ ก่อนหน้าคุณก็มีคุณผู้หญิงอีกคนเพิ่งซื้อรุ่นนี้ไป”

“หรอจ้ะ?”หยาดฝนยิ้ม

“ใช่ค่ะ เธอเพิ่งออกไปได้ไม่นาน พวกเรามีบันทึกการของด้วยนะคะ ”พนักงานสาวยิ้มตอบ

ยังไงในใจของเธอก็ชอบรุ่นนี้เหมือนกัน ก็ไม่ได้ลังเลอะไร หยาดฝนหยิบบัตรออกมาส่งให้ไปรูด

เพียงแต่ว่า เชอร์รีนและหยาดฝนทั้งสองคนไม่รู้เลยว่า พวกเธอซื้อกระเป๋าเงินรุ่นเดียวกัน!

โรงแรมที่สุนันท์จองนั้นอยู่ที่โรงแรมใหญ่อิมพิเรียล แถมยังจองชั้นบนสุดของที่นั่นไว้ ร้านอาหารเป็นแบบหมุน อยู่ที่ชั้นสามสิบสอง

เมื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ ร้านอาหารจะหมุนไป ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นวิวของเมืองได้อย่างรอบด้าน

กลัวว่าจะมีคนมารบกวน ดังนั้นสุนันท์จึงเข้ามาทักทายกับผู้จัดการก่อนว่า ชั้นบนสุดนั้นห้ามให้แขกคนอื่นหรือนักข่าวคนไหนเข้ามา

ในเมืองนี้ มีใครไม่ไว้หน้าให้สุนันท์ได้บ้าง เธอขออะไรก็ต้องให้ ผู้จัดการก็ตกปากรับคำอย่างดี แถมยังส่งดอกไม้อวยพรให้ด้วย

อีกฟากหนึ่งในห้องประชุมของบริษัท

ออกัสและดนัยนั่งอยู่ตรงข้ามกัน รอบข้างก็เต็มไปด้วยผู้บริหารคนใหญ่คนโตของบริษัท และผู้จัดการ

ทั้งสองฝ่ายที่จะเซ็นสัญญาก็เห็นกัน ไม่มีปัญหาอะไร ก็เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้าย ลงปากกาเซ็น

ทั้งสองฝั่งแลกเปลี่ยนหนังสือสัญญากัน ทั้งสองลงนามอยู่ตรงข้ามกัน จากนั้นก็ลุกขึ้นจับมือ แสดงถึงการยินดีที่ได้ร่วมงานกัน

จากนั้น คนใหญ่คนโตเหล่านั้นก็ออกไป ห้องประชุมอันใหญ่โตก็เหลือแค่ออกัสกับดนัยสองคน

ร่างกายพิงหลังไปนิดหน่อย ดนัยก็หรี่ตาลง ถามว่า “คุณชายออกัสคืนนี้มีแพลนอะไรไหม?”

“ไม่มี……”คิ้วกันสวยงามก็เลิกขึ้น ริมฝีปากบางของออกัสขยับ พูดออกไปสองคำ

“วันเกิดของคุณชายออกัสทั้งที อย่าบอกนะว่าจะปล่อยให้ผ่านไปแบบเรียบๆง่ายๆแบบนี้?”

แสงสลัวผ่านมาในตาเขาอย่างรวดเร็ว นึกขึ้นถึงแก้มขาวเด้งและใบหน้าที่ขี้อายของเธอแล้ว เขาก็ยิ้มขึ้น สายตามองผ่านดนัยไป รีบปิดเอกสารลง มองนาฬิกาที่อยู่บนมือ ดูลุ้น

“หลังจากทุ่มนึงไปฉันมีนัดแล้ว ตอนนี้หกโมงสี่สิบละ มีอะไรก็รีบพูด ไม่มีอะไรก็รีบไปซะ อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลาอยู่ที่นี่……”

“อี้ยๆๆ ก็ปัดไปสิ ไปฉลองกับฉัน ไม่ดีหรอ?ดูสภาพร้อนรนจะรีบกลับของนายสิ!”

ออกัสมองไปที่เขานิ่งๆ พูดอย่างไร้เยื่อใย “ฉลองกับนายดียังไง?อีกอย่าง ฉันไม่ได้สนใจนายสักกะนิด……”