เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 397
เสียงเชียร์ เสียงตกใจ เสียงก่นด่าปะปนกันวุ่นวาย

ในกลุ่มคน ทุกคนตะโกนชื่อลู่ฝานคณะหนึ่งเดียว การต่อสู้วันนี้ ทำให้ชื่อเสียงของลู่ฝานแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง

หานเฟิงโดนศิษย์พี่ฉู่เทียนประคองลงมาจากลานประลองทรงกลม รับเสียงเชียร์จากทุกคน

ทุกคนปรบมือและส่งเสียงเชียร์อย่างไม่ลังเล ขนาดท่านผอ.ยังปรบมือเบาๆ ให้พวกลู่ฝาน

วันนี้เป็นวันที่คณะหนึ่งเดียวรุ่งโรจน์

ผ่านวันนี้ไป ชื่อเสียงของคณะหนึ่งเดียว ต้องเพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่

ท้าประลองสองคณะ ชนะทั้งสามรอบ เรื่องใหญ่ระดับนี้ เพียงพอที่ทำให้ชื่อของพวกลู่ฝาน ถูกพูดต่อกันในสถาบันสอนวิชาบู๊ไปอีกหลายสิบปี

เสียงเชียร์ดังต่อเนื่องอยู่นาน หลิงเหยาที่อยู่บนที่นั่งผู้ชมดีใจจนหน้าแดง

ตอนนี้ท่านผอ.หายไปแล้ว คนที่หายไปพร้อมกับเขาคือลั่วหยู่

อาจารย์เมิ่งอวิ๋นและคนอื่นมีสีหน้าสลด

ถ้าเรื่องของลั่วหยู่ถูกเปิดเผยออกไป ชื่อเสียงของคณะบังเหินต้องตกต่ำแน่นอน

อาจารย์เมิ่งอวิ๋นก็ไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าท่านผอ.ไม่อยู่ เธอยังพอปิดบังได้บ้าง แต่ท่านผอ.อยู่ที่นี่ และเห็นอย่างชัดเจน ตอนนี้ยังพาตัวคนไปอย่างเงียบๆ จะให้เธอพูดอะไรได้อีก

อาจารย์เมิ่งอวิ๋นคิดอะไรขึ้นมาได้ ก่อนขึ้นลานประลองลั่วหยู่พูดว่าจะฆ่าลู่ฝาน แม้ตอนนั้นเธอไม่ได้พูดชัดเจน แต่ก็เป็นการเห็นด้วยไปแล้ว

ถ้าท่านผอ.ถามเรื่องนี้ คนเป็นอาจารย์อย่างเธอ ก็คงไม่ได้เป็นต่อแล้ว

เมิ่งอวิ๋นถอนหายใจ ดูเหมือนกลับไป เธอต้องเตรียมยื่นเรื่องกับท่านผอ. เพื่อที่จะไปฝึกฝนที่เทือกเขาฉิงเทียน

จิตใจของเธอ ไม่สามารถเป็นอาจารย์ได้อีก

อีกด้านหนึ่ง หลังจากอาจารย์เสวียนเจินถอนหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็ส่งคนไปรับเสวียนเฟิงกลับมา

เมื่อมองดูดีๆ สีหน้าของอาจารย์เสวียนเจินดูดีขึ้นไม่น้อย

สุดท้ายลู่ฝานก็ยังออมมือ แม้บาดแผลบนตัวเสวียนเฟิงสาหัส แต่ตันเถียนกับสมองที่เป็นจุดสำคัญ ไม่ได้เสียหายจนไม่สามารถรักษาได้

ดูจากพลังวิญญาณที่ลู่ฝานมี ถ้าเขาจะฆ่าเสวียนเฟิงก็มีโอกาสเป็นไปได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขายังต้องขอบคุณลู่ฝาน

“คณะหนึ่งเดียว อบรมศิษย์ที่ดีออกมาได้คนหนึ่ง!”

เสวียนเจินรู้สึกปลง หันหลังพานักเรียนคณะกระบี่กลับไป

แม้ทางออกจวนสวรรค์หายากมาก แต่ปิดยอดฝีมืออย่างเสวียนเจินไม่ได้ แค่หลังจากออกไป ทำให้พวกนักเรียนคณะกระบี่ก่นด่าออกมายกใหญ่

สถานที่บ้านี่ห่างจากคณะกระบี่ของพวกเขามาก!

นักเรียนคณะกระบี่ออกไปเป็นคนแรก จากนั้นนักเรียนคณะบังเหินก็ออกไป พวกเขาไม่มีหน้าอยู่ต่อ

ความจริงพิสูจน์แล้ว คณะหนึ่งเดียวท้าประลองพวกเขาสองคณะ เพราะมีความมั่นใจและมีความสามารถ

ความรุ่งเรืองของคณะบังเหินสิ้นสุดลงตรงนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเขาหลุดออกจากสามอันดับแรก

บนลานประลองทรงกลม หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันเจ๋งมาก ให้ตายเถอะ ไม่ได้สะใจแบบนี้มานานแล้ว”

ลู่ฝานหัวเราะ ในสมองเขายังคิดถึงกระบี่สุดท้ายตอนต่อสู้กับเสวียนเฟิงเมื่อครู่

ความรู้สึกลึกลับ วิชากระบี่ที่ยากจะอธิบายด้วยคำพูด

แม้เป็นแค่สัญชาตญาณพลังวิญญาณที่มีต่อศัตรู เขามีความมั่นใจนิดๆ ว่านี่คือวิธีการใช้พลังวิญญาณ วิธีเดิมที่เขาใช้ ผิวเผินเกินไป ไม่ได้ดึงประสิทธิภาพยอดเยี่ยมของพลังวิญญาณออกมา

ในเมื่ออาจารย์หวูเฉินยกย่องเพลงเต๋าหนึ่งเดียวขนาดนี้ ถ้างั้นพลังวิญญาณก็ต้องมีความสามารถลึกลับมากมายแน่นอน

ไม่งั้นอาจารย์หวูเฉินคงไม่พูดกับเขาหรอก ว่าในสถาบันสอนวิชาบู๊นอกจากเพลงเต๋าหนึ่งเดียว อย่างอื่นไม่มีค่าทำให้เขาเสียเวลา